ตอนที่ 2040 ฟ้า จะเปลี่ยนแล้ว
ลายมรรคเปล่งประกาย หวีดร้องดั่งสายฝน
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ย่อมไม่อาจบรรยายความยิ่งใหญ่ของภาพนั้นได้สักนิด
และภายใต้การเข่นฆ่าเช่นนี้ เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิคนแล้วคนเล่าถูกสังหาร กายสิ้นมรรคสลาย น้ำเลือดสีแดงสดย้อมฟ้าดินให้เป็นสีแดงบาดตา
นี่เป็นภาพที่ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะท้าน ทำให้สรรพชีวิตสิ้นหวังได้
บรรพจารย์จักรพรรดิ สูงส่งและแข็งแกร่ง โอหังเหนือทั่วหล้า หยิ่งผยองเหนือห้วงอากาศปานใด ประหนึ่งนายเหนือหัวบนทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้
แต่ในตอนนี้กลับถูกสังหารอย่างไร้ปรานีไปทีละคน!
พวกเขาหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง ต้านทานอย่างเสียสติ ทุ่มพลังทั้งหมดที่มี แต่ภายใต้การถล่มสังหารของลายมรรคเปล่งประกายเต็มฟ้านั้นกลับดูไร้พลังได้ปานนั้น…
เฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครูหลบหนีไปไกลนานแล้ว เพราะพวกเขาต่างไม่อาจแทรกแซงได้ เมื่อได้เห็นภาพนองเลือดภาพแล้วภาพเล่าที่เกิดขึ้น พวกเขาก็สูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้ ดวงตาแข็งทื่อ
พวกรั่วซู่ หลี่เสวียนเวยก็คุมความสะท้านที่ผุดขึ้นในใจไว้ไม่อยู่
ปีนั้นจักจั่นทองตัวนั้นหมอบอยู่นอกภูเขาสำนักคีรีดวงกมล ตัวเล็กจ้อยปานนั้น แต่กลับถูกอาจารย์ชื่นชมว่ามรรคสูงล้ำฟ้า
จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาจึงรู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของคำว่า ‘มรรคสูงล้ำฟ้า’
ด้วยระดับของพวกเขาในตอนนี้ ล้วนสัมผัสได้ถึงความตระการตาหาใดเทียบ ในใจมีเพียงความคิดเดียวว่า ไม่แน่อาจจะมีเพียงคนอย่างศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่รองถึงเทียบสูงต่ำกับคนผู้นี้ได้กระมัง
ส่วนหลินสวิน…
เห็นเพียงว่าหลังชายหนุ่มจักจั่นทองลงมือ บรรพจารย์จักรพรรดิ ณ ที่นั้นก็ร่วงโรยราวสายฝน ทำเอาตาเบิกกว้างทันที สั่นสะท้านในใจ
ทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนี้ล้วนเหนือกว่าจินตนาการของเขาไปโดยสิ้นเชิง ทั้งยังทำให้เขารู้ซึ้งถึงความห่างชั้นของตัวเอง
มกุฎกึ่งจักรพรรดิ อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดใต้ระดับจักรพรรดิ สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณส่วนมากบนโลกนี้ยกย่องเชิดชู
แต่พอเทียบกับระดับจักรพรรดิ กลับด้อยกว่ามาก และควรรู้ว่าระดับจักรพรรดิแบ่งออกเป็นเก้าชั้น ไหนจะบุคคลระดับบรรพจารย์จักรพรรดิอีก!
และในศึกตรงหน้านี้ บรรพจารย์จักรพรรดิ… ยังทำอะไรไม่ได้!
เทียบกันตามลำดับเช่นนี้ หลินสวินถึงเข้าใจว่ามรรควิถีที่ตนมีในตอนนี้แตกต่างขนาดไหนเมื่อเทียบกับยอดยักษ์ใหญ่ที่แท้จริง
ไม่อาจเทียบได้สักนิด!
‘ศิษย์น้อง เจ้าฝึกปราณจนตอนนี้ ยังไม่ถึงร้อยปีก็เป็นระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งแล้ว ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอย่างพวกเราไม่มีใครเทียบกับเจ้าได้สักคน’
เสียงของรั่วซู่ดังขึ้นในโสตประสาทของหลินสวิน ‘มองดูระดับบรรพจารย์จักรพรรดิเหล่านั้น แต่ละคนอยู่มาแล้วไม่รู้กี่ปี ถ้าให้เวลาเจ้ามากพอ เจ้าจะต้องประสบความสำเร็จกว่าพวกเขาแน่นอน!’
นางคล้ายรับรู้ได้เช่นกันว่าเหตุการณ์ที่ได้เห็นในวันนี้แต่ละภาพ จะกระทบกระเทือนจิตใจหลินสวินอย่างยากจินตนาการ ดังนั้นจึงใส่ใจดูหลินสวินอยู่ตลอด ด้วยกลัวว่าจิตมรรคของเขาจะถูกสั่นคลอน
‘วันนี้เจ้าอยู่ในการประชันหมากยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัส มองไปทั้งทางเดินโบราณฟ้าดารา จะมีคนรุ่นเดียวกันคนไหนมีประสบการณ์อย่างเจ้า’
‘และประสบการณ์เช่นนี้ จะเป็นประโยชน์กับการฝึกปราณของเจ้าในภายภาคหน้า’
เสียงของรั่วซู่ประหนึ่งน้ำพุอันอ่อนโยนใสกระจ่าง ดังขึ้นในใจของหลินสวิน ทำให้ใจเขาแปรเปลี่ยนเป็นสงบและผ่องแผ้ว
‘ขอบคุณศิษย์พี่ที่ชี้แนะ’
หลินสวินเอ่ยจริงจัง
เขาเองก็รู้ดีว่าการได้เข้าร่วมการประชันหมากยิ่งใหญ่อย่างเต็มตัวในวันนี้ ต่อให้เป็นเพียงผู้เฝ้ามองคนหนึ่ง แต่นี่ก็เรียกได้ว่าอัศจรรย์เป็นที่สุด ทำให้เขาได้ประโยชน์ไปชั่วชีวิต
เพียงครู่เดียวเท่านั้น
การห้ำหั่น ณ ที่นั้นก็ปิดฉากลงแล้ว เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิทั้งสิ้นสิบห้าคนต่างถูกสังหารคาที่ เลือดสาดกระเซ็นไปทั้งนภาคราม
ชายหนุ่มจักจั่นทองยืนอยู่กลางอากาศตั้งแต่เริ่มจนจบ เรียบเฉยยากจับต้อง
ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะกล้าเชื่อว่าชายหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนเช่นนี้ จะกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิสิบห้าคนได้ในเวลาอันสั้น
เรื่องนี้หากกระจายออกไป ทั้งฟ้าดาราจะต้องสะท้านสะเทือน!
และบริเวณที่อยู่ไกลลิบ ยังมีระดับจักรพรรดิจำนวนหนึ่งจับตามองภาพนองเลือดหาใดเทียบนี้เช่นกัน แต่ละคนต่างตกตะลึงจนขนลุกเกรียว หนาวสะท้านไปทั้งตัว
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดิยุทธ์ เหิมเกริมหยิ่งผยอง จองหองทะลุเมฆา อหังการเหลือประมาณ
แต่ชายหนุ่มจักจั่นทองผู้นี้ดูคล้ายราบเรียบสงบนิ่ง แต่อานุภาพที่เผยออกมาโดยไม่ตั้งใจกลับไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิยุทธ์!
เขาเป็นใครกัน
ทำไมบนโลกนี้ถึงมีคนเช่นเขา
“ศิษย์เอ๋ย สักวันหนึ่งหากเจ้าทัดเทียมเขาได้ ต่อให้ข้าผู้เป็นอาจารย์ตายไปก็ยิ้มลงเมืองผีได้”
บรรพจารย์จักรพรรดิฉานถูทอดถอนใจ
“อาจารย์ ขนาดท่านยังไม่ไหว ข้าก็ยิ่งไม่ไหว”
หลิงเคอจื่อมองไม่เห็นความเป็นไปของศึกนี้สักนิดเช่นเดียวกับหลินสวิน แต่เขากลับรู้ดีว่าผู้ที่กำราบระดับบรรพจารย์จักรพรรดิได้มากมายน่ากลัวปานไหน และคิดจะเทียบกับคนเช่นนี้ในภายหน้า ช่างเป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้
“ไม่เอาไหน”
มือข้างหนึ่งของบรรพจารย์จักรพรรดิฉานถูตบใส่ศีรษะโล้นของหลิงเคอจื่อ
อีกด้านหนึ่งเสวียนจิ่วอิ้นเอ่ยถามอย่างงุนงงว่า “ท่านพ่อ บรรพบุรุษตระกูลเสวียนของเราหาคนที่ร้ายกาจเหมือนคนนั้นได้สักคนหรือไม่”
เสวียนซั่งเฉินมุมปากกระตุกไปครู่หนึ่ง สักพักถึงโพล่งออกมาคำเดียวว่า “มี”
“มีหรือ” เสวียนจิ่วอิ้นกังขา
“แน่นอน”
แววประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตาเสวียนซั่งเฉิน “เจ้าลูกชาย จำไว้เสมอว่าพวกเราแซ่อะไร!”
……
กลางฟ้าดิน กลิ่นคาวเลือดเข้มข้น เขม่าควันอบอวล
ควันหลงจากการต่อสู้โกลาหลถาโถมอยู่ในห้วงอากาศ และศึกอันดุเดือดที่ส่วนลึกของวังวนเวิ้งฟ้านั้นยังคงดำเนินต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์