ตอนที่ 2080 หลินเต้ายวนผู้จงรักภักดี
“นายท่าน ตอนนั้นพวกเราควบคุมเมืองหนึ่งร้อยเก้าสิบสามเมือง ตอนนี้เล่า กลับเหลือแค่หนึ่งร้อยเก้าเมือง!”
ทันใดนั้นข้ารับใช้อาวุโสคนนั้นก็กัดฟันเอ่ยปากว่า “เมืองที่ทิ้งไปเหล่านั้นถูกเจ้าหมีเฒ่าคลั่งโลหิตนั่นชิงไปหมด ความแค้นใหญ่เช่นนี้จะไม่แก้แค้นได้หรือ”
“ตอนนี้มารกระบี่เต้ายวนแสดงความสามารถโดดเด่น ช่วยนายท่านชิงเมืองกลับมาห้าสิบสี่เมืองในคราวเดียว นี่เป็นถึงโอกาสที่พันปีจะมีสักครั้ง ถ้าปฏิเสธ ไม่เพียงทำให้เจ้าเมืองที่ยอมสวามิภักดิ์เหล่านั้นสั่นคลอน ยังทำให้คนโดดเด่นอย่างมารกระบี่เต้ายวนผิดหวังด้วย”
เขาพูดคราวเดียวเปี่ยมด้วยความฮึกเหิม
แต่เลี่ยกวงกลับนิ่วหน้าเอ่ยว่า “มารกระบี่เต้ายวนนั่นเป็นคนอย่างไรกันแน่ พวกเรายังไม่เคยพบเขามาก่อน ทุกอย่างที่เขาทำตอนนี้ที่แท้แล้วซุกความคิดเช่นไรเอาไว้ จะมีใครรู้กัน”
ข้ารับใช้อาวุโสเอ่ยเดือดดาลว่า “ใต้เท้าเลี่ยกวง มารกระบี่เต้ายวนทำเช่นนี้ก็เป็นการล่วงเกินเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตโดยสมบูรณ์แล้ว นี่ยังแสดงถึงความภักดีที่เขามีต่อนายท่านไม่พออีกหรือ”
“พอแล้ว!”
จักรพรรดิมารคีรีดำโบกมือตัดบท “เรื่องนี้ข้ามีความคิดของข้าเอง พวกเจ้าไม่ต้องมาโต้เถียงกัน”
สายตาเลี่ยกวงกับข้ารับใช้อาวุโสต่างมองมา คล้ายอยากเห็นว่าเมื่อจักรพรรดิมารคีรีดำเผชิญหน้ากับสถานการ์ที่ไม่อาจคาดคิดได้เช่นนี้จะตัดสินใจอย่างไร
กลับเห็นจักรพรรดิมารคีรีดำพูดว่า “มารกระบี่เต้ายวนล่ะ เหตุใดเขาถึงยังไม่มาพบข้า”
ข้ารับใช้อาวุโสกับเลี่ยกวงต่างอึ้งไป แล้วถึงนึกขึ้นได้ นั่นสิ ทำเรื่องใหญ่สะเทือนเลื่อนลั่นปานนี้ ไยมารกระบี่เต้ายวนถึงไม่มาขอความดีความชอบกับนายท่าน
“หึ!”
จักรพรรดิมารคีรีดำเผยสีหน้าเย็นชาดุดัน “เจ้าหมอนี่ไม่บอกกล่าวก็พิชิตห้าสิบสี่เมืองมาได้ในเจ็ดวัน ว่ากันตามเหตุผลเดิมทีเขาควรมาขอพบข้าทันที แต่ตอนนี้กลับไร้ร่องรอยของเขา หรือว่า… จะตำหนิที่ข้าเอาเขามาเป็นดาบ”
ข้ารับใช้อาวุโสรีบร้อนกล่าว “เป็นไปได้! ผู้แข็งแกร่งที่โดดเด่นอย่างมารกระบี่เต้ายวนก็ต้องมีความอวดดีและเย่อหยิ่งหาใดเทียบ เขาอาศัยโอกาสนี้แสดงความไม่พอใจต่อนายท่านก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”
“แต่บ่าวเชื่อว่าด้วยฝีมือของนายท่าน จะต้องทำให้เขาก้มหัวให้โดยสมบูรณ์ รับใช้ท่านอย่างว่าง่ายแน่”
จักรพรรดิมารคีรีดำสีหน้าอ่อนลงไม่น้อย เอ่ยว่า “ช่างเถอะ คราวนี้เขาทำความชอบครั้งใหญ่ ข้าย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขาด้วยเรื่องนี้ แต่ว่า…”
พูดถึงตรงนี้ดวงตาเขาก็เผยแววเย็นชา “ในเมื่อเมืองพวกนี้เขาชิงมา เช่นนั้นข้าก็จะมอบให้เขา ก็ต้องดูว่าเขาจะสามารถควบคุมเมืองพวกนี้ได้อยู่หมัดไหม”
ข้ารับใช้อาวุโสอึ้งไป “นี่…”
เลี่ยกวงกลับยิ้มแล้ว “นายท่านหลักแหลมนัก มารกระบี่เต้ายวนคนนั้นเหน็ดเหนื่อยสร้างผลงานใหญ่ มอบเมืองพวกนี้ให้เขาควบคุมก็เป็นเรื่องสมควร”
เขารู้สึกมานานแล้วว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จู่ๆ ตอนนี้ก็เข้าใจ การกระทำนี้ของมารกระบี่เต้ายวน ดูเหมือนเป็นการมอบของกำนัลชิ้นใหญ่ให้นายท่าน
แต่ในขณะเดียวกันก็เท่ากับท้าทายเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตคนนั้นโดยสมบูรณ์ และเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตก็จะระบายความแค้นทั้งหมดมาที่นายท่าน!
แต่สิ่งที่นายท่านทำในตอนนี้ เท่ากับผลักเภทภัยครั้งนี้ให้มารกระบี่เต้ายวนอีก
ถึงตอนนั้นต่อให้เจ้าเมืองทั้งห้าสิบสี่เมืองถูกเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตฆ่า บัญชีนี้ก็จะคิดกับมารกระบี่เต้ายวนเท่านั้น!
“แต่ด้วยพลังของมารกระบี่เต้ายวน จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตได้อย่างไร” ข้ารับใช้อาวุโสถามอย่างอดไม่ได้
จักรพรรดิมารคีรีดำแววตาวาบวาว หัวเราะหยันว่า “ในเวลาสั้นๆ เพียงเจ็ดวันเขาก็พิชิตเมืองห้าสิบสี่เมืองได้ ความสามารถก็ต้องมากอยู่นะ ให้เขาไปขวางไฟโทสะของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตเสียก่อน ถ้ารับไว้ไม่อยู่… ข้าก็ไม่ถือที่จะไปช่วยเขาสักครั้ง”
“นายท่านปรีชายิ่ง”
เลี่ยกวงชื่นชมและคล้อยตามไปด้วยอย่างอดไม่ได้
ในความคิดเขา วิธีการของนายท่านรอบคอบและปราดเปรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้ามารกระบี่เต้ายวนคิดว่าจะปลุกปั่นให้นายท่านไปห้ำหั่นกับเจ้าแคว้นคลั่งโลหิตชนิดมองหน้ากันไม่ติด เช่นนั้นก็ผิดมหันต์แล้ว
อย่างน้อย คนที่ประสบเคราะห์คนแรกก็ต้องเป็นเขามารกระบี่เต้ายวน!
จักรพรรดิมารคีรีดำยิ้มขึ้นมา “เจ้าหมอนี่ยังอยากฉวยโอกาสคิดบัญชีกับข้า ใจคอนับว่าเหี้ยมดี ครั้งนี้ข้าล่ะอยากเห็นว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไรได้อีก”
ข้ารับใช้อาวุโสพูดอย่างตะลึงว่า “ท่านท่าน พูดเช่นนี้ ท่านคิดว่าสิ่งที่มารกระบี่เต้ายวนทำคราวนี้ซ่อนความคิดชั่วร้ายไว้หรือ”
“ตอนนี้ถึงเพิ่งเข้าใจหรือ อย่างเจ้านี่ก็เรียกว่าโลภมากจนขาดสติ ผีสิงดลใจ!”
เลี่ยกวงเอ่ยเย้ยหยัน
ข้ารับใช้อาวุโสเหงื่อกาฬไหลโซมกาย ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว
เขาคิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังข่าวดีครั้งใหญ่เช่นนี้ จะยังมีเจตนาร้ายซุ่มซ่อนอยู่มากมายขนาดนี้
จักรพรรดิมารคีรีดำโบกมือเอ่ย “ไป ไปประกาศการตัดสินใจของข้าให้โลกภายนอกรู้ จำไว้ จะต้องให้เจ้าหมีเฒ่าคลั่งโลหิตนั่นรู้ว่า มารกระบี่เต้ายวนต่างหากถึงเป็นตัวการของหายนะครั้งนี้!”
……
“เจ้าว่า เจ้าแคว้นคีรีดำประกาศสู่โลกภายนอกว่าจะมอบเมืองเหล่านั้นให้ข้าทั้งหมดหรือ”
เมื่อได้รู้ข่าวนี้ หลินสวินประหลาดใจอย่างอดไม่ได้
ตอนนี้เขายังไม่ได้กลับไปเมืองผีครอบงำ แต่รออยู่เมืองหม่อนคม
ที่นี่เป็นอาณาเขตของเจ้าแคว้นคลั่งโลหิต แต่อยู่ติดกับอาณาเขตเจ้าแคว้นคีรีดำ ทำให้เขากลับไปเมืองผีครอบงำด้วยเวลาอันสั้นที่สุดเมื่อไรก็ได้
“ขอรับ”
จี้เหลิ่งสีหน้ากังวล “คราวนี้จบเห่แล้ว ใครจะคิดว่ายามเจ้าแคว้นคีรีดำเผชิญหน้ากับของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้ จะตัดสินใจแบบนี้”
หลินสวินกลับไม่คิดเช่นนั้น ยิ้มเอ่ยว่า “เห็นได้ชัดว่าเจ้าเฒ่านี่ก็ตระหนักได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ไม่แน่อาจจะมองเจตนาของข้าออก ไม่ได้โง่อย่างที่ข้าคาดไว้”
จี้เหลิ่งแข็งทื่อไปทั้งตัว หน้าเปลี่ยนสีเอ่ยว่า “ผู้อาวุโส ท่านคงไม่คิดจะอาศัยเรื่องนี้ไปปลุกปั่นให้เจ้าแคว้นคลั่งโลหิตเจ้าแคว้นคีรีดำสู้กันแต่แรกใช่ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์