จักรพรรดิยอดยุทธ์สู้หนึ่งต่อห้า กล้าหาญไร้เทียมทาน ยามจอบกวัดแกว่ง ฟ้าดินสะเทือนปั่นป่วน แสงศักดิ์สิทธิ์สะเทือนกึกก้อง แข็งแกร่งจนน่ากลัว
จักรพรรดิกระบี่จวินหวนสำแดงมรรคกระบี่ที่พร่างพรายถึงขีดสุด งดงามตระการตา เพริศพริ้งจนไม่อาจบรรยาย กำราบจนบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนไม่อาจเงยหน้าขึ้น!
วิชาเทียมฟ้าที่ทั้งสองสำแดงออกมา ทำให้เหล่าจักรพรรดิใจสั่นสะท้านหน้าเปลี่ยนสีไปเช่นกัน
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หากไม่เห็นกับตาตัวเองก็ไม่อาจจินตนาการได้แต่แรก ว่าพลังที่ผู้สืบทอดแห่งคีรีดวงกมลพวกนี้ครอบครองเย้ยฟ้าระดับใด
ต้องรู้ว่าบรรพจารย์จักรพรรดิ เดิมทีก็เป็นบุคคลไร้เทียมทานที่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิเก้าชั้น อยู่ในขอบเขตย้อนบรรพ์ของระดับนี้ ต่อให้อยู่ในขุมอำนาจใหญ่อย่างหกเรือนมรรคใหญ่ก็ยังเป็นเสาหลักคนสำคัญ
แต่ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิแปดคนลงมือพร้อมกัน ล้วนเห็นได้ชัดว่าพลังไม่เพียงพอ!
‘หากข้าก้าวสู่ระดับนี้ ทั่วฟ้าดารานี้จะมีที่ใดที่ไปไม่ได้’
ในแววตาซย่าสิงเลี่ยดูเร่าร้อน
เขาเหลือเพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุขั้นย้อนบรรพ์!
หลินสวินเบิกตาโพลง
เพียงแต่การต่อสู้ของบรรพจารย์จักรพรรดิที่เกิดขึ้นในส่วนลึกเวิ้งฟ้านั่นยิ่งใหญ่และน่าหวาดกลัวเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถล่วงรู้ได้
เขาได้แต่เห็นว่าแม้จะถูกล้อมโจมตี ศิษย์พี่ผู่เจินกับศิษย์พี่จวินหวนก็รับมือได้อย่างสบาย ถึงขั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ!
นี่ทำให้ในใจเขาสั่นสะท้าน ไม่กล้าจินตนาการ
ผู้คนต่างบอกว่าเขาหลินสวินมีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าในระดับอริยะ เรียกได้ว่าไร้ศัตรู แต่เทียบกับผู่เจินและจวินหวนแล้วก็เป็นเด็กน้อยกับจอมขมังเวทชัดๆ
ทันใดนั้นเสียงเฉยชาหนึ่งพลันดังก้องกลางฟ้าดิน
“สหายยุทธ์ทุกท่าน โปรดไปช่วยหนุนพวกเทียนหลัน”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงก็เห็นเงาร่างมากมายพุ่งออกมา
แต่ละคนต่างประหนึ่งนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่ อานุภาพรุ่งโรจน์ ทำให้ห้วงอากาศครวญคร่ำ
นี่ถึงกับเป็นบรรพจารย์จักรพรรดิอีกกลุ่ม!
ทันทีที่ปรากฏตัว พวกเขาก็พุ่งเข้าไปในส่วนลึกของเวิ้งฟ้า เข้าร่วมการต่อสู้พร้อมกับพวกบรรพจารย์มรรคเทียนหลัน ทำการล้อมโจมตีพวกผู่เจินและจวินหวน
“เยี่ยม!”
“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต้องฆ่าพวกเศษเดนของคีรีดวงกมลนี่ได้อย่างง่ายดายแน่!”
ในที่นั้นอึกทึกครึกโครม บุคคลระดับจักรพรรดิอย่างพวกจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นต่างคึกคักขึ้นมา การต่อสู้ระหว่างบรรพจารย์จักรพรรดินี้ แม้พวกเขาจะเข้าไปยุ่งไม่ได้ แต่กลับรู้ดีว่าต่อให้พวกผู่เจินและจวินหวนแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยากจะตีฝ่าวงล้อมออกไปได้อีก!
หลินสวินใจหล่นวูบ กำสองมือแน่นเงียบๆ
เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าใกล้เขาเมฆายามนี้ ยังมีบุคคลระดับบรรพจารย์จักรพรรดิซุ่มตัวอยู่อีกเท่าไหร่กันแน่
“ข้าจะไปช่วยจวินหวน!”
จักรพรรดิอสนีดับสูญจี้เสวียนก็นั่งไม่ติดแล้ว สายฟ้าคำรามไปทั้งตัว อานุภาพชวนตะลึง
“เจ้าเหลือแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิม ยังจะไปสู้สุดชีวิตอีกหรือ”
ซย่าสิงเลี่ยมุ่นคิ้ว
“หากจวินหวนประสบเคราะห์ ข้าอยู่ต่อไปก็ไร้รสชาติ”
จี้เสวียนสูดหายใจลึก ทลายอากาศขึ้นไป
“ไม่ประมาณตน!”
เสียงเยาะหยันดังขึ้น พลันเห็นพวกจักรพรรดิมารผลาญนภาและจักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นลงมือพร้อมกัน ขวางจี้เสวียนไว้กลางอากาศ
ตูม!
จักรพรรดิมารผลาญนภายกมือขึ้น ทวนทองอร่ามเล่มหนึ่งพุ่งสังหารออกไป ม้วนกฎเกณฑ์มรรคจักรพรรดิขึ้นมาเป็นชั้นๆ โหมกระหน่ำชวนตระหนก
จักรพรรดิสงครามเจวี๋ยอิ้นออกหมัด ประทับหมัดดุจขุนเขา บีบกดเข้ามาจากด้านข้าง
จี้เสวียนถูกขวางในพริบตา
หากเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แค่สะบัดมือก็กำจัดคู่ต่อสู้สองคนนี้ได้แล้ว ที่น่าเสียดายคือตอนนี้กลับเป็นแค่พลังจิตวิญญาณดั้งเดิม
ต่อให้บุกโจมตีเต็มกำลังก็ไม่อาจฝ่าวงล้อมออกไปได้ ยิ่งไม่มีทางไปช่วยจวินหวนได้เป็นธรรมดา
“คิดว่าแค่นี้ก็ขวางข้าได้จริงๆ หรือ”
จี้เสวียนบันดาลโทสะ
“อย่าเอาชีวิตเข้าแลกเด็ดขาด!”
นัยน์ตาซย่าสิงเลี่ยหดรัด คล้ายเดาความคิดของจี้เสวียนออก
“ผู้อาวุโส ขอท่านไปช่วยผู้อาวุโสจี้เสวียนเถิด”
หลินสวินกล่าวรวดเร็ว
“แล้วเจ้าล่ะ”
ซย่าสิงเลี่ยมุ่นคิ้ว
“ข้ามีวิธีรับมือ”
หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ
“ได้!”
ซย่าสิงเลี่ยตัดสินใจทันที เสียงชิ้งดังขึ้น กระบี่ครวญสะเทือนใต้หล้า เงาร่างเขาโฉบพุ่งขึ้นไปบนฟ้า แผ่อานุภาพน่าสะพรึงไร้ขอบเขตออกมา
สำหรับเขาจักรพรรดิกระบี่ยอดมาร นอกจากบรรพจารย์จักรพรรดิแล้ว บุคคลระดับจักรพรรดิคนอื่นในที่นี้ล้วนไม่อยู่ในสายตาเขา
ก่อนหน้านี้ที่ไม่ลงมือก็เพราะต้องปกป้องหลินสวินเท่านั้น
ทว่าซย่าสิงเลี่ยเพิ่งเคลื่อนไหว ก็ถูกเจตกระบี่น่ากลัวสายหนึ่งจับจ้อง ทำให้เงาร่างเขาหยุดชะงักทันที ในดวงตาฉายแววเยียบเย็น
“ซย่าสิงเลี่ย คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า”
ที่มาพร้อมกับเสียงต่ำลึกแหบพร่าคือชายผมม่วงที่พุ่งวาบมากลางอากาศ เขาสีหน้าเคร่งขรึม สวมเสื้อคลุมนกกระเรียนแดงก่ำ ท่าทางองอาจห้าวหาญ
ในมือเขาถือทวนเหล็กเขียวเข้มเล่มหนึ่ง ปลายทวนบาดตาอย่างที่สุด
“น่าหลันฉี เจ้าก็อยากเป็นศัตรูกับข้ารึ”
นัยน์ตาของซย่าสิงเลี่ยเผยคมออกมาจนหมด เจตกระบี่ชวนตะลึง
น่าหลันฉี!
เฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งเผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์ตระกูลน่าหลัน บุคคลระดับจักรพรรดิที่บรรลุถึงขอบเขตสูงสุดบนมรรคทวนคนหนึ่ง ถูกขนานนามว่า ‘มหาจักรพรรดิคมยุทธ์’!
“ทำไมจะไม่ได้”
น่าหลันฉีสีหน้าเคร่งขรึม ทวนเหล็กในมือวาดกวาด พุ่งสังหารเข้ามา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะตัดหัวเจ้าเอง!”
ซย่าสิงเลี่ยกล่าวเยาะหยัน สะบัดกระบี่เข้าฟาดฟัน
เพียงพริบตาศึกใหญ่ก็เปิดฉาก
คนหนึ่งคือจักรพรรดิกระบี่ยอดมาร อีกคนคือมหาจักรพรรดิคมยุทธ์ หนึ่งกระบี่หนึ่งทวนเปิดศึกกันกลางอากาศ สำแดงการเข่นฆ่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์