Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1871

บนแท่นประลองที่ยอดภูเขา

เหล่าผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างพวกเหิงเซียว หงอวี่ต่างเคร่งขรึมยิ่งยวด

หัวใจของศิษย์แกนหลักอย่างพวกเจียงเหิงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

ชั่วพริบตาแขกที่มาจากเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนก็ถูกขังอยู่ในเขตแดนมรรคของเสอหลิง และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้

นี่เป็นเรื่องร้ายมากกว่าดีอย่างไม่ต้องสงสัย!

เขตแดนมรรคก็เหมือนโลกใบหนึ่ง และเสอหลิงก็คือนายเหนือหัวของโลกนี้ มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย นี่ยังจะต่อสู้อย่างไร

ฝั่งตรงข้ามเสียงของพวกเกาะเทพเวหาทมิฬต่างตื่นเต้น

“ตอนนั้นเพื่อควบรวมทางนรกไร้หวน เสอหลิงเคยฝึกมรรควิถีในสนามรบมารเทพบรรพกาล ผ่านการเคี่ยวกรำเป็นตายมาสิบปีถึงได้สำเร็จในที่สุด”

เสอจื่อพูดเนิบช้า “ตอนที่เขตแดนมรรคของเขาควบรวมสำเร็จ ถึงขั้นนำพาปรากฏการณ์ประหลาด สะท้อนภาพเหล่ามารร่ายรำ ร้อยผีเดินทางยามรัตติกาล จากที่ข้าวิเคราะห์ คนผู้นี้ถูกขังอยู่ภายใน จะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

คำพูดสมเหตุสมผลเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ปี้หยวนจื่อได้ยินเช่นนี้ก็สกัดกั้นความย่ามใจไม่ได้อีกต่อไป กล่าวเสียงดัง “น้องเหิงเซียว ดูท่าสหายน้อยเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียนคนนี้ก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้แล้ว การประลองรอบที่สี่นี้… สำนักยุทธ์เสวียนจีของพวกเจ้าคงต้องพ่ายแพ้”

เพิ่งจะสิ้นเสียง

ตูม!

เสียงกึกก้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินสายหนึ่งดังขึ้น กลบเสียงได้ใจของปี้หยวนจื่อนั่นจนมิด

ภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน เขตแดนมรรคทางนรกไร้หวนนั่นราวกับถูกค้อนยักษ์เทพสวรรค์ทุบกระแทก ระเบิดเป็นเสี่ยงโดยพลัน

หมอกเทาขมุกขมัวที่ปกกคลุมลานประลองก็สลายหายไป

ปัง!

เงาร่างของเสอหลิงซวนเซออกมา ร่างกายอาบเลือด

รอยยิ้มบนใบหน้าปี้หยวนจื่อชะงัก ตาถลนออกมา นี่… มันอะไรกัน

ข้างๆ เขา เหล่าผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬต่างมีท่าทางปั่นป่วน อึ้งงันอยู่ตรงนั้น

‘ทางนรกไร้หวน’ ที่ถูกเสอจื่อเชิดชูถึงเพียงนั้น กลับเสื่อมสลายเช่นนี้หรือ

พวกเหิงเซียว หงอวี่เองก็ประหลาดใจ ทว่าครู่ต่อมาก็เผยสีหน้าดีใจอย่างคาดไม่ถึง พวกเขาก็ไม่กล้าเชื่ออยู่บ้างเช่นกัน

ส่วนพวกเจียงเหิงต่างท่าทางอึ้งค้าง ถูกขังในเขตแดนมรรค ยังสามารถเกิดเรื่องอย่างการออกมาจากเขตแดนได้ด้วยหรือ

ตูม!

ไม่รอทุกคนตอบสนอง ประทับเทพสีดินเหลืองที่เรียบง่ายไพศาลหอบ ม้วนกฎเกณฑ์ประกายเทพอันแสบตากำราบเข้าใส่เสอหลิงอย่างรุนแรง

“ข้ายอมแพ้!”

เสอหลิงหวาดกลัว แทบจะส่งเสียงร้องออกมาตามสัญชาตญาณ

สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า ภายใต้การโจมตีนี้อย่าว่าแต่ต้านทาน แม้แต่หลบก็เป็นไปไม่ได้

วู้ม!

ประทับแห่งสรรพชีวิตหยุดชะงักตรงตำแหน่งที่ห่างจากศีรษะของเสอหลิงหนึ่งฉื่อในทันใด

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ ประทับแห่งสรรพชีวิตก็แผ่พลังที่น่ากลัวออกมา ยังคงกดข่มบนร่างของเสอหลิง เสียงปังดังลั่น กำราบเขาลงพื้นอย่างแรง กระดูกบนร่างแตกหักไปไม่รู้กี่ท่อน เลือดสดทั่วตัวไหลหลั่ง ส่งเสียงร้องอู้อี้

และตอนนี้ร่างของหลินสวินแผ่วพลิ้วลงมา ยกมือขึ้นตวัดคราหนึ่ง ประทับแห่งสรรพชีวิตพลันเปลี่ยนเป็นกรวดทรายที่เล็กอย่างที่สุด และถูกเขาเก็บไป

บนพื้นเสอหลิงหายใจโรยริน บาดเจ็บหนักเกือบสิ้นชีพ

ส่วนหลินสวินเสื้อผ้าแผ่วพลิ้ว บริสุทธิ์ไร้โลกีย์ แผ่กลิ่นอายยิ่งใหญ่สูงส่ง ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ภาพเช่นนี้ทำเอาตะลึงทั้งลาน!

ปี้หยวนจื่อเบิกตาโพลง สีหน้าคล้ำเขียว นี่… เป็นไปได้อย่างไร

เหล่าผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬเองก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาด อึ้งงันอย่างสิ้นเชิง ทุกสายตาที่มองมายังหลินสวินล้วนเต็มไปด้วยความสะท้านสะเทือน

เสอจื่อแข็งแกร่งเพียงใด เอาชนะจีเฉียน หยวนเม่าติดต่อกัน ง่ายดายอย่างที่สุด

แต่กลับถูกชายที่ชื่อว่าจินตู๋อีคนนี้กำราบในชั่วพริบตา

และตอนนี้เสอหลิงที่แข็งแกร่งกว่าเสอจื่อเข้าสู่ลานประลอง เดิมทีถูกทุกคนฝากความหวังไว้ ล้วนคิดว่าเขาไม่มีทางแพ้

ไม่คิดว่าเสอหลิงเองก็แพ้แล้ว!

แม้แต่เขตแดนมรรคที่แข็งแกร่งที่สุดของเขายังทลายออก บีบจนเขาจำต้องยอมแพ้!

นี่น่าตกใจเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“ปี้หยวนจื่อ เมื่อครู่นี้เหมือนว่าเจ้าจะได้ใจไวเกินไปแล้ว…”

เหิงเซียวหัวเราะเสียงดัง สะใจอย่างที่สุด

ผู้แข็งแกร่งสำนักยุทธ์เสวียนจีคนอื่นๆ ต่างก็ยิ้มเช่นกัน พวกเขารู้สึกตะลึงในฝีมือของหลินสวินยิ่งนัก ในใจทั้งสะเทือนและยินดี

พวกเจียงเหิงกลับรู้สึกซับซ้อน จนถึงตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็กล้ามั่นใจ ว่าแม้เหล่าผู้สืบทอดแกนหลักจะอยู่ในระดับเดียวกับจินตู๋อี แต่ความต่างนั้นประหนึ่งฟ้ากับเหว ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย!

“เผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน ไม่มีทางมีคนทายาทอย่างเจ้าแน่ เจ้าเป็นใครกันแน่”

บนพื้นเสอหลิงสีหน้ามืดทะมึน แววตาชั่วร้าย

“ข้าชื่อจินตู๋อี คนโง่ยังรู้ว่าข้าไม่ใช่คนของเผ่าจักรพรรดิตระกูลจินเทียน”

หลินสวินพูดเรียบๆ

“จินตู๋อี…”

เสอหลิงมวนซ้ำอีกครั้ง

ชั่วขณะนี้หลินสวินรู้สึกอยากฆ่าอีกฝ่ายยิ่งนัก เขากล้ามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมาจากสำนักโบราณจรัสเทพอย่างแน่นอน ไม่ใช่ผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬอะไร

แต่สุดท้ายเขาก็อดกลั้นไว้

ถึงอย่างไรนี่ก็คือสำนักยุทธ์เสวียนจี คนนอกอย่างเขาแทรกแซงการประลองเช่นนี้ก็ไม่เหมาะสมมากแล้ว หากไปฆ่าคนอีก ไม่เพียงแค่ตนที่จะถูกเกาะเทพเวหาทมิฬมองเป็นศัตรู แม้แต่สำนักยุทธ์เสวียนจีก็คงติดร่างแหไปด้วย

คิดถึงตรงนี้หลินสวินสื่อจิตเบาๆ ‘เจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร คราวหน้าอย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก’

ปี้หยวนจื่อสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เอ่ยว่า “ข้าขอบังอาจถามสักนิด ในศึกถกมรรคแห่งแคว้นเมฆาครั้งนี้ สำนักท่านจะส่งศิษย์ชั้นสูงคนไหนเข้าร่วม”

เสอหลิงเงียบไปครู่ค่อยพูดชื่อหนึ่งออกมา “อู่หวง!”

อู่หวง!

ผู้สืบทอดคนสุดท้ายของเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ปีศาจแห่งยุคที่ไม่ปรากฏตัวบนโลก ความสูงส่งของพรสวรรค์ ความแข็งแกร่งของรากฐาน ล้วนเรียกได้ว่าโดดเด่นเหนือเหล่าผู้กล้า

ในสำนักโบราณจรัสเทพ อู่หลงยังมีอีกหนึ่งฐานะพิเศษ…

ทูตจักรพรรดิ!

จนถึงตอนนี้เสอจินยังจำได้ ว่าไม่กี่ปีก่อนตอนอู่หวงยังเป็นแค่ผู้ฝึกปราณระดับมกุฎราชันอริยะขั้นต้น เคยใช้พลังของตนสังหารคนใหญ่คนโตระดับกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งได้สำเร็จ ชื่อเสียงโด่งดังในการต่อสู้เดียว!

สำหรับเสอหลิง อู่หวงก็เหมือนสุริยันดวงโต ทำให้ทูตเทพพยากรณ์อย่างพวกเขาต่างหม่นแสง

สิ่งที่ทำให้เสอหลิงรู้สึกใจสะท้านที่สุดคือ เขาเคยได้ยินว่าในสำนักโบราณจรัสเทพ ทูตจักรพรรดิอย่างอู่หวงไม่ได้มีแค่คนเดียว!

แต่มีเท่าไรนั้น แม้แต่เสอหลิงเองก็ไม่รู้

“อู่หวง…”

ปี้หยวนจื่อสีหน้างุนงง

เขาเป็นเพียงผู้อาวุโสเกาะเทพเวหาทมิฬคนหนึ่ง แม้มีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิ แต่จะรู้เรื่องของสำนักโบราณจรัสเทพได้อย่างไร

เสอหลิงเองก็ไม่ได้อธิบาย

และไม่ได้บอกปี้หยวนจื่อว่าไม่เพียงแค่แคว้นเมฆา ในแคว้นอื่นๆ ของโลกใหญ่หงเหมิง ล้วนมีผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพของพวกเขาเคลื่อนไหวอยู่!

เหตุผลอยู่ที่ว่า งานชุมนุมถกมรรคที่หกเรือนมรรคใหญ่จัดขึ้นครั้งนี้มีความหมายกว่าที่ผ่านมา สำนักโบราณจรัสเทพของพวกเขาย่อมไม่ยอมพลาด

เท่าที่เสอหลิงรู้ ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์และหอวิหคทองแดงในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดก็เข้าร่วมด้วย

และได้เริ่มเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับสำนักโบราณจรัสเทพของพวกเขาแล้ว

เพียงแต่ผู้แข็งแกร่งที่มาจากโลกมืดอย่างพวกเขา อยากจะเข้าร่วมงานชุมนุมถกมรรคก็ได้แต่ต้องเปลี่ยนฐานะ

อย่างเช่นครั้งนี้ พวกเสอหลิง เสอจื่อก็เลือกร่วมมือกับเกาะเทพเวหาทมิฬ ปรากฏตัวในฐานะผู้สืบทอดเกาะเทพเวหาทมิฬ

“การประลองกับผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจีครั้งนี้ เพียงแค่ให้เจ้าเห็นพลังของพวกข้าสักหน่อย แม้สุดท้ายข้ากับศิษย์น้องเสอจื่อล้วนถูกจินตู๋อีโจมตีพ่ายแพ้ แต่เจ้าคงรู้ดีว่าจินตู๋อีนี่ไม่ใช่ผู้สืบทอดสำนักยุทธ์เสวียนจี”

เสอหลิงเสียงต่ำลึก “ข้าสามารถบอกเจ้าอย่างมั่นใจได้ว่า รอเมื่อศิษย์พี่อู่หวงมา จินตู๋อีนี่ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่!”

“ก็หมายความว่า แม้จินตู๋อีเข้าร่วมศึกถกมรรคของแคว้นเมฆา เจอกับศิษย์พี่อู่หวง ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

ปี้หยวนจื่อสูดหายใจหนาวเยือก

เพิ่งจะตระหนักได้ว่า ‘อู่หวง’ ที่ว่านี้จะต้องเป็นบุคคลแห่งยุคที่สุดยอดมากคนหนึ่งในสำนักโบราณจรัสเทพ

……

และเวลานี้ในสำนักยุทธ์เสวียนจี

หลินสวินและจินเทียนเสวียนเยวี่ยถูกเชื้อเชิญมาถึงในโถงเก่าแก่แห่งหนึ่ง ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากเหล่าคนใหญ่คนโตรวมถึงเจ้าสำนักอย่างเหิงเซียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์