Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2288

สรุปบท ตอนที่ 2288 แสงเคราะห์ดับมรรค: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2288 แสงเคราะห์ดับมรรค จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2288 แสงเคราะห์ดับมรรค คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2288 แสงเคราะห์ดับมรรค

ผู้อาวุโสห้ามีนามว่าหวงชางไห่

สาเหตุที่ทุกคนตกตะลึงและเดือดดาลถึงขั้นไม่มีอะไรยิ่งกว่า เป็นเพราะหวงชางไห่คือน้องชายแท้ๆ ของหวงชางเทียน!

แต่เห็นได้ชัดว่าหวงชางไห่ก็ทรยศแล้ว ทั้งทันทีที่ลงมือก็ตัดหัวเลี่ยนชิงฉีด้วย

เลี่ยนชิงฉีไม่ใช่แค่ปฐมาจารย์สลักลายมรรคที่ชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้าคนหนึ่ง ปัจจุบันกระบวนค่ายกลผนึกของเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงนี้ก็ต้องควบคุมและโคจรโดยเลี่ยนชิงฉี

เมื่อเขาตาย เมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงก็ตกอยู่ในอันตราย!

“เจ้าสวะ!”

หวงชางเทียนโกรธจนเส้นเลือดเขียวปูดโปน ชักกระบี่ติดตัวออกมา เงื้อเตรียมจะตัดหัวหวงชางไห่ แต่กลับถูกผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ขัดขวางและห้ามปราม

“หัวหน้าเผ่าไม่ได้นะขอรับ บางทีผู้อาวุโสห้าอาจถูกศัตรูควบคุม ไม่เป็นตัวของตัวเอง!”

หวงชางเทียนถูกขวาง แต่หวงชางไห่กลับเหมือนทุ่มสุดตัว ส่งเสียงหัวเราะลั่น “พี่ใหญ่ ท่านตัดคอข้าสิ ถึงอย่างไรเผ่าหงส์เซียนของพวกเราก็จะดับสิ้นในมือท่าน ตายเร็วหรือตายช้าจะต่างอะไรกัน”

“เจ้า…” หวงชางเทียนไอสังหารพลุ่งพล่าน โกรธจนจะระเบิด ดวงตาคั่งโลหิต

ทัพใหญ่ของศัตรูประชิดเมือง เดิมทีสถานการณ์ก็ล่อแหลมอันตราย แต่เวลานี้ในเผ่าของพวกเขากลับเกิดเภทภัย นี่คือเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกเมืองพวกไป๋หลิงเจินกับอู่ซิวสิงต่างหัวเราะขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและดูถูก

กองทัพใหญ่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาก็หัวเราะ เสียงหัวเราะดังก้องฟ้าดินเหมือนกระแสน้ำ

ในเมืองผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์เซียนและเผ่าจักรพรรดิช่างเทพ สีหน้าแต่ละคนล้วนอึมครึมจนประหนึ่งจะมีน้ำหยดออกมา โกรธจนสั่นไปทั้งตัว

“หนอนบ่อนไส้กับคนทรยศ มักจะน่าชังกว่าศัตรู”

ต้าหวงถอนหายใจ “หากเป็นอย่างที่ข้าพูด พวกเขากล้าไปช่วยศัตรูโดยไม่สนแม้แต่ชีวิต ทำไมไม่ให้พวกเขาสมปรารถนา สำเร็จโทษพวกเขาซะ?”

“ไม่ได้!”

หลายคนคัดค้าน เชื่อว่าการทรยศของหวงโหย่วเต้าและหวงชางไห่ต้องมีสาเหตุอื่นแน่ มีโอกาสสูงว่าจะเป็นการกระทำที่ควบคุมตัวเองไม่ได้

หวงชางเทียนก็เผยความลังเลและดิ้นรน

ต้าหวงแค่นเสียงเย็นชาแล้วกล่าวเสียงขรึม “ศัตรูแข็งแกร่งอยู่เบื้องหน้า หากไม่ฆ่าพวกเขาสองคนให้กองพลสบายใจ ไหนเลยจะมีขวัญกำลังใจไปต้านการโจมตีของศัตรู”

คนมากมายต่างถลึงตามองต้าหวง นี่คือเรื่องของพวกเขาเผ่าหงส์เซียน มีหรือจะยอมให้คนนอกออกความเห็น

ฟุ่บ!

พลันเห็นหวงชางเทียนสะบัดกระบี่ ยามทุกคนไม่ตอบสนองก็ตัดหัวของหวงชางไห่แล้ว เลือดสีสดสาดกระเซ็นไปทั้งตัว

ทุกคนต่างอึ้งงัน นี่เป็นถึงน้องชายแท้ๆ ของหัวหน้าเผ่า แต่กลับถูกหัวหน้าเผ่าสังหารด้วยตัวเอง!

“ไม่ว่าจะเป็นใคร โจรทรยศล้วนสมควรตาย!”

หวงชางเทียนใบหน้าไร้ความรู้สึก แววตาเยียบเย็นจนน่ากลัว มองไปยังผู้อาวุโสสามหวงโหย่วเต้า “ข้าคร้านจะถามเหตุผลแล้ว ตั้งแต่พริบตาที่พวกเจ้าทรยศก็สมควรตายแล้ว!”

“เจ้า… ทำไมเจ้าถึงกล้า…” หวงโหย่วเต้าเองก็ตาค้าง เดิมเขาคิดว่าฉากจบที่เลวร้ายที่สุดก็แค่ถูกกำราบกักขัง ใครจะคิดว่าเวลานี้หวงชางเทียนกลับเลือดเย็นไร้ปรานีเช่นนั้น

ฟุ่บ!

แสงกระบี่ส่องประกาย หวงโหย่วเต้ายังพูดไม่ทันจบก็ถูกฆ่าตายคาที่ ก่อนตายบนสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและยากจะเชื่อ

“ในช่วงความเป็นตาย ข้าไม่อยากใช้กระบี่ในมือฟันคนในเผ่าของตัวเองอีก” หวงชางเทียนสีหน้าเรียบเฉย มีความน่าเกรงขามที่สะกดข่มผู้คนอย่างหนึ่ง

เวลานี้คนในเผ่าหงส์เซียนและเผ่าจักรพรรดิช่างเทพล้วนสั่นสะท้าน

ตูม!

ทันใดนั้นกระบวนค่ายกลผนึกรอบเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงพลันสั่นสะเทือน ที่แท้กองทัพใหญ่ของเผ่าเสือขาวและเต่าดำที่อยู่นอกเมืองก็เปิดฉากจู่โจมใหม่อีกครั้งแล้ว

ไป๋หลิงเจินและอู่ซิวสิงต่างนำสัตว์ประหลาดเฒ่าในเผ่าลงมือพร้อมกัน ระดับจักรพรรดินับร้อยคนออกศึก อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาราวกับธารสวรรค์ทลายเขื่อนแตก ทำให้ฟ้าดินพังทลาย สรรพสิ่งดับมอด!

กระบวนค่ายกลผนึกที่ปกคลุมรอบเมืองจักรพรรดิหมื่นเพลิงถูกโจมตีจนม้วนซัดอย่างรุนแรง เหมือนจะพังทลายได้ตลอดเวลา

ไม่มีเลี่ยนชิงฉีควบคุม เลี่ยนจิ่วเซียวกับสัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าจักรพรรดิช่างเทพลงมือพร้อมกันก็ได้แต่คงสภาพการโคจรของกระบวนค่ายกลผนึกเท่านั้น

สีหน้าของพวกเขาต่างร้อนรนขึ้นมา พากันเอ่ยปาก “ใต้เท้า ใกล้ยืนหยัดไม่อยู่แล้ว!”

หวงชางเทียนสีหน้าวูบไหวไม่หยุด ครู่ใหญ่จึงเอ่ยถาม “ลูกหลานรุ่นเยาว์ในเผ่า เตรียมพร้อมรับมือแล้วใช่หรือไม่”

ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน

“เช่นนั้นก็ช่างปะไร”

เวลานี้หวงชางเทียนเหมือนจะทุ่มสุดตัว กล่าวด้วยสีหน้านิ่งสงบ “ความหวังหนึ่งเดียวของพวกเราอยู่ที่ใต้เท้าบรรพชน ทุกท่าน ยินดีสู้สุดชีวิตไปถึงตอนท้ายพร้อมข้าหรือไม่”

“ยินดี!”

ทุกคนตอบรับสนั่นหวั่นไหว สีหน้าเด็ดเดี่ยว

หวงชางเทียนหัวเราะร่า “ดี! วันนี้กระดูกเฒ่าอย่างพวกเราจะสู้ให้เต็มที่ ยอมตายดีกว่าก้มหัว!”

น้ำเสียงเจือความองอาจผ่าเผยหาใดเปรียบ

แต่เสียงที่โจมตีเมืองนั้นกลับกระชั้นถี่ยิ่งกว่าเดิม ส่งเสียงกึกก้องราวอสนีบาต เพิ่มความกดดันที่พาให้คนสิ้นหวังเหมือนเสียงบรรเลงกระชากวิญญาณ

สายตาหวงชางเทียนมองไปยังพวกซีพลางกล่าว “สหายยุทธ์ทั้งสามเชิญกลับไปที่ร้านช่างเทพ แนวป้องกันสุดท้ายได้แต่มอบให้พวกเจ้าจัดการแล้ว”

เนื่องจากมีผู้ทรยศ เวลานี้หวงชางเทียนถึงขั้นไม่กล้าเชื่อคนในเผ่าที่อยู่ข้างกายพวกนั้นได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

“ยอมพลีชีพจริงหรือ” ซีเอ่ยถาม

หวงชางเทียนยิ้มกล่าว “ทำไมจะไม่ได้”

นัยน์ตากระจ่างของซีกวาดมองไปนอกเมืองพลางกล่าว “ระดับจักรพรรดิที่อยู่นอกเมืองแม้มีมากนับร้อยคน แต่คนที่อยู่ในระดับบรรพจารย์จักรพรรดิกลับมีแค่สิบเก้าคนเท่านั้น ขอแค่จัดการสิบเก้าคนนี้ได้ การต่อสู้นี้พวกเขาต้องแพ้แน่”

ทุกคนได้ยินแล้วพลันตกตะลึง แน่นอนว่าพวกเขาก็รู้ว่าสิ่งที่ซีพูดถูกต้องที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือ…

“ไป!”

หวงชางเทียนพาเฒ่าดึกดำบรรพ์ของเผ่าหงส์เซียนทั้งหมดพุ่งออกไปนอกเมืองพร้อมกัน

เลี่ยนจิ่วเซียวรวมถึงผู้อาวุโสทั้งหมดของเผ่าจักรพรรดิช่างเทพกลับอยู่ต่อ โคจรและควบคุมกระบวนค่ายกลผนึกในเมืองอย่างเต็มกำลัง

“โจมตีออกมาแล้วหรือ”

ไป๋หลิงเจินประหลาดใจ

“สุนัขถูกบีบจนตรอกแล้ว ได้แต่พูดว่าพวกเขารู้อยู่ว่าต้องแพ้ถึงได้ดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย”

อู่ซิวสิงยิ้มเฉยชากล่าว

แม้จะพูดเช่นนี้ การตอบสนองของทั้งสองล้วนไม่เชื่องช้า ถึงขั้นตั้งแต่พริบตาแรกที่พวกซีปรากฏตัวก็ถูกพวกเขาจับจ้อง!

ตูม!

ศึกใหญ่ปะทุขึ้นโดยไม่ต้องห่วงกังวลสักนิด ทำให้ฟ้าดินแถบนั้นตกอยู่ในความปั่นป่วน แสงมรรคโหมกระหน่ำเจือศาสตราจักรพรรดินานัปการม้วนกลืนฟ้าดิน แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายเรืองรองระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง ภาพนั้นราวกับมหันตภัยวันสิ้นโลกมาเยือนจริงๆ

ขณะเดียวกัน

ร้านช่างเทพระดับหนึ่งหมายเลขหนึ่ง ภายในแดนลับ

อสนีเคราะห์ส่งเสียงกัมปนาท ฟาดผ่าลงมาเหมือนน้ำตกทางช้างเผือก คล้ายว่าหากไม่ทำลายศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่ยังไม่หลอมออกมานั้นก็จะไม่เลิกรา

จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงที่ร่างเดิมหลอมรวมกับเพลิงมรรคอัศจรรย์ เวลานี้ก็รู้สึกกดดันมาก ถึงขั้นว่ายามช่วยหลินสวินหลอมอาวุธ ก็ต้องต้านเคราะห์สวรรค์ไปพร้อมกันจนได้รับบาดเจ็บ!

“เคราะห์นี้… น่าหวาดกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร”

เวลานี้จักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็ไม่อาจสงบใจ เมื่อนานมาแล้วนางเคยเห็นด่านเคราะห์ที่เตามารดาหลอมสมบัติเคยได้รับยามหลอมเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนกับตาตนเอง

ตอนนั้นเตามารดาหลอมสมบัติไม่อาจไม่พลีชีพ ถึงปกป้องเก้าศาสตราจักรพรรดิแห่งคุนหลุนจากด่านเคราะห์ได้

แต่อานุภาพของมหาเคราะห์ในตอนนั้น ไม่น่ากลัวเท่าด่านเคราะห์ที่หลินสวินประสบยามหลอมอาวุธในตอนนี้!

ไม่ใช่แค่อานุภาพที่แข็งแกร่งกว่า ถึงขั้นแปลกประหลาดหาใดเปรียบด้วยซ้ำ เหมือนว่าหากไม่ทำลายสมบัตินี้ ด่านเคราะห์นี้ก็จะไม่ยอมสิ้นสุด

หลินสวินในตอนนี้ก็สีหน้าจริงจังเป็นประวัติการณ์ ใบหน้าซีดเผือดจนแทบโปร่งแสง

การหลอมอาวุธมาถึงช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานครั้งสุดท้ายแล้ว แต่เนื่องจากถูกอสนีเคราะห์นั้นขวางไม่หยุด โครงอาวุธที่หลอมเสร็จนานแล้วในเพลิงมรรคอัศจรรย์จึงไม่อาจแปรสภาพในก้าวสุดท้ายให้สำเร็จ

ตูม!

ทันใดนั้นส่วนลึกของเมฆาเคราะห์ มีเสียงกัมปนาทที่ผิดแผกจากปกติดังขึ้น พลันเห็นแสงเคราะห์ขมุกขมัวสายหนึ่ง เปล่งแสงต้องห้ามแปลกประหลาดค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นมา

เมื่อมองไปจักรพรรดิวิญญาณหมื่นเพลิงก็ตกใจจนขนพองสยองเกล้า กล่าวเสียงหลง “นี่… หรือว่าจะเป็นแสงเคราะห์ดับมรรคในตำนาน”

………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์