ตูม!
กลิ่นอายของการต่อสู้ทะลวงฟ้า ชั้นเมฆสลายเป็นเสี่ยงๆ เงาร่างสองร่างตัดกันไปมาอยู่ภายใน ราวกับเทพสององค์กำลังต่อสู้เข่นฆ่า
มองอย่างละเอียด นั่นคือหลินสวินและจักรพรรดิกระบี่นภาประสานนั่นเอง
วิญญาณกระบี่เย่จื่อมองดูการต่อสู้อยู่
ตอนที่เห็นว่าหลินสวินในตอนนี้สามารถสู้กับจักรพรรดิกระบี่นภาประสานที่บาดเจ็บสาหัสด้วยฝีมือที่พอๆ กันแล้ว วิญญาณกระบี่เย่จื่อเองก็อดรู้สึกตกใจไม่ได้
สิบกว่าวันก่อน หลินสวินแพ้แล้วแพ้อีก ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิกระบี่นภาประสานเลย
แต่สิบวันหลังจากนั้น เขาก็สามารถปะทะซึ่งหน้ากับจักรพรรดิกระบี่นภาประสานได้แล้ว
การพัฒนานี้เรียกได้ว่าน่าตกใจ!
“ที่แท้ก็เป็นคนวิปริตคนหนึ่งจริงๆ…”
วิญญาณกระบี่เย่จื่อพึมพำ
คนรุ่นหลังระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิชั้นหนึ่ง กลับสามารถเผชิญหน้ากับระดับจักรพรรดิแท้ซึ่งอยู่มายาวนาน นี่เหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้จักรพรรดิกระบี่นภาประสานบาดเจ็บอยู่ สำแดงพลังต่อสู้ได้เพียงสองส่วนจากจุดสูงสุด แต่หลินสวินสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ก็ยังคงน่าตกใจมาก หากแพร่กระจายออกไปจะต้องทำให้ทั่วหล้าฮือฮาอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรระดับจักรพรรดิก็ประหนึ่งปราการสวรรค์ที่ไม่อาจก้าวข้าม
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยปรากฏตัวอย่างที่มกุฎกึ่งจักรพรรดิข้ามระดับปะทะระดับจักรพรรดิเช่นกัน!
แต่เห็นได้ชัดมาก ว่าหลินสวินกำลังสร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน!
และวิญญาณกระบี่เย่จื่อก็ดูออกว่า กฎเกณฑ์กึ่งจักรพรรดิที่หลินสวินครอบครอง แม้มีข้อบกพร่อง แต่แทบจะใกล้เคียงกฎเกณฑ์ระดับจักรพรรดิแท้ อีกทั้งมรรควิถีของเขาหนักแน่นยิ่งกว่าที่คาด ในสิบวันนี้ที่เคี่ยวกรำผ่านการต่อสู้ ก็ทำให้เขาเกิดการเปลี่ยนแปลงปานถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก…
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานเหมือนค้อนยักษ์อันหนึ่ง ตีลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหล็กแข็งที่มีคุณภาพระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิอย่างหลินสวินได้รับการฝึกฝนและยกระดับถึงขีดสุด
แน่นอนว่าวิญญาณกระบี่เย่จื่อเองก็ดูออกว่า การฝึกเช่นนี้เหมาะกับหลินสวินคนเดียว หากเปลี่ยนเป็นมกุฎกึ่งจักรพรรดิคนอื่นๆ คงเละไปนานแล้ว ยังจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงอะไร
ตูม!
สู้ถึงตอนท้าย สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณรอบตัวหลินสวินราวกับเดือดพล่าน ทำให้อานุภาพรอบตัวเขายกระดับขึ้นจนถึงขั้นสุดในทันที
เพียงพริบตา จักรพรรดิกระบี่นภาประสานก็ถูกหลินสวินกดข่ม ตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ!
ภาพนี้ไม่เพียงทำให้วิญญาณกระบี่เย่จื่อตกใจ ยังทำให้จักรพรรดิกระบี่นภาประสานดวงตาเบิกโต ยากจะเชื่อ
ถูกกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งใช้เป็นเป้าในการฝึกฝีมือก็อับอายมากพอแล้ว แต่ตอนนี้ยังถูกกึ่งจักรพรรดิกดข่ม นี่ถึงขั้นสามารถทำให้ระดับจักรพรรดิทุกคนเป็นบ้าได้
อันที่จริงจักรพรรดิกระบี่นภาประสานในชั่วขณะนี้ก็แทบจะบ้าแล้วจริงๆ ดวงตาแดงก่ำแล้ว
ช่วงที่ผ่านมานี้เขาทนต่อความอัปยศ บังคับตัวเองให้อดทนอดกลั้น เพื่อไขว่คว้าโอกาสชิงจับหลินสวินให้ได้ก่อนที่จะถูกตีจนสลบ
แต่ตอนนี้กลับดีนัก ยังไม่ทันถูกตีสลบ ก็ถูกหลินสวินกำราบไปก่อน นี่จะให้เขาทนได้อย่างไร
เห็นว่าจักรพรรดิกระบี่นภาประสานสู้สุดชีวิต เย่จื่อลงมืออย่างไม่ลังเล
เสียงตึงดังขึ้นคราหนึ่ง จักรพรรดิกระบี่นภาประสานที่ใกล้คลั่งถูกตีสลบอีกครั้ง ร่างล้มลงทั้งอย่างนั้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเดือดดาล…
หลินสวินยังไม่สะใจ แต่ก็รู้ดีว่าหากจักรพรรดิกระบี่นภาประสานสู้เต็มที่ แม้จะบาดเจ็บรุนแรงเพียงใด พลังที่ปะทุออกมาก็ไม่มีทางที่ตนจะสามารถต้านทานได้
เขาถอนหายใจยาวคราหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินเข้ายานขนส่งอวกาศ เริ่มพิจารณาสิ่งที่ได้รับในการต่อสู้เมื่อครู่นี้ทันที
เย่จื่อหิ้วตัวจักรพรรดิกระบี่นภาประสานที่สลบอยู่ตามไปเงียบๆ
หลินสวินขยันมาก แม้มีพลังต่อสู้ที่เรียกได้ว่าพลิกฟ้าแล้ว แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยความเย่อหยิ่งและประมาทเลยสักนิด กลับยิ่งตั้งใจฝึกฝน
นี่ทำให้เย่จื่อเองยังอดนับถือไม่ได้
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในอดีต ไม่เพียงมีความสามารถโดดเด่น ต้องมีความพากเพียรอีกด้วย!
……
ตอนที่จักรพรรดิกระบี่นภาประสานฟื้นขึ้นมา สายตาก็อับแสงและว่างเปล่าแล้ว
จู่ๆ เขาก็พบว่า แม้ตนทนต่อความอับอายเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยากจะหลุดพ้นจากชะตาชีวิตการเป็นเป้าไปได้
ตอนนี้เองจู่ๆ จักรพรรดิกระบี่นภาประสานก็ได้ยินเสียงของหลินสวิน
“เย่จื่อ ทำแผลให้เขา”
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานอึ้ง เจ้าสวะน้อยนี่เจ้าเล่ห์เช่นนี้ จะต้องเล่นลูกไม้อย่างแน่นอน!
เขาหัวเราะเยาะ “เจ้าหนุ่ม เจ้าคิดว่าใช้วิธีเสแสร้งแกล้งทำดีเช่นนี้แล้วจะทำให้ข้าซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลหรือ ฝันไปเถอะ!”
กลับเห็นหลินสวินหยิบโอสถสมบัติชั้นเลิศที่ล้ำค่าอย่างที่สุดต้นหนึ่งออกมายื่นให้วิญญาณกระบี่เย่จื่อ พูดว่า “ให้เขากินซะ อย่างไรก็เป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่ง บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ หลายวันมานี้ก็ประลองกับข้าหลายครั้ง คุ้มค่าให้ข้าทำเช่นนี้”
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานอึ้งไปอีกครั้ง ประหลาดใจเล็กน้อย หรือเจ้าหมอนี่รู้สำนึกแล้วจริงๆ
เขาดูออกว่าโอสถสมบัติต้นนั้นหายากมากจริงๆ มูลค่าน่าตกใจ หากได้กินลงไป บาดแผลทั่วร่างของเขาจะต้องสามารถฟื้นตัวเจ็ดแปดส่วนแน่!
ทว่าไม่รอจักรพรรดิกระบี่นภาประสานดีใจ ก็ได้ยินหลินสวินพูดเสริมประโยคหนึ่ง “อย่าให้เขาฟื้นตัวในทันที ค่อยเป็นค่อยไป อ้อ ให้เขาฟื้นฟูพลังต่อสู้สามส่วนของพลังสูงสุดก็พอแล้ว”
ว่าแล้วเขาพลันลูบคาง เผยรอยยิ้มจากใจจริงพร้อมพูดว่า “เช่นนี้ จะได้ประลองกันต่อได้”
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานหัวสมองมึนไปครู่หนึ่ง
ที่แท้… ที่แท้เจ้าหมอนี่ไม่ได้รู้สำนึก ที่ทำแผลให้ตน ก็เพื่อให้ตนเป็นเป้าต่อเท่านั้น!
ใบหน้าของเขามืดทะมึนราวกับก้นหม้อ เส้นเลือดตรงหน้าผากเกือบระเบิดออก โกรธจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว รังแกกันเกินไปแล้ว รังแกกันเกินไปแล้ว!
“มา อ้าปาก” วิญญาณกระบี่เย่จื่อเดินมา
“ข้าไม่มีทางให้พวกเจ้าสมใจหรอก!”
จักรพรรดิกระบี่นภาประสานตวาด เบิกตาโพลง ทว่าครู่ต่อมาท้ายทอยของเขาพลันเจ็บแปลบรุนแรงขึ้นมา ภาพตรงหน้ามืดมิด หมดสติไป
เย่จื่อบีบโอสถสมบัตินั่นจนแหลกละเอียดท่อนหนึ่ง ยัดเข้าปากของเขาทั้งอย่างนั้น แล้วจึงพูดว่า “เล่นงานเฒ่าชราแบบนี้ ก็ต้องใช้ไม้แข็ง ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางเชื่อฟังกัน”
หลินสวิน “…”
แม้แต่เขายังรู้สึกว่า ปฏิบัติกับระดับจักรพรรดิคนหนึ่งเช่นนี้ เหมือนจะหยาบคายไปหน่อย…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์