ตอนที่ 2220 คันฉ่องสมบัติเร้นเทพ
เสวียนจิ่วอิ้นยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่าบนโลกนี้ถึงกับมีหญิงที่งดงามได้ถึงขั้นนี้ เหมือนเซียนที่มาเยือนโลกมนุษย์ แปลกแยกจากโลก ทำให้ผู้คนรู้สึกละอายในความต้อยต่ำของตน
โดยเฉพาะเมื่อถูกนัยน์ตาที่สุกใสดุจดวงดาราคู่นั้นของนางจ้องมอง ทำเอาเสวียนจิ่วอิ้นยังรู้สึกเหมือนหายใจติดขัด ทั้งที่อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่มีทางเดินเข้าใกล้นางได้ตลอดกาล
มองเห็นเสวียนจิ่วอิ้นที่สติหลุดล่องลอย ซย่าจื้อขมวดคิ้วเข้มดุจสีหมึก ดึงหมวกม่านปกปิดใบหน้าอีกครั้ง
คราวนี้เสวียนจิ่วอิ้นจึงคล้ายยกภูเขาออกจากอก พ่นลมหายใจเฮือกยาว เมื่อมองซย่าจื้อที่นั่งสงบนิ่งอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง สายตายังคงเหลือร่องรอยสะท้านสะเทือนและตราตรึงอยู่
“มิน่าพี่หลินถึงได้ใส่ใจเจ้าขนาดนั้น…”
เสวียนจิ่วอิ้นทอดถอนใจ ความงามของซย่าจื้อสามารถทำให้จิตใจผู้คนปั่นป่วนได้ชัดๆ ทำให้ผู้คนไม่กล้าเชื่อว่าบนโลกใบนี้จะมีความงามที่แปลกแยกดั่งเทพเซียนได้ปานนี้
“ดูท่าข้าเองก็นับว่างดงามอยู่เหมือนกัน”
และพร้อมกันนั้น ซย่าจื้อก็เอ่ยปากเหมือนยกภูเขาออกจากอกเช่นกัน
เสวียนจิ่วอิ้นอึ้งค้าง นี่ยังต้องถามอีกหรือ
“เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือว่าตัวเองงดงามเพียงใด” เขาถามอย่างจริงจัง
ซย่าจื้อพยักหน้า “หน้าตางดงามก็เอามากินแทนข้าวไม่ได้”
เสวียนจิ่วอิ้น “…”
ล้อเล่นอะไรกัน คนที่งดงามถึงเพียงนี้จะไม่รู้ว่าตนงดงามเพียงใดได้อย่างไรกัน
เขาชักเริ่มจะเสียจริตแล้ว
เนิ่นนานเสวียนจิ่วอิ้นสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวว่า “แม่นางซย่าจื้อ เคยได้ยินคำว่าสาวงามล่มเมืองสี่คำนี้หรือไม่”
ซย่าจื้อส่ายหน้า
ทั่วหน้าเสวียนจิ่วอิ้นมีแต่เส้นขีดสีดำ กล่าวว่า “เจ้าแค่จำเอาไว้ ไม่ว่าใครได้เห็นคนที่งดงามเช่นเจ้า จะต้องตามเกี้ยวเจ้าราวกับเสียสติเป็นแน่ ดังนั้นหากไม่จำเป็น ต่อไป… ก็อย่าให้ใครได้เห็นใบหน้าของเจ้าอีกจะดีกว่า หาไม่จะต้องเกิดหายนะครั้งใหญ่ชนิดล่มบ้านล่มเมืองขึ้นเป็นแน่”
ซย่าจื้อกล่าว “อ้อ”
เสวียนจิ่วอิ้นยังอยากกำชับอะไร เสวียนซั่งเฉินและผู้อาวุโสตระกูลเสวียนทั้งกลุ่มก็เดินเข้ามาในโถงใหญ่แล้ว
วันนี้ จะเป็นวันที่พวกหลินสวินมุ่งหน้าสู่แดนเจินหลง!
…
เหนือผืนฟ้าดารา
เสวียนซั่งเฉินและหลินสวินยืนเคียงไหล่กัน ด้านข้างยังมีซย่าจื้อ ต้าหวง เสวียนจิ่วอิ้น หลิงเคอจื่อยืนอยู่ด้วย
และสถานที่ไกลออกไปอีก เหล่าเฒ่าชราตระกูลเสวียนทั้งกลุ่มกำลังยุ่งง่วน เตรียมพร้อมเปิดเส้นทางเชื่อมสู่แดนเจินหลง
“แดนเจินหลง ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มดึกดำบรรพ์ก็แยกตัวออกจากทางเดินโบราณฟ้าดารา ในกาลเวลานับไม่ถ้วนนี้แม้จะมีทายาทเจินหลงไม่น้อยมุ่งหน้ามาทางเดินโบราณฟ้าดารา แต่ถ้าพูดกันอย่างจริงจัง แดนเจินหลงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของทางเดินโบราณฟ้าดาราตั้งนานแล้ว”
เสวียนซั่งเฉินบอกเล่าข้อมูลที่เกี่ยวกับแดนเจินหลงให้แก่หลินสวิน
ในแดนเจินหลงมีสิ่งมีชีวิตและเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนอาศัยอยู่เช่นเดียวกัน และเผ่ามังกรเจินหลงก็เป็นเผ่านายเหนือหัวเพียงหนึ่งเดียว
แดนเจินหลงมีทางเชื่อมที่สามารถทะลุไปยังรังหงส์เซียน ทวีปเต่าดำ ภูเขาเทพเสือขาว ขณะเดียวกันก็มีเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่อีกฟากฝั่ง
ไม่ว่าจะเป็นมังกรเจินหลง หงส์เซียน เต่าดำ เสือขาว ต่างเป็นเผ่าวิญญาณฟ้าประทานตามความหมาย รากฐานพลังน่าสะพรึงหาใดเปรียบ
จากที่เสวียนซั่งเฉินกล่าว ในระดับเดียวกัน ทายาทเจินหลงคนหนึ่งจะมีรากฐานพลังที่กร้าวแกร่งยิ่งยวด และมีเพียงผู้ฝึกปราณเผ่ามนุษย์ที่เหยียบย่างขอบเขตมกุฎเท่านั้นจึงจะพอต้านทานเขาได้บ้าง
และในเผ่าเจินหลง ว่ากันว่ายอดฝีมือดุจหมู่เมฆ ระดับจักรพรรดิถมเถ!
จักรพรรดิมังกรคนหนึ่ง ต่อให้ไม่ได้เหยียบย่างมกุฎมรรคา อาศัยเพียงพลังสายเลือด ก็มีพลังน่าสะพรึงที่สยบระดับจักรพรรดิรุ่นเดียวกันได้
แนะนำเรื่องของแดนเจินหลงจบ เสวียนซั่งเฉินก็เอ่ยเตือน “เจ้าไปแดนเจินหลงครานี้จะต้องระวังให้มากๆ เจ้าพวกเผ่าเจินหลงนั่น ไม่ว่าชราหรือเด็กล้วนหยิ่งผยอง ซ้ำยังเข้าข้างคนในเป็นที่สุด”
หลินสวินพยักหน้า เขาไปแดนเจินหลงครานี้มีสองจุดประสงค์ หนึ่งคือหาจ้าวจิ่งเซวียนให้พบ อีกหนึ่งคือไปสังหารหญิงชุดม่วงเหยี่ยนซิง
“เรียบร้อย! ผู้นำตระกูล เจ้าลงมือได้แล้ว!”
ไกลออกไปเสียงปลื้มปิติสายหนึ่งดังลอยมา ก็เห็นเฒ่าชราตระกูลเสวียนเหล่านั้นร่วมมือกัน ใช้พลังเกรียงไกรเหนือสุดเปิดประตูวังน้ำวนบานหนึ่งออกมา
เสวียนซั่งเฉินพยักหน้า ยื่นม้วนหยกม้วนหนึ่งให้หลินสวิน “นำสิ่งนี้ไปมอบให้กับผู้อาวุโสหญิงคนนั้นในห้องโถงมรรคาสวรรค์”
หลินสวินอึ้งไปก่อนถึงค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนอง ว่าคนที่เสวียนซั่งเฉินพูดถึงคือซี!
เพียงแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าผู้นำตระกูลเสวียนที่มีชีวิตอยู่ไม่รู้กี่กาลเวลาอย่างเสวียนซั่งเฉินยังเรียกขานซีว่าผู้อาวุโส ในใจหลินสวินก็อดรู้สึกแปลกพิกลขึ้นมาน้อยๆ ไม่ได้
เมื่อคิดดูแล้วก็ถูก ปีนั้นตอนที่เสวียนซั่งเฉินทะลวงบททดสอบในห้องโถงมรรคาสวรรค์ ยังเป็นแค่เด็กรุ่นเยาว์ที่ยังไม่ได้เป็นอริยะคนหนึ่งเท่านั้นใช่ไหมคุณไอรีน
และในตอนนั้น ซีก็เฝ้าอยู่หน้าประตูใหญ่ของห้องโถงมรรคาสวรรค์แห่งนั้นแล้ว!
“ในม้วนหยกบันทึกเบาะแสของความทรงจำและฐานะบางส่วนที่ผู้อาวุโสคนนั้นค้นหา หากนางได้เห็นน่าจะพอนึกอะไรขึ้นมาได้บ้าง”
เสวียนซั่งเฉินกล่าว
หลินสวินพลันตระหนักได้ถึงมูลค่าของม้วนหยกม้วนนี้ทันที ก่อนเก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง
“พวกเจ้าหลบไปหน่อย”
เสวียนซั่งเฉินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าพลันพวยพุ่งกลิ่นอายน่าสะพรึงที่ประหนึ่งทะลักฟ้าออกมา ทำเอาฟ้าดาราแถบนี้สั่นพล่าน ดังสนั่นดุจกระแสน้ำหลาก
พวกหลินสวินถอยหลีกไปไกลๆ
“ทะยาน!”
เสวียนซั่งเฉินตะโกนลั่น ด้านหลังของเขาปรากฏโลกแห่งหนึ่ง พาดขวางไร้สิ้นสุด สภาพดุจเวิ้งว้าง ไพศาลไร้ขอบเขต
ใจกลางของโลกมีจันทร์เพ็ญลอยเด่นทอแสงอยู่ดวงหนึ่ง
นี่คือโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ของเสวียนซั่งเฉิน ปรากฏพลังระเบียบโลกอันน่าสะพรึงไร้สิ้นสุดออกมา พลังบีบคั้นระดับนั้นทำให้ลมหายใจของหลินสวินยังติดขัด ในใจสะท้านสะเทือนไม่หยุด
‘เจ้าเฒ่ากระจอกนี่ถึงกับเป็นเหมือนนายท่าน เหยียบย่างมรรคสายนั้นแล้วเหมือนกัน!’
ดวงตาสุนัขของต้าหวงเบิกกว้าง ฉายแววสะท้าน
“ไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์