ตอนที่ 2075 เฉกเช่นวาจาประกาศิต
วัตถุดิบวิญญาณไม่ว่าธรรมดาเพียงไหน พอกองสุมเป็นภูเขากองใหญ่กองหนึ่ง ความยิ่งใหญ่ของมูลค่าก็สามารถทำให้ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนไหนก็ต้องใจเต้น
และสมบัติอย่างผลึกมรรค เป็นทั้งเงินตราที่สูงค่าหาใดเทียบชนิดหนึ่ง และยังเป็นทรัพยากรฝึกปราณที่เหมาะกับระดับอริยะขึ้นไปอีกด้วย
นี่ก็ทำให้มูลค่าของผลึกมรรคไม่อาจเทียบได้กับหินวิญญาณ แกนวิญญาณทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง
ระดับอริยะทั่วไปได้ครอบครองผลึกมรรคหลายล้านก้อนก็เรียกได้ว่ามีฐานะแล้ว
แม้แต่ระดับจักรพรรดิ ถ้ามีผลึกมรรคหลักสิบล้านก้อนก็เรียกได้ว่าฐานะมั่นคง ทรัพย์สินน่าตะลึง
ส่วนผลึกมรรคหนึ่งร้อยล้านก้อน…
จำนวนสูงเทียมฟ้าเช่นนี้ สามารถทำให้ระดับจักรพรรดิต่างปรารถนาตาลุกวาว!
และตอนนี้สิงเหลียนฉี่กับซานหย่งอ้าปากจะเอาผลึกมรรคร้อยล้านก้อน นี่ไม่ใช่แค่รับบรรณาการง่ายๆ แล้ว แต่เป็นต้องการบีบให้จี้เหลิ่งถึงที่ตายจริงๆ!
จี้เหลิ่งชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยเสียงต่ำว่า “ใต้เท้าทั้งสอง ผลึกมรรคหนึ่งร้อยล้านนี้… ไม่ใช่น้อยๆ นะ ข้าน้อย… ข้าน้อย…”
เผียะ!
ยังไม่ทันพูดจบซานหย่งก็ลงมือ หวดมือข้างหนึ่งลงบนหน้าของจี้เหลิ่งอีกครั้ง ตบจนตัวเขากระเด็นออกไป แก้มบวมเป่ง กระอักเลือดกบปากและจมูก
ผู้ฝึกปราณหลายคนในที่นั้นมาสังเกตการณ์นานแล้ว พอได้เห็นภาพนี้เข้าต่างสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้ ระดับกึ่งจักรพรรดิที่อยู่ใต้อาณัติเจ้าแคว้นคีรีดำสองคนนี้จะเผด็จการเกินไปแล้ว!
กระทั่งทำให้ผู้อื่นสงสัยว่าพวกเขาไม่ได้มาเพื่อเก็บบรรณาการ แต่มาหาเรื่องจี้เหลิ่ง ช่วยแก้แค้นแทนนักพรตเอ้อที่ตายไปคนนั้นชัดๆ!
“ตอนนี้ให้เจ้าเลือกสองทาง ทางแรก จ่ายผลึกมรรคร้อยล้านก้อน เรื่องในอดีตพวกข้าจะปล่อยให้เรื่องมันแล้วกันไป”
ซานหย่งสีหน้าโอหัง แววตาเย็นชา “ทางที่สอง ตาย!”
กะทัดรัดได้ใจความ แต่ไอสังหารไหลบ่าไปทั่ว
สิงเหลียนฉี่ที่อยู่ข้างกันถอนใจเอ่ยว่า “เฮ้อ จี้เหลิ่ง พวกเราเป็นคนช่วยจัดการงานให้ใต้เท้าคีรีดำ เจ้าอย่าให้พวกเราลำบากเกินไปเลย เจ้าน่าจะรู้ว่าต่อให้ตอนนี้เจ้าตายไป พรุ่งนี้ก็จะมีเจ้าเมืองคนใหม่มาช่วยพวกเราจัดการเมืองทั้งสี่แห่งนี้”
จี้เหลิ่งสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ฝืนข่มความเดือดดาลในใจเอาไว้ เขาคลานขึ้นมาจากพื้น พูดเสียงเบาว่า “ใต้เท้าทั้งสอง จะ… จะให้เวลาข้าน้อยได้เตรียมบ้างหรือไม่ ถึงอย่างไร… นี่ก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ จริงๆ”
ทันใดนั้นสิงเหลียนฉี่ก็ยิ้มขึ้นมา ดูเมตตากรุณาหาใดเทียบ “ได้สิ ไปเถอะ ภายในหนึ่งก้านธูปพวกเราก็จะไปแล้ว หวังว่าถึงตอนนั้นเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
ซานหย่งเอ่ยอย่างเย็นชา “อีกเรื่องหนึ่ง ข้าได้ยินว่าในเมืองผีครอบงำแห่งนี้มีคนที่ชื่อมารกระบี่เต้ายวนอะไรนี่ด้วย ช่วงนี้ความสามารถเตะตาดี ทำไมเขาไม่ออกมาต้อนรับกับเจ้า หรือดูถูกพวกเราสองคน”
จี้เหลิ่งอึ้งไป รีบร้อนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “ขอใต้เท้าทั้งสองคลายโกรธ ผู้อาวุโสเต้ายวนกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการปิดด่าน ยุ่งจนปลีกตัวมาไม่ได้จริงๆ…”
“ปลีกตัวมาไม่ได้หรือ”
ซานหย่งแววตาเย็นชา “ไว้ตัวเสียจริงนะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราไปพบเขาเองดีกว่าไหม”
เสียงเผยให้เห็นความข่มขู่และไม่พอใจอย่างหนักหน่วง
“นี่…”
จี้เหลิ่งสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ
ความอัปยศที่ได้รับจากการถูกตบหน้าท่ามกลางฝูงชนสองครั้งเขาทนได้ ถึงอย่างไรถ้าอยากอยู่รอดในโลกมืดต่อไป เวลาที่ควรก้มหัว เกียรติหรือศักดิ์ศรีอะไรก็ต้องทิ้งไว้ข้างหลัง
แต่จี้เหลิ่งกลับไม่กล้าไปรบกวนหลินสวินเพราะเรื่องเท่านี้!
“หึ!”
ท่าทีลังเลของจี้เหลิ่งทำให้ซานหย่งสีหน้าอึมครึมลง “จี้เหลิ่ง ข้าว่าเจ้าไม่อยากอยู่แล้วล่ะ!”
เขาเงื้อมือขึ้นจะไปตบหน้าจี้เหลิ่งอีกครั้ง
ก็ในตอนนี้เองเสียงเฉยชาเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน “คุกเข่า”
เพียงสองคำ ราบเรียบเป็นธรรมชาติ
จี้เหลิ่งฟังออกทันทีว่านี่เป็นเสียงของหลินสวิน ใจสั่นระรัวอย่างห้ามไม่ได้ไปพักหนึ่ง ในที่สุด… ก็ไปรบกวนคนร้ายกาจผู้นี้อยู่ดี…
ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกจะเป็นลมไปครู่หนึ่ง แทบไม่กล้าเชื่อ
คุกเข่าหรือ
นั่นเป็นถึงแม่ทัพศึกระดับกึ่งจักรพรรดิสองคนที่อยู่ใต้อาณัติเจ้าแคว้นคีรีดำ ความสูงส่งของฐานะ ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ เพียงพอจะทำให้พวกร้ายกาจไม่ว่าคนใดที่หากินอยู่ในอาณาเขตนี้ล้วนอกสั่นขวัญแขวน
แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสเต้ายวนคนนั้นกลับพูดว่าให้อีกฝ่ายคุกเข่าลง!
จี้เหลิ่งยังเหงื่อกาฬผุดขึ้นทั้งตัวอย่างห้ามไม่อยู่
แต่ภาพต่อมากลับทำให้เขางุนงงอยู่ตรงนั้น ตกตะลึงอ้าปากค้างไปโดยสมบูรณ์
เพราะในตอนที่คำว่า ‘คุกเข่า’ เงียบลง ซานหย่งกับสิงเหลียนฉี่ที่ยืนอยู่กลางอากาศต่างพากันร่วงกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรงราวกับถูกกำราบอย่างน่ากลัว
พวกเขาอยากจะดิ้นรน แต่เข่าทั้งสองข้างแตกหัก เลือดสดๆ สาดกระเซ็น คุกเข่าลงกับพื้นไปด้วยกัน!
ปึง! ปึง!
เสียงหนักทึบสองเสียงดังขึ้น กระแทกให้พื้นดินยุบตัวลง
พอดูที่แห่งนั้นอีกครั้ง ซานหย่งกับสิงเหลียนฉี่ที่ก่อนหน้านี้หยิ่งผยองเหี้ยมเกรียมต่างหมอบอยู่กับพื้น คุกเข่าลงที่นอกประตูเมืองผีครอบงำแห่งนี้
และนี่ เป็นเพียงอานุภาพที่เกิดจากเสียงเพียงเสียงเดียวเท่านั้น
แค่สองคำสั้นๆ ให้เจ้าคุกเข่าก็ต้องคุกเข่า!
ประหนึ่งเทพที่เปล่งวาจาประกาศิต!
ในที่นั้นเงียบสงัด จี้เหลิ่งตาเบิกกว้าง ส่วนลึกในจิตใจมีเสียงร้องกึกก้องที่ไม่อาจควบคุมได้ดังขึ้น ผู้อาวุโสเต้ายวนคนนั้นไม่ใช่ระดับอริยะแล้ว แต่เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นกึ่งจักรพรรดิผู้หนึ่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์