บนแท่นประลองที่ยอดภูเขา
เหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างพวกเหิงเซียว หงอวี่ต่างเคร่งขรึมยิ่งยวด
หัวใจของศิษย์แกนหลักอย่างพวกเจียงเหิงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ชั่วพริบตาแขกที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนก็ถูกขังอยู่ในเขตแดนมรรคของเสอหลิง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้
นี่เป็นเรื่องร้ายมากกว่าดีอย่างไม่ต้องสงสัย!
เขตแดนมรรคก็เหมือนโลกใบหนึ่ง และเสอหลิงก็คือนายเหนือหัวของโลกนี้ มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย นี่ยังจะต่อสู้อย่างไร
ฝั่งตรงข้ามเสียงของพวกเกาะเทพเวหาทมิฬต่างตื่นเต้น
“ตอนนั้นเพื่อควบรวมทางนรกไร้หวน เสอหลิงเคยฝึกมรรควิถีในสนามรบมารเทพบรรพกาล ผ่านการเคี่ยวกรำเป็นตายมาสิบปีถึงได้สำเร็จในที่สุด”
เสอจื่อพูดเนิบช้า “ตอนที่เขตแดนมรรคของเขาควบรวมสำเร็จ ถึงขั้นนำพาปรากฏการณ์ประหลาด สะท้อนภาพเหล่ามารร่ายรำ ร้อยผีเดินทางยามรัตติกาล จากที่ข้าวิเคราะห์ คนผู้นี้ถูกขังอยู่ภายใน จะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”
คำพูดสมเหตุสมผลเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ปี้หยวนจื่อได้ยินเช่นนี้ก็สกัดกั้นความย่ามใจไม่ได้อีกต่อไป กล่าวเสียงดัง “น้องเหิงเซียว ดูท่าสหายน้อยเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนคนนี้ก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้แล้ว การประลองรอบที่สี่นี้… สำนักยุทธ์เสวียนจีของพวกเจ้าคงต้องพ่ายแพ้”
เพิ่งจะสิ้นเสียง
ตูม!
เสียงกึกก้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินสายหนึ่งดังขึ้น กลบเสียงได้ใจของปี้หยวนจื่อนั่นจนมิด
ภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน เขตแดนมรรคทางนรกไร้หวนนั่นราวกับถูกค้อนยักษ์เทพสวรรค์ทุบกระแทก ระเบิดเป็นเสี่ยงโดยพลัน
หมอกเทาขมุกขมัวที่ปกกคลุมลานประลองก็สลายหายไป
ปัง!
เงาร่างของเสอหลิงซวนเซออกมา ร่างกายอาบเลือด
รอยยิ้มบนใบหน้าปี้หยวนจื่อชะงัก ตาถลนออกมา นี่… มันอะไรกัน
ข้างๆ เขา เหล่าผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬต่างมีท่าทางปั่นป่วน อึ้งงันอยู่ตรงนั้น
‘ทางนรกไร้หวน’ ที่ถูกเสอจื่อเชิดชูถึงเพียงนั้น กลับเสื่อมสลายเช่นนี้หรือ
พวกเหิงเซียว หงอวี่เองก็ประหลาดใจ ทว่าครู่ต่อมาก็เผยสีหน้าดีใจอย่างคาดไม่ถึง พวกเขาก็ไม่กล้าเชื่ออยู่บ้างเช่นกัน
ส่วนพวกเจียงเหิงต่างท่าทางอึ้งค้าง ถูกขังในเขตแดนมรรค ยังสามารถเกิดเรื่องอย่างการออกมาจากเขตแดนได้ด้วยหรือ
ตูม!
ไม่รอทุกคนตอบสนอง ประทับเทพสีดินเหลืองที่เรียบง่ายไพศาลหอบ ม้วนกฎเกณฑ์ประกายเทพอันแสบตากำราบเข้าใส่เสอหลิงอย่างรุนแรง
“ข้ายอมแพ้!”
เสอหลิงหวาดกลัว แทบจะส่งเสียงร้องออกมาตามสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า ภายใต้การโจมตีนี้อย่าว่าแต่ต้านทาน แม้แต่หลบก็เป็นไปไม่ได้
วู้ม!
ประทับแห่งสรรพชีวิตหยุดชะงักตรงตำแหน่งที่ห่างจากศีรษะของเสอหลิงหนึ่งฉื่อในทันใด
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ประทับแห่งสรรพชีวิตก็แผ่พลังที่น่ากลัวออกมา ยังคงกดข่มบนร่างของเสอหลิง เสียงปังดังลั่น กำราบเขาลงพื้นอย่างแรง กระดูกบนร่างแตกหักไปไม่รู้กี่ท่อน เลือดสดทั่วตัวไหลหลั่ง ส่งเสียงร้องอู้อี้
และตอนนี้ร่างของหลินสวินแผ่วพลิ้วลงมา ยกมือขึ้นตวัดคราหนึ่ง ประทับแห่งสรรพชีวิตพลันเปลี่ยนเป็นกรวดทรายที่เล็กอย่างที่สุด และถูกเขาเก็บไป
บนพื้นเสอหลิงหายใจโรยริน บาดเจ็บหนักเกือบสิ้นชีพ
ส่วนหลินสวินเสื้อผ้าแผ่วพลิ้ว บริสุทธิ์ไร้โลกีย์ แผ่กลิ่นอายยิ่งใหญ่สูงส่ง ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
ภาพเช่นนี้ทำเอาตะลึงทั้งลาน!
ปี้หยวนจื่อเบิกตาโพลง สีหน้าคล้ำเขียว นี่… เป็นไปได้อย่างไร
เหล่าผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬเองก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาด อึ้งงันอย่างสิ้นเชิง ทุกสายตาที่มองมายังหลินสวินล้วนเต็มไปด้วยความสะท้านสะเทือน
เสอจื่อแข็งแกร่งเพียงใด เอาชนะจีเฉียน หยวนเม่าติดต่อกัน ง่ายดายอย่างที่สุด
แต่กลับถูกชายที่ชื่อว่าจินตู๋อีคนนี้กำราบในชั่วพริบตา
และตอนนี้เสอหลิงที่แข็งแกร่งกว่าเสอจื่อเข้าสู่ลานประลอง เดิมทีถูกทุกคนฝากความหวังไว้ ล้วนคิดว่าเขาไม่มีทางแพ้
ไม่คิดว่าเสอหลิงเองก็แพ้แล้ว!
แม้แต่เขตแดนมรรคที่แข็งแกร่งที่สุดของเขายังทลายออก บีบจนเขาจำต้องยอมแพ้!
นี่น่าตกใจเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“ปี้หยวนจื่อ เมื่อครู่นี้เหมือนว่าเจ้าจะได้ใจไวเกินไปแล้ว…”
เหิงเซียวหัวเราะเสียงดัง สะใจอย่างที่สุด
ผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนจีคนอื่นๆ ต่างก็ยิ้มเช่นกัน พวกเขารู้สึกตะลึงในฝีมือของหลินสวินยิ่งนัก ในใจทั้งสะเทือนและยินดี
พวกเจียงเหิงกลับรู้สึกซับซ้อน จนถึงตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็กล้ามั่นใจ ว่าแม้เหล่าผู้สืบทอดแกนหลักจะอยู่ในระดับเดียวกับจินตู๋อี แต่ความต่างนั้นประหนึ่งฟ้ากับเหว ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย!
“เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน ไม่มีทางมีคนทายาทอย่างเจ้าแน่ เจ้าเป็นใครกันแน่”
บนพื้นเสอหลิงสีหน้ามืดทะมึน แววตาชั่วร้าย
“ข้าชื่อจินตู๋อี คนโง่ยังรู้ว่าข้าไม่ใช่คนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน”
หลินสวินพูดเรียบๆ
“จินตู๋อี…”
เสอหลิงมวนซ้ำอีกครั้ง
ชั่วขณะนี้หลินสวินรู้สึกอยากฆ่าอีกฝ่ายยิ่งนัก เขากล้ามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมาจากสำนักโบราณจรัสเทพอย่างแน่นอน ไม่ใช่ผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬอะไร
แต่สุดท้ายเขาก็อดกลั้นไว้
ถึงอย่างไรนี่ก็คือสำนักยุทธ์เสวียนจี คนนอกอย่างเขาแทรกแซงการประลองเช่นนี้ก็ไม่เหมาะสมมากแล้ว หากไปฆ่าคนอีก ไม่เพียงแค่ตนที่จะถูกเกาะเทพเวหาทมิฬมองเป็นศัตรู แม้แต่สำนักยุทธ์เสวียนจีก็คงติดร่างแหไปด้วย
คิดถึงตรงนี้หลินสวินสื่อจิตเบาๆ ‘เจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร คราวหน้าอย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์