สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2026 จอหงวนมรรคจักรพรรดิ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 2026 จอหงวนมรรคจักรพรรดิ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
จักรพรรดิยอดยุทธ์สู้หนึ่งต่อห้า กล้าหาญไร้เทียมทาน ยามจอบกวัดแกว่ง ฟ้าดินสะเทือนปั่นป่วน แสงศักดิ์สิทธิ์สะเทือนกึกก้อง แข็งแกร่งจนน่ากลัว
จักรพรรดิกระบี่จวินหวนสำแดงมรรคกระบี่ที่พร่างพรายถึงขีดสุด งดงามตระการตา เพริศพริ้งจนไม่อาจบรรยาย กำราบจนบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนไม่อาจเงยหน้าขึ้น!
วิชาเทียมฟ้าที่ทั้งสองสำแดงออกมา ทำให้เหล่าจักรพรรดิใจสั่นสะท้านหน้าเปลี่ยนสีไปเช่นกัน
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หากไม่เห็นกับตาตัวเองก็ไม่อาจจินตนาการได้แต่แรก ว่าพลังที่ผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลพวกนี้ครอบครองเย้ยฟ้าระดับใด
ต้องรู้ว่าบรรพจารย์จักรพรรดิ เดิมทีก็เป็นบุคคลไร้เทียมทานที่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิเก้าชั้น อยู่ในขอบเขตย้อนบรรพ์ของระดับนี้ ต่อให้อยู่ในขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ก็ยังเป็นเสาหลักคนสำคัญ
แต่ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิแปดคนลงมือพร้อมกัน ล้วนเห็นได้ชัดว่าพลังไม่เพียงพอ!
‘หากข้าก้าวสู่ระดับนี้ ทั่วฟ้าดารานี้จะมีที่ใดที่ไปไม่ได้’
ในแววตาซย่าสิงเลี่ยดูเร่าร้อน
เขาเหลือเพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุขั้นย้อนบรรพ์!
หลินสวินเบิกตาโพลง
เพียงแต่การต่อสู้ของบรรพจารย์จักรพรรดิที่เกิดขึ้นในส่วนลึกเวิ้งฟ้านั่นยิ่งใหญ่และน่าหวาดกลัวเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถล่วงรู้ได้
เขาได้แต่เห็นว่าแม้จะถูกล้อมโจมตี ศิษย์พี่ผู่เจินกับศิษย์พี่จวินหวนก็รับมือได้อย่างสบาย ถึงขั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
นี่ทำให้ในใจเขาสั่นสะท้าน ไม่กล้าจินตนาการ
ผู้คนต่างบอกว่าเขาหลินสวินมีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าในระดับอริยะ เรียกได้ว่าไร้ศัตรู แต่เทียบกับผู่เจินและจวินหวนแล้วก็เป็นเด็กน้อยกับจอมขมังเวทชัดๆ
ทันใดนั้นเสียงเฉยชาหนึ่งพลันดังก้องกลางฟ้าดิน
“สหายยุทธ์ทุกท่าน โปรดไปช่วยหนุนพวกเทียนหลัน”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงก็เห็นเงาร่างมากมายพุ่งออกมา
แต่ละคนต่างประหนึ่งนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่ อานุภาพรุ่งโรจน์ ทำให้ห้วงอากาศครวญคร่ำ
นี่ถึงกับเป็นบรรพจารย์จักรพรรดิอีกกลุ่ม!
ทันทีที่ปรากฏตัว พวกเขาก็พุ่งเข้าไปในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า เข้าร่วมการต่อสู้พร้อมกับพวกบรรพจารย์มรรคเทียนหลัน ทำการล้อมโจมตีพวกผู่เจินและจวินหวน
“เยี่ยม!”
“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต้องฆ่าพวกเศษเดนของคีรีดวงกมลนี่ได้อย่างง่ายดายแน่!”
ในที่นั้นอึกทึกครึกโครม บุคคลระดับจักรพรรดิอย่างพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นต่างคึกคักขึ้นมา การต่อสู้ระหว่างบรรพจารย์จักรพรรดินี้ แม้พวกเขาจะเข้าไปยุ่งไม่ได้ แต่กลับรู้ดีว่าต่อให้พวกผู่เจินและจวินหวนแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยากจะตีฝ่าวงล้อมออกไปได้อีก!
หลินสวินใจหล่นวูบ กำสองมือแน่นเงียบๆ
เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าใกล้เขาเมฆายามนี้ ยังมีบุคคลระดับบรรพจารย์จักรพรรดิซุ่มตัวอยู่อีกเท่าไหร่กันแน่
“ข้าจะไปช่วยจวินหวน!”
จักรพรรดิอสนีดับสูญจี้เสวียนก็นั่งไม่ติดแล้ว สายฟ้าคำรามไปทั้งตัว อานุภาพชวนตะลึง
“เจ้าเหลือแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิม ยังจะไปสู้สุดชีวิตอีกหรือ”
ซย่าสิงเลี่ยมุ่นคิ้ว
“หากจวินหวนประสบเคราะห์ ข้าอยู่ต่อไปก็ไร้รสชาติ”
จี้เสวียนสูดหายใจลึก ทลายอากาศขึ้นไป
“ไม่ประมาณตน!”
เสียงเยาะหยันดังขึ้น พลันเห็นพวกจักรพรรดิมารผลาญนภาและจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นลงมือพร้อมกัน ขวางจี้เสวียนไว้กลางอากาศ
ตูม!
จักรพรรดิมารผลาญนภายกมือขึ้น ทวนทองอร่ามเล่มหนึ่งพุ่งสังหารออกไป ม้วนกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิขึ้นมาเป็นชั้นๆ โหมกระหน่ำชวนตระหนก
จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นออกหมัด ประทับหมัดดุจขุนเขา บีบกดเข้ามาจากด้านข้าง
จี้เสวียนถูกขวางในพริบตา
หากเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แค่สะบัดมือก็กำจัดคู่ต่อสู้สองคนนี้ได้แล้ว ที่น่าเสียดายคือตอนนี้กลับเป็นแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิม
ต่อให้บุกโจมตีเต็มกำลังก็ไม่อาจฝ่าวงล้อมออกไปได้ ยิ่งไม่มีทางไปช่วยจวินหวนได้เป็นธรรมดา
“คิดว่าแค่นี้ก็ขวางข้าได้จริงๆ หรือ”
จี้เสวียนบันดาลโทสะ
“อย่าเอาชีวิตเข้าแลกเด็ดขาด!”
นัยน์ตาซย่าสิงเลี่ยหดรัด คล้ายเดาความคิดของจี้เสวียนออก
“ผู้อาวุโส ขอท่านไปช่วยผู้อาวุโสจี้เสวียนเถิด”
หลินสวินกล่าวรวดเร็ว
“แล้วเจ้าล่ะ”
ซย่าสิงเลี่ยมุ่นคิ้ว
“ข้ามีวิธีรับมือ”
หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ
“ได้!”
ซย่าสิงเลี่ยตัดสินใจทันที เสียงชิ้งดังขึ้น กระบี่ครวญสะเทือนใต้หล้า เงาร่างเขาโฉบพุ่งขึ้นไปบนฟ้า แผ่อานุภาพน่าสะพรึงไร้ขอบเขตออกมา
สำหรับเขาจักรพรรดิกระบี่ยอดมาร นอกจากบรรพจารย์จักรพรรดิแล้ว บุคคลระดับจักรพรรดิคนอื่นในที่นี้ล้วนไม่อยู่ในสายตาเขา
ก่อนหน้านี้ที่ไม่ลงมือก็เพราะต้องปกป้องหลินสวินเท่านั้น
ทว่าซย่าสิงเลี่ยเพิ่งเคลื่อนไหว ก็ถูกเจตกระบี่น่ากลัวสายหนึ่งจับจ้อง ทำให้เงาร่างเขาหยุดชะงักทันที ในดวงตาฉายแววเยียบเย็น
“ซย่าสิงเลี่ย คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า”
ที่มาพร้อมกับเสียงต่ำลึกแหบพร่าคือชายผมม่วงที่พุ่งวาบมากลางอากาศ เขาสีหน้าเคร่งขรึม สวมเสื้อคลุมนกกระเรียนแดงก่ำ ท่าทางองอาจห้าวหาญ
ในมือเขาถือทวนเหล็กเขียวเข้มเล่มหนึ่ง ปลายทวนบาดตาอย่างที่สุด
“น่าหลันฉี เจ้าก็อยากเป็นศัตรูกับข้ารึ”
นัยน์ตาของซย่าสิงเลี่ยเผยคมออกมาจนหมด เจตกระบี่ชวนตะลึง
น่าหลันฉี!
เฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลน่าหลัน บุคคลระดับจักรพรรดิที่บรรลุถึงขอบเขตสูงสุดบนมรรคทวนคนหนึ่ง ถูกขนานนามว่า ‘มหาจักรพรรดิคมยุทธ์’!
“ทำไมจะไม่ได้”
น่าหลันฉีสีหน้าเคร่งขรึม ทวนเหล็กในมือวาดกวาด พุ่งสังหารเข้ามา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะตัดหัวเจ้าเอง!”
ซย่าสิงเลี่ยกล่าวเยาะหยัน สะบัดกระบี่เข้าฟาดฟัน
เพียงพริบตาศึกใหญ่ก็เปิดฉาก
คนหนึ่งคือจักรพรรดิกระบี่ยอดมาร อีกคนคือมหาจักรพรรดิคมยุทธ์ หนึ่งกระบี่หนึ่งทวนเปิดศึกกันกลางอากาศ สำแดงการเข่นฆ่า
เสียงของเขาราวกับน้ำในลำธารไหลซึมเข้ากลางใจ ทำให้ความวิตกกังวลและประหม่าในใจของหลินสวินพลันหายไป เปลี่ยนเป็นเงียบสงบและราบเรียบ
ศิษย์พี่สิบเก้า เสวี่ยหยา!
หลินสวินนึกถึงดอกกระบี่พันปีก นึกถึงคำที่นางเคยกำชับตนว่าต้องนำ ‘กระบี่ไผ่สดับหิมะ’ ไปให้ศิษย์พี่เสวี่ยหยา
เขากลับคิดไม่ถึง ว่าครั้งแรกที่เจอศิษย์พี่เสวี่ยหยาจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“คารวะศิษย์พี่”
หลินสวินกล่าว ในใจรู้สึกซาบซึ้ง เขารู้ดีว่าหากไม่ได้ศิษย์เสวี่ยหยาช่วย เมื่อครู่นี้ตนต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นแน่
“รอคลี่คลายเรื่องตรงหน้าแล้ว พวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องค่อยสนทนากัน”
เสวี่ยหยายิ้มพลางตบบ่าหลินสวิน จากนั้นก็มองไปทั่วพื้นที่นั้น ในแววตาที่เดิมอบอุ่นและใสกระจ่างพลันเฉยชาขึ้นมา
เวลานี้เหล่าจักรพรรดิในที่นั้นต่างเผยสีหน้าตื่นตระหนก
เสวี่ยหยา ชื่อนี้ทำให้พวกเขารู้สึกไม่คุ้นเคย แต่นาม ‘จอหงวน’ ผู้สืบทอดคนที่สิบเก้าแห่งคีรีดวงกมล ใครเล่าจะไม่รู้จัก
จอหงวนมรรคจักรพรรดิ ท่องคัมภีร์สะท้านทั่วทิศ!
ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว เสวี่ยหยาก็ถูกมองเป็นผู้มากสามารถอันดับหนึ่งในระดับจักรพรรดิ เป็นบุคคลในตำนานที่มีระดับความรู้ลึกซึ้งบนมรรคจักรพรรดิ สมชื่อ ‘จอหงวน’ !
“จอหงวน คิดไม่ถึงว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่… ไม่ใช่ว่าเจ้าประสบเคราะห์ระหว่างทางไปเสาะหาฟากฝั่งฟ้าดาราแล้วหรือ”
เสียงหนักเข้มหนึ่งดังขึ้น
“ข่าวลือจะเป็นจริงได้อย่างไร”
แววตาเสวี่ยหยาเผยความเศร้าหมอง “ตอนนี้สิ่งที่ข้านึกเสียใจที่สุด ก็คือการมุ่งหน้าไปเสาะหาฟากฝั่งฟ้าดาราในปีนั้น ไม่เช่นนั้นก็คงไม่พลาดศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิในสมัยบรรพกาลนั่น…”
“ฮึ! ปีนั้นต่อให้เจ้าเข้าร่วม ก็เกรงว่าคงมีแต่ตายไร้ชีวา”
เสียงฮึเย็นชาหนึ่งดังขึ้น
“เช่นนั้นรึ”
ความเศร้าอาดูรในแววตาเสวี่ยหยาหายไป ถูกความเฉยชานั้นเข้ามาแทนอีกครั้ง
เขายกมือชี้อากาศ
ฟุ่บ!
บรรทัดหยกเขียวเลื่อมพรายเล่มหนึ่งพุ่งออกมา ตัดทำลายแหวกอากาศไปทันที
ห้วงอากาศที่ไกลออกไปถูกบรรทัดหยกเล่มนั้นตีจนทรุดลง ส่งเสียงกัมปนาทอึกทึกสนั่นหูโดยพลัน
ขณะเดียวกันเงาร่างหนึ่งคำรามเสียงอึดอัด ซวนเซโฉบพุ่งออกไป เป็นหญิงชราชุดเทาที่ก่อนหน้านี้เคยลงมือลอบโจมตีหลินสวินนั่นเอง
นางตอบสนองรวดเร็ว สองมือไขว้ตัดสลับกัน ควบรวมบัวมรรคสีทองหลายดอกไปต้านบรรทัดหยกที่ฟาดมานั่น
ตูม!
เสียงปะทะปานฟ้าถล่มดินทลายดังขึ้น ฟ้าดินมืดสลัว
พลันเห็นบรรทัดหยกสีเขียวรุกเข้าไปเหมือนผ่าลำไผ่ ตีจนหญิงชราชุดเทานั่นหัวแตกเลือดอาบ ไม่ว่านางต้านทานอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
สุดท้ายเมื่อเสียงหนักทึบหนึ่งดังขึ้น ร่างกายและพลังจิตของหญิงชราชุดเทาก็ถูกซัดระเบิดแหลกไปพร้อมกัน
ใช้เวลาเพียงชั่วขณะเท่านั้น หญิงชราชุดเทาที่มีระดับความรู้เชี่ยวชาญในมรรคาระดับจักรพรรดินี้ก็ดับสิ้น!
“คนที่มีแต่ตายไร้ชีวา… คือเจ้าต่างหาก…”
เสวี่ยหยาถอนใจเบาๆ ชุดนักพรตพลิ้วไหว สง่างามดุจหยก
………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์