Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2133

สรุปบท ตอนที่ 2133 โลกเจตจำนง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2133 โลกเจตจำนง จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2133 โลกเจตจำนง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2133 โลกเจตจำนง

สามเดือน!

เอาชนะพลังเจตจำนงที่ยอดบุคคลดึกดำบรรพ์สามสิบห้าทิ้งเอาไว้!

ตอนได้รู้ข่าว ชิงอิง ชายผีสุรา และต้าหวงที่ยืนรอข่าวอยู่นอกนรกอำพรางมาตลอดล้วนอึ้งงัน

“นี่ไม่ได้ฝันไปกระมัง ไม่ก็เจ้าหลิงอู่กำลังต้มพวกเราอยู่”

ต้าหวงแหกปากขึ้นมา ตอนนี้มันแทบอยากกระโจนเข้าไปดูในนรกอำพรางนั่นใจจะขาด

สามเดือนมานี้ ชายชุดเทาหรือก็คือจักรพรรดิสงครามหลิงอู่ จะส่งข่าวการทะลวงแดนผนึกมรรคของหลินสวินมาทุกๆ สิบวัน

แต่ละครั้งล้วนทำให้ต้าหวงรู้สึกแตกตื่นตกใจ อ้าปากตาค้าง

จนกระทั่งบัดนี้ เมื่อได้ยินว่าอีกแค่ก้าวเดียวหลินสวินก็จะทะลวงผ่านแดนผนึกมรรคนั่นได้ ก็เหมือนมีร้อยกรงเล็บขยุ้มใจ ร้อนลนอย่างบอกไม่ถูก อยากรู้ความเป็นไปในนั้นยิ่ง

“หลิงอู่ไม่กล้าพูดปดเรื่องเช่นนี้หรอก อย่าลืมว่าข่าวพวกนี้ต้องส่งให้นายท่านอ่านทั้งหมด เขาจะกล้าปลอมแปลงได้อย่างไร”

ผีสุราสูดหายใจลึกกล่าวเสียงขรึม “ไม่ว่าอย่างไร ที่คาดการณ์ได้คือสำหรับเจ้าหลินสวินคนนี้ แพ้ชนะก็อยู่ที่จุดนี้!”

ชิงอิงเริ่มเครียดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

นางเคยอ่านบันทึกโบราณมากมาย เคยทำความเข้าใจว่าพลังเจตจำนงที่แปรสภาพเป็นกระถางใหญ่ในแดนผนึกมรรคนั่นเป็นพวกน่ากลัวเหลือแสน

ปีนั้นเจ้าหอวิหคทองแดงก็เคยประสบการกำราบจากกระถางใหญ่นี้เช่นกัน แต่สุดท้ายไม่รู้ใช้วิธีอะไรจึงออกจากแดนผนึกมรรคได้สำเร็จ

แน่นอน ชิงอิงย่อมหวังว่าหลินสวินจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นเหมือนกับศิษย์พี่รองคนนั้นของเขา แต่สุดท้ายในใจก็ยังไม่มั่นใจ

“เช่นนั้นก็มีแต่ต้องรออยู่ที่นี่แล้ว…”

ต้าหวงคร่ำครวญ มันอยากไปดูสักหน่อยจริงๆ น่าเสียดายความแข็งแกร่งที่มันมีในตอนนี้ไม่สามารถเข้าสู่ชั้นนั้นได้

ในโลกลับแห่งหนึ่ง

จ้งชิวอ่านข่าวล่าสุดแล้วอดอึ้งไปไม่ได้ สามเดือนหรือ

อึดใจนี้จิตใจเขาเกิดความแปลกใจล้นปรี่ นี่เหนือการคาดเดาของเขาอย่างสิ้นเชิง

หรือก็คือ เขาคิดไม่ถึงว่าศิษย์น้องเล็กอย่างหลินสวิน ที่แท้ก็มีฝีมือโดดเด่นกว่าที่ตนจินตนาการไว้!

“เรื่องราวต่างไปแล้ว คนรุ่นใหม่มาแทนคนเก่า หากเป็นเจ้าในปีนั้น เกรงว่าอยู่ต่อหน้าหลินสวินก็คงภูมิใจไม่ขึ้นสักนิด”

ซีนั่งอยู่ด้านข้างเอ่ยพูดเรียบเรื่อย เงาร่างอ้อนแอ้นรายล้อมด้วยละอองแสงลึกลับ ราวฝันมายา ไร้มลทินและผ่องแผ้วศักดิ์สิทธิ์

ประโยคนี้ของนางกระเทือนจ้งชิวอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย

ก็เห็นจ้งชิวหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ กล่าวว่า “หากเขามีฝีมือแค่เหมือนข้าในปีนั้น จะมีคุณสมบัติเป็นผู้สืบทอดคนสุดท้ายของคีรีดวงกมลได้อย่างไร”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งค่อยกล่าวต่อ “อีกอย่าง ยิ่งเขาฝีมือโดดเด่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสมควรให้ข้าภูมิใจ อย่างไรเสียตามศักดิ์แล้ว ข้าก็เป็นศิษย์พี่รองของเขา”

น้ำเสียงราบเรียบเจือแววภาคภูมิใจ

ซีเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง กล่าวว่า “นี่หมายความว่าเจ้ายอมรับเขาแล้วหรือ”

จ้งชิวเลี่ยงไม่ตอบ แค่กล่าวว่า “ปีนั้นในแดนผนึกมรรค ข้าเคยจัดการเจตจำนงกระถางใหญ่ใบหนึ่ง ค่าตอบแทนที่จ่ายไปหนักหนาสาหัสนัก สุดท้ายถึงได้รับแค่การยอมรับจากอีกฝ่าย และยอมให้ข้าจากไป ข้าหวังว่าเขาจะโค่นเจตจำนงกระถางใหญ่ใบนั้นได้”

“ล้างความอัปยศให้เจ้าหรือ” คำพูดของซีคมกริบยิ่ง

จ้งชิวยังอดอึ้งไปครู่หนึ่งไม่ได้ กล่าวว่า “นี่เป็นเพียงบททดสอบหนึ่งเท่านั้น”

ซียิ้มบางๆ “เขาต้องช่วยเจ้ากู้หน้าระบายแค้นได้แน่”

“อะไรที่เรียกว่าช่วยข้ากู้หน้าระบายแค้น” จ้งชิวรู้สึกว่าความภาคภูมิใจของตนถูกท้าทาย “นี่เป็นเรื่องที่เขาในฐานะศิษย์น้องควรทำแต่เดิมอยู่แล้ว”

ซีอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

เจ้าจอมหยิ่งนี่ช่างปากแข็งจริงๆ เชียว

แดนผนึกมรรค

หลินสวินที่นั่งสมาธิจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น จากนั้นก็มองเห็นคู่ต่อสู้ตนสุดท้าย…

กระถางใหญ่ใบหนึ่ง

สามขาสองหู ประกายแสงสำริดไหลเวียน ปากกระถางพ่นไอขุ่นมัว ลอยเด่นอยู่ตรงนั้น มีอานุภาพพาดขวางทั่วหล้า กำราบหมื่นกาล!

พริบตาเดียวลมหายใจหลินสวินยังติดขัด

นี่จะเป็นพลังเจตจำนงซึ่งยอดบุคคลดึกดำบรรพ์เหลือทิ้งไว้ที่น่ากลัวปานใด

น่าสะพรึงจนทำให้คนเพียงมองปราดเดียวก็รู้สึกสิ้นหวัง จิตใจถูกสะเทือน เจตจำนงถูกกดกำราบ!

“ข้าจะให้เวลาเจ้าฟื้นฟูสภาพสมบูรณ์สูงสุดต่อ” เสียงไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ สายหนึ่งลอยออกมาจากเจตจำนงกระถางใหญ่ใบนั้น

นี่ก็เป็นพลังเจตจำนงแรกซึ่งมีสติปัญญาที่หลินสวินได้พบ และยังมีรูปร่างเป็นกระถางใบหนึ่ง!

หลินสวินนิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วหยัดตัวขึ้นจากพื้น กล่าวว่า “ไม่ต้องแล้ว เอาชนะเจ้าแล้ว ข้ายังต้องมุ่งหน้าไปชั้นเก้า”

กระถางใหญ่ลอยกลางอากาศ หลั่งรินรัศมีแสงพร่ามัวมหาศาล ดุจประกาศิตสวรรค์สูงสุด อานุภาพแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการ

“ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดนี้ไม่มีใครเอาชนะข้าได้” มันเอ่ยปาก เสียงราบเรียบราวอธิบายข้อเท็จจริงที่แสนธรรมดาทั่วไป

“แต่นี่เพิ่งแค่ชั้นแปดเท่านั้น เท่าที่ข้ารู้ นรกอำพรางมีถึงสิบแปดชั้น” หลินสวินสีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหว ไม่ทุกข์ไม่สุข

“ขอเพียงมีปราณระดับจักรพรรดิ ล้วนสามารถมุ่งหน้าไปชั้นเก้าตรงๆ ได้ และที่ผ่านมาคนที่อยากผ่านที่นี่ไป ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของข้าสักคน”

เจตจำนงกระถางใหญ่คล้ายไม่รีบร้อน เสียงเรียบเฉยเหมือนกำลังคุยเล่น

นี่เป็นท่าทีหยิ่งผยองสุดขีดอย่างไม่ต้องสงสัย

“สมัยดึกดำบรรพ์ไม่ใช่มีอยู่คนหนึ่งหรือ” หลินสวินพูดส่งๆ คนที่เขาเอ่ยถึงคือศิษย์พี่รองจ้งชิว

“ในสายตาข้า เจ้าก็คือมดปลวก”

จากนั้นหลินสวินก็พบว่าตนกลายเป็นมดแมลงตัวเล็กจ้อยไร้ที่เปรียบตัวหนึ่งจริงๆ ยืนลำพังอยู่ในฟ้าดินเวิ้งว้างแห่งนี้ เห็นชัดว่าอ่อนกำลังเป็นพิเศษ

หากไม่ใช่เพราะหลินสวินเตรียมตัวไว้แต่แรก ลำพังแค่ภาพนี้ก็สามารถโจมตีเขาจนรับมือไม่ทัน สภาวะจิตเริ่มสั่นคลอนได้แล้ว

มือใหญ่ข้างหนึ่งปรากฏขึ้น หนีบหลินสวินที่กลายร่างเป็นมดไว้ตรงปลายนิ้ว พริบตาเดียวหลินสวินจะหายใจยังลำบาก ทั่วสรรพางค์กายถูกบีบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนจะถูกบี้ตายได้ทุกเมื่อ!

แต่เเม้จะอยู่ในสภาพอันตรายไร้ใดเปรียบเช่นนี้ หลินสวินยังคงรักษาความผ่องแผ้วของสภาวะจิตและเจตจำนง จิตมรรคดุจมีด เจตจำนงดั่งหินแกร่ง!

‘มายา ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นภาพลวงตา เป็นมายาที่เกิดขึ้นจากสภาวะจิตถูกจู่โจม…’

หลินสวินเตือนตัวเองและยืนหยัดเช่นนี้ สภาวะจิตที่ประดุจมีดขจัดความตระหนก ลนลาน สิ้นหวังในซอกลึกภายในใจ

แต่ร่างที่กลายเป็นมดแมลงของเขายังคงถูกมือใหญ่หนีบไว้ ทั้งร่างเริ่มส่อแววพังทลาย ดุจใกล้จมทะเลลึกตายไม่มีผิด

นี่เป็นการกำราบทางเจตจำนงและสภาวะจิตอย่างถึงที่สุด!

“เมื่อสภาวะจิตถูกบดบัง มายาทั้งปวงล้วนเป็นจริง”

เสียงของเจตจำนงกระถางใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง “ในโลกเจตจำนงนี้ ข้าแค่นึกคิดคราเดียวก็สามารถแปลงสรรพสิ่ง ควบคุมความเป็นความตายได้ เจ้า… ยังจะเอาอะไรมาโค่นข้า”

ประโยคเดียวก้องสะท้อนอยู่กลางฟ้าดินแถบนี้ เจืออานุภาพสูงสุด ไม่อาจคลางแคลง ไม่อาจดูหมิ่น

แต่เมื่อฟังประโยคนี้จบ นัยน์ตาหลินสวินกลับวาววับขึ้นทันที

มายาทั้งปวงล้วนเป็นจริง?

ไม่!

เมื่อเท็จกลายเป็นจริง จริงย่อมเท็จ เมื่อไร้กลายเป็นมี มีย่อมไม่มี!

ตูม!

พริบตาเดียวสภาวะจิตและเจตจำนงของหลินสวินราวบังเกิดพลังล้นทะลักยากควบคุม มายาทั้งปวงในครรลองสายตาล้วนเหมือนหยาดฝนหิมะละลาย หายเกลี้ยงไร้ร่องรอย

มือใหญ่ประดุจเทพางนั้นหายไปแล้ว และเขาได้คืนสภาพของตนจากที่เหมือนมดแมลง กลับมายืนนิ่งในโลกเวิ้งว้างที่ประดุจไร้ขอบเขต ปราศจากพรมแดน ไร้สรรพสิ่งนี้ใหม่อีกครั้ง

นัยน์ตาดำของเขาใสกระจ่าง สีหน้าไร้โลกีย์ ยืนมือไพล่หลัง ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายสันโดษ เอ่ยพูดเรียบเรื่อย

“จริงเท็จถูกผิด มายาลวงตา ข้ารู้เพียงตัวข้าอยู่ที่นี่เป็นเรื่องจริง วิธีนี้ของเจ้าก็บดบังใจข้าไม่ได้!”

เจตจำนงกระถางใหญ่นิ่งเงียบไป เหมือนรู้สึกแปลกใจและตกตะลึง เนิ่นนานก็ยังไม่ปริปาก

ทั้งหมดนี้เหนือความคาดหมายของมันจริงๆ

หลังจากเคราะห์จ่อมจมครั้งแรกปิดฉากลง ในกาลเวลานับไม่ถ้วนจนถึงบัดนี้ หลินสวินเป็นคู่ต่อสู้คนแรกที่สามารถต้านทาน ‘โลกเจตจำนง’ ของมันได้!

ฟ้าดินแถบนี้ยิ่งเงียบสงัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีเสียงใดอีก

สภาวะจิตของหลินสวินกลับไม่หนักอึ้งเหมือนอย่างคราแรกสุดแล้ว

เขายืนสันโดษ ในหัวกลับผุดความทรงจำมหัศจรรย์ส่วนหนึ่งในอดีตขึ้น สภาวะจิตผ่อนคลายเป็นอิสระ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์