Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1945

สรุปบท ตอนที่ 1945 พรานกับเหยื่อ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 1945 พรานกับเหยื่อ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1945 พรานกับเหยื่อ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1945 พรานกับเหยื่อ
เถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงต่างรู้สึกว่าตนจนแต้มแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงอู่หวง เพียงแค่สี่คนที่ล้อมโจมตีพวกเขาตอนนี้ก็แข็งแกร่งจนทำให้พวกเขาสิ้นหวัง

เมื่อได้ยินวาจาเย็นชาหาใดเทียบนั้นของอู่หวง ทั้งสองต่างโกรธจนตาลุกวาว คลั่งไปโดยสมบูรณ์

“สารเลว!”

“สู้สุดตัวกับพวกเขาเลย!”

ก็ในตอนนี้เอง…

“อู่หวง เจ้าหน้าไม่อายจริงนะ…” เสียงเยียบเย็นดังขึ้นกลางฟ้าดิน

อู่หวงกับสี่คนที่กำลังล้อมโจมตีล้วนเงยมองมา ก็เห็นเงาร่างยืนสันโดษร่างหนึ่งโฉบพุ่งมาจากห้วงอากาศ

พวกเถิงอี๋เฉินล้วนใจกระตุก เผยสีหน้ายากจะเชื่อ “พี่จิน!”

เมื่อจนมุมกำลังจะถูกคัดออก จู่ๆ ก็มีคนทะยานมาจากฟ้า นั่นช่างเป็นดั่งแสงที่ทลายความมืดมิด ทำให้ในใจที่สิ้นหวังโกรธเคืองของพวกเขามีความหวัง รู้สึกยินดีปรีดาและตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“พวกเจ้าจัดการต่อ ข้าจะไปขวางเขา”

ตอนแรกอู่หวงชะงักไป แต่ไม่ทันไรก็กลับมาสงบนิ่ง สีหน้าเย็นชา

เงาร่างเขาพริบวาบ ไอหมอกพวยพุ่งประหนึ่งมารเทพจากนรก พุ่งเข้าโจมตีสังหารหลินสวิน

สวบ!

ในนัยน์ตาเขาสะท้อนประกายแสงเทพสี่สายสีดำ ขาว เขียวและม่วง สำแดง ‘แผนภาพจตุลักษณ์ประหัตวิญญาณ’ อันพิสดารสุดหยั่งออกมา

ส่วนในมือเขาก็มีสายโซ่ที่มีกลิ่นอายคาวเลือดหลั่งไหลออกมาสายหนึ่ง ฟาดออกมาแรงๆ

อู่หวงมีฐานะเป็นทูตจักรพรรดิ โอหังอวดดี แต่ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆากลับพ่ายแพ้ยับเยินด้วยน้ำมือหลินสวิน ถูกเหยียบย่ำจนน่าอดสูถึงที่สุด มองว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่

ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหลินสวินสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของตน ทำให้ความแค้นทั้งเก่าใหม่ต่างพากันผุดขึ้นในใจเขา ทันทีที่ลงมือก็สำแดงอานุภาพดุร้ายคับฟ้าชนิดเอาชีวิตเข้าแลก

“อย่างเจ้ายังคิดจะขวางข้าไว้หรือ”

หลินสวินยิ้มหยัน ปราณกระบี่โปรยปรายมากมายพุ่งออกจากร่างเขาอย่างรวดเร็ว พร่างพราวโชติช่วง ทะยานออกมา

ฝนกระบี่สิบทิศ!

เพียงแต่คราวนี้ถูกสำแดงด้วยกายมรรคทองขาวที่ดุดันหยาบกระด้างที่สุด พลังสังหารเช่นนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง

ตูม!

ฝนกระบี่เต็มฟ้าปกคลุม ห้วงอากาศยังถูกกรีดเป็นรอยขาดนับไม่ถ้วน แม้ว่าการโจมตีของอู่หวงน่ากลัว แต่ในชั่วพริบตาก็ถูกปราณกระบี่นับไม่ถ้วนบดขยี้

ส่วนตัวเขามาว่าไวแล้ว แต่ไปไวยิ่งกว่า ถูกปราณกระบี่แน่นขนัดแถบหนึ่งฟันเข้าที่ตัวจนกระเด็นออกไปอย่างแรง

เสื้อผ้าบนตัวระเบิดกระจุย บนร่างมีรอยกระบี่เลือดหลั่งรินรอยแล้วรอยเล่า!

หนึ่งการโจมตี ก็ถูกตีพ่ายอย่างหนักหน่วง!

สี่คนที่เดิมเตรียมจะล้อมโจมตีเถิงอี๋เฉินและกุยซานสิงต่อล้วนตัวแข็งทื่อ เผยสีหน้าตกตะลึง

ทูตจักรพรรดิอย่างอู่หวงจะอ่อนแอปานนั้นได้อย่างไร

แม้แต่พวกเถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงยังตกตะลึงอ้าปากค้าง ในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาก่อนนหน้านี้ พวกเขาเคยเห็นการห้ำหั่นดุเดือดระหว่างอู่หวงกับหลินสวินกับตา

แม้ตอนนั้นอู่หวงจะแพ้ แต่ก็ไม่ได้แพ้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ขนาดกระบวนท่าเดียวยังรับไม่ได้ นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

“ทำ… ทำไมเจ้าแข็งแกร่งปานนี้”

อู่หวงเผยสีหน้าโกรธเกรี้ยวปนตกตะลึง เขาไม่อาจเชื่อได้ว่าเพิ่งผ่านไปไม่เท่าไร คู่ต่อสู้คนนี้ก็น่ากลัวปานนี้แล้วหรือ

เขาไม่รู้ว่าในศึกถกมรรคแคว้นเมฆาตอนนั้น เดิมทีหลินสวินก็ออมมือไว้ ไม่ได้สำแดงพลังต่อสู้ออกมาจนหมด

หลังจากศึกถกมรรคแคว้นเมฆาจบไปครึ่งปี พลังปราณของหลินสวินก็ทะลวงขั้น เลื่อนเป็นระดับมกุฎราชันอริยะขั้นปลายในก้าวเดียว และยังทำให้การอนุมานเขตแดนมรรคของเขาใกล้ไปถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดด้วย

พลังต่อสู้ของเขาแตกต่างไปโดยสิ้นเชิงมานานแล้ว

และเพื่อช่วยพวกเถิงอี๋เฉิน หลินสวินจึงไม่ได้ออมมือแต่อย่างใดเช่นกัน!

“ตอนนั้นที่ศึกถกมรรคแคว้นเมฆา เจ้าใช้สมบัติจักรพรรดิได้ และใช้สมบัติลับอัศจรรย์ที่เพ่งเป้าไปที่จิตวิญญาณนั่นก็ได้ แต่ที่แดนลับโลกาสวรรค์แห่งนี้ เจ้าคงไม่ได้มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว”

ขณะที่หลินสวินพูดเงาร่างก็พุ่งไปข้างหน้า ไอสังหารจับจ้องที่ตัวอู่หวง “และข้า ก็ไม่อาจให้โอกาสเจ้าได้อีกแล้ว!”

ตูม!

ฝนกระบี่ไร้สิ้นสุดม้วนตลบออกมา ปราณกระบี่ไท่เสวียนแต่ละสายล้วนประทับด้วยพลังกฎเกณฑ์อันลึกลับ ควบรวมเป็นเจตกระบี่ออกมา ปกคลุมหนาแน่น

ภาพเช่นนั้นเรียกได้ว่าปกฟ้าคลุมตะวัน!

อู่หวงหน้าเปลี่ยนสี หมุนตัวจะหนี

ครึ่งปีนี้พลังของเขาก็ทะลวงเช่นกัน เดิมนึกว่ามีโอกาสชะล้างความอับอายแล้ว แต่การโจมตีเมื่อครู่กลับทำให้เขาพบว่า ความน่ากลัวในพลังของจินตู๋อีผู้นี้เหนือกว่าที่เขาคาดเดาไปไกล!

“ข้าพูดไปแล้ว คราวนี้จะไม่ให้โอกาสใดๆ กับเจ้าอีก”

ท่ามกลางเสียงอันราบเรียบ ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดฉายวาบอย่างรวดเร็ว แปลงสภาพเป็นค่ายกลกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวหาใดเทียบ ผนึกพื้นที่แถบนี้ไว้ทั้งหมดประหนึ่งคุกกระบี่หลังหนึ่ง

นี่คือวิชาที่มหัศจรรย์ที่สุดวิชาหนึ่งในคัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน…

กรงกระบี่!

“เปิด!”

อู่หวงคำรามขึ้นฟ้า หมอกเทาพวยพุ่งถาโถมไปทั้งตัว ตัวเขากลายเป็นนกฉงหมิงดุร้ายตัวหนึ่ง กระพือปีกบินสูง

นี่เป็นร่างต้นของเขา และยังเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาด้วย!

แล้วก็เห็นว่าเงาแสงเทาหม่นเป็นชั้นๆ ผุดขึ้นมาจากปีกทั้งสองของเขาประหนึ่งแดนมารมากมายมาเยือนโลก พิสดารน่าหวาดหวั่น

เพียงแต่ภายใต้การกำราบของกรงกระบี่ เงาแสงเป็นชั้นๆ นั้นล้วนถูกโจมตีแหลกกระจุย แตกกระเจิงเหมือนฟองสบู่

ภายใต้ปราณกระบี่ที่ตัดฟัน ร่างของอู่หวงเกิดรอยกระบี่ที่ลึกจนเห็นกระดูกนับไม่ถ้วนในพริบตา เลือดสดๆ สาดกระเซ็นเป็นน้ำตก

“ไม่…!”

อู่หวงตาแทบถลน แต่ตัวเขาก็ถูกพาออกไป ออกจากการคัดเลือกโดยสมบูรณ์พร้อมกับคลื่นห้วงอากาศระลอกหนึ่ง

ก่อนจากไปดวงตาเขามีแต่ความแค้นและไม่ยินยอมเข้ากระดูก

สุดท้าย ณ ที่ที่เขาหายไปก็มียันต์ชีวิตกองหนึ่งตกอยู่ จำนวนราวสิบสามชิ้น และถูกหลินสวินเก็บไป

พวกเขาทั้งกลุ่มก้าวเข้ามา พลังขับเคลื่อนต่างเพ่งเล็งที่พวกหลินสวินอย่างแน่นหนา ดูเหมือนไม่ได้ลงมือ แต่ความจริงแล้วศึกล้อมโจมตีพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ!

“เจ้าโผล่มาตอนนี้ หรือคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าข่งเจา”

หลินสวินสีหน้าเยือกเย็น

“เปล่า ข้าแค่มีคนเยอะ แต่ต่อให้คราวนี้ไม่อาจรั้งเจ้าไว้ได้ ก็ต้องชิงเอายันต์ชีวิตมาได้จำนวนหนึ่ง”

ถูเชียนเจวี๋ยยิ้มเอ่ย “แน่นอนว่าถ้าสู้สุดตัวจริงๆ ข้าก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายมากแค่ไหนกันแน่”

หลินสวินออกจะประหลาดใจ เอ่ยว่า “ดังนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างไร”

ถูเชียนเจวี๋ยคิดๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ส่งยันต์ชีวิตที่พวกเจ้าเพิ่งชิงได้มา พวกเราก็จะเปลี่ยนอาวุธเป็นหยกดีไหม”

“เจ้าฝันหวานจริงนะ”

หลินสวินยิ้ม เจ้าหมอนี่นึกว่าพาผู้แข็งแกร่งมาเรือนมรรคจักรวาลมา ก็มั่นใจว่าจะจัดการตนได้จริงๆ หรือ

ถูเชียนเจวี๋ยพูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า “ความฝันน่ะ ไม่ฝันให้หวานหน่อยจะให้ฝันร้ายหรือ”

“ข้าก็มีความฝันบ้าบิ่นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเจ้าจะอยากฟังไหม”

หลินสวินยิ่งยิ้มเจิดจ้า

“ล้างหูรอฟังยิ่ง”

ถูเชียนเจวี๋ยพูด

“ผลลัพธ์ของศึกนี้ พวกเจ้าต้องแบกรับไม่ไหวแน่”

หลินสวินพูดจริงจัง

ถูเชียนเจวี๋ยนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย ในใจออกจะเกินคาด หรือเจ้าหมอนี่ดูไม่ออกว่าสถานการณ์ไม่ดีกับเขาอย่างยิ่ง

แต่เหตุใดเขายังมั่นใจเช่นนี้

“ไป!”

ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่ หลินสวินก็ได้พาเถิงอี๋เฉินกับกุยซานสิงเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศไปด้วยกันอย่างไม่ลังเลแล้ว

ถูเชียนเจวี๋ยอึ้งไป หลุดหัวเราะเอ่ยว่า “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจินตู๋อีก็เจ้าเล่ห์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าถูกข้าถูเชียนเจวี๋ยหมายตาแล้ว พวกเจ้าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ”

สวบ!

ครู่ต่อมาพวกเขาก็พากันตามขึ้นไปแล้ว

หนึ่งในคนกลุ่มนี้โบกมือเรียกหนังสัตว์ที่อบอวลด้วยประกายมายาออกมา ปกคลุมเงาร่างของพวกถูเชียนเจวี๋ยเอาไว้ ยามเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ!

หนังสัตว์อวกาศ!

สมบัติพิศวงยิ่งยวดชิ้นหนึ่ง หายากยิ่งนัก แต่ละชิ้นต่างเรียกได้ว่าประเมินค่าไม่ได้ แม้สมบัตินี้ไม่ใช่สมบัติจักรพรรดิ แต่ประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ สามารถมองข้ามพันธนาการแห่งกฎระเบียบของห้วงอากาศว่างเปล่า ยามเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศได้!

เพียงครู่สั้นๆ เท่านั้น พวกถูเชียนเจวี๋ยก็เห็นเงาร่างพวกหลินสวินกำลังหนีอยู่ไกลๆ ได้อย่างชัดเจนแล้ว

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์