กระบี่บินสามชุ่น เล็กอย่างที่สุด
แต่ตอนที่มันฟันออกมา ก็เหมือนสุริยันดวงโตที่ส่องสว่างท้องฟ้าเพียงหนึ่งเดียว ประกายแสงหมื่นจั้ง
ปราณกระบี่นั่นยิ่งมีความบ้าคลั่งอย่างที่สุด ให้ความรู้สึกราวกับว่าแม้ฟ้าดินขวางกั้น หยินหยางห่างกัน เป็นตายอยู่ตรงหน้า
ฟันหนึ่งกระบี่ก่อนค่อยว่า!
ก็เห็นละอองแสงรุ้งศักดิ์สิทธิ์ของกฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิเต็มท้องฟ้านั้น พังทลายกลางอากาศอย่างพร้อมเพรียงในชั่วพริบตา เหมือนฟางกำหนึ่งที่ถูกตัดเรียบร้อย
และเท่าที่กระบี่ไปถึง เฒ่าชราที่ยืนห่างไปหลายพันจั้งกระอักเลือดคราหนึ่ง ถูกปราณกระบี่ทำร้าย อวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัส!
เงาร่างของเขาส่ายโอน แทบจะร่วงหล่นจากอากาศ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง
อานุภาพหนึ่งกระบี่ กลับบ้าคลั่งอย่างที่สุด!
กึ่งจักรพรรดิเหล่านั้นต่างสะท้านสะเทือน ขนลุกไปทั้งตัว
เฒ่าชราคนนี้มาจากเรือนมรรคยุทธจักร ฉายา ‘จักรพรรดิสงครามแรกสมโภช’ บุคคลระดับจักรพรรดิที่เก่งกาจสมชื่อ มีพลังปราณระดับจักรพรรดิหนึ่งชั้น
แม้เทียบกับมหาจักรพรรดิคนอื่นๆ แล้ว ระดับจักรพรรดิหนึ่งชั้นก็ไม่เท่าไร ทว่าถึงอย่างไรนี่ก็เป็นระดับจักรพรรดิแท้คนหนึ่ง!
ทอดสายตามองไปทั่วหล้า ยังเรียกได้ว่าผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้า
แต่ตอนนี้จักรพรรดิสงครามแรกสมโภชถูกหนึ่งกระบี่ฟันจนบาดเจ็บสาหัส!
กระบี่บินสามชุ่นเล่มนี้ แน่นอนว่าเป็นวิญญาณกระบี่เย่จื่อ
แม้เป็นวิญญาณกระบี่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่เมื่อนานมาแล้วจักรพรรดิอสนีดับสูญและจวินหวนร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถพามันออกจากเขาปู้โจวได้
แค่คิดก็รู้ว่าพลังต่อสู้ของวิญญาณกระบี่เย่จื่อดุร้ายเพียงใด
“ไป!”
จักรพรรดิสงครามแรกสมโภชเลือกหนีอย่างไม่ลังเล
ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้แล้วว่า การคาดเดาก่อนหน้านี้ของตนถูกต้อง ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลเหล่านั้นแม้จะจากไปแล้ว แต่กลับทิ้งวิธีรักษาชีพจำนวนไม่น้อยไว้ให้หลินสวิน
อย่างเช่นวิญญาณกระบี่เล่มนั้น ก็น่ากลัวจนไม่สามารถจินตนาการได้!
“เย่จื่อ”
หลินสวินเพิ่งจะอ้าปากก็ประหนึ่งสื่อใจถึงกัน วิญญาณกระบี่เย่จื่อกลายเป็นแสงกลุ่มหนึ่งก่อนแล้ว วาดกวาดห้วงอากาศเป็นแนวยาว ไล่สังหารจักรพรรดิสงครามแรกสมโภช
“ตอนนี้เหลือแค่พวกเราแล้ว”
สายตาของหลินสวินมองไปยังระดับกึ่งจักรพรรดิเหล่านั้น เผยรอยยิ้มเบิกบาน
ตั้งแต่ก้าวสู่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ เขายังไม่เคยต่อสู้สักเท่าไหร่ นอกจากตอนที่สังหารพวกจิ่งเทียนหนาน ซางจื่อเหยี่ยนที่เขตต้องห้ามเซียนโบราณ
“หนี!”
กึ่งจักรพรรดิเหล่านั้นตกใจนานแล้ว เห็นจักรพรรดิสงครามแรกสมโภชที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาหนีไปแล้ว พวกเขาจะกล้าปะทะกับหลินสวินเสียที่ไหน
ชั่วขณะเดียวต่างหนีกันหมด แต่ละคนใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี แค้นที่ไม่อาจมีขาเพิ่มอีกสักสองข้าง
ฟุ่บ!
หลินสวินเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศ เงาร่างดุจลำแสงพริบวาบ ทุกครั้งที่ปรากฏ จะพรากชีวิตของกึ่งจักรพรรดิไปหนึ่งคน เลือดสาดกระเซ็นราวกับดอกไม้ไฟ
ในเวลาสั้นๆ ก็มีกึ่งจักรพรรดิสี่คนถูกสังหาร ล้วนไม่อาจต้านหลินสวินได้แม้แต่หนึ่งกระบวนท่า ถูกกำราบสังหารราวกับกระดาษเปื่อยยุ่ย
ตอนที่หลินสวินเตรียมจะตามไปโจมตีกึ่งจักรพรรดิสองคนที่เหลือนั่น
วู้ม!
กระบี่ครวญดุดันท่วมฟ้าดังก้องขั้น ก็เห็นว่าไกลออกไปปราณกระบี่ที่แสบตาอย่างที่สุดพริบวาบ กึ่งจักรพรรดิทั้งสองที่หนีไปนานแล้วก็เหมือนฟองสบู่แตก จิตสิ้นวิญญาณสลาย
และในเวลาเดียวกัน วิญญาณกระบี่เย่จื่อหวนกลับ
หลินสวินอดพูดไม่ได้ “เจ้าหมอนั่น…”
“ฆ่าแล้ว”
เย่จื่อเสียงต่ำลึก มันแปลงเป็นแสงกลุ่มหนึ่งซุ่มจำศีลอยู่ระหว่างเส้นผมของหลินสวินอีกครั้ง ไอดุดันหายไปไม่เหลือ สงบจนไม่มีกลิ่นอายใดๆ
หลินสวินแอบยิ้มขื่นอย่างอดไม่ได้
หลังจากสังหารระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ยังถือโอกาสช่วยตนกำจัดกึ่งจักรพรรดิสองคนไปด้วย พลังต่อสู้ของเย่จื่อ… ร้ายกาจเกินไปแล้ว
หลินสวินพึมพำ “คราวหน้าหากเจอระดับจักรพรรดิอีก พยายาม… ไว้ชีวิตอีกฝ่ายหน่อย”
“เพราะเหตุใด”
เย่จื่อไม่เข้าใจ
หลินสวินดวงตาลึกล้ำ เลียริมฝีปากคราหนึ่งกล่าวว่า “ข้าขาดคู่ต่อสู้ หรือพูดอีกอย่างว่าขาดเป้าในการฝึกพลังต่อสู้แห่งตน กึ่งจักรพรรดิทั่วไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้านานแล้ว และบนโลกนี้ มกุฎกึ่งจักรพรรดิน้อยยิ่งกว่าน้อย ดังนั้นจึงทำได้เพียงเลือกระดับจักรพรรดิบางส่วนมาเป็นคู่มือ”
คำพูดนี้หากถูกคนอื่นได้ยินจะต้องตกใจจนอึ้งงันไปอย่างแน่นอน มองระดับจักรพรรดิเป็นเป้าในการฝึกตนเองหรือ
ทั่วหล้าทั้งบนล่างทางเดินโบราณฟ้าดารา ระดับกึ่งจักรพรรดิคนใดกล้าอวดดีเช่นนี้ เพียงครู่เดียวก็จะต้องถูกกำจัด!
แต่เย่จื่อกลับท่าทางเข้าใจ เอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าลงมือคราวหน้าจะยั้งมือไว้สักหน่อย”
หลินสวินยิ้มทันที พลันนึกถึงเรื่องหนึ่ง “เย่จื่อ ตอนนี้มีโอกาสมุ่งหน้าสู่ฟากฝั่งฟ้าดาราแล้ว คราวก่อนข้าให้เจ้ากับผู้อาวุโสจี้เสวียนจากไปพร้อมกัน เหตุใดกลับไม่ตอบรับ”
หลังจากการประชันหมากครั้งใหญ่ครั้งนั้นสิ้นสุดลง หลินสวินเคยพูดถึงเรื่องนี้กับวิญญาณกระบี่เย่จื่อ
“ข้าเพียงแต่คุ้นเคยกลิ่นอายของเจ้า”
เย่จื่อพูด “และได้แต่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถพาข้าไปได้”
หลินสวินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าน้อยๆ
นี่เป็นความรู้สึกเชื่อมั่นที่มหัศจรรย์และแปลกมาก แต่หลินสวินเชื่อว่านี่เป็นความจริง
หลินสวินไม่ได้ชักช้า ควบคุมยานขนส่งอวกาศเดินทางต่อ
สองวันหลังจากนั้น
หลินสวินถูกปิดล้อมอีกครั้ง ถูกผู้แข็งแกร่งที่มาจากเรือนมรรคจักรวาลตามมาทัน ผู้นำก็เป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง ถูกเรียกว่า ‘จักรพรรดิกระบี่นภาประสาน’
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานเชื่อมั่นมาก มากยิ่งกว่าจักรพรรดิสงครามแรกสมโภช ทันทีที่ตามหลินสวินทันก็พูดเพียงประโยคเดียว
“อยากตายอย่างไร”
เขาพุ่งเข้าไป สำแดงมรรคและวิชาของตนถึงขีดสุด ปลดปล่อยอย่างเอาแต่ใจ
เมื่อจักรพรรดิกระบี่นภาประสานสังเกตเห็นว่าวิญญาณกระบี่นั่นไม่ได้ยื่นมือมาก็ผ่อนคลายอย่างสิ้นเชิง แววตาวูบไหว ตัดสินใจจะจับหลินสวินเป็นตัวประกัน
ตูม!
เขาเองก็ไม่ออมมืออีก ลงมือเต็มกำลัง ปราณกระบี่รอบตัวพุ่งทะลวงเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
เขาในตอนนี้แม้จะบาดเจ็บสาหัส สำแดงพลังต่อสู้เพียงสองส่วนของยามพร้อมสมบูรณ์เท่านั้น แต่อานุภาพของระดับจักรพรรดิยังคงเรียกได้ว่าสะท้านฟ้าสะเทือนดิน น่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขต
ฟ้าดินแห่งนี้สั่นไหว ภูผาธาราถล่มทลาย พื้นดินแตกระแหง เวิ้งฟ้าชั้นเมฆทรุดตัว พลังทำลายล้างน่ากลัวราวกับลมมรสุม ซัดกระหน่ำสิบทิศอย่างบ้าคลั่ง
ในช่วงเวลาสั้นๆ หลินสวินก็ถูกโจมตีพ่ายไปหลายสิบครั้ง ราวกับมดเขย่าต้นไม้ เห็นได้ชัดว่าสะบักสะบอมยากลำบาก
ทว่าทุกครั้งที่ถูกโจมตีถอยออกไป เขาก็ยังพุ่งไปอีกครั้ง ต่อสู้เต็มที่ มีท่าทียิ่งพ่ายแพ้ยิ่งกล้าหาญ ยิ่งต่อสู้ยิ่งแข็งแกร่ง
นี่ทำให้จักรพรรดิกระบี่นภาประสานเองยังรู้สึกประหลาดใจ เขาอยากจะจับหลินสวินมาเป็นตัวประกันหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง
พลังต่อสู้พลิกฟ้าที่หลินสวินเผยออกมา ทำให้เขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวนระลอกหนึ่ง
ควรรู้ว่าเขาเป็นถึงระดับจักรพรรดิแท้ แม้บาดเจ็บสาหัส แต่พลังที่ครอบครองและมรรควิถีที่มี ก็ยังสามารถสังหารระดับกึ่งจักรพรรดิแห่งยุคได้ทุกคน
แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถทำอะไรคนรุ่นหลังที่เพิ่งก้าวสู่ระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิอย่างหลินสวินได้ นี่จะไม่ให้จักรพรรดิกระบี่นภาประสานตกใจได้อย่างไร
อย่างน้อยในประสบการณ์ที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่ของเขา ก็ไม่เคยได้ยินว่าบนโลกนี้จะมีคนเช่นนี้!
ทว่าจักรพรรดิกระบี่นภาประสานเองก็ดูออกว่า หลินสวินยืนหยัดได้อีกไม่นานแล้ว
ตูม โครม!
ครู่หนึ่งหลังจากนั้น ชั่วขณะที่โจมตีหลินสวินจนยับเยินอีกครั้ง จักรพรรดิกระบี่นภาประสานโฉยโอกาส คว้ามือออกไปอย่างกะทันหัน จะจับหลินสวินทั้งเป็นเหมือนหนอนตัวหนึ่ง
ทว่าตอนนี้เอง…
เสียงตึงดังขึ้นคราหนึ่ง จักรพรรดิกระบี่นภาประสานรู้สึกเพียงว่าตรงท้ายทอยราวกับถูกค้อนหนักกระแทก ภาพตรงหน้ามืดมนลง การรับรู้พร่าเบลอลง หมดสติไป
ก่อนจะหมดสติ ในใจเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจที่พูดไม่ออก เป็นถึงระดับจักรพรรดิ กลับถูกคนตีจนหมดสติ…
คนที่ตีก็คือวิญญาณกระบี่เย่จื่อนั่นเอง
เย่จื่นมองหลินสวินที่ถูกตีจนหน้าบวมช้ำ สะบักสะบอมน่าเวทนาถึงขีดสุด อดพูดอย่างเป็นห่วงไม่ได้ “ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม”
หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ คราหนี่ง ส่ายหน้าพูดว่า “ไม่เป็นไร”
เย่จื่อถาม “เช่นนั้น…ยังจะเห็นระดับจักรพรรดิเป็นเป้าหรือไม่”
“เห็น!”
หลินสวินกัดฟัน ดวงตาดำสว่าง เขาที่ใบหน้าบวมช้ำพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ข้าสามารถสังเกตได้ว่า ฝึกเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงแค่พลังต่อสู้ของข้าจะเปลี่ยนแปลง ยังสามารถทำให้ความเข้าใจต่อพลังระดับจักรพรรดิของข้ายกระดับไปอีกขั้น!”
เย่จื่อขานรับว่าอ่อ ท่าทางเพิ่งจะกระจ่างแจ้ง พูดว่า “ที่แท้เจ้าก็ชอบยกระดับพลังต่อสู้ตอนถูกทารุณ ช่างเป็นคนวิปริตจริงๆ”
หลินสวิน “…”
Manga Info
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์