ไม่ต้องพูดถึงอู่หวง เพียงแค่สี่คนที่ล้อมโจมตีพวกเขาตอนนี้ก็แข็งแกร่งจนทำให้พวกเขาสิ้นหวัง
เมื่อได้ยินวาจาเย็นชาหาใดเทียบนั้นของอู่หวง ทั้งสองต่างโกรธจนตาลุกวาว คลั่งไปโดยสมบูรณ์
“สารเลว!”
“สู้สุดตัวกับพวกเขาเลย!”
ก็ในตอนนี้เอง…
“อู่หวง เจ้าหน้าไม่อายจริงนะ…” เสียงเยียบเย็นดังขึ้นกลางฟ้าดิน
อู่หวงกับสี่คนที่กำลังล้อมโจมตีล้วนเงยมองมา ก็เห็นเงาร่างยืนสันโดษร่างหนึ่งโฉบพุ่งมาจากห้วงอากาศ
พวกเถิงอี๋เฉินล้วนใจกระตุก เผยสีหน้ายากจะเชื่อ “พี่จิน!”
เมื่อจนมุมกำลังจะถูกคัดออก จู่ๆ ก็มีคนทะยานมาจากฟ้า นั่นช่างเป็นดั่งแสงที่ทลายความมืดมิด ทำให้ในใจที่สิ้นหวังโกรธเคืองของพวกเขามีความหวัง รู้สึกยินดีปรีดาและตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“พวกเจ้าจัดการต่อ ข้าจะไปขวางเขา”
ตอนแรกอู่หวงชะงักไป แต่ไม่ทันไรก็กลับมาสงบนิ่ง สีหน้าเย็นชา
เงาร่างเขาพริบวาบ ไอหมอกพวยพุ่งประหนึ่งมารเทพจากนรก พุ่งเข้าโจมตีสังหารหลินสวิน
สวบ!
ในนัยน์ตาเขาสะท้อนประกายแสงเทพสี่สายสีดำ ขาว เขียวและม่วง สำแดง ‘แผนภาพจตุลักษณ์ประหัตวิญญาณ’ อันพิสดารสุดหยั่งออกมา
ส่วนในมือเขาก็มีสายโซ่ที่มีกลิ่นอายคาวเลือดหลั่งไหลออกมาสายหนึ่ง ฟาดออกมาแรงๆ
อู่หวงมีฐานะเป็นทูตจักรพรรดิ โอหังอวดดี แต่ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆากลับพ่ายแพ้ยับเยินด้วยน้ำมือหลินสวิน ถูกเหยียบย่ำจนน่าอดสูถึงที่สุด มองว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่
ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหลินสวินสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของตน ทำให้ความแค้นทั้งเก่าใหม่ต่างพากันผุดขึ้นในใจเขา ทันทีที่ลงมือก็สำแดงอานุภาพดุร้ายคับฟ้าชนิดเอาชีวิตเข้าแลก
“อย่างเจ้ายังคิดจะขวางข้าไว้หรือ”
หลินสวินยิ้มหยัน ปราณกระบี่โปรยปรายมากมายพุ่งออกจากร่างเขาอย่างรวดเร็ว พร่างพราวโชติช่วง ทะยานออกมา
ฝนกระบี่สิบทิศ!
เพียงแต่คราวนี้ถูกสำแดงด้วยกายมรรคทองขาวที่ดุดันหยาบกระด้างที่สุด พลังสังหารเช่นนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ตูม!
ฝนกระบี่เต็มฟ้าปกคลุม ห้วงอากาศยังถูกกรีดเป็นรอยขาดนับไม่ถ้วน แม้ว่าการโจมตีของอู่หวงน่ากลัว แต่ในชั่วพริบตาก็ถูกปราณกระบี่นับไม่ถ้วนบดขยี้
ส่วนตัวเขามาว่าไวแล้ว แต่ไปไวยิ่งกว่า ถูกปราณกระบี่แน่นขนัดแถบหนึ่งฟันเข้าที่ตัวจนกระเด็นออกไปอย่างแรง
เสื้อผ้าบนตัวระเบิดกระจุย บนร่างมีรอยกระบี่เลือดหลั่งรินรอยแล้วรอยเล่า!
หนึ่งการโจมตี ก็ถูกตีพ่ายอย่างหนักหน่วง!
สี่คนที่เดิมเตรียมจะล้อมโจมตีเถิงอี๋เฉินและกุยซานสิงต่อล้วนตัวแข็งทื่อ เผยสีหน้าตกตะลึง
ทูตจักรพรรดิอย่างอู่หวงจะอ่อนแอปานนั้นได้อย่างไร
แม้แต่พวกเถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงยังตกตะลึงอ้าปากค้าง ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาก่อนนหน้านี้ พวกเขาเคยเห็นการห้ำหั่นดุเดือดระหว่างอู่หวงกับหลินสวินกับตา
แม้ตอนนั้นอู่หวงจะแพ้ แต่ก็ไม่ได้แพ้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดกระบวนท่าเดียวยังรับไม่ได้ นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ทำ… ทำไมเจ้าแข็งแกร่งปานนี้”
อู่หวงเผยสีหน้าโกรธเกรี้ยวปนตกตะลึง เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าเพิ่งผ่านไปไม่เท่าไร คู่ต่อสู้คนนี้ก็น่ากลัวปานนี้แล้วหรือ
เขาไม่รู้ว่าในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาตอนนั้น เดิมทีหลินสวินก็ออมมือไว้ ไม่ได้สำแดงพลังต่อสู้ออกมาจนหมด
หลังจากศึกถกมรรคแคว้นเมฆาจบไปครึ่งปี พลังปราณของหลินสวินก็ทะลวงขั้น เลื่อนเป็นระดับมกุฎราชันอริยะขั้นปลายในก้าวเดียว และยังทำให้การอนุมานเขตแดนมรรคของเขาใกล้ไปถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดด้วย
พลังต่อสู้ของเขาแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงมานานแล้ว
และเพื่อช่วยพวกเถิงอี๋เฉิน หลินสวินจึงไม่ได้ออมมือแต่อย่างใดเช่นกัน!
“ตอนนั้นที่ศึกถกมรรคแคว้นเมฆา เจ้าใช้สมบัติจักรพรรดิได้ และใช้สมบัติลับอัศจรรย์ที่เพ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณนั่นก็ได้ แต่ที่แดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้ เจ้าคงไม่ได้มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว”
ขณะที่หลินสวินพูดเงาร่างก็พุ่งไปข้างหน้า ไอสังหารจับจ้องที่ตัวอู่หวง “และข้า ก็ไม่อาจให้โอกาสเจ้าได้อีกแล้ว!”
ตูม!
ฝนกระบี่ไร้สิ้นสุดม้วนตลบออกมา ปราณกระบี่ไท่เสวียนแต่ละสายล้วนประทับด้วยพลังกฎเกณฑ์อันลึกลับ ควบรวมเป็นเจตกระบี่ออกมา ปกคลุมหนาแน่น
ภาพเช่นนั้นเรียกได้ว่าปกฟ้าคลุมตะวัน!
อู่หวงหน้าเปลี่ยนสี หมุนตัวจะหนี
ครึ่งปีนี้พลังของเขาก็ทะลวงเช่นกัน เดิมนึกว่ามีโอกาสชะล้างความอับอายแล้ว แต่การโจมตีเมื่อครู่กลับทำให้เขาพบว่า ความน่ากลัวในพลังของจินตู๋อีผู้นี้เหนือกว่าที่เขาคาดเดาไปไกล!
“ข้าพูดไปแล้ว คราวนี้จะไม่ให้โอกาสใดๆ กับเจ้าอีก”
ท่ามกลางเสียงอันราบเรียบ ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดฉายวาบอย่างรวดเร็ว แปลงสภาพเป็นค่ายกลกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวหาใดเทียบ ผนึกพื้นที่แถบนี้ไว้ทั้งหมดประหนึ่งคุกกระบี่หลังหนึ่ง
นี่คือวิชาที่มหัศจรรย์ที่สุดวิชาหนึ่งในคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน…
กรงกระบี่!
“เปิด!”
อู่หวงคำรามขึ้นฟ้า หมอกเทาพวยพุ่งถาโถมไปทั้งตัว ตัวเขากลายเป็นนกฉงหมิงดุร้ายตัวหนึ่ง กระพือปีกบินสูง
นี่เป็นร่างต้นของเขา และยังเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาด้วย!
แล้วก็เห็นว่าเงาแสงเทาหม่นเป็นชั้นๆ ผุดขึ้นมาจากปีกทั้งสองของเขาประหนึ่งแดนมารมากมายมาเยือนโลก พิสดารน่าหวาดหวั่น
เพียงแต่ภายใต้การกำราบของกรงกระบี่ เงาแสงเป็นชั้นๆ นั้นล้วนถูกโจมตีแหลกกระจุย แตกกระเจิงเหมือนฟองสบู่
ภายใต้ปราณกระบี่ที่ตัดฟัน ร่างของอู่หวงเกิดรอยกระบี่ที่ลึกจนเห็นกระดูกนับไม่ถ้วนในพริบตา เลือดสดๆ สาดกระเซ็นเป็นน้ำตก
“ไม่…!”
อู่หวงตาแทบถลน แต่ตัวเขาก็ถูกพาออกไป ออกจากการคัดเลือกโดยสมบูรณ์พร้อมกับคลื่นห้วงอากาศระลอกหนึ่ง
ก่อนจากไปดวงตาเขามีแต่ความแค้นและไม่ยินยอมเข้ากระดูก
สุดท้าย ณ ที่ที่เขาหายไปก็มียันต์ชีวิตกองหนึ่งตกอยู่ จำนวนราวสิบสามชิ้น และถูกหลินสวินเก็บไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์