เข้าสู่ระบบผ่าน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2163

ตอนที่ 2163 ตื่นรู้ในเมืองต้าเหลียง

กลางลมหิมะ เกี้ยวสมบัติห้อตะบึงด้วยความเร็ว ลากโดยสัตว์เขากวางสี่หัวขนเงางาม รูปร่างเหนือธรรมดา

การทับผ่านไปเช่นนี้ อย่าว่าแต่ขอทานที่อ่อนแอผอมโซคนหนึ่ง แม้แต่คนที่กำยำก็ต้องถูกทับตายเป็นแน่

บนท้องถนนละแวกใกล้เคียงเกิดเสียงร้องตกใจดังขึ้น เห็นสัตว์เขากวางตัวนั้นเหินทะยาน จะเหยียบบนตัวขอทานที่นอนอยู่กลางพื้นหิมะคนนั้น

ในจัวหงวะนี้เอง ระลอกคลื่นจิตวิญญาณอันแปลกประหลาดและน่าสะพรึงวูบหนึ่งก็แผ่ออกจากตัวขอทานคนนั้น

หงิง…

สัตว์เขากวางสี่หัวส่งเสียงร้องอย่างตกใจกลัวออกมา ราวกับหวาดผวายิ่งยวด

จากนั้นเสียงโครมครามหนึ่งดังขึ้น สัตว์เขากวางสี่หัวตัวนี้ก็หมอบร่วงอยู่ข้างถนนพร้อมกับเกี้ยวสมบัติ คนสัญจรแถวนั้นต่างอดกรีดร้องออกมาไม่ได้ หลบเลี่ยงกันอุตลุด

อลหม่านไปทั้งแถบ

ชายวัยกลางคนร่างกำยำที่บังคับเกี้ยวสมบัติพลิกตัวเบี่ยงหลบตั้งแต่แรก ตอนที่มองเห็นภาพนี้ก็อดตกใจระคนเดือดดาลไม่ได้ รีบพุ่งไปทางเกี้ยวสมบัติอย่างรวดเร็ว

“บัดซบ!” มีเสียงร้องด้วยความโมโหดังลอยออกมาจากเกี้ยวสมบัติ จากนั้นชายหนุ่มในชุดหรูหรา ผิวพรรณเนียนขาวก็ปีนขึ้นมาจากในนั้น

เขาหัวแตกเลือดไหล สีหน้าเดือดดาล “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“คุณชายอย่าได้ตกใจ เป็นเจ้าเด็กนั่นทำให้สัตว์เขากวางตกใจ”

ชายวัยกลางคนร่างกำยำกล่าว ดวงตาดุจสายฟ้าจับจ้องอยู่ที่บริเวณไกลออกไป

ที่ตรงนั้นขอทานที่ผอมแห้งยันตัวขึ้นมาจากพื้นหิมะ เสื้อผ้าตัวบางที่ขาดเก่าซอมซ่อเปื้อนโคลนหิมะเต็มไปหมด ดูแล้วน่าสังเวชหาใดเปรียบ

แต่เวลานี้ภายใต้ผมยาวที่ยุ่งรุงรังเหมือนหญ้าของเขา นัยน์ตาทั้งคู่กลับลุ่มลึกวาววับ

ตอนที่สายตาของชายวัยกลางคนร่างกำยำสบกับนัยน์ตาคู่นี้ หัวใจพลันสั่นระริกอย่างบอกไม่ถูก ทั่วร่างเริ่มเกร็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

ความรู้สึกนั้นก็เหมือนถูกเทพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดจับจ้อง จิตวิญญาณยังแทบพังทลาย!

“ยังมัวอึ้งทำอะไรอยู่ รีบไปฆ่าสิ!” เสียงคำรามดังสนั่นของชายหนุ่มชุดหรูหราดังขึ้น ทำเอาชายวัยกลางคนร่างกำยำตกใจได้สติ

ไกลออกไปเด็กหนุ่มขอทานหันตัวเดินไปไกลๆ แล้ว เงาร่างเล็กบางเดินท่ามกลางลมหิมะ

ทั้งที่ดูแล้วอนาถน่าเวทนาหาใดเปรียบ แต่ความรู้สึกที่ให้แก่ผู้คนกลับเสมือนเดินทอดน่องชมสวน มีความสบายและเป็นอิสระอย่างบอกไม่ถูก

ชายวัยกลางคนร่างกำยำสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เท้าเหยียบพื้นอย่างแรงคราหนึ่ง ทั่วร่างพลันพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศรที่ยิงออกจากสายธนู

“หยุดนะ!”

เขายื่นแขนขวาออกไป นิ้วทั้งห้าดุจตะขอ ปลดปล่อยปราณจิตผสานที่บาดตาออกมา ปั่นป่วนลมหิมะระฟ้า

เด็กหนุ่มขอทานขยับไหวเบาๆ คราหนึ่งก็หลบการโจมตีที่เปี่ยมพลังนี้ได้

และในจุดที่เขายืนอยู่แต่เดิมถูกลมฝ่ามือซัดเป็นหลุมใหญ่ หากการโจมตีนี้เป็นผล เด็กหนุ่มขอทานต้องตายไม่เหลือชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย

ชายวัยกลางคนร่างกำยำนัยน์ตาหดรัด เขาเป็นถึงยอดฝีมือ ‘ขั้นผสานดิน’ ที่เลื่องชื่อในเมืองต้าเหลียง แต่กลับพลาดต่อหน้าขอทานคนหนึ่ง!

และในเวลานี้ภาพเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อหนึ่งก็ปรากฏ

ห้วงอากาศบริเวณนั้นพลันเกิดเสียงดังอึงอลโดยมีเด็กหนุ่มขอทานเป็นศูนย์กลาง หิมะหนาที่ประหนึ่งขนห่านกลายเป็นฝุ่นผงแผ่วพลิ้ว ไอวิญญาณฟ้าดินที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาจากสี่ทิศแปดทาง

ครืน!

ไอวิญญาณดั่งระเบิด กลายเป็นวังน้ำวน

บนตัวเด็กหนุ่มขอทานที่หน้าเหลืองผิวติดกระดูก ผอมแห้งสูงโย่งคนนั้น ปรากฏอานุภาพอันกร้าวแกร่งขึ้น และเริ่มไต่ทะยานขึ้นเรื่อยๆ

ชายวัยกลางคนร่างกำยำอึ้งไป

ในสายตาของเขา ขอทานที่ลมหายใจรวยรินกลางลมหิมะถาโถมรอบด้านคนนี้ ในเวลานี้กลับเหมือนสัตว์ประหลาดบำเพ็ญที่ตื่นขึ้นจากความเงียบงันคนหนึ่งก็ไม่ปาน

เหยียบย่างเข้าธรณีประตูฝึกปราณในคราวเดียว!

และจากนั้นระดับขั้นพลังก็พุ่งทะยานขึ้นด้วยความเร็วน่าตกตะลึง กำหนดปราณ รากฐานมั่นคง เปิดองคาพยพ บรรจบช่องทาง ชำระล้างแกนจิต โลหิตเดือดพล่าน…

นี่เหมือนปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งชัดๆ

“บัดซบ ขอทานคนหนึ่งเท่านั้น ยังมัวลังเลอะไรยู่ รีบฆ่าเขาสิ!” เสียงคำรามของชายหนุ่มชุดหรูดังขึ้นอีกครั้ง เจือแววเดือดดาล

ชายวัยกลางคนร่างกำยำตั้งท่าจะพูดแต่ก็หยุดไป ภาพที่เรียกได้ว่าแปลกประหลาดและน่าสะพรึงตรงหน้าทำให้เขาตกใจอย่างสิ้นเชิง ไหนเลยจะกล้าบุ่มบ่าม

ตูม!

และเวลานี้บนตัวเด็กหนุ่มขอทาน หลังจากขั้นพลังไต่ทะยานพุ่งพรวดมาถึงระดับกำลังภายในขั้นเก้าขั้นสัมบูรณ์ ก็หายไปทันที

ยามเคลื่อนไหวน่าตื่นตะลึงดุจลมหิมะหอบอสนี

ยามสงบนิ่งดั่งบ่อน้ำโบราณสะท้อนแสงจันทร์

ลางลมหิมะระฟ้าพัดโบก เด็กหนุ่มขอทานดุจดั่งถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก ต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ร่างกายที่อ่อนแอผอมโซนั่นกำยำสูงโปร่ง ผิวที่มีรอยแตกเปลี่ยนเป็นชุ่มฉ่ำ เกลี้ยงเกลา ไหลเวียนด้วยพลังชีวิตเปี่ยมล้นประหนึ่งกระแสน้ำหลาก ทั่วร่างแผ่อานุภาพเลิศล้ำไร้โลกีย์อย่างหนึ่งออกมา ยืนอหังการกลางลมหิมะ!

ชายวัยกลางคนร่างกำยำเกือบจะอดขยี้ตาไม่ได้ สัมผัสทั่วร่างล้วนรู้สึกถูกสั่นคลอน ภาพเช่นนี้ไม่ใช่แค่สะท้านสะเทือนแล้ว

แต่เป็นน่าสะพรึง!

“หรงลี่! เจ้าได้ยินข้าพูดหรือไม่! ข้าบอกให้เจ้าฆ่าเขาซะ ฆ่าเขาสิ!”

ชายหนุ่มชุดหรูพุ่งออกมาจากไกลๆ โกรธจนตาแทบถลน เมื่อครู่เกี้ยวสมบัติพลิกคว่ำ ทำเอาเขาหัวแตกเลือดอาบ เพลิงโทสะกลางอกไร้ที่ให้ระบาย

ชายวัยกลางคนร่างกำยำยังลังเลไม่ลงมือ ยิ่งทำให้เพลิงโทสะของเขาลุกโชนเข้าไปใหญ่

เพียะ!

ชายหนุ่มชุดหรูเพิ่งเข้ามาก็ถูกฝ่ามือหนึ่งฟาดใส่ใบหน้า ตบจนแก้มบวมแดง ปากจมูกกบเลือด ล้มนั่งลงกับพื้นตรงๆ

เขาสีหน้าอึ้งงัน ยากจะทำใจเชื่อ

เพราะคนที่ตีเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นชายวัยกลางคนร่างกำยำ! ผู้คุ้มกันที่รับใช้ตระกูลพวกเขาคนหนึ่ง!

“เจ้า… เจ้าถึงกับกล้าตีข้าหรือ”

ชายหนุ่มชุดหรูยกมือกุมใบหน้า ทั้งร่างมึนตื้อ

“คุณชาย ครั้งนี้เป็นพวกเราทำผิดแล้ว”

ชายวัยกลางคนร่างกำยำกล่าว สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วประสานมือคารวะไปทางเด็กหนุ่มขอทาน “คุณชายท่านนี้ เมื่อครู่ล่วงเกินแล้ว โปรดอภัยให้ด้วย”

และในวันนั้น ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างตระกูลหม่าต่างเดือดดาล เคลื่อนย้ายยอดฝีมือมากมาย ประกาศจับตัวขอทานริมถนนทั่วทั้งเมือง

แต่ในชั่วขณะเดียวยังไม่สามารถสำเร็จเป้าหมายได้

หม่าเหวินเฮ่อที่เพลิงโทสะคับอกไร้ที่ระบาย ออกคำสั่งทันทีว่าจะฆ่าคนคุ้มกันหรงลี่เป็นการระบายแค้น

เหตุผลนั้นง่ายยิ่ง หรงลี่ตบเขาไปสองฉาด

นี่ก็คือวิธีการของลูกหลานผู้ทรงอิทธิพล

แต่สิ่งที่ทำให้หม่าเหวินเฮ่อประหลาดใจคือ หรงลี่ถึงกับหนีไปนานแล้ว…

เมืองต้าเหลียง ในเรือนพักแห่งหนึ่ง

“เจ้าเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง”

หลินสวินเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสะอ้านสะอาดทั้งตัว นั่งลงใต้ชายคา มองดูหิมะหนาที่ลอยร่วงแผ่วเบากองสะสมเป็นชั้นสีขาวหนาๆ อยู่ในเรือน

ข้างๆ กันชายวัยกลางคนร่างกำยำหรงลี่กล่าวอย่างขมขื่น “ใช่ฉลาดที่ไหน ก็แค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น จากนิสัยของหม่าเหวินเฮ่อย่อมไม่มีทางปล่อยข้าไปแน่…”

แขนขวาที่ถูกตัดทิ้งของเขาถูกพันไว้แล้ว แต่สีหน้ายังคงซีดขาวหาใดเปรียบ

จากนั้นหรงลี่สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวเสียงเบา “ตอนนี้ในเมืองกำลังประกาศจับคุณชาย แต่คุณชายวางใจพักอยู่ที่นี่ก็พอ”

จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยถาม “ข้าตัดแขนเจ้า ยิ่งเป็นเพราะข้าถึงทำให้เจ้าถูกหม่าเหวินเฮ่อสั่งไล่ล่า เจ้าไม่แค้นหรือ ข้าอยากฟังความจริง”

หรงลี่สีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง เนิ่นนานกว่าจะเค้นคำหนึ่งลอดไรฟันออกมา “แค้น!”

หลินสวินพยักหน้า

หรงลี่สีหน้าคล้ำเขียว กล่าวว่า “แต่เรื่องนี้ก็ทำให้ข้าตระหนักได้อย่างสิ้นเชิง ว่าในสายตาของคนตระกูลหม่า ข้าก็เป็นแค่บ่าวที่ไม่ได้มีความสำคัญคนหนึ่ง!”

“ข้าจะฝึกปราณในโลกนี้สักระยะ เจ้ายินดีติดตามอยู่ข้างกายข้าหรือไม่” หลินสวินเอ่ยถาม

หรงลี่อึ้งไป เด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้อายุแค่สิบห้าสิบหกปี เพิ่งมีปราณระดับกำลังภายในขั้นสมบูรณ์ แต่กลับมีอานุภาพไร้รูปอย่างหนึ่ง ดุจดั่งมังกรเร้นหุบเหว

แม้แต่เขาที่มีปราณขั้นผสานดินยังรู้สึกใจสั่นและเคารพยำเกรง

“ข้ายินดี!”

ใคร่ครวญเนิ่นนาน หรงลี่ถึงกัดฟันแน่นแล้วกล่าว

หลินสวินร้องอืมคราหนึ่ง กล่าวว่า “ตอนที่ข้าจากไปก็จะคืนอิสระแก่เจ้า ตอนนี้ข้าอยากรู้เรื่องราวบางอย่าง”

ร่างในตอนนี้ของเขาเป็นขอทานคนหนึ่ง ไม่รู้จักการฝึกปราณสักนิด และไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝึกปราณของโลกจิตผสานวิญญาณ

คิดอยากทำความเข้าใจโลกนี้โดยเร็วที่สุด มีแต่ต้องหาที่อยู่ในแวดวงการฝึกปราณ

ดังนั้นเขาจึงเก็บหรงลี่ไว้ข้างกาย

หรงลี่ไม่ได้ทำให้หลินสวินผิดหวัง ไม่ทันไรก็ตอบคำถามเรื่องที่หลินสวินถามทีละอย่าง และทำให้หลินสวินเข้าใจได้ว่าโลกจิตผสานวิญญาณนี้ ไม่มีเขายอดยุทธ์เหมือนอย่างโลกกำลังภายใน

แต่กลับมี ‘ทะเลสาบจิตผสาน’ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเขตต้องห้ามอันดับหนึ่งมาแต่โบราณ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์