เขาปู้โจวที่กว้างใหญ่ไพศาลราวกับไม่มีที่สิ้นสุด กลิ่นอายทำลายล้างคละคลุ้ง ลึกลับและอันตราย
แต่พร้อมๆ กับเสียงกึกก้องปานฟ้าร้องนั่นดังออกมา เขาปู้โจวทั้งลูกเริ่มสั่นสะเทือน ทำให้ฟ้าดินสั่นไหว
มองจากไกลๆ ราวกับมังกรใหญ่ดึกดำบรรพ์ที่หลับใหลอยู่ในพื้นดินฟื้นขึ้น!
พวกจิ่งเทียนหนานต่างนัยน์ตาหดรัด สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้น
ตูมโครม…
เสียงกึกก้องดังกังวานขึ้นเรื่อยๆ สะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน มองเห็นด้วยตาเปล่าว่ากลิ่นอายทำลายล้างที่ปกคลุมอยู่บนเขาปู้โจวจางหายไปราวกับกระแสน้ำ
เพียงครู่หนึ่งเท่านั้น
เขาปู้โจวก็ประหนึ่งสลัดผ้าตาข่ายชั้นหนึ่งทิ้งไป กลิ่นอายทำลายล้างที่ปกคลุมอยู่ภายในสลายไปทั้งหมด เผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันออกมาให้คนทั่วโลกเห็นเป็นครั้งแรก!
ก็เห็นว่า…
ประกายแสงมากมายพลิ้วไหว แสงเทพพันหมื่นร่วงลู่ ไอแรกกำเนิดเป็นสายๆ ดุจแม่น้ำยาวจากเก้าชั้นฟ้า พวยพุ่งไหลเวียนบนเขาปู้โจว
หินภูเขาทุกก้อนล้วนพริบมีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์พริบวาบ ประทับร่องรอยมหามรรค วิวัฒน์เป็นสภาพมหัศจรรย์แตกต่างกัน เสียงมรรคที่ราวกับเสียงสวรรค์ดังก้อง ทำให้กายใจเคลิบเคลิ้ม…
ชั่วขณะหนึ่งพวกจิ่งเทียนหนาต่างอึ้งงัน ตะลึงจนตาค้าง
นี่เป็นภูเขาที่งดงามศักดิ์สิทธิ์เพียงใด
พวกเขาเองก็เคยเห็นแดนมงคลเขามีชื่อมากมายในใต้หล้า แต่กลับหาที่สามารถเทียบความงามกับเขาปู้โจวตรงหน้าไม่ได้เลย!
มันยิ่งใหญ่ราวกับไร้จำกัด อาบแสงมงคล ไอแรกกำเนิดอบอวล ประหนึ่งต้นกำเนิดแห่งมหามรรค ตระหง่านค้ำฟ้าราวกับสะพานที่เชื่อมสู่สวรรค์
ภูเขาเทพแสงเขียวที่เรือนมรรคโลกาสวรรค์ตั้งอยู่ก็นับว่าเป็นแดนมงคลชั้นหนึ่งในใต้หล้า แต่ถ้าเทียบกับเขาลูกนี้ยังด้อยกว่าสามส่วน!
“นี่จึงจะเป็นรูปลักษณ์แท้จริงของเขาปู้โจวหรือ…”
พวกหลิงเคอจื่อ จินเทียนเสวียนเยวี่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน ภูเขาใหญ่อันเป็นปริศนาและอันตราย กลับกลายเป็นภูเขาเทพที่งดงามอย่างที่สุดลูกหนึ่งในชั่วพริบตา นี่เหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“หากสามารถเปิดสำนักที่ภูเขาแห่งนี้ได้ ต่อไปย่อมสามารถกลายเป็นขุมอำนาจเรือนมรรคที่แท้จริงแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน!”
แววตาจิ่งเทียนหนานร้อนระอุ
พวกซางจื่อเหยี่ยนเองก็ไม่สามารถสงบได้เช่นกัน
แต่ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีคนสังเกตเห็นว่าเขาปู้โจวที่ยิ่งใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดนั่น กลับเริ่มเล็กลงอย่างต่อเนื่อง….
ประกายแสง ละอองมงคล แสงมรรค ไอแรกกำเนิดทั่วฟ้า… ก็หดหายไปอย่างต่อเนื่อง
“นี่…”
ไม่ว่าจะเป็นพวกจิ่งเทียนหนานหรือพวกหลิงเคอจื่อล้วนอึ้งงัน คิดจนหัวแตกก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้
หลังจากนั้นภายใต้การจับจ้องของพวกเขา เขาปู้โจวที่เดิมทียิ่งใหญ่ไพศาล กลายเป็นภูเขาที่สูงพันจั้ง
พื้นที่แม้จะเล็กลงไม่รู้กี่เท่า แต่เขาปู้โจวในตอนนี้กลับพร่างพราวขนาดนั้น กลิ่นอายที่แผ่ออกมายิ่งรุนแรง ท้องฟ้าแถบนี้ล้วนย้อมเป็นสีสันงดงาม
สว่างไสวไร้สิ้นสุด!
ต่อให้เป็นพลังปราณของทุกคนในที่นั้น ยามมองเข้าไปต่างมีความรู้สึกกดดันที่กายใจล้วนสั่นสะท้าน ดวงตาเจ็บแปลบ
ราวกับมองดูภูเขาเทพแห่งยุคถือกำเนิด ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากคุกเข่าลงกราบไหว้!
“นั่น… นั่นใคร?”
ทันใดนั้นมีคนสังเกตเห็นว่า ใต้เขาปู้โจวที่เปลี่ยนเป็นสูงพันจั้งปรากฏเงาร่างหนึ่ง อาบอยู่ในแสงมรรคสว่างไสว ราวกับเทพที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถเห็นรูปลักษณ์ได้ชัดเจน
เงาร่างนั้นเดินมาจากไกลๆ
และพร้อมๆ กับฝีเท้าของเขา เขาปู้โจวที่สูงพันจั้งเริ่มหดตัวเล็กลงอีก… ประกายแสงของมันเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
ฟ้าดินอบๆ ล้วนกึกก้องสั่นไหว ราวกับก้มหัวนอบน้อม!
“หรือว่า… นั่นจะเป็นเทพที่ถือกำเนิดในเขาปู้โจว”
มีคนพูดเสียงสั่น
ยามนี้ในใจพวกจิ่งเทียนหนานล้วนอึดอัดหาใดเทียบ สีหน้าเปลี่ยนแปลงไม่สามารถสงบได้ แม้แต่พวกเขาก็เดาไม่ออกว่าเหตุใดเขาปู้โจวจึงกลายเป็นเช่นนี้
และไม่สามารถมองเห็นอย่างชัดเจนว่าเงาร่างที่กำลังเดินมานั่นเป็นใครกันแน่
แต่ในใจพวกเขาล้วนมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่ง
หลิงเคอจื่อคล้ายเดาอะไรออก ใบหน้าอึ้งงันเต็มประดา มหาสมบัติแรกกำเนิดในตำนานนั่น… คงไม่ใช่…
วู้ม!
ตอนที่เขาปู้โจวเปลี่ยนเป็นสูงสามฉื่อ จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสายสีเงินพร่างพร่าวจับตา พุ่งเข้าไปในร่างที่เดินมานั่นก่อนจะหายไป
กลิ่นอายรุ่งเรืองรุนแรงกลางฟ้าดินนั่นก็สลายตามไปด้วย
รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเงาร่างนั่น ในที่สุดก็ถูกมองเห็นชัดเจนแล้ว
ชุดสีขาวพระจันทร์ ผมดำมัดลวกๆ อยู่ตรงท้ายทอย เผยให้เห็นใบหน้าสง่าผ่าเผย ท่าทางของเขางามสง่า บุคลิกราบเรียบละโลกีย์
ราวกับเซียนจุติลงมาในตำนาน
“หลินสวิน!”
พวกจิ่งเทียนหนานอึ้ง เป็นเขาจริงๆ ด้วย
“คุณชาย!”
ดวงตาคู่งามของจินเทียนเสวียนเยวี่ยเป็นประกาย ปริศนาที่กวนใจมานานตอนนี้ในที่สุดก็คลี่คลาย
ที่แท้คุณชายก็คือหลินสวินจริงๆ!
ตอนนี้เซี่ยอวี่ฮวาและเหลิ่งซิวเจียก็ตอบสนองแล้ว ต่างอดเผยสีหน้าประหลาดไม่ได้
ที่แท้หลินสวินบุคคลระดับตำนานที่ก่อนหน้านี้เข่นฆ่าจนหน้าประตูทลายเลือดไหลเป็นสายน้ำ ก็คือจินตู๋อีที่ตนรู้จักจริงๆ!
“คุณชายระวัง คนพวกนั้นจะเล่นงานท่าน!”
จินเทียนเสวียนเยวี่ยอดส่งเสียงออกไปไม่ได้ แม้หลิงเคอจื่อจะเตือนนางแล้วว่าอย่าส่งเสียง แต่นางจะทนเห็นหลินสวินถูกล้อมโจมตีโดยไม่ทำอะไรได้อย่างไร
หลิงเคอจื่อไม่ได้โกรธ เพียงเผยสีหน้าพิกล ในใจลอบพูดว่า ‘พวกเจ้าดูไม่ออกหรือ ว่าเจ้าหมอนี่เป็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิแล้ว’
ยามอยู่หน้าประตูทลาย เขาสามารถต่อสู้ทั่วทิศโดยลำพัง กวาดล้างไร้ศัตรู นับประสาอะไรกับตอนนี้
แต่หลิงเคอจื่อไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้
เขาเองก็อยากดูว่าหลังจากบรรลุระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ หลินสวินจะมีพลังต่อสู้น่ากลัวเพียงใด!
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์