Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2078

ตอนที่ 2078 มายาแห่งความหวาดกลัว

ผู้ฝึกหลอม!

หลินสวินเพิ่งเคยได้ยินคนจำพวกนี้เป็นครั้งแรก

ก็เห็นว่าจี้เหลิ่งพูดต่อ “โดยทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกหลอมเป็นผู้สืบทอดสายตรงที่มาจากสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดแทบทั้งนั้น และมีจำนวนหนึ่งเป็นผู้สืบทอดที่มาจากโลกอื่นในทางเดินโบราณฟ้าดารา”

“เจ้าพวกนี้มองโลกมืดเป็นที่ฝึกหลอม สังหารไม่หวั่นเกรง ทั้งยังครอบครองวิชาต่อสู้รักษาชีวิตไม่น้อย รับมือยากเป็นที่สุด”

หลินสวินถึงได้กระจ่างใจในยามนี้

“ผู้อาวุโส แม้สิบเจ้าแคว้นใหญ่แห่งแคว้นหนาวเหน็บจะน่าหวาดหวั่นหาใดเทียบ แต่ผู้ที่มีอิทธิพลและควบคุมภาพรวมของแคว้นหนาวเหน็บที่แท้จริงก็คือสำนักโบราณจรัสเทพ”

จี้เหลิ่งรีบพูด “อย่างจักรพรรดิมารวายุสังหารที่เป็นเจ้าแคว้นอันดับหนึ่งของแคว้นหนาวเหน็บ เดิมก็เป็นระดับผู้อาวุโสคนหนึ่งในสำนักโบราณจรัสเทพ อำนาจคับฟ้า”

“ดังนั้นครั้งนี้หากพวกเราพบเจอผู้ฝึกหลอมที่มาจากสำนักโบราณจรัสเทพ จะหาเรื่องไม่ได้เด็ดขาด หาไม่แล้วจะต้องชักนำความยุ่งยากมานับไม่ถ้วน”

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

เมื่อเอ่ยถึงสำนักโบราณจรัสเทพ หลินสวินก็นึกถึงกึ่งจักรพรรดิปาชี ในใจผุดไอสังหารที่ไม่อาจควบคุมได้

โศกนาฏกรรมของตระกูลหลินในตอนนั้น บัดนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นเพียงหมากที่ถูกคนอื่นจับวาง ผู้บงการหลังม่านกลับเป็นกึ่งจักรพรรดิปาฉี!

และยามโศกนาฏกรรมตระกูลหลินเกิดขึ้น ยังมีพลังระเบียบต้องห้ามปรากฏขึ้นมาด้วย นี่ทำให้หลินสวินไม่อาจไม่สงสัย ว่าสำนักโบราณจรัสเทพอาจจะเป็นหมาข้างกายจักรพรรดิไร้นามคนก่อนนั่นด้วย!

“ไปเถอะ”

หลินสวินไม่คิดอะไรอีก เริ่มออกเคลื่อนไหว

จี้เหลิ่งรีบตามไปพลางพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ผู้อาวุโส พวกเรา… จะบุกไปแบบนี้เลยหรือ”

ในความคิดเขา การชิงเมืองเมืองหนึ่งต้องวางแผนและเตรียมตัวให้ดี ยามจำเป็นยังต้องไปสืบข้อมูลของศัตรูสักหน่อย แล้ววางแผนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

แต่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินไม่มีความคิดจะทำแบบนี้ พูดทันทีว่า “ในการต่อสู้ความเร็วล้ำค่า เมืองหม่อนคมเมืองเดียวเท่านั้น บุกไปถึงที่เลยก็พอ”

จี้เหลิ่งกระตุกมุมปากไปครู่หนึ่ง นี่… จะเรียบง่ายหยาบกระด้างไปแล้วกระมัง

ไม่นานนักเค้าโครงเมืองหม่อนคมอันมหึมาโดดเด่นก็ปรากฏขึ้นในสายตา อัสดงยอแสง ชโลมสีแดงดั่งโลหิตไปทั้งเมือง

ประตูเมืองเปิดอ้า มีผู้ฝึกปราณมากมายเข้าๆ ออกๆ ทุกคนกลิ่นอายล้วนแกร่งกล้าถึงที่สุด ไอพิฆาตชวนตะลึง

“ผู้อาวุโส ในเมืองหม่อนคมมีแท่นไฟสัญญาณแท่นหนึ่ง ถ้าเกิดเหตุอันตรายจะจุดแท่นไฟสัญญาณ ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ภายใต้ปกครองของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตก็จะรีบมาทันที”

หลังจากมาถึงที่นี่สีหน้าจี้เหลิ่งเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา เอ่ยพูดรวดเร็วว่า “หลายปีนี้เจ้าแคว้นคีรีดำส่งผู้แข็งแกร่งมาไม่รู้เท่าไร หมายจะชิงเมืองหม่อนคมกลับไป แต่สุดท้ายล้วนคว้าน้ำเหลว สาเหตุก็อยู่ที่แท่นไฟสัญญาณนี่”

“ข้าน้อยเสนอว่าพวกเราควรควบคุมแท่นไฟสัญญาณนี้ให้ได้ก่อนจะดีที่สุด”

จิตรับรู้หลินสวินแผ่ขยาย พริบตาก็ปกคลุมทั้งเมืองหม่อนคมเอาไว้ สัมผัสคร่าวๆ แล้วเอ่ยว่า “แท่นไฟสัญญาณที่เจ้าว่านั่น ใช่ที่สร้างอยู่ในจวนเจ้าเมืองเมืองหม่อนคมหรือไม่”

จี้เหลิ่งพยักหน้าต่อเนื่อง “ใช่แล้วขอรับ”

“ไป”

หลินสวินเดินตรงแน่วไปยังประตูเมือง

ทั้งสองด้านของประตูเมืองมีผู้คุ้มกันที่ดูดุดันหาใดเทียบสอบคนเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นหลินสวินหนึ่งในนั้นก็ตะคอกว่า “ดูรูปลักษณ์เจ้าแปลกหน้านัก มาใหม่ล่ะสิ เข้าเมืองต้องจ่ายห้าพันผลึกมรรค!”

หลินสวินเหมือนไม่รู้สึกอะไร สนใจแต่เดินหน้าต่อ

เมื่อเห็นว่าถูกเพิกเฉย ประกายดุร้ายก็ฉายวาบในดวงตาผู้คุ้มกันคนนั้น ทันใดนั้นก็ฟาดฝ่ามือใส่หลินสวิน “ยังกล้าเดินเข้ามาทื่อๆ ช่างไม่รู้ที่ตาย!”

ปึง!

พลังฝ่ามือของผู้คุ้มกันคนนี้ยังไม่ทันโดนหลินสวิน ก็รู้สึกเพียงภาพตรงหน้ามืดไปหมด ร่างกายเหมือนถูกวัวเถื่อนดึกดำบรรพ์ชนเข้าอย่างจัง ถอยกระเด็นดังปึงออกไปอย่างรุนแรง กระแทกเข้ากับกำแพงเมืองและฝังลงไปในนั้น สลบเหมือดไปทันที

ผู้คุ้มกันอีกคนตกตะลึงหน้าถอดสี กำลังจะส่งเสียงก็เห็นว่าหลินสวินสะบัดแขนเสื้อครั้งหนึ่ง

ปึง!

เสียงหนักทึบเสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้คุ้มกันคนนี้ถูกกระแทกลงไปกับพื้นเหมือนไม้ซุง โผล่ออกมาให้เห็นแต่ศีรษะ หมดสติตาเหลือกไปแล้ว

ด้านหลินสวินหายลับไปในเมืองตั้งนานแล้ว

จี้เหลิ่งมองจนตาค้าง บุกเข้าไปตรงๆ จริงๆ ด้วย!

เขาไม่กล้าลังเล รีบร้อนตามไป

“หมอนั่นเป็นใคร”

“ฝีมือร้ายกาจเกินไปแล้ว หรือจะมาชิงตำแหน่งเจ้าเมือง”

“ไป ไปดูเรื่องสนุกกัน”

ทั้งในและนอกเมืองมีผู้แข็งแกร่งตกใจ พอได้เห็นภาพนี้ต่างประหลาดใจไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ถึงกับตกตะลึง

คนไม่น้อยต่างตามเข้าไปด้วยหมายจะดูเรื่องสนุก

เพราะในโลกมืด เรื่องโกลาหลทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยมากจริงๆ

จวนเจ้าเมือง

หลันเจียวกำลังนั่งขัดสมาธิ เขาผิวขาวสะอาด ใบหน้าสง่างาม มีเพียงหว่างคิ้วที่ปรากฏไออำมหิตซึ่งไม่อาจสลัดไปได้

ในฐานะเจ้าเมือง เขาขึ้นชื่อเรื่อง ‘รีดนาทาเร้น โลภไม่หยุดสิ้น’ เป็นเจ้าเมืองหม่อนคมแห่งนี้ตั้งแต่หกปีก่อน ผลึกมรรคที่เขาเก็บได้แต่ละเดือนมีจำนวนน่าตกใจมากถึงแปดสิบล้านก้อน!

ควรรู้ว่าเมืองทั้งสี่ที่จี้เหลิ่งควบคุมอย่างผีครอบงำ ปีศาจเพลิง ฝังกาบ และกระจับ แต่ละเดือนรวมกันยังเก็บผลึกมรรคได้แค่เก้าสิบล้านเท่านั้น

เทียบกันเช่นนี้ แค่คิดก็รู้ว่าฝีมือขูดรีดและตักตวงผลึกมรรคของหลันเจียวร้ายกาจเพียงไหน

มีเพียงตัวหลันเจียวที่รู้ดีว่า แม้เขามีฐานะเป็นมกุฎราชันอริยะ รากฐานพลังแข็งแกร่ง แต่ตำแหน่งเจ้าเมืองนี้อยู่ได้ไม่นานอยู่แล้ว

เมืองหม่อนคมวุ่นวายเกินไป อาณาเขตที่อยู่ติดกับเจ้าแคว้นคีรีดำถูกมองเป็น ‘เขตมหาพิบัติ’

หลันเจียวคำนวณดูคร่าวๆ เกือบพันปีนี้ โดยเฉลี่ยทุกสิบปีเจ้าเมืองเมืองหม่อนคมจะเกิดเหตุไม่คาดฝันต่างๆ ไม่ถูกฆ่าก็ตกอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น

เมื่อเทียบเช่นนี้หลันเจียวจึงไม่กล้าชะล่าใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์