สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1886 จินตู๋อีที่เก็บงำมิดชิด – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 1886 จินตู๋อีที่เก็บงำมิดชิด ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ความจริงแล้วกระบี่นี้เป็นกระบวนท่าไม้ตายของกู่เจี้ยนสิง หลอมนัยเร้นลับของเขตแดนมรรคของตนเข้าไปในกระบี่!
หลินสวินเคยสังหารกึ่งจักรพรรดิข่งอินมาก่อน ‘เงากระบี่มหาสหัส’ ที่อีกฝ่ายขัดเกลามาแปดพันปีเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวยิ่งยวด
เมื่อเทียบกันแล้ว กระบี่นี้ของกู่เจี้ยนสิงแม้อานุภาพด้อยกว่าไม่น้อย แต่ว่าด้วยอานุภาพพลังแล้วกลับไม่ด้อยไปกว่าเงากระบี่มหาสหัสเลย
นี่ทำให้หลินสวินยังต้องทอดถอนใจ กู่เจี้ยนสิงคนนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ
แต่น่าเสียดาย…
สำหรับตนแล้วยังเก่งไม่พอ
ก็เห็นว่านิ้วมือหลินสวินคว้าออกไปก่อนรวบเข้าหากัน
ปราณกระบี่แดงเพลิงดุจรุ้งเทพนอกฟ้าโรยตัวลงมาบนโลกนั้นถูกหลินสวินคว้าเอาไว้กับมือ พอกำนิ้วทั้งห้า ปราณกระบี่เฉียบคมหาใดเทียบนี้ก็ถูกขยำแหลก กลายเป็นละอองแสงแดงเพลิงหลั่งไหลออกจากง่ามมือทันที
ทั้งที่นั้นสั่นสะท้านในใจ รู้สึกเหลือเชื่อ
นี่เป็นถึงกระบวนท่าไม้ตายของกู่เจี้ยนสิง กลับถูกขยำแหลกเหมือนเศษกระดาษแล้วหรือ
เถาซงถิงหนังตากระตุกอย่างแรงไปครู่หนึ่ง หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
“นภาธุลีกระแสอาสัญ!”
บนสังเวียน ดวงตากู่เจี้ยนสิงดุจกระบี่แหลมคม พุ่งโจมตีอีกครั้งอย่างไม่ลังเล พลานุภาพดั่งลมคลั่งกวาดใบไม้โรย กระบี่จู่โจมดุจเปลวเพลิง
อานุภาพของเขายิ่งแกร่งกล้าเหมือนจอมกระบี่กลางอัคคีผู้หนึ่ง
ความแข็งแกร่งของหลินสวินทำให้เขารู้สึกถูกคุกคามแล้ว จะยังกล้าลังเลอีกได้อย่างไร
ฉัวะๆๆ!
ครู่สั้นๆ บนสังเวียนราวกับปกคลุมด้วยม่านฟ้าเปลวเพลิง สิ่งที่ไหลเวียนในม่านฟ้ามีแต่ปราณกระบี่แดงเพลิงอันกำเริบเสิบสานที่ตัดพันกันไปทั่ว
หวีดหวิวดุจพายุคลั่ง อหังการดั่งอสนี เกรียงไกรราวกระแสน้ำหลาก ว่องไวประหนึ่งแสงเงา…
เงาร่างของกู่เจี้ยนสิงพริบวาบอยู่ในนั้น ร่างกายและเส้นผมมีลายมรรคเปลวเพลิงไหวเคลื่อน ความแข็งกล้าของพลานุภาพเหนือล้ำโดดเด่น
เสียงสูดหายใจสะท้านกับเสียงฝืดคอกลืนน้ำลายนับไม่ถ้วนดังขึ้นเป็นระลอกในที่นั้น
ผู้ชมการต่อสู้หลายคนตาพร่า จิตใจไหวเอน
ก่อนหน้านี้ตอนกู่เจี้ยนสิงได้รับชัยชนะสิบครั้งรวด ยังไม่ได้ใช้พลังต่อสู้คับฟ้าเช่นนี้!
จากจุดนี้ก็ดูออกได้ว่า การปรากฏตัวของจินตู๋อีได้บีบให้กู่เจี้ยนสิงต้องใช้วิชาก้นกรุที่แท้จริงแล้ว!
“ม่านกระบี่ธุลีเพลิง!”
กู่เจี้ยนสิงตะคอกลั่น
ทันใดนั้นห่ากระบี่เปลวเพลิงที่ตัดกันไปทั่วบนสังเวียนพลันควบแข็ง รวมตัวเป็นเขตแดนมรรคแดงเพลิงดุจเปลวไฟที่งดงามไพศาลแห่งหนึ่ง
คราวนี้หลินสวินไม่มีทางเลือกเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปเอง
เพราะในการประลองก่อนหน้านี้ จากการจู่โจมที่กู่เจี้ยนสิงปล่อยออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หลินสวินเข้าใจพลังของเขตแดนมรรคที่อีกฝ่ายครอบครองแล้ว
จะเข้าไปในม่านกระบี่ธุลีเพลิงนี้อีกหรือไม่ก็ไม่ต่างอะไรแล้ว
แต่สำหรับกู่เจี้ยนสิงแล้ว การกระตุ้นเขตแดนมรรคกลับทำให้เขาปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างหมดจด
“เป็นเขตแดนมรรคกระบี่ที่ดีแห่งหนึ่ง!”
“อานุภาพพลังเช่นนี้หาได้ยากจริงๆ”
คนไม่น้อยต่างร้องตกตะลึง
สัตว์ประหลาดเฒ่าบางส่วนยังนั่งไม่ติด
พอเห็นว่าเงาร่างของหลินสวินกำลังจะถูกม่านกระบี่แดงเพลิงงามตระการปกคลุม ก็พบว่าเขาแกว่งหมัดส่งไปข้างหน้าทันที
พลังหมัดแน่วนิ่งดั่งภูผา เหลือบแสงมรรคดินเหลือง แต่กลับมีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์แห่งมรรคที่คล้ายเตาหลอมก็ไม่ใช่ ละม้ายหุบเหวก็ไม่เชิงไหวเคลื่อน
ปึง!
เสียงหนักทึบดังขึ้น ม่านกระบี่ธุลีเพลิงที่โรยตัวลงมานั้นหยุดชะงักกลางอากาศทันที
ภายใต้สายตาจับจ้องอันตื่นตะลึงของทุกคน ม่านกระบี่ธุลีเพลิงเกิดรอยแยกแน่นขนัดเหมือนใยแมงมุมขึ้นมา
จากนั้น…
ตูม โครม!
เขตแดนกระบี่ที่หลอมมรรควิถีของกู่เจี้ยนสิงเข้าไปจนหมดสิ้น ยังไม่ทันปล่อยอานุภาพออกไปก็ระเบิดออกเหนือสังเวียนดังสนั่น
ละอองแสงแดงเพลิงเต็มฟ้าที่แทรกด้วยเสียงระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดินแผ่เต็มไปทั้งสังเวียน
ปึง!
ส่วนกู่เจี้ยนสิงเงาร่างไหวโคลง โซเซตกลงพื้น เลือดออกทวารทั้งเจ็ด หน้าซีดเผือดจนน่ากลัว
หมัดนี้ ที่ทำลายไม่ได้มีเพียงเขตแดนมรรคของเขา ภายใต้พลังหมัดนั้นทำให้เขาก็ได้รับบาดเจ็บภายในรุนแรง อวัยวะตันห้ากลวงหกย้ายตำแหน่ง เลือดลมมีทีท่าปั่นป่วน
บนลานแสดงมรรคเงียบเชียบไร้เสียง ตกตะลึงไปทุกที่
หมัดเดียวทำลายเขตแดนมรรคที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตาแห่งหนึ่ง!
และกู่เจี้ยนสิงที่แกร่งกล้าตระการตาถึงกับถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส!
ชั่วขณะเดียวทุกคนต่างรู้สึกงุนงง
ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนเชื่อมั่นในฝีมือของกู่เจี้ยนสิงเป็นอย่างยิ่ง คิดว่าภายใต้น้ำมือเขา จินตู๋อีนั่นต้องหยุดอยู่ที่ชนะเก้าครั้งติดแน่
แต่ตอนนี้ ความเป็นจริงอันโหดร้ายเหมือนตบใส่หน้าพวกเขาอย่างจัง!
กู่เจี้ยนสิงโดดเด่นเพียงไหน ทั้งชื่อเสียงยังโด่งดังปานใด
ยังสู้จินตู๋อีไม่ได้!
ขณะนี้ผู้หญิงที่ก่อนหน้านี้เคยหวีดร้องให้กำลังใจกู่เจี้ยนสิงอย่างบ้าคลั่งต่างมีสีหน้าเหมือนกินแมลงวันตาย ดุจบิดามารดาจากโลก ไม่อาจรับภาพนี้ได้
‘แข็งแกร่งยิ่ง!’
ฉู่ชิวหน้าเปลี่ยนสี สั่นสะท้านในใจ
ความแข็งแกร่งของกู่เจี้ยนสิงเขารู้ดีที่สุด ในบรรดาคู่ต่อสู้ส่วนน้อยที่สนใจซึ่งเข้าร่วมการคัดเลือกถกมรรคคราวนี้ กู่เจี้ยนสิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ตอนนี้กู่เจี้ยนสิงกลับถูกจินตู๋อีที่มาจากไหนไม่รู้ทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของฉู่ชิวไปเช่นกัน
“เจ้าหมอนี่… เก็บงำลึกล้ำจริงๆ นะ…”
หงอวี่รีบร้อนเอ่ย “ข้าก็เดาส่งๆ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะโชคดีเดาถูกเสียแล้ว พี่เถาอย่าถือสาเลย”
เถาซงถิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “พอแล้ว แพ้ก็คือแพ้ อย่าคิดว่าข้าแพ้ไม่เป็น”
อวี๋ฮูหยินเม้มปากยิ้ม
คนใหญ่คนโตระดับกึ่งจักรพรรดิคนอื่นก็ลอบถอนใจ จินตู๋อีคนนี้… เป็นม้ามืดที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจได้จริงๆ!
กิตติศัพท์ของกู่เจี้ยนสิงยิ่งโด่งดัง ก็ยิ่งขับให้จินตู๋อีที่เอาชนะเขาได้ยิ่งไม่ธรรมดา นี่ก็คือโศกนาฏกรรมของผู้ที่ตกเป็นหินรองเท้า
“เอ๊ะ หลังจินตู๋อีชนะสิบครั้งรวดก็ไม่ได้ออกจากสังเวียน นี่เขาอยากรับการท้าสู้ต่อหรือ”
มีคนค้นพบอย่างตกตะลึงว่าหลินสวินยังยืนอยู่บนสังเวียน
ชั่วขณะเดียวสายตามากมายต่างมองไป
“ขนาดกู่เจี้ยนสิงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ใครจะยังบุ่มบ่ามมาท้าเขาสู้”
ผู้แข็งแกร่งที่กำลังรออยู่ในพื้นที่เข้าต่อสู้มากมายต่างรู้สึกขมขื่นใจไปครู่หนื่ง
พวกฉู่ชิว จั๋วเฟิ่งอิ่งยึดครองสังเวียน ต่างทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันแล้ว
ตอนนี้กู่เจี้ยนสิงเพิ่งออกไป ก็มีจินตู๋อีที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากู่เจี้ยนสิงโผล่มาอีก นี่ทำให้พวกเขารู้สึกกลัดกลุ้มไปครู่หนึ่ง
“นี่ก็ไม่เสมอไป อย่างที่ผู้อาวุโสเถาซงถิงพูดไว้ แรงคนมีวันหมด จินตู๋อีคนนี้สู้มาสิบยกติดแล้ว จะไม่สูญเสียพลังกายไปอย่างรุนแรงได้อย่างไร”
ทั้งยังมีคนไม่ยอมแพ้ “ถ้าคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ไม่แน่ว่าจะเอาชนะเขาได้ก็ได้!”
ดังคาด คล้ายอยากทำให้คำพูดของคนผู้นี้เป็นจริง ไม่นานนักก็มีผู้ฝึกปราณเข้าไปท้าสู้
แต่เพียงครู่สั้นๆ เท่านั้นก็ถูกหลินสวินเอาชนะบนสังเวียน
“ทุกคน!”
มีคนกัดฟันคำรามลั่นว่า “ล้มเหลวแล้วสู้ใหม่อีกก็พอ ถ้าแม้แต่ความกล้าจะต่อสู้ยังไม่มี ยังจะเข้าคัดเลือกถกมรรค พูดถึงการเสาะแสวงมหามรรคอะไรได้อีก”
คำพูดเดียวประหนึ่งเพลิงกล้าลูกหนึ่ง ทำให้ผู้เข้าร่วมการต่อสู้ที่สังเกตการณ์เหล่านั้นแต่ละคนต่างรู้สึกหวั่นไหว
“ถูกต้อง แพ้แล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ต่อ ถ้าเพราะกลัวจึงไม่สู้ เมื่อไรจะเด่นดังได้กัน”
“ไปสู้!”
ชั่วขณะเดียวผู้เข้าร่วมการต่อสู้หลายคนก็กระโจนออกมา จิตใจฮึกเหิม แววตาแน่วแน่
นี่ไม่ใช่เพราะถูกคนพูดไม่กี่คำจึงเลอะเลือน แต่เป็นเพราะกฎของการคัดเลือกชัดเจนนัก ต่อให้ถูกเอาชนะ ก็ยังมีโอกาสไปท้าสู้คนอื่น
นี่ก็เท่ากับให้โอกาสพวกเขาได้ต่อสู้มากมาย!
ชั่วขณะเดียวไม่เพียงแต่สังเวียนที่หลินสวินอยู่ สังเวียนที่ฉู่ชิว จั๋วเฟิ่งอิ่งอยู่ยังถูกผู้เข้าร่วมต่อสู้มากมายจับต้อง
ส่วนผู้ชมการต่อสู้ในลานแสดงมรรคเห็นดังนี้ต่างก็ใจเต้นระส่ำขึ้นมา เต็มไปด้วยความรู้สึกตั้งตาคอย
“นี่ถึงเหมือนสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงทำหน่อย”
พวกเถาซงถิง อวี๋ฮูหยินเห็นดังนี้ ต่างลอบพยักหน้า
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์