ตอน ตอนที่ 2285 บุกฆ่าออกนอกเมือง จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2285 บุกฆ่าออกนอกเมือง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 2285 บุกฆ่าออกนอกเมือง
เมฆาเคราะห์โหมกระหน่ำ กลิ่นอายด่านเคราะห์ต้องห้ามที่แผ่ออกมาแปลกประหลาดหาใดเปรียบ
ไม่รอให้หลินสวินตอบสนอง อสนีเคราะห์ที่เจิดจรัสยิ่งยวดกลายเป็นกระบี่เทพตกลงมาติดต่อกัน ทุกกระบี่ล้วนฟันไปทางโครงอาวุธที่ใกล้ก่อตัวเป็นรูปร่างในเพลิงมรรคอัศจรรย์นั้น
ตูม! ตูม! ตูม!
ชั่วพริบตาเพลิงมรรคอัศจรรย์ที่เหมือนเตาหลอมมีท่าทีว่าจะแตกซ่าน กระบี่เทพอสนีเคราะห์มากมายนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ เกินการคาดเดาของหลินสวินอย่างสิ้นเชิง
ที่สำคัญที่สุดคือการหลอมอาวุธของหลินสวินครั้งนี้ใช้มหามรรคแห่งตนเป็นกระบวน ใช้วิชาแห่งตนเป็นลายมรรค ในโครงอาวุธที่ใกล้จะควบรวมออกมานั้น เท่ากับหลอมมรรควิถีทั้งตัวของเขาไว้
ยามนี้เมื่อเจอด่านเคราะห์ย่อมทำให้หลินสวินถูกสะท้อนกลับเช่นกัน จิตใจของร่างต้นและกายมรรคทั้งห้าราวกับถูกพลังดุจเขาถล่มสมุทรคำรามจู่โจม
แค่ชั่วขณะหลินสวินก็กระอักเลือดออกมา
แต่เขาเหมือนไม่รับรู้อะไร ควบคุมเพลิงมรรคอัศจรรย์อย่างเอาเป็นเอาตาย สำแดงกระบวนค่ายกลลายมรรคอย่างต่อเนื่อง หลอมโครงอาวุธออกมา
สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่เรื่องพวกนี้เท่านั้น
ตูม!
พลังของเมฆาเคราะห์น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมแล้ว กลายเป็นสายฟ้าและประกายอสนีที่บาดตาอย่างยิ่ง แผ่กลิ่นอายประหนึ่งสิ่งต้องห้าม ทิ้งตัวถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง
นี่พาให้คนสิ้นหวัง ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่ยังไม่ก่อตัวเป็นรูปร่างชิ้นหนึ่ง กลับชักนำด่านเคราะห์ที่เรียกได้ว่ายากพบเห็นตั้งแต่อดีตกาลเช่นนี้มาให้ หากเรื่องนี้กระจายออกไปเกรงว่าคงไม่มีใครกล้าเชื่อ
หลินสวินไม่อาจคิดมากความ แววตาเขาเด็ดเดี่ยวเจือความคลุ้มคลั่ง ทุ่มเทกายใจทั้งหมดไปกับการหลอมอาวุธ ต้านอสนีเคราะห์ที่ยิ่งทวีความน่ากลัวนั้น
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจยอมให้การหลอมอาวุธครั้งนี้ล้มเหลว!
ไม่มีทาง!
แต่ตามเวลาที่ล่วงเลย พลังของอสนีเคราะห์นั้นกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าไม่มีจุดสิ้นสุด เมื่อถูกถล่มเช่นนี้ ไม่ใช่แค่เพลิงมรรคอัศจรรย์และโครงอาวุธซึ่งไม่เป็นรูปร่างนั้นที่มีสัญญาณว่าจะพังทลาย แม้แต่สีหน้าของหลินสวินก็ซีดเผือดขึ้นเรื่อยๆ มุมปากหลั่งเลือดไม่หยุด
“ไปช่วยเขา”
ในส่วนลึกที่สุดของโลกทะเลเพลิงที่อยู่ใต้แดนลับ ไข่ยักษ์ที่อบอวลด้วยเพลิงเทพหงส์ไฟไร้สิ้นสุดนั้นมีเสียงต่ำลึกเลือนรางหนึ่งดังออกมา
จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงที่อยู่ด้านข้างอึ้งไป “หากไม่มีพลังของข้า ในช่วงสุดท้ายที่เจ้าตื่นจากนิพพาน เป็นไปได้สูงว่า…”
“ช่วยเขา” เสียงต่ำลึกเลือนรางนั้นดังออกมาจากไข่ยักษ์อีกครั้ง เผยนัยไม่ยอมให้ปฏิเสธ
จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางกล่าว “เพราะมารดาของเขาคือลั่วชิงสวินใช่ไหม ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าตั้งใจไว้แล้ว เช่นนั้นข้าก็จะทุ่มสุดตัว หลอมอาวุธให้เขา!”
ครู่ต่อมาเงาร่างแดงเพลิงของนางก็กลายเป็นเปลวไฟที่มีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์เหมือนไอแรกกำเนิด โผทะยานออกไป
ตูม!
อสนีเคราะห์สายหนึ่งผ่าลงมาอีกครั้ง กลายเป็นค้อนอสนีเต้าหนึ่ง เปล่งประกายอสนีสีเทาบาดตา
มาถึงตอนนี้เตาหลอมที่วิวัฒน์จากเพลิงมรรคอัศจรรย์แตกร้าวแล้ว สามารถพังทลายได้ตลอดเวลา ทำให้คนอดเป็นห่วงไม่ได้ว่ามันจะต้านการโจมตีนี้อยู่หรือไม่
อันที่จริงหลอมอาวุธมาถึงตอนนี้ หลินสวินก็จนปัญญาแล้ว ได้แต่ฝืนทนไว้
ในเวลานี้เอง
เพลิงเทพงามตระการเจิดจ้าแถบหนึ่งปรากฏกลางอากาศ ชิงตัดหน้าค้อนอสนีเคราะห์เต้านั้น โผเข้าไปในเตาหลอมที่วิวัฒน์จากเพลิงมรรคอัศจรรย์
ตูม!
เพลิงเทพโหมกระหน่ำ ค้อนอสนีที่แผ่กลิ่นอายประหลาดชวนประหวั่นนั้นถึงกับถูกเผาในพริบตา
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัด เสียงของจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงดังขึ้นข้างหู ‘เจ้าจดจ่อกับการหลอมอาวุธให้เต็มที่ ด่านเคราะห์นี้ข้าช่วยเจ้าต้านทานเอง!’
พลันเห็นว่าเพลิงมรรคอัศจรรย์เหมือนมีเทพช่วย คลื่นอัคคีไร้สิ้นสุดพวยพุ่ง พราวตาแผดจ้า เจิดจรัสไร้ขอบเขต
ต้องรู้ว่าร่างเดิมของจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิง เดิมทีก็เป็นเพลิงมรรคฟ้าประทานของเตามารดาหลอมสมบัติ เวลานี้ยามเสริมทัพช่วยเพลิงมรรคอัศจรรย์หลอมอาวุธ อานุภาพมีหรือจะธรรมดา
หลินสวินใจสะท้าน จดจ่อกับการวางกระบวนและหลอมโครงอาวุธโดยไม่ลังเล
ครืน…
เมฆาเคราะห์พลิกตลบ ปลดปล่อยอสนีเคราะห์ซัดสาด แต่ทันทีที่ทิ้งตัวลงมาก็ถูกพลังของจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงต้าน หลังจากพลังด่านเคราะห์นั้นถูกสลาย ทั้งหมดยังซึมซาบเข้าไปในเพลิงมรรคอัศจรรย์ด้วย ทำให้ความเร็วในการหลอมอาวุธของหลินสวินพลันยกระดับขึ้นอีกช่วงใหญ่
เวลาสั้นๆ แค่หนึ่งถ้วยชาเท่านั้น โครงอาวุธชิ้นหนึ่งก็ถูกหลอมจนเสร็จ!
มันรูปร่างคล้ายเตาหลอมใบหนึ่ง มีสามขาสองหู ลักษณะเหมือนเตาหลอมที่วิวัฒน์จากรูปจำลองเจตจำนงในห้วงนิมิตของหลินสวินเกือบทุกประการ
บนเรือนเตานั้นประทับกระบวนค่ายกลมหามรรคนานัปการ ในเตาหลอมกลับพรั่งไปด้วยสัญลักษณ์ลายมรรคที่วิวัฒน์จากวิชาทั้งปวง
แม้ว่ายังเป็นแค่ต้นแบบ แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนว่าคงอยู่มาตั้งแต่ต้นบรรพกาล เต็มไปด้วยกลิ่นอายอมตะที่อัศจรรย์ยากบรรยาย
แน่นอนว่าตอนนี้ยังเป็นแค่ต้นแบบ รูปลักษณ์ที่แท้จริงยังต้องรอให้หลอมเสร็จจึงจะปรากฏอย่างชัดเจน
ยามนี้หลินสวินไม่กล้าประมาทแต่อย่างใด จิตใจจมอยู่กับการหลอมอาวุธอย่างสมบูรณ์ หลงลืมตัวตน ไม่มีความคิดฟุ้งซ่านอีกเพียงเสี้ยว
ตามเวลาที่ล่วงเลย ต้นแบบโครงอาวุธนั้นก็ปรับเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องทีละน้อย เผยความอัศจรรย์นานัปการออกมา…
…
เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิง กระบวนผนึกลายมรรคส่งเสียงกึกก้อง เมืองอันดับหนึ่งของแดนหงส์เซียนที่เก่าแก่และกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ เวลานี้กำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง
นอกเมือง ระดับจักรพรรดิห้าสิบคนของเผ่าเสือขาวและเต่าดำเปิดฉากการโจมตีรอบด้าน ภายใต้คำสั่งของบรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่น
เพียงชั่วขณะก็เห็นวิชามรรคราวกระแสน้ำ สมบัติจักรพรรดิดุจสายฝน สาดแสงศักดิ์สิทธิ์พร่างพรายหาใดเปรียบ บุกจู่โจมเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงด้วยอานุภาพมืดฟ้ามัวดิน
โครมครืน…
กระบวนค่ายกลผนึกที่ปกคลุมรอบเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงส่งเสียงกัมปนาท ดังกระหึ่มครั่นครืนดุจอสนีบาต พลิกม้วนดั่งกระแสน้ำหลากหมายทำลายล้างม้วนกลืน ก่อให้เกิดแสงเทพล้นฟ้า
ภาพนี้เรียกได้ว่าชวนประหวั่นอย่างไม่ต้องสงสัย
“แย่แล้ว พวกเขากำลังพังกระบวนค่ายกล!” สัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพคนหนึ่งที่ควบคุมและโคจรกระบวนค่ายกลใหญ่ในเมืองร้องเสียงหลง
เพียงชั่วขณะทุกคนต่างหน้าเปลี่ยนสี
ทำลายกระบวนค่ายกลใหญ่!
เหตุการณ์ที่พวกเขาไม่อยากเห็นที่สุดเกิดขึ้นแล้ว!
“ฆ่าคนพังกระบวนค่ายกลทิ้งก็สิ้นเรื่อง”
ต้าหวงเอ่ยปาก แววตาล้ำลึก มันอยากลิ้มรสชาติของเสือขาวและเต่าดำจนทนไม่ไหวแล้ว
“ไม่ได้ หากออกไปเข่นฆ่านอกเมืองมีแต่จะยิ่งเสี่ยง!” คนมากมายต่างห้ามปราม
“อันตราย?” ต้าหวงกล่าวเยาะเย้ย “ข้าว่าพวกเจ้าระวังตัวเกินไปแล้ว ช่างเถอะ ข้าไปฆ่าศัตรูเพียงลำพังก็พอ”
ส่วนการตอบสนองของซียิ่งตรงไปตรงมา ไม่กล่าวอันใด พุ่งตรงไปยังจุดที่กำแพงเมืองใกล้ถูกทำลายซึ่งอยู่ห่างไกลนั้น
ซย่าจื้อกับต้าหวงเห็นดังนี้ก็ไล่ตามไปโดยไม่ลังเล
“เหลวไหล! พวกเขาคิดจริงหรือว่าพวกเราใจเสาะ นี่พวกเราหวังดีกับพวกเขานะ!” มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนกล่าวอย่างเดือดดาล
“หัวหน้าเผ่า รีบขวางพวกเขาเร็วเข้า ถ้าพวกเขาเกิดเหตุอะไรไป คงให้คำตอบกับหลินสวินนั่นลำบากแล้ว”
มีคนกล่าวเตือนอย่างร้อนรน
แต่ไม่รอให้หวงชางเทียนเปล่งเสียง ซี ซย่าจื้อ ต้าหวงก็พุ่งออกไปนอกเมืองแล้ว
“พวกเขา…”
ทุกคนเห็นดังนี้แล้วทั้งร้อนรนทั้งเกิดโทสะ นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังก่อกวนเช่นนี้อีก ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ไม่ใช่ว่าต้องให้พวกเขาเผ่าหงส์เซียนเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยหรือ
ขณะเดียวกันที่นอกเมืองก็มีเสียงโห่ร้องยินดีเหมือนฟ้าผ่าดังขึ้น
“ออกมาแล้ว! ในที่สุดพวกเต่าหดหัวนั่นก็นั่งไม่ติดแล้ว!”
“เร็วเข้า ฆ่าพวกเขาซะ!”
“ฮ่าๆๆ คนของเผ่าหงส์เซียนตายเรียบแล้วรึ ถึงได้ส่งผู้หญิงสองคนกับหมาหนึ่งตัวออกมาหาที่ตาย”
เมื่อเห็นภาพนี้ บรรพจารย์จักรพรรดิวั่นหลิวและบรรพจารย์จักรพรรดิเฉียนอิ่นต่างเผยรอยยิ้มถากถางอย่างอดไม่ได้ ยามคนเราถูกบีบจวนตัว เรื่องโง่เขลาอะไรล้วนทำได้จริงๆ!
เมื่อเห็นภาพนี้ สีหน้าของพวกหวงชางเทียนต่างปรวนแปรไม่หยุดไปพักหนึ่ง
หวงชางเทียนพลันสูดหายใจลึกแล้วออกคำสั่ง “ช่างเถอะ เตรียมการช่วยเหลือให้พร้อมสรรพ ไม่ว่าอย่างไรสหายยุทธ์สามคนนี้ก็สู้เพื่อเผ่าหงส์เซียนของพวกเรา อย่าให้พวกเขาประสบเคราะห์เช่นนี้… หืม?”
แต่ยังพูดไม่ทันจบ นอกเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!
……………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์