Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2126

สรุปบท ตอนที่ 2126 จักรพรรดิผีค้างคาวเงิน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2126 จักรพรรดิผีค้างคาวเงิน – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2126 จักรพรรดิผีค้างคาวเงิน ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2126 จักรพรรดิผีค้างคาวเงิน

เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ กายมรรคไม้เขียวของหลินสวินกำราบต้นสำริดเฒ่าเข้าไปในเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดใหม่อีกครั้ง

ยามเสาะหารากปฐมจิตวิญญาณของไม้เทพคุนอู๋ ต้นสำริดเฒ่านี้ยังมีคุณค่าอยู่บ้าง ยังไม่ใช่เวลาที่จะฆ่าทิ้ง

ห่างไปไม่ไกล ร่างต้นของหลินสวินสงบจิตทำสมาธิ

การห้ำหั่นและต่อสู้เต็มกำลังก่อนหน้านี้ทำให้พลังยุทธ์ของเขาได้รับการขัดเกลาอย่างหาได้ยาก รวมถึงการควบคุมกฎเกณฑ์มหามรรคก็หมดจดและเชี่ยวชาญยิ่งกว่าเดิม

หลินสวินมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง หากบุกไปถึงนรกอำพรางชั้นที่เก้าเช่นนี้ได้ตลอด การฝึกยุทธ์และพลังมหามรรคของตน ก็เป็นไปได้สูงว่าจะบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุด!

ถึงตอนนั้น บางทีอาจได้เตรียมตัวแจ้งมรรคในระดับจักรพรรดิแล้ว…

วันต่อมา

หลินสวินผุดลุกจากการนั่งสมาธิ ออกจากอุโมงค์ใต้ดินนี้ไป

ฟ้าดินสีเลือดยังคงมืดมนและกดดันเหมือนที่ผ่านมา สายลมเยียบเย็นส่งเสียงหวีดหวิว

หลินสวินเดินอยู่กลางฟ้าดินเพียงลำพัง ไม่ทันไรก็หา ‘คู่ต่อสู้’ พบ

ชายชราผอมบางที่ร่างทรุดโทรม สวมชุดคลุมสีเลือดคนหนึ่งซุ่มซ่อนอยู่ใต้ยอดเขาลูกหนึ่ง กำลังกลืนกินและดูดซับพลังของวิญญาณร้ายกลุ่มหนึ่ง

ตูม!

หลินสวินก้าวไปในอากาศแล้วเหยียบลงมาเบาๆ ยอดเขาลูกนั้นทรุดถล่มสนั่นหวั่นไหว นัยน์ตาของชายชราซูบผอมที่กำลังหลอมปราณอยู่ใต้ยอดเขาฉายแววดุดันชวนประหวั่น

“ใคร!”

ชายชราซูบผอมพุ่งกระโจนออกมา สีหน้าถมึงทึงเกรี้ยวโกรธ แต่เมื่อเห็นร่างหลินสวินที่อยู่ไกลออกไป เขาตกตะลึงทันที วิญญาณเกือบหลุดออกจากร่างด้วยความตกใจ

เขาเริ่มหนีเอาตัวรอดโดยไม่ลังเล

หลินสวินอึ้งไป วิญญาณร้ายที่มีอานุภาพระดับจักรพรรดิเปลี่ยนเป็นใจเสาะเช่นนี้เมื่อไหร่กัน

ระหว่างที่คิดอยู่เขาก็ไล่ตามไปนานแล้ว

“เจ้าหนุ่ม ด้วยพลังต่อสู้ของเจ้าล้วนท่องไปถึงชั้นเจ็ดได้ ทำไมเจ้ายังอยู่ชั้นหกไม่ยอมไปเสียที”

เห็นหลินสวินไล่ตามมา ชายชราซูบผอมนั้นลนลานทันที แผดเสียงคำราม

นี่ทำให้หลินสวินผิดคาดยิ่งกว่าเดิม วิญญาณร้ายเปลี่ยนเป็นหวังดีเช่นนี้เมื่อไหร่กัน ถึงขั้นเริ่มเตือนตนว่าได้เวลาจากไปแล้ว…

เมื่อหลินสวินเพิ่งเตรียมจะเอ่ยปาก ก็เห็นชายชราซูบผอมนั้นเผ่นสุดชีวิต หนีไปเร็วยิ่งกว่าเดิม ไม่ทันไรก็ไม่เห็นร่องรอยแล้ว

หลินสวินคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ละทิ้งความคิดที่จะไล่ตามต่อ

เห็นได้ชัดว่าเจ้าเฒ่านี่ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ต่อให้ตามไปก็ไม่มีทางทำให้ตน ‘ประหลาดใจ’ ในการต่อสู้เท่าไรนัก

หลังจากนั้นหลินสวินออกเดินทางตามหาคู่ต่อสู้อีกครั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงคือ ในเวลาต่อมายามเขาเพิ่งเจอเป้าหมาย ฝ่ายหลังจะสาวเท้าหนีไปเหมือนกระต่ายที่ถูกทำให้ตกใจ ไม่ปล่อยโอกาสให้หลินสวินลงมืออย่างสิ้นเชิง

สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว ไม่ว่ากลิ่นอายของคู่ต่อสู้ที่เขาเจอจะป่าเถื่อนระดับใด หลังจากเจอเขาแล้วจะหนีเอาตัวรอดกันหมด

“รีบหนีเร็ว เจ้าบ้านั่นบุกสังหารมาอีกแล้ว!”

“น่าชังนัก! นี่เขาคิดจะฆ่าพวกเราให้เกลี้ยงหรือ”

“ฮือๆๆ อุตส่าห์ควบรวมสติปัญญาออกมาได้ ไม่คิดเลยว่าจะเจอตัวอันตรายเช่นนี้ สวรรค์ไม่ยุติธรรมอะไรปานนี้…”

“หน้าตาของวิญญาณร้ายอย่างข้าล้วนไม่เหลือแล้ว!”

“หนีเร็ว! หนีเร็ว!”

เสียงคำรามและตะโกนอย่างตื่นตระหนกเช่นนี้ดังขึ้นในนรกอำพรางชั้นที่หกอย่างต่อเนื่อง ทุกหนแห่งที่หลินสวินไปถึง เหมือนเทพแห่งโรคระบาดมาเยือน ทำให้วิญญาณร้ายพวกนั้นตกใจจนหนีเตลิดเปิดเปิง

ในที่สุดหลินสวินก็จับวิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่หนีไม่สำเร็จได้ตนหนึ่ง

แต่ยังไม่รอให้เขาดีใจ วิญญาณร้ายที่รูปร่างคล้ายสิงห์พยัคฆ์ตัวนั้นกลับพังทลายทันที ร่ำไห้โอดครวญพลางคุกเข่าลงกับพื้น อ้อนวอนขอชีวิต

จิตต่อสู้ฮึกเหิมของหลินสวินถูกทำลายไปจนเกลี้ยงทันที

เขามานรกอำพรางครานี้ เดิมทีก็เพื่อฝึกประสบการณ์ แต่ตอนนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิในชั้นหกนี่กลับคุกเข่าตรงๆ ยังพูดถึงการฝึกอะไรได้

‘ดูท่าว่าควรไปแล้วจริงๆ…’

หลินสวินถอนใจยาว เขาเข้าใจโดยคร่าวแล้ว หลังผ่านศึกนองเลือดเมื่อวาน วิญญาณร้ายในนรกอำพรางชั้นหกนี้ล้วนถูกทำให้ตกใจกลัว ไม่มีใครกล้าปะทะกับตนอีก

“เจ้าลุกขึ้นเถอะ” หลินสวินหันหลังเดินจากไป

วิญญาณร้ายที่คุกเข่ากับพื้นนั้นอึ้งไปครู่ใหญ่ ถึงกับดีใจจนน้ำตาไหล “เจ้าคนเหี้ยมโหดนี่ละเว้นข้า… เขาไว้ชีวิตข้าจริงๆ…”

วันนี้หลินสวินออกจากนรกอำพรางชั้นที่หก มุ่งหน้าสู่ชั้นที่เจ็ด

และวันนี้เอง วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิที่กระจายอยู่ในชั้นหกพวกนั้น ไม่มีใครไม่ยกภูเขาออกจากอก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม โห่ร้องยินดีไม่หยุด

ความรู้สึกนั้นก็เหมือนส่งเทพแห่งโรคระบาดให้จากไป

หากผู้ฝึกปราณพวกนั้นเห็นเหตุการณ์นี้ ต้องตกตะลึงอ้าปากค้างแน่นอน ถึงอย่างไรพวกวิญญาณร้ายนี่เดิมทีก็เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่เหี้ยมโหดที่สุดบนโลก วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิยิ่งน่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการ

แต่ตอนนี้วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิในชั้นหกนั้น กลับถูกหลินสวินขู่จนกลัวแล้ว…

กระทั่งผ่านกาลเวลานับไม่ถ้วนหลังจากนั้น วิญญาณร้ายระดับจักรพรรดิในชั้นหกนี้ ยังคงไม่อาจลืมชายหนุ่มที่นำพาความหวาดกลัวและสั่นสะท้านไร้สิ้นสุดมาสู่พวกเขาคนนั้นได้

นรกอำพรางชั้นที่เจ็ด

ฟ้าดินมืดมนไปทั้งแถบ แรงกดดันน่าหวาดกลัวที่เต็มแน่นในอากาศ เพียงพอจะบดขยี้ผู้ฝึกปราณที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิทุกคนในพริบตา

กระทั่งพลังกายของหลินสวินฟื้นคืนกลับมาแปดส่วน ตรงขอบฟ้าไกลโพ้นพลันมีคลื่นเสียงดุจเสียงจากธรรมชาติดังขึ้น ประหนึ่งเสียงสวดแผ่วเบาลอยล่อง ทั้งเหมือนสัทครรลองมหามรรคสะท้อนก้อง

ฟ้าดินแถบนี้ล้วนเปลี่ยนเป็นศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ในความรางเลือนมีลักษณ์ประหลาดอย่างบุปผาสวรรค์โปรยปราย ปทุมทองพรั่งพรู มังกรฟ้าเหินทะยาน กระพรวนทองก้องกังวานทยอยปรากฏ

มีอริยบุคคลคลอนศีรษะท่องคัมภีร์ มีเทพยิ้มถกมรรคพูดคุยนัยเร้นลับ มีกวางเขียวเคี้ยวหญ้าเดินเล่น มีวานรวิญญาณถือท้อกระโดดโลดโผน…

ยิ่งมีต้นไม้เก่าแก่สูงเสียดฟ้า ไผ่เขียวเป็นผืนป่า ธารน้ำใสไหลเอื่อย แสงมงคลวิเศษลอยล่องซ้อนสลับ ดูประหนึ่งภาพฝันลวงตา

ท่ามกลางความเลือนราง ที่นี่ราวกับไม่ใช่นรกมืดมนนองเลือดที่กดอัดใจคนนั้นอีก หากแต่เป็นแดนพิสุทธิ์ยอดสุขาวดี ประหนึ่งที่พำนักของทวยเทพ

เมื่อหลินสวินที่กำลังนั่งสมาธิลืมตาขึ้น พอเห็นภาพนี้ก็อึ้งงันอยู่ตรงนั้นอย่างอดไม่ได้

นี่คือ?

เมื่อความคิดหนึ่งเพิ่งผุดขึ้นในหัวหลินสวิน กลางฟ้าดินที่ศักดิ์สิทธิ์แถบนี้ก็มีเสียงอ่อนโยนราวเสียดลึกถึงก้นบึ้งหัวใจดังขึ้น

“นี่คือสถานที่แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิของสหายน้อย”

“แจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิ?” หลินสวินเอ่ยเบาๆ กวาดสายตามองโดยรอบ ทุกอย่างดูสงบสุขราวกับอยู่ในแดนเซียน

“ใช่ ทุกอย่างที่เจ้าเห็นตอนนี้ก็คือสัญญาณว่าจุดเปลี่ยนแจ้งมรรคจะมาเยือน ดูเหมือนภาพหลอน ความจริงแล้วเป็นมงคลแห่งการแจ้งมรรค”

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“แล้วเจ้าเป็นใคร” หลินสวินถาม

“ข้าก็คือเสียงหัวใจของเจ้า”

เสียงนั้นล่องลอย “เสียงหัวใจคือสิ่งที่มองไม่เห็น มีเพียงตัวเจ้าที่ได้ยิน สิ่งที่สะท้อนออกมาทั้งหมดคือความยึดติดตั้งต้นในใจเจ้า”

“รีบลงมือเถอะ หากพลาดจุดเปลี่ยนครั้งนี้ไป คิดจะรอครั้งต่อไปก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่ บางทีอาจเป็นร้อยพันปี บางทีอาจถึงหลายหมื่นปี บางที… ชีวิตนี้อาจยากจะได้เจออีก…”

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ นัยน์ตาดำล้ำลึก แผ่แสงลึกซึ้งเกินคาดเดา

ภายใต้พลังของเปิดตาทิพย์ ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้านี้ล้วนว่างเปล่า เหมือนบุปผาในคันฉ่องจันทราในวารี ฟ้าดินยังเป็นฟ้าดินที่มืดมนนองเลือดนั้น

แต่ด้วยเสียงนั้นดังขึ้น จึงเกิดภาพมายาที่สะท้อนในสภาวะจิตและจิตวิญญาณโดยตรงเช่นนี้ได้!

สิ่งที่ทำให้หลินสวินตกตะลึงก็อยู่ตรงนี้ หากไม่ใช่ว่าใช้ตาทิพย์ได้ เขาคงยากจะพบว่าสภาวะจิตและจิตวิญญาณของตนได้รับอิทธิพลจากเสียงนั้นไปนานแล้ว

เจ้าของเสียงนี้ไม่ธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย!

“เสียงหัวใจหรือ… ข้าว่าเจ้าน่าจะชื่อจักรพรรดิผีค้างคาวเงินถึงจะถูก”

หลินสวินพูดพลางหยัดร่างขึ้นจากพื้น

นัยน์ตาดำของเขาดุจอสนี ฉีกกระชากการอำพรางทุกสิ่ง จ้องไปยังใต้เวิ้งฟ้าสีเลือดซึ่งห่างออกไป

ที่นั่นมีค้างคาวสีเงินที่ไม่สะดุดตาอยู่ตัวหนึ่ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์