“เพลิงธรรมชำระโลก! ตั้งแต่ยุคบรรพกาลจนถึงตอนนี้ ในสำนักธรรมคานาอันถึงกับยังมีคนฝึกยอดเพลิงธรรมเช่นนี้!”
คนใหญ่คนโตผู้หนึ่งผุดลุกขึ้น สีหน้ามีแต่ความสั่นสะท้าน
เพลิงธรรมชำระโลก ถูกมองเป็นหนึ่งใน ‘สี่มหาเพลิงเทพ’ ในยุคบรรพกาล จอมจักรพรรดิมรรคพุทธในสำนักธรรมคานาอันผู้หนึ่งเคยใช้เพลิงนี้เผาแดนมารแห่งหนึ่งในคราวเดียว ทำให้ทั่วหล้าต่างสั่นสะเทือน
เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึง ว่าเพลิงเทพที่มีอานุภาพเลิศล้ำเช่นนี้กลับปรากฏขึ้นหลังผ่านกาลเวลายาวนานไร้สิ้นสุด ถูก เหลิ่งซิวเจียสำแดงออกมาในสนามประลองอีกครั้ง!
ตูม!
เพลิงธรรมอันโปร่งแสงแผ่แสงสว่างเหลือคณาออกมา ส่งเสียงอึงอลดั่งมังกรจู่โจมแผลงฤทธิ์
เหลิ่งซิวเจียที่ยืนอยู่ในนั้นก็เหมือนมุนินทร์เดือดคลั่งองค์หนึ่ง!
นัยน์ตาหลินสวินหดรัดลงเล็กน้อย ฝีเท้ายังไม่หยุดลง มีเพียงสารกาย พลังชีวิต และจิตวิญญาณภายในร่างของเขาที่โคจรออกมา
ร่างกายดั่งภูผาสูงตระหง่าน จิตดุจผืนพสุธาหนักแน่นกว้างใหญ่
และในจุดชีพจรทั้งร่างเขา มีปราณกระบี่ไท่เสวียนอันพร่างพราวแหลมคมพุ่งผ่านอากาศออกมาเสียงดังวู้มๆ ในชั่วขณะนี้
ปราณกระบี่แต่ละสายล้วนมีประกายแสงเปล่งปลั่งอิ่มเอิบไหววูบ ประทับนัยเร้นลับมหามรรค พอปรากฏอยู่ในห้วงอากาศก็เหมือนม่านฝนกระบี่บดบังฟ้าดิน!
ฝนกระบี่สิบทิศ!
นี่เป็นกระบวนท่าสังหารที่หลินสวินเพิ่งหยั่งรู้และฝึกฝนจากคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียนเมื่อไม่นานมานี้
ฝนกระบี่เหมือนผ้าม่าน รวมปราณกระบี่สามแสนหกหมื่นสาย ปกคลุมผืนดินสิบทิศ สำแดงมรรคสังหารไท่เสวียน
และตอนนี้ กระบวนท่านี้ก็ถูกหลินสวินสำแดงด้วยกายมรรคดินเหลือง อานุภาพเช่นนั้นเรียกได้ว่าน่าหวาดหวั่น
วู้มๆๆ!
ก็เห็นว่าลำนำกระบี่ดุจกระแสธาร ซัดสาดเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ฝนกระบี่ดุจม่านพาดขวางตัดกัน ม้วนตลบออกมาอย่างหนาแน่น เบื้องบนพิฆาตเก้าชั้นฟ้า เบื้องล่างสังหารเก้านรกได้
ภาพเช่นนี้ทำให้ทั้งที่นั้นต่างเผยแววสะท้านสะเทือน
นี่มันมรรคกระบี่ระดับใดกัน
ตูม ครืน!
บนสนามประลอง ปราณกระบี่ดุจสายฝนกระหน่ำ ปะทะเข้ากับเพลิงธรรมชำระโลก ชั่วขณะเดียวปราณกระบี่ไหลวน แสงเพลิงกระเจิดกระเจิง ส่งเสียงดังครั่นครืน ทำให้ทั้งสนามประลองสั่นโคลงขึ้นในทันใด
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้ การโจมตีสุดท้ายตอนที่ซูมู่หานกับหลินสวินประลองกันเรียกได้ว่าวิปริตแล้ว แต่เทียบกับการต่อสู้ในตอนนี้ก็ดูหมองลงทันที
อีกทั้งทุกคนในที่นั้นก็เพิ่งเคยเห็นหลินสวินสำแดงพลังมรรคกระบี่เป็นครั้งแรก และยังได้รู้เป็นครั้งแรกว่าที่แท้ม้ามืดที่ทะยานออกมาคนนี้ถึงกับมีความช่ำชองในมรรคกระบี่ที่น่ากลัวปานนี้ด้วย
นี่ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อ
พอฝุ่นควันกระจายตัว เปลวไฟกับปราณกระบี่ถดถอยไป ก็เห็นว่าบนสนามประลองเงาร่างเหลิ่งซิวเจียแข็งทื่ออยู่เช่นนั้นเหมือนรูปปั้นดิน ไม่กล้ากระดิกแม้แต่นิดเดียว
นัยน์ตาเขาขยายออก หน้าผากผ่องใสเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬ ใบหน้ามีแต่ความซีดเผือด
เพราะโดยรอบๆ ร่างเขามีปราณกระบี่แหลมคมวับวาวโปร่งแสงเป็นสายๆ จ่ออยู่ตรงนั้น คมกระบี่แต่ละสายอยู่ห่างจากผิวหนังเพียงหนึ่งชุ่น!
เมื่อมองโดยละเอียด เหลิ่งซิวเจียขนลุกเกรียวไปทั้งตัว!
และไกลออกไปหลินสวินยืนมือไพล่หลัง สันโดษละโลกีย์
พอได้เห็นภาพนี้ทั้งที่นั้นก็เงียบสงัด ไม่มีใครไม่หวาดหวั่น
เพลิงธรรมชำระโลกยังต้านการโจมตีจากจินตู๋อีไม่ได้!
ไม่ว่าใครต่างรู้ชัดว่าในตอนท้ายถ้าไม่ใช่จินตู๋อีหยุดมือทันเวลา เป็นไปได้สูงที่เหลิ่งซิวเจียจะถูกกระบี่มากมายแทงทะลุ ตายคาที่ไปแล้ว
“ที่แท้นี่จึงจะเป็นฝีมือต่อสู้ที่แท้จริงของพี่จิน…”
ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบเชียบ เหลิ่งซิวเจียเอ่ยปากเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยแววทอดถอนใจ ทั้งผิดหวัง หวาดผวา และชื่นชม
“ข้าแพ้แล้ว”
พอเหลิ่งซิวเจียยอมแพ้ ปราณกระบี่ไท่เสวียนนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมเหนือร่างเขาหนึ่งชุ่นกลายเป็นละอองแสงอย่างรวดเร็ว พุ่งหายเข้าไปในร่างหลินสวิน
“ออมมือแล้ว”
หลินสวินพูดจบก็หันหลังจากไป
เมื่อเห็นเขาเดินลงมาจากสนามประลองด้วยท่าทางของผู้ชนะอีกครั้งหนึ่ง คนใหญ่คนโตที่อยู่ที่นั่นต่างเผยสีหน้าซับซ้อน
จินตู๋อีคนนี้… จะเก็บงำล้ำลึกเกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้ ใครจะคาดว่าเขาจะมีมรรคกระบี่ที่น่ากลัวดุดันปานนี้ด้วย
ปราณกระบี่ดั่งสายฝน มาเยือนเป็นผืนม่าน!
เมื่อนึกถึงภาพเมื่อกี้ก็ทำเอาทุกคนขนลุกเกรียว ศีรษะชาหนึบ
ความจริงแล้วปราณกระบี่เช่นนั้นไม่เพียงมีจำนวนมหาศาล พลังที่มียังน่ากลัวเกินจินตนาการ
“ถึงตอนนี้จินตู๋อีคนนี้ก็รักษาตำแหน่งสามอันดับแรกเอาไว้มั่น ผลลัพธ์นี้… ก่อนหน้านี้ใครจะคาดถึง”
มีคนใหญ่คนโตทอดถอนใจ
คนอื่นต่างก็คิดเช่นนี้
ส่วนเหลิ่งซิวเจีย ในตอนนี้ก็ทำได้เพียงยุติการประลองอย่างเงียบเชียบ
เขาแข็งแกร่งแค่ไหน น่าตื่นตาเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยังหยุดอยู่ที่ก่อนสามอันดับแรกอยู่ดี
‘เจ้าหมอนี่ เป็นศัตรูตัวฉกาจ’
ลู่ตู๋ปู้สีหน้าเคร่งขรึม
ตอนแรกยามได้ยินชื่อจินตู๋อีที่หลินสวินสวมรอยอยู่ เขาเพียงแค่ระวังนิดหน่อย ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไร
จนกระทั่งในการคัดเลือกรอบที่สอง ถูกหลินสวินแซงหน้า เขาถึงเริ่มให้ความสำคัญกับม้ามืดที่มาจากเขตเข้าร่วมต่อสู้เมืองหลิงเฟิงคนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์