รั่วซู่สีหน้าจริงจัง
พวกจวินหวน หลี่เสวียนเวย เสวี่ยหยาต่างก็มองที่หลินสวิน
“ศิษย์พี่ ข้าตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อ”
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วตัดสินใจ
พาตัวเองไปติดตาข่ายอะไร เป็นเคราะห์ไม่ใช่โชคอะไร เขาก็ไม่ได้สนเช่นกัน
แต่เขากลับต้องคำนึงถึงเรื่องหนึ่ง ถ้าบิดามารดาและท่านลู่ยังมีชีวิตอยู่ จะต้องอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้!
ถ้าตนไปทั้งแบบนี้แล้ว จะยังได้พบพวกเขาได้อย่างไร
เฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครูต่างลอบถอนหายใจโล่งอก ก่อนหน้านี้พวกเขาออกจะกังวลจริงๆ ว่าหลินสวินจะจากไปพร้อมกับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้น เช่นนั้นก็จะอันตรายเกินไป
พอเห็นว่าหลินสวินมีท่าทีหนักแน่น พวกรั่วซู่ต่างไม่โน้มน้าวอีก
“เอาอย่างนี้ พวกเราแต่ละคนให้ของรักษาชีวิตศิษย์น้องเล็กไว้คนละชิ้น เช่นนี้แล้วต่อให้ภายหน้าเขาพบกับอันตรายใดก็จะไม่ถูกคนอื่นรังแกแล้ว”
หลี่เสวียนเวยเสนอ
ในการประชันหมากยิ่งใหญ่คราวนี้ ขุมอำนาจศัตรูเหล่านั้นมีเฒ่าดึกดำบรรพ์ล้มตายไม่รู้เท่าไร ถ้าพวกเขาไปแล้ว ศัตรูพวกนี้จะต้องไปล้างแค้นหลินสวินอย่างบ้าคลั่งแน่!
“ดี”
พวกรั่วซู่ต่างตอบรับ
“ไม่ได้”
“ทำแบบนี้ไม่เหมาะ”
ศิษย์พี่ใหญ่กับชายหนุ่มจักจั่นทองพากันเอ่ยปากขัดขวางแทบจะพร้อมกัน
“พวกเราฝึกปราณ หากพึ่งกำลังภายนอกท่าเดียวจะเป็นโทษมากกว่าคุณ ข้าเห็นว่าศิษย์น้องเล็กอยู่ไม่ไกลจากระดับจักรพรรดิ หากต้องการเสาะแสวงพลังแห่งมกุฎตอนแจ้งมรรค สภาวะจิตจะต้องไม่มีสิ่งที่พึ่งพิงหรือผูกมัดใดๆ แม้แต่นิดเดียว หาไม่แล้วมรรควิถีในอดีตต้องสูญเปล่าไปหมด”
ศิษย์พี่ใหญ่เสียงต่ำลึกและเคร่งขรึม
ชายหนุ่มจักจั่นทองเอ่ยเรียบๆ “ไม่ผิด ผงาดขึ้นท่ามกลางการเคี่ยวกรำ เกิดใหม่ในความเป็นความตาย จึงจะสร้างมรรคไร้เทียมทานได้ กำลังภายนอก… จะดึงมาไม่ได้”
จวินหวนพูดอย่างร้อนลนว่า “แต่จะให้ศิษย์น้องเล็กดิ้นรนบนทางเดินโบราณฟ้าดาราคนเดียวก็ไม่ได้อยู่ดีกระมัง”
“เขาไม่ใช่คนเดียว”
ชายหนุ่มจักจั่นทองแววตามีลับลมคมใน
ผู่เจินเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “สหายยุทธ์ เจ้ามาว่าว่าศิษย์น้องเล็กของข้าไม่ใช่คนทำไม”
ชายหนุ่มจักจั่นทองบื้อใบ้แล้ว
แต่หลินสวินกลับกระจ่างใจ ยิ้มเอ่ยกับพวกรั่วซู่ว่า “ศิษย์พี่ทั้งหลาย ถ้าพวกท่านหวังดีกับข้าจริงๆ เช่นนั้นก็เชื่อฟังศิษย์พี่ใหญ่เถอะ”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตัวคนเดียว ซียังอยู่ในห้องโถงมรรคาสวรรค์นี่!
พวกรั่วซู่เห็นดังนี้จึงทำได้แค่ปล่อยไป
แต่ครู่ต่อมาพวกเขาก็เคลื่อนไหวอย่างน่าตะลึง…
“ศิษย์น้อง ก่อนแจ้งมรรคระดับจักรพรรดิ ศิษย์พี่ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ นี่คือ ‘คัมภีร์ไพศาล’ ที่ศิษย์พี่ใช้ทั้งชีวิตเขียนขึ้นมา เจ้าเอาไปสิ”
ศิษย์พี่เสวี่ยหยามอบม้วนหยกม้วนหนึ่งให้หลินสวิน
“ศิษย์น้อง นี่เป็นประสบการณ์ใจความส่วนหนึ่งตั้งแต่ข้าเริ่มฝึกปราณจนตอนนี้ มีนามว่า ‘เห็นแจ้งต้นกำเนิด’ อาจมีประโยชน์กับการฝึกปราณของเจ้าในภายหน้า”
ศิษย์พี่ชื่อจวินส่งม้วนหยกเล่มหนึ่งให้หลินสวิน
“ศิษย์น้อง นี่เป็น ‘วิชาบัวเขียวหยั่งโลก’ ของข้า…”
“ศิษย์น้อง ‘คัมภีร์กระบี่มหาลมกรด’ เล่มนี้ เจ้ารับไว้ด้วย…”
ชั่วขณะเดียวศิษย์พี่ทั้งหลายต่างพากันก้าวมาข้างหน้า มอบตำรามรดกที่ฝึกปราณมาจนถึงตอนนี้ให้หลินสวินทีละคน
ทุกเล่มล้วนเป็นยอดคัมภีร์ที่เรียกได้ว่าลึกลับสุดหยั่ง หลอมรวมนัยเร้นลับมหามรรคแตกต่างกันไป สุ่มหยิบมาสักเล่มล้วนทำให้ระดับจักรพรรดิยังอิจฉา!
ควรรู้ว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ระดับจักรพรรดิไม่อาจเทียบได้ แม้แต่ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิยังสู้ไม่ได้ แต่ละคนแข็งแกร่งและน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอีกคน
คัมภีร์ที่พวกเขาทิ้งไว้ให้เป็นประทับในมรรควิถีของพวกเขาแต่ละคน จะธรรมดาสามัญได้หรือ
และตอนนี้ คัมภีร์เหล่านี้ต่างถูกพวกเขามอบให้ศิษย์น้องเล็กอย่างหลินสวิน!
ภาพเช่นนี้ เฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครูมองจนตาลายไปครู่หนึ่ง ในใจยังต้องทอดถอนใจ มีฐานะ ‘ศิษย์น้องเล็ก’ ของคีรีดวงกมล เป็นเรื่องที่น่าอิจฉาจริงๆ
“ศิษย์น้อง กินมากย่อยไม่หมด คัมภีร์มรรคเหล่านี้หยั่งรู้ได้ แต่อย่าให้สิ่งนี้มากระทบกับมรรควิถีตัวเอง”
รั่วซู่กำชับจริงจัง
หลินสวินพยักหน้า ความอบอุ่นเต็มเปี่ยมผุดขึ้นในใจ
“เวลาไม่มากแล้ว ข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อน”
ก็ในตอนนี้เอง จู่ๆ ศิษย์พี่ใหญ่ก็ทะลวงอากาศจากไป
“ต้องไปพบแม่นางชุดม่วงคนนั้นแน่”
หลี่เสวียนเวยทอดถอนใจ
ตอนนี้จวินหวนคล้ายนึกอะไรขึ้นได้ เดินไปไกลลิบ พอชูมือขึ้นกวัก พลังจิตดั้งเดิมของจักรพรรดิอสนีดับสูญจี้เสวียนก็ปรากฏขึ้น
เมื่อได้เห็นภาพนี้ พวกรั่วซู่ก็ทอดถอนใจอีกครา พวกเขาจะไม่รู้จักคนลุ่มหลงในรักอย่างจี้เสวียนได้อย่างไร
“ข้าก็จะไปพบคนผู้หนึ่ง”
หลี่เสวียนเวยนึกถึง ‘ชาวประมงน้อย’ ศิษย์ฝากนามคนนั้น
“เอ่อ ข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องที่ยังทำไม่จบ”
“ลูกกลอนโอสถหม้อนั้นข้ายังไม่ได้รับ”
“ไปเถอะ ถือโอกาสก่อนไป”
ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนแล้วคนเล่ารีบร้อนจากไป ไม่นานนักในที่นั้นก็เหลือเพียงพวกรั่วซู่ เสวี่ยหยา
ไกลออกไป ชายหนุ่มจักจั่นทอง เฒ่าโดดเดี่ยว และราชครูสนทนากัน
ไกลออกมาอีก เสวียนซั่งเฉินพาเสวียนจิ่วอิ้น ส่วนบรรพจารย์จักรพรรดิฉานถูพาหลิงเคอจื่อ ต่างคนต่างจากไปเงียบๆ
การประชันหมากยิ่งใหญ่ครั้งนี้ปิดฉากลงแล้ว
แต่พวกเขาต่างรู้ดีว่า ผลกระทบที่การประชันหมากครั้งนี้สร้างขึ้นเพิ่งเริ่มต้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์