Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2161

สรุปบท ตอนที่ 2161 เด็กหนุ่มผู่เจิน กำลังภายในอันดับหนึ่งทั่วหล้า: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2161 เด็กหนุ่มผู่เจิน กำลังภายในอันดับหนึ่งทั่วหล้า – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2161 เด็กหนุ่มผู่เจิน กำลังภายในอันดับหนึ่งทั่วหล้า ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บนทางเดินโบราณฟ้าดารา ยิ่งเป็นสำนักที่เก่าแก่ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับการเคี่ยวกรำระดับกำลังภายใน

การฝึกปราณมหามรรค กำลังภายในคือจุดเริ่มต้น!

ใครก็ตามที่มีพรสวรรค์ ล้วนสามารถเข้าสู่ธรณีประตูระดับกำลังภายในได้ แต่ก็ใช่ว่าใครจะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบในระดับกำลังภายในได้

และรากฐานยิ่งแข็งแกร่ง มรรคาในภายหน้าก็ย่อมเดินได้ไกลยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

เวลานี้การต่อสู้ระหว่างหลินสวินกับฝูจั้นเจิน ก็สำแดงการต่อสู้ระดับกำลังภายในที่เรียกได้ว่าสะท้านโลก ทุกการเคลื่อนไหวทุกท่วงท่า ทุกกระบวนทุกวิชาของทั้งคู่ล้วนแฝงอานุภาพยิ่งใหญ่ ภายในบรรจุเจตจำนงที่ดุจเหล็กดั่งภูเขา อยู่นอกเหนือขอบเขตที่ทั่วหล้าจะสามารถคาดเดาได้อย่างสิ้นเชิง

ทว่ามองดูอย่างถี่ถ้วน ตั้งแต่ต้นจนจบพลังต่อสู้หลินสวินกดข่มการบุกโจมตีของฝูจั้นเจินอย่างมั่นคงตลอด

หนึ่งถ้วยชาให้หลัง

ปึง!

พร้อมๆ กับเสียงดังสนั่นสะเทือนฟ้าดิน หลินสวินซัดหมัดโจมตี ใช้อานุภาพบดขยี้ไร้เทียมทานกำราบฝูจั้นเจิน

ร่างของฝูจั้นเจินแตกกระจุย กลายเป็นละอองแสงล่องลอย หายไปกลางฟองคลื่นซัดโหมที่ดุจดั่งสายน้ำแห่งกาลเวลานั้น

หลินสวินถอนหายใจยาว แววตากระจ่าง

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ถึงขั้นยากเข็ญ แต่กลับทำให้หลินสวินตระหนักได้ ว่าในกาลเวลาไร้สิ้นสุดตั้งอดีตจนปัจจุบัน ก็เคยมีคนบรรลุขอบเขตมกุฎระดับกำลังภายในขั้นสมบูรณ์ซึ่งเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกับเขา

เหมือนอย่างฝูจั้นเจิน

เมื่อเทียบกันจริงๆ จิตใจ เจตจำนง และพลังของฝูจั้นเจินล้วนไม่ด้อยกว่าหลินสวิน

สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนกันก็อยู่ที่ มกุฎมรรคาที่ทั้งคู่เสาะแสวงหาแตกต่างกัน!

เพื่อจะฝึกระดับกำลังภายในอีกครั้ง หลินสวินใช้คัมภีร์เตาหลอมมหามรรคเคี่ยวกรำตนเอง ใช้คัมภีร์มรรคที่เรียกได้ว่าชั้นยอดหลายสิบวิชาเป็นกระจกสะท้อน ใช้เวลาสามเดือนกว่าจะเคี่ยวกรำระดับกำลังภายในขั้นหนึ่ง ‘กำหนดปราณ’ ให้ถึงขั้นสมบูรณ์ได้

จนกระทั่งตอนนี้ มรรควิถีกำลังภายในของตัวเขาแตกต่างจากมกุฎมรรคาในความหมายทั่วไปนานแล้ว

แต่จะสามารถเรียกได้ว่า ‘อดีตปัจจุบันไม่เคยมีมาก่อน’ หรือไม่ ยังต้องการการพิสูจน์อยู่

ครืน!

ฟองคลื่นม้วนตลบ เงาร่างสายหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นเด็กสาวชุดดำรัดรูป ทรวดทรงเรือนร่างเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ผมยาวมัดเป็นหางม้า ดวงหน้าเย็นเยียบ นัยน์ตาคมกริบดุจปลายมีด

ตอนที่นางก้าวเดิน กลิ่นอายต่อสู้คาวเลือดวูบหนึ่งคละคลุ้ง เห็นได้ชัดว่าดุดันหาใดเปรียบ

ฉื่ออิ๋ง!

ขอบเขตมกุฎระดับกำลังภายในขั้นสัมบูรณ์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีพลังต่อสู้ในระดับกำลังภายในเป็นอันดับแปด บรรลุขั้นสัมบูรณ์ของระดับนี้ตอนอายุสิบแปดปี…

นี่เป็นบุคคลที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นตำนานอีกคนหนึ่งในระดับกำลังภายใน หนำซ้ำยังเป็นผู้หญิง!

พรึ่บ!

ทันทีที่ปรากฏ ฉื่ออิ๋งก็ปลดปล่อยพลังโจมตี เงาร่างพริบไหว เหมือนดั่งดาบคมสีดำแถบหนึ่งกรีดผ่านฟ้ากว้าง กร้าวแกร่งไร้ทัดเทียม

หลินสวินไม่หลบไม่เลี่ยง โผเข้าใส่

ร่างเขาดั่งเตาหลอม นิพพานอยู่ในระดับกำลังภายใน ปลดปล่อยอยู่บนมกุฎมรรคา

ฉื่ออิ๋งแข็งแกร่งยิ่ง พลังโจมตีดุจสายฟ้า ดุกร้าวถึงขีดสุด ตอนที่ฝ่ามือโบกสะบัด ก็เหมือนปราณกระบี่แน่นขนัดเคลื่อนขวางหอบม้วน

ที่น่ากลัวที่สุดคือนิสัยดื้อดึงของนาง ทั้งที่ถูกหลินสวินกดข่มอยู่แท้ๆ แต่ยามสถานการณ์คับขันก็มักจะถูกนางขืนต้านเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งยิ่งยวด

แต่สุดท้ายนางก็แพ้อยู่ดี ถูกหลินสวินใช้ท่วงท่ากร้าวแกร่งกำราบ ซัดร่างแหลก

ฮูม!

ละอองแสงล่องลอย ฉื่ออิ๋งก็เลือนหายไปในสายน้ำแห่งกาลเวลาเช่นกัน

และเวลาเดียวกันนั้นหลินสวินก็สัมผัสได้ ว่าพลังที่เสียไปของตนคืนสู่จุดสูงสุดดังเดิมในชั่วพริบตา ภายใต้การปิดครอบของพลังระเบียบอันคลุมเครือระลอกหนึ่ง

ในใจเขากร่างจ่างแจ้งขึ้นมา

หากตนพ่ายแพ้ ทั้งหมดนี้ก็อาจจะจบลง

แต่หากตนชนะ ก็จะปรากฏคู่ต่อสู้ที่แกร่งขึ้นมาคนแล้วคนเล่า!

และไม่ผิดจากที่เขาคาดไว้ ไม่ทันไรในระลอกคลื่นซัดโหมนั้นก็ปรากฏเงาร่างอีกสายหนึ่ง…

ด้านนอกเขายอดยุทธ์

งานประลองยอดยุทธ์สิ้นสุดแล้ว ผู้แข็งแกร่งจากสี่ทิศแปดทางแยกย้ายจากไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณใกล้เคียงเขายอดยุทธ์ก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเงียบเชียบขึ้นมา

เฉียนอวี้หลิวยังคงรออยู่

เวลาผ่านไปสองวันแล้ว แต่หลินสวินยังไม่กลับออกจากเขายอดยุทธ์

‘ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะงานประลองยอดยุทธ์ครั้งไหน และไม่ว่าอันดับหนึ่งคนใดก็ตามที่เข้าสู่เขายอดยุทธ์ ต่างก็ย้อนกลับมาภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน แต่เขา…’

ในใจเฉียนอวี้หลิวอบอวลด้วยความหมองหม่น ‘เขาจากไปแล้วจริงๆ หรือ’

นางรู้ว่าหลินสวินเป็นผู้เข้าวัฏจักรคนหนึ่ง ช้าเร็วก็ต้องจากโลกใบนี้ไป

“องค์หญิงสาม ควรไปกันได้แล้ว” ผู้แข็งแกร่งของต้าเฉียนกลุ่มหนึ่งเดินมา

“พวกเจ้าไปเถอะ ข้าจะรออีกหน่อย”

เฉียนอวี้หลิวสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งก่อนตัดสินใจ

ไม่ทันไรเวลาก็ผ่านไปสามวันแล้ว

บริเวณใกล้ๆ เขายอดยุทธ์ยิ่งเงียบเชียบขึ้นเรื่อยๆ นอกจากผู้แข็งแกร่งที่มุ่งหน้ามาชื่นชมเขายอดยุทธ์แล้ว ก็เหลือแต่เฉียนอวี้หลิวคนเดียวที่ยังรออยู่

บนเขายอดยุทธ์ พลังระเบียบอันคลุมเครือแผ่ครอบ กาลเวลาดั่งสายน้ำ ระลอกคลื่นพวยพุ่งไหลหลั่ง

ตูม!

เงาร่างหลินสวินกวาดขวาง มือหนึ่งกดลงไป ซัดเด็กหนุ่มหล่อเหลาที่สวมชุดม่วงจนพ่ายแพ้ ฝ่ายหลังกลายเป็นละอองแสงปลิวลอย ถูกระลอกคลื่นกลบม้วนหายไป

นี่เป็นคู่ต่อสู้คนที่แปดที่หลินสวินเอาชนะได้!

ไม่กี่วันมานี้หลินสวินโจมตีบุคคลในตำนานที่ฝากชื่อไว้ในหมื่นกาลคนแล้วคนเล่าอย่างต่อเนื่อง

ตั้งแต่ฝูจั้นเจิน ฉื่ออิ๋งในตอนแรกสุด จนถึงไหวหนานจื่อที่อยู่อันดับเจ็ด กู่เต้าหุนอันดับหก จั๋วเจี้ยนเฉินอันดับห้า…

เรื่อยมาถึงจนอ๋าวซิงไฮ่อันดับสี่ หวังอู๋จี้อันดับสาม

‘ข้าถนัดทำไร่ทำนาที่สุด หลังจากเข้าสู่สำนักก็ช่วยดูแลเพาะปลูกวัตถุดิบวิญญาณนานาชนิด’

…ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นเสมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ฉายชัดอยู่ในหัว

เมื่อมองดูเด็กหนุ่มที่อยู่ไกลๆ คนนั้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือแม้แต่บุคลิก ก็ยังเหมือนถอดแบบมาจากศิษย์พี่ผู่เจิน!

ดังคาด ครู่ต่อมาหลินสวินก็เกิดปฏิกิริยาตอบสนอง ได้รู้ข้อมูลของเด็กหนุ่มคนนั้น

ผู่เจิน

ปราณระดับกำลังภายในขั้นสัมบูรณ์ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน พลังต่อสู้อันดับหนึ่งในระดับกำลังภายใน!

หลินสวินอดสูดหายใจสะท้านไม่ได้ ไหนเลยจะคาดคิด ว่าคนซื่อตรงที่ชอบใช้หมัดเอ่ยหลักการอย่างศิษย์พี่ผู่เจิน ดันเป็นผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งในระดับกำลังภายในตั้งแต่อดีตกาลสืบมา!

ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครบอกเรื่องนี้กับเขา

จากนั้นหลินสวินก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ในการประชันหมากครั้งใหญ่ครั้งนั้น ศิษย์พี่ผู่เจินถูกคนเรียกว่า ‘จักรพรรดิยอดยุทธ์’ อยู่ตลอด

ยอด มาจากความสามารถของเขา

ยุทธ์ มาจากพลังหมัดของเขา

ยอดยุทธ์สองคำนี้ ขนามนามจักรพรรดิ ชื่อเสียงสมฉายา!

ทว่าตอนนี้หลินสวินกลับพบว่า ฉายา ‘จักรพรรดิยอดยุทธ์’ ของศิษย์พี่ผู่เจินนี้ถึงกับมีที่มาอย่างอื่น!

ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน พลังต่อสู้อันดับหนึ่งในระดับกำลังภายใน!

ทันทีที่เด็กหนุ่มผู่เจินปรากฏตัวก็ลงมือตรงๆ

ตูม!

หมัดเรียบง่ายธรรมดาซัดออกมา มีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ที่มหามรรคถึงขีดสุดอยู่รำไร

หลินสวินไม่ทันตั้งตัวก็ถูกหมัดหนึ่งกระแทกจนซวนเซถอยล้ม เลือดลมทั่วร่างพลิกตลบระลอกหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังของหมัดนี้ ทั่วร่างเขาก็เลือดร้อนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง หัวเราะลั่นกล่าวว่า “ศิษย์พี่ผู่เจิน ในเมื่อพวกเราพานพบกันที่นี่ เช่นนั้นพวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องก็ลองดูสักตั้ง ว่าใครจะเป็นอันดับหนึ่งในระดับนี้กันแน่!”

ขณะพูดเขาเหยียดตัวขึ้น ซัดหมัดบุกสู้ เรียบง่ายถึงขีดสุดเช่นเดียวกัน นั่นเป็นจิตที่หวนคืนสู่ถิ่นเดิมหลังจากชะล้างฝุ่นผง ผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่างเต็มที่แล้ว

ตูม!

ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนโรมรัน พลังหมัดสู้พลังหมัด ต่างฝ่ายต่างพุ่งกระแทก ต่อสู้อยู่เหนือสายน้ำแห่งกาลเวลาที่ซัดโหมแห่งนี้

สถานการณ์ต่อสู้ไม่เคยมีมาก่อน

เวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้นหลินสวินบาดเจ็บสะบักสะบอม เลือดลมทั่วร่างพลิกม้วน ริมฝีปากยังมีคราบเลือดไหลออกมา

ขณะเดียวกันเงาร่างของเด็กหนุ่มผู่เจินก็ถูกซัดสะเทือนจนซวนเซ ประกายแสงพลิกวาบ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ร่างที่มีเลือดเนื้อ แต่เป็นพลังมหามรรคอย่างหนึ่ง ต่อให้บาดเจ็บสาหัสก็ไม่เหมือนกับคนทั่วไป

“มาอีก!”

หลินสวินส่งเสียงคำราม ลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่างรอบกาย ทั้งกายและจิตล้วนถูกจิตต่อสู้อันพลุ่งพล่านดั่งไฟโหมท่วมท้น บุกโจมตีเข้าไป ผงาดกร้าวและมั่นใจในตัวเอง

เหมือนกับก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว หลินสวินพูดกับศิษย์พี่รองจ้งชิว ว่าลูกศิษย์ไม่จำเป็นต้องสู้อาจารย์ไม่ได้

ศิษย์น้องก็ไม่จำเป็นต้องสู้ศิษย์พี่ไม่ได้!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์