ตอนที่ 2152 เหตุไม่คาดฝันของตระกูลซู
หนึ่งเดือนผ่านไป
หลินสวินใช้วิชาลับ จัดระเบียบและเคี่ยวกรำเส้นลมปราณและจุดชีพจรในร่างใหม่หนึ่งรอบ จนกระทั่งมั่นใจว่าทั้งภายในและนอกร่างกายไม่มีจุดบกพร่องอีก จึงตัดสินใจเริ่มฝึกปราณ
ระดับกำลังภายในแบ่งเป็นเก้าขั้น
ได้แก่กำหนดปราณ รากฐานมั่นคง เปิดองคาพยพ บรรจบช่องทาง ชำระล้างแกนจิต โลหิตเดือดพล่าน อนุจักรวาล มหาวัฏจักร และแปรลักษณ์วิญญาณ
แต่ละขั้นต่างทำให้พลังปราณของตัวผู้ฝึกปราณเปลี่ยนแปลง
พูดง่ายๆ ก็คือระดับกำลังภายในเป็นธรณีประตูแรกสู่มรรคา ทั้งยังเป็นก้าวแรกที่ผู้ฝึกปราณสร้างรากฐานมหามรรค
ต้นไม้ใหญ่หนา เกิดจากกล้าน้อย
หอคอยเก้าชั้น เริ่มจากฐานอิฐ
ถ้าหลินสวินต้องการ ด้วยฝีมือของเขา ภายในหนึ่งเดือนก็จะบรรลุพลังปราณถึงระดับกำลังภายในขั้นบริบูรณ์
แต่โอกาสนิพพานเกิดใหม่ครั้งนี้มีเพียงครั้งเดียว เพื่อเติมเต็มความเสียใจจากมรรคาในอดีต หลินสวินย่อมไม่ไขว่คว้าความเร็วในการฝึกปราณ
สองเดือนผ่านไป
หลินสวินนั่งขัดสมาธิ ยามกลืนกินดูดซับ การขับเคลื่อนพลังทั้งร่างราวกับลมพายุปั่นป่วน พลังขับเคลื่อนโคจรราวกับคบเพลิงกำลังลุกโชน ส่วนร่างของเขาก็เดือดพล่านเหมือนเตาหลอม
กระแสปราณดุจงูมังกรสายแล้วสายเล่าผ่านเข้าออกในรูจมูก นี่เป็นภาพสะท้อนว่าการขับเคลื่อนพลังทั้งร่างถึงจุดสูงสุด
ฟู่…
เมื่อหลินสวินตื่นขึ้นจากการนั่งสมาธิก็พ่นลมหายใจเบาๆ ปราณประหนึ่งลูกดอกแหลมคมยิงทะลวงห้วงอากาศ
‘ใช้กายเป็นเตา ดึงเอาปราณเข้าร่าง พลังขับเคลื่อนทั่วถึง ประหนึ่งลุกโหมเดือดพล่าน เข้าสู่มกุฎ…’
หลินสวินหยั่งรู้เงียบๆ
ใช้เวลาไปหนึ่งเดือนเต็มๆ เขาถึงบรรลุขั้นแรกของระดับกำลังภายใน ขั้น ‘กำหนดปราณ’
‘เหยียบย่างสู่มกุฎเป็นเพียงก้าวแรก หมายจะแจ้งมรรคที่ไม่เคยมีมาในอดีตปัจจุบันจะต้องมีรากฐานล้ำเลิศเป็นประวัติกาล ไร้ศัตรูในระดับเดียวกัน…’
หลินสวินไม่รีบร้อนบรรลุ
ระดับกำลังภายใน ดูเหมือนเป็นระดับแรกที่เป็นพื้นฐานที่สุด แต่ตอนนี้เมื่อได้เผชิญหน้ากับระดับนี้ หลินสวินกลับใช้แรงกายแรงใจและความสามารถแทบทั้งหมด
คัมภีร์เตาหลอมมหามรรคของเขาสามารถบรรจุหมื่นมรรค แปรเปลี่ยนหมื่นวิชา ใช้หลอมรากฐานมหามรรค ย่อมเป็นวิชาฝึกปราณของเขาที่เหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ ในสมองของเขายังมียอดมรดกต่างๆ ทำให้ยามเขาฝึกใหม่อีกครั้งมีสิ่งที่ใช้เป็นตัวอย่างได้มากมาย!
ยอดมรดกหลายสิบชนิด ก็เหมือนกับยอดบุคคลหลายสิบคนมาร่วมกันชี้แนะการฝึกปราณของเขา นี่ทำให้รากฐานที่สร้างขึ้นตอนที่เขาบรรลุระดับกำลังภายในใหม่อีกครั้ง ไปถึงขั้นโลกตะลึงแล้ว
ตอนกินข้าวเย็น ชิงจู๋จะมองประเมินหลินสวินด้วยดวงตาเปี่ยมชีวิตชีวาเป็นพักๆ กระทั่งกินข้าวเสร็จเก็บถ้วยชามตะเกียบ นางจึงถามออกไปอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณชายสาม ท่าน… โตไวจริง”
ซูชิงหานในตอนนี้เพิ่งอายุสิบสี่ปี เป็นช่วงกำลังโตพอดี
แต่ชิงจู๋คิดไม่ถึงว่าเพิ่งสองเดือนเท่านั้น ชั่วขณะเดียวคุณชายสามก็โตขึ้นมาก ความอ่อนวัยเริ่มเปลี่ยนแปลง แววตาสดใส แจ่มกระจ่างดั่งดวงดารา พลังชีวิตไพศาลแผ่ออกมาทั้งร่าง
หลินสวินยิ้ม ไม่อธิบาย แต่พูดว่า “ชิงจู๋ เจ้าเก็บของที ตั้งแต่พรุ่งนี้ข้าจะไปอยู่คฤหาสน์บนเขาเมฆหนาวนอกเมืองสักพัก”
“ได้เจ้าค่ะ” ชิงจู๋ตอบรับ
ในตระกูลซู แม้คุณชายสามจะฝึกปราณไม่ได้แต่กลับเป็นที่รักมากที่สุด คำขอที่เขาเอ่ยปาก ขอเพียงไม่มากเกินไป ใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้
สามเดือนผ่านไป
หน้าน้ำตกหุบเขาแห่งหนึ่งในเขาเมฆหนาว น้ำตกไหลเชี่ยวลงมาดุจมังกร
ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งเคลื่อนออกมาจากด้านล่างของน้ำตกลงสู่หินผาก้อนหนึ่งอย่างรวดเร็ว เงาร่างสูงโปร่งเด่นตระหง่าน อาบชโลมใต้แสงตะวันอันพร่ามัวดุจหมอก มีประกายลึกลับเรื่อเรือง
คนผู้นี้ ก็คือหลินสวินที่กลายเป็นซูชิงหาน
ถึงตอนนี้ก็สามเดือนแล้วตั้งแต่เริ่มตัดสินใจฝึกปราณ
ในที่สุดเขาก็บรรลุขอบเขตยอดมกุฎของขั้นกำหนดปราณในระดับกำลังภายใน!
‘ต่อไปก็ไม่ต้องยุ่งยากแบบนี้แล้ว’
หลินสวินเผยรอยยิ้มพอใจ ในเวลาสามเดือนเขาแทบจะใช้ทุกวิชาเพื่อฝึกมหามรรคขั้นแรกให้บรรลุขั้นสุดยอดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ดังว่าทุกเรื่องยากในตอนต้น หลังจากเดินเข้าสู่ธรณีประตูมรรคนี้ ในการฝึกปราณภายหน้า ทุกอย่างก็จะราบรื่นไม่ต้องเปลืองความคิดมากมายขนาดนี้อีก
“คุณชายสาม กินข้าวได้แล้วเจ้าค่ะ”
เสียงใสมีชีวิตชีวาของชิงจู๋นั้นดังขึ้น
หลินสวินหยิบเสื้อผ้าแล้วหันตัวออกไปจากแดนฝึกปราณลับของตนเพียงผู้เดียวแห่งนี้
ตอนกินข้าว ชิงจู๋ก็นำข่าวใหม่ล่าสุดมาอีก…
คุณชายรองซูชิงเฟิง ผ่านการคัดเลือกรอบที่สามของงานประลองยอดยุทธ์อย่างราบรื่น ตอนนี้มุ่งหน้าไปเมืองหลวงราชวงศ์ต้าเฉียนแล้ว
ที่รอเขาอยู่ก็คือการคัดเลือกรอบที่สี่ ขอเพียงผ่านไปได้ก็จะได้เข้าสู่รอบสุดท้ายของราชวงศ์ต้าเฉียน!
แววภาคภูมิใจปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของชิงจู๋ “คุณชายรองโดดเด่นจริงๆ เมืองเหวมังกรในตอนนี้มีแต่ชื่อของคุณชายรองกระจายอยู่เต็มไปหมด ตระกูลมากมายต่างมาเยี่ยมตระกูลซูของพวกเราด้วยตัวเอง หมายจะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลซู”
หลินสวินกินข้าวพลางยิ้มไปฟังไป
ช่วงหลายปีก่อนที่เขาจะเข้าวัฏจักรมานั้น เขาไม่เคยได้ดื่มด่ำกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบและสมบูรณ์เช่นนี้
เพียงแต่ชีวิตอันสงบสุขสบายใจเช่นนี้ไม่นานก็ถูกทำลายลง
วันนี้หลินสวินเพิ่งกลับมาจากสถานที่ฝึกปราณ ก็เห็นว่าใบหน้างดงามของชิงจู๋ซีดเผือด วิ่งมาแต่ไกลอย่างแตกตื่นทำอะไรไม่ถูก
“คุณชายสาม แย่แล้วเจ้าค่ะ คุณชายรอง… คุณชายรองเขาถูกทำลายพลังปราณไปแล้ว!” เสียงชิงจู๋เจือสะอื้น ใบหน้างามซีดเซียว ดวงตามีชีวิตชีวายังมีน้ำตาคลอเบ้า
ภาพซูชิงเฟิงออกจากตระกูล มุ่งหน้าไปเข้าร่วมงานประลองยอดยุทธ์ปรากฏขึ้นในสมองหลินสวิน…
เด็กหนุ่มท่วงท่าสง่างามองอาจ ใบหน้าหล่อเหลาดั่งหยก ขี่ม้าขาวจากไปอย่างรวดเร็ว โสภาได้ปานนั้น
แต่ตอนนี้พลังปราณของเขาจะถูกทำลายไปได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์