ตูม!
เขาสำแดงมรรคและวิชาแห่งตนออกมา กฎเกณฑ์ที่งามแปลกตาร้อยถักเข้าด้วยกัน วนอ้อมทั่วร่าง
เมื่อเขาซัดหมัดออกไป เงาร่างสว่างไสวที่พุ่งปราดมาเบื้องหน้าราวถูกพายุพัดทำลายล้าง แตกระเบิดในพริบตา ถูกพลังหมัดม้วนกลืนจนราบคาบ
เงาร่างนี้มีกลิ่นอายเหมือนจือไป๋ รูปร่างก็เหมือนกันทุกประการ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่จือไป๋ตัวจริง ในเมื่อไร้สติปัญญาก็ย่อมไร้เจตจำนง เป็นแค่สิ่งที่ควบรวมมาจากพลังมรรควิถีเท่านั้น
เงาร่างนี้แม้จะเรียกได้ว่าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ แต่สุดท้ายก็ยังต้านการโจมตีของหลินสวินไม่อยู่
ตูม!
เมื่อหลินสวินปล่อยหมัด มุ่งหน้าซัดกวาด เงาร่างมากมายที่พุ่งจู่โจมเข้ามานั้น ล้วนถูกหลินสวินกำราบม้วนกลืนอย่างง่ายดาย
“พลังมีแล้ว แต่อานุภาพยังไม่พอ”
หลินสวินกล่าวเรียบๆ
เขารู้ว่าจือไป๋ต้องได้ยินแน่
จริงดังคาด ครู่ต่อมาเสียงของจือไป๋ก็ดังขึ้น “การประลองหมากบนกระดาน ย่อมเริ่มจากเล็กไปใหญ่ ต้องอ่านใจคนให้เป็น พี่หลิน อานุภาพของเจ้าตอนนี้แม้จะท่วมท้น… แต่อีกเดี๋ยว… หวังว่าเจ้าจะคงท่าทีเช่นนี้ไว้ได้”
น้ำเสียงสงบนิ่ง
หลินสวินเลิกคิ้ว สายตากวาดมองโลกตารางหมากนี้ พลันเห็นเส้นขาวดำไขว้ขนาน ตารางหมากเหมือนกระจายอยู่โดยรอบ แผ่ขยายไปยังจุดที่ห่างไกล
“ข้าไม่มีเวลามาสิ้นเปลือง และไม่อาจผลาญพลังกายทั้งหมดไปกับที่นี่ หลังจากนี้ข้าจะใช้อสนีพลิกสถานการณ์ หวังว่าเจ้า… จะต้านทานได้กระมัง”
เมื่อเสียงของหลินสวินดังขึ้น รอบกายเขาพลันพรั่งไปด้วยแสงมรรคลึกลับยากหยั่งถึง ราวกับไอแรกกำเนิดพวยพุ่ง
เงาร่างของเขาเหมือนกระบี่เทพที่แทงทะลุผืนฟ้า เฉียบคมไร้เทียมทาน เผยปลายคมกริบ
เมื่อหลินสวินก้าวเดิน ตารางหมากขาวดำใต้ฝ่าเท้าพลันปรากฏพลังคุมขังที่น่ากลัวออกมา กลายเป็นคมดาบมหามรรคสว่างไสวและมืดมิด พุ่งเข้ามากำราบหลินสวิน
แค่ตารางหมากช่องหนึ่งเท่านั้น แต่กลับเหมือนกรงขัง สร้างความอัศจรรย์ของการกำราบสังหารได้ราวกับกระบวนผนึกลายมรรค!
ตูม!
ท่ามกลางเสียงระเบิด ร่างของหลินสวินแผ่อานุภาพที่น่าหวาดกลัวออกมา บดพลังคุมขังนั่นจนละเอียดในคราเดียว คมดาบขาวดำทั่วฟ้าแตกระเบิดทีละน้อย
หลินสวินไม่แม้แต่จะมอง ก้าวเข้าไปในตารางหมากเบื้องหน้า
ชั่วพริบตาไอสังหารนับไม่ถ้วนแผ่คลุมอีกครั้ง ตารางหมากขาวดำนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กลิ่นอายที่แผ่ออกมาแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เท่าตัว
เวลานี้หลินสวินสองมือไพล่หลัง แต่ในแสงมรรคเร้นลับรอบตัวเขากลับปรากฏปราณกระบี่ไท่เสวียนที่ดุดันบาดตานับไม่ถ้วน แทรกผ่านออกมาแน่นขนัด
ฝนกระบี่สิบทิศ!
ไอสังหารนานัปการที่ประทับอยู่ในตารางหมากช่องที่สอง ถูกสลายไปหมดสิ้นในชั่วขณะเดียว!
“ร้ายกาจ”
จือไป๋ที่ควบคุมตารางหมากขาวดำเห็นภาพต่างๆ นี้อยู่ในสายตา ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ หลินสวินนี่ต้องเป็นพวกเย้ยฟ้าในหมู่คนรุ่นเดียวกันแน่
ไม่แปลกที่คนอย่างพวกหวงฝู่เซ่าหนงและข่งเจาจะถูกเขาสังหาร แข็งแกร่งจนน่ากลัวจริงๆ
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ในใจของจือไป๋ก็ยิ่งสงบนิ่งและเด็ดเดี่ยว
เขามีความมั่นใจในมรรคของตนอย่างที่สุดเช่นกัน!
“ตารางหมากสองลักษณ์นำพา!”
จือไป๋ขับเคลื่อนความคิด ในตารางหมากขาวดำ เมื่อหลินสวินปรากฏตัวอยู่บนตารางหมากช่องที่สาม วัฏจักรแห่งความสว่างและมืดมิดกลายเป็นวงแสงเกลี้ยงกลมวงหนึ่ง
ในวงแสงเผยความอัศจรรย์แห่งการผสานหยินหยาง มืดสว่างแบ่งแยก ในความรางเลือนมีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่พาให้คนรู้สึกเหมือนจักรวาลแรกกำเนิด ฟ้าดินแยกออกจากกัน
หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ ชี้นิ้วออกไปลวกๆ
ปึง!
วงแสงขาวดำที่เกลี้ยงกลมนั้นพลันแตกระเบิด
“กระแสธารทมิฬ!”
นัยน์ตาจือไป๋นิ่งสงบ ตารางหมากขาวดำเปลี่ยนไปอีกครั้ง กระแสน้ำหลากที่มืดมิดสายหนึ่งปรากฏ ราวกับม่านรัตติกาลที่บุกจู่โจมฟ้าดิน
อานุภาพนี้แข็งแกร่งกว่าตารางหมากสองลักษณ์นำพานั่นหนึ่งส่วน
ตูม!
ใต้ฝ่าเท้าหลินสวินมีชือน้ำแข็งตัวหนึ่งปรากฏ เชิดศีรษะทะยานสู่ฟากฟ้า ลำตัวมหึมาที่ส่องประกายราวหิมะน้ำแข็งบิดไปมา ทำให้กระแสน้ำหลากที่มืดมิดนั้นปั่นป่วน
“สว่างไสวนิรันดร์!”
“มดกลืนคชสารมังกร!”
“หมื่นคลื่นใต้กระแส!”
“เทพผีไร้ข้าม!”
“จำกัดบริเวณ!”
…ในเวลาต่อมาจือไป๋ดูสงบผ่อนคลายเหมือนเซียนหมาก วางหมากมุ่งเป้าสังหารไปที่ ‘ตัวหมาก’ อย่างหลินสวิน
ในกระดานหมาก หลินสวินพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า พลิกแพลงตามกระบวนท่า คมกริบไม่อาจต้านประดุจผ่าลำไผ่!
นี่คือการประลองหมากแห่งยุค
เพียงแต่หลินสวินอยู่ในกระดาน ส่วนจือไป๋อยู่นอกกระดานเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างโจมตี เผยการห้ำหั่นชวนระทึกขวัญมากมาย
ในตารางหมากขาวดำส่งเสียงกัมปนาทอย่างต่อเนื่อง บ้างมีลักษณ์ประหลาดชวนประหวั่นนานัปการปรากฏ ม้วนซัดดังกระหึ่ม น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ
นี่คือสถานการณ์ที่ทุกคนซึ่งอยู่นอกกระดานหมากไม่อาจล่วงรู้อย่างสิ้นเชิง ถึงอย่างไรก็เป็นเขตแดนมรรคของจือไป๋ เป็นการสะท้อนให้เห็นมรรควิถีทั้งร่างของเขา ด้วยไม่ได้อยู่ในกระดานจึงไม่อาจสัมผัสถึงความอันตรายในนั้นได้
ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงถูกการต่อสู้ที่สามารถสะท้านทั่วหล้านี้ทำให้ตกใจไปนานแล้ว
ด้วยไม่ว่าจะเป็นพลังที่หลินสวินหรือจือไป๋สำแดงออกมา ล้วนเรียกได้ว่าเป็นมรรคขั้นสุดยอดในระดับมกุฎราชันอริยะ ทั้งสองประลองกันด้วยมรรควิถีแห่งตนเพียงอย่างเดียว พลังที่ปลดปล่อยออกมาย่อมถึงขั้นสะเทือนใต้หล้าในระดับเดียวกันแล้ว
ทว่าตามเวลาที่ล่วงเลย สีหน้าของจือไป๋ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา
หลินสวินบุกเข้ามาในกระดานหมาก ดูเหมือนทำให้ตัวเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอันตรายก่อนการต่อสู้ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
แต่ต่อให้อยู่ในสถานการณ์นี้ หลินสวินก็ยังโจมตีมาตลอดทาง ทะลวงด่านอย่างราบรื่น เผยอานุภาพแห่งการกดกำราบอย่างไร้คู่ต่อกร!
แม้จะรู้ชัดถึงความเย้ยฟ้าและน่ากลัวของหลินสวินมานานแล้ว แต่จือไป๋ก็ยังรู้สึกว่ายากจะเชื่อ
ต้องรู้ว่าตารางหมากขาวดำนี้ประหนึ่งฟ้าดินที่ควบคุมโดยเขา เมื่ออยู่ที่นี่เขาก็เหมือนนายเหนือหัวที่ควบคุมความเป็นตาย สามารถเข่นฆ่าได้ตามใจ!
แต่ไม่ว่าเขาจะสำแดงกระบวนท่าสังหารอะไร ทำการโอบล้อมและโจมตีหลินสวินอย่างต่อเนื่องแค่ไหน สุดท้ายก็ยังถูกทำลายจนสิ้น
“ธารสวรรค์เพลิงผลาญสามสิบหกสาย!”
จือไป๋โคจรมรรควิถีแห่งตนเต็มกำลัง สีหน้าเคร่งขรึม เริ่มใช้ไพ่ตาย
การประลองนี้คือการต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดที่เขาเคยเจอตั้งแต่ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ ส่วนหลินสวินก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจัดการที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์