Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2303

สรุปบท ตอนที่ 2303 มหาสมุทรเลือดไร้สงบ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2303 มหาสมุทรเลือดไร้สงบ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2303 มหาสมุทรเลือดไร้สงบ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2303 มหาสมุทรเลือดไร้สงบ

สามปีก่อนทั้งเมืองรุ้งขาวมีขุมอำนาจหอวิหคทองแดงควบคุม

แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนเดิมแล้ว

ภายในเมือง ผู้แข็งแกร่งสำนักโบราณจรัสเทพยังกล้าส่งเสียงเหิมเกริมอย่างเปิดเผย ออกประกาศจับคนของหอวิหคทองแดงที่หลบอยู่ในเมือง มองเป็นเศษเดน

เพียงคิดก็รู้ว่าในโลกมืดตอนนี้ เกรงว่าสถานการณ์ของหอวิหคทองแดงจะเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีไปนานแล้ว

หลินสวินสบตากับต้าหวงแล้วตามไปอย่างเงียบๆ

ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง

สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่หักพังแถบหนึ่งตั้งอยู่

ในเรือนหนึ่งในนั้นมีพลังผนึกที่ยากจะสังเกตเห็นปกคลุมอยู่

“ใต้เท้า กำลังที่กระจายอยู่ในโลกมืดของพวกเราหอวิหคทองแดง ต่อให้เก็บงำซ่อนตัวมานานแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าสำนักโบราณจรัสเทพกับแดนกษิติครรภ์ไม่คิดจะเลิกรา สองปีนี้กำลังพลที่ซ่อนตัวเหมือนกับพวกเรา ขอเพียงถูกพบเข้าก็จะถูกโจมตีทำลายล้าง!”

หญิงงามในชุดม่วงคนหนึ่งกังวลใจนัก “อีกทั้งข้าก็ได้ข่าวมาว่าสำนักโบราณจรัสเทพปิดล้อมเมืองรุ้งขาวแล้ว ข้ากังวลว่าอีกไม่นานศัตรูจะมาหาเราถึงที่!”

รอบๆ มีผู้แข็งแกร่งหอวิหคทองแดงยืนอยู่มากมาย ต่างสีหน้าแปรเปลี่ยนไม่อาจสงบในยามนี้

“ใต้เท้า พวกเราจากไปดีกว่าไหม” หลายคนเอ่ยปากเสนอ สายตามองไปที่คนผู้หนึ่ง

คนผู้นั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาคร่ำเคร่ง ร่างกายผอมบางคนหนึ่ง มีนามว่าสวินโยว มีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิขั้นสาม

หากเป็นแต่ก่อน สวินโยวก็คือเจ้าเมืองเมืองนี้ ครองอำนาจเบ็ดเสร็จ อิทธิพลขจรไกล

แต่สองปีมานี้กลับเหมือนจอกแหนไร้ราก ทำได้เพียงหลบซ่อนเหมือนหนู อกสั่นขวัญแขวน ไม่เป็นอันกินอันนอนทุกวันคืน!

“หนีหรือ โลกมืดที่กว้างใหญ่ ตอนนี้ต่างถูกกำลังพลของสำนักโบราณจรัสเทพกับแดนกษิติครรภ์ควบคุม ต่อให้พวกเราหนีไปจากที่นี่แล้วจะหนีไปที่ไหนได้”

สวินโยวเสียงขมขื่น ขมวดคิ้วแน่น

ตูม!

ก็ในตอนนี้เองพลันมีเสียงโครมครามดังขึ้น พลังผนึกที่ปกคลุมโดยรอบถูกจู่โจมอย่างรุนแรง สั่นสะเทือนไม่หยุด

ขณะเดียวกันเสียงตวาดหนึ่งก็ดังขึ้น

“เศษเดนของหอวิหคทองแดง พวกเจ้าถูกล้อมแล้ว!”

“รีบออกมารับความตายซะ!”

“เสนอหน้าออกมา!”

……

พวกสวินโยวต่างหน้าเปลี่ยนสี เพียงรู้สึกเหมือนฟ้าถล่ม คิดไม่ถึงว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะมาเร็วปานนี้

ยามนี้สวินโยวเหมือนตัดสินใจได้ กัดฟันเอ่ยเสียงเหี้ยมว่า “อีกเดี๋ยวข้าจะเปิดเส้นทางเลือดให้พวกเจ้า หนีได้เท่าไรก็เท่านั้น!”

ทุกคนต่างเศร้าใจและโกรธเคืองอย่างอดไม่ได้

นึกย้อนถึงแต่ก่อน พวกเขาหอวิหคทองแดงมีฐานะเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืด จะคิดได้อย่างไรว่าจะถูกปฏิบัติเช่นนี้

“ใต้เท้า พวกเราทนรับวันคืนที่อกสั่นขวัญแขวนเช่นนี้มาพอแล้ว ที่ท่านพูดเมื่อกี้ไม่ผิด ต่อให้หนีไปตอนนี้ แต่จะหนีไปไหนอีกได้ คราวนี้พวกเราก็จะสู้กับพวกเขา!”

หญิงชุดม่วงแววตาคลุ้มคลั่ง คล้ายหมายจะพุ่งออดไป

คนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้า

ในเมื่อหนีไม่ได้ ก็ขอตายจากการสู้สุดชีวิตดีกว่า!

วันคืนที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องหลบหนีไปทั่วเช่นนี้พวกเขาทนมาพอแล้ว!

สวินโยวกำหมดทั้งสองแน่น ความอัดอั้นและคับแค้นอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นในใจ กำลังจะพูดอะไร

ตูม!

กระบวนผนึกที่ปกคลุมรอบเรือนพังสะเทือนเลื่อนลั่นแล้ว

ห้วงอากาศทั้งบนล่างนอกเรือนมีเงาร่างท่าทางฮึกเหิมมากมายยืนอยู่ ต่างเป็นผู้สืบทอดที่มาจากสำนักโบราณจรัสเทพ

เมื่อเห็นผู้แข็งแกร่งหอวิหคทองแดงหลายสิบคนอย่างพวกสวินโยว เสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียวก็ดังขึ้นทันที แววตาเผยความโหดร้ายอำมหิต

ประหนึ่งจับเหยื่อได้ฝูงหนึ่ง!

ชายชุดดำรูปร่างบึกบึนที่เป็นหัวหน้าโบกมือตะโกนว่า “จำไว้ ปล่อยไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย บั่นหัวมันให้หมด เอาศพแขวนไว้เหนือประตูเมืองให้เป็นตัวอย่าง!”

พวกสวินโยวล้วนเดือดดาล หลังจากตัดหัวยังจะเอาศพไปแขวนไว้เหนือประตูเมืองอีกหรือ

นี่เป็นการลบหลู่พวกเขาคนของหอวิหคทองแดงโดยสมบูรณ์!

“ฆ่า!”

ผู้แข็งแกร่งสำนักโบราณจรัสเทพที่ฮึกเหิมยิ่งเหล่านั้นร้องตะโกน พากันออกเคลื่อนไหว พุ่งเข้าไปในเรือนเหมือนตาข่ายบังฟ้า

“ไปสู้กับพวกมันเลย!”

สวินโยวคำราม ดวงตาลุกวาว

แต่ก็ในตอนที่พวกเขาคิดจะลงมือ กลับมีเสียงแค่นหัวเราะหนึ่งดังขึ้นในที่นั้น

จากนั้น…

ผู้แข็งแกร่งสำนักโบราณจรัสเทพที่พุ่งโจมตีมาเหล่านั้นต่างตัวแข็งทื่อ เงาร่างระเบิดกลางห้วงอากาศกระจายทั้งหมด ฝนเลือดสาดกระเซ็นดุจน้ำพุ

แดงฉานน่าหวาดหวั่น

พวกสวินโยวล้วนตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง เสียงแค่นหัวเราะครั้งเดียวเท่านั้น แต่กลับสังหารผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพเกือบสามสิบคนได้!

ไม่ว่าพลังปราณจะสูงหรือต่ำ ล้วนตายคาที่ตรงนั้น!

ภาพนองเลือดเช่นนี้ทำให้พวกสวินโยวยังรู้สึกเหนือจริง ราวกับฝันไป

“ใคร!?”

“ต้าหวง กลับแดนอำพรางก่อน”

ในที่สุดหลินสวินก็ตัดสินใจ เขากังวลว่าเป็นไปได้สูงยิ่งที่แดนอำพรางจะเกิดเรื่องเช่นกัน

ต้าหวงก็คิดถึงจุดนี้อย่างเห็นได้ชัด รับปากโดยไม่ลังเล

……

แคว้นพาดประจิมเป็นหนึ่งในสามสิบสามแคว้นของโลกมืด มีหอวิหคทองแดงซึ่งเป็นหนึ่งในสามยักษ์ใหญ่แห่งโลกมืดควบคุม

ในอาณาเขตแคว้นพาดประจิมมีมหาสมุทรโหมคลั่งสีเลือดแห่งหนึ่งนามว่า ‘มหาสมุทรเลือดไร้สงบ’ ถูกคนท้องที่ขนานนามให้เป็น ‘แดนมรณะ’ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้แข็งแกร่งที่เขามาในมหาสมุทรนี้แทบจะไปไร้หวน มีแต่ตายไม่เหลือรอด!

ลือกันว่าส่วนลึกของมหาสมุทรเลือดไร้สงบมี ‘วิญญาณร้ายดึกดำบรรพ์’ ที่น่าสะพรึงยิ่งยวดจำศีลอยู่ กล่าวกันว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่แปลงมาจากไอแค้นหลังจากที่ระดับจักรพรรดิร่วงหล่น ผ่านการแปรสภาพมาไม่รู้กี่วันคืน วิญญาณร้ายดึกดำบรรพ์เหล่านั้นต่างแปรเปลี่ยนเป็นน่าครั่นคร้ามถึงที่สุด

แดนอำพรางที่ถูกมองว่าเป็นแดนต้นกำเนิดของเรือนเร้นหมอก ก็ตั้งอยู่ในแดนลับที่อยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรเลือดไร้สงบแห่งนั้น

สองวันผ่านไป

หลินสวินกับต้าหวงมาถึงริมฝั่งมหาสมุทรเลือดไร้สงบ

คลื่นทะเลถาโถม ซัดฟองคลื่นสีเลือดเป็นระลอก เวิ้งฟ้าล้วนถูกย้อมด้วยสีแดงดั่งโลหิต ดูแปลกประหลาดน่าครั่นคร้าม ลมทะเลน่าหวาดหวั่นพัดมา ปะปนไปกับไอพิฆาตดุร้ายเป็นสายๆ

ตอนนั้นยามมายังแดนอำพรางเป็นครั้งแรก หลินสวินก็ได้พบจักรพรรดิยุทธ์เมี่ยฉยงผีขี้เหล้ากับต้าหวงที่นั่งเรือลำน้อยมาที่นี่

“หืม?”

ทันทีที่มาถึงริมฝั่งมหาสมุทรเลือดไร้สงบแห่งนี้ หลินสวินกับต้าหวงก็สังเกตได้ทันทีว่าริมฝั่งแห่งนี้มีกลิ่นอายระดับจักรพรรดิที่แข็งแกร่งยิ่งมากมายซุ่มอยู่!

กลิ่นอายระดับจักรพรรดิเหล่านี้กระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ปกคลุมฟ้าดินแห่งนี้ไว้โดยสมบูรณ์ราวกับแหฟ้าตาข่ายดิน

ไม่ว่าใครปรากฏตัวที่นี่ก็จะถูกพวกเขาสังเกตเห็นทันที!

“เป็นสวะเฒ่าแดนกษิติครรภ์กับสำนักโบราณจรัสเทพ!” ต้าหวงสีหน้าอึมครึมหาใดเทียบ สังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจ

ศัตรูปักหลักอยู่ใกล้ทางเข้าแดนอำพรางแล้ว เช่นนี้ในแดนอำพรางตอนนี้จะถูกโจมตีเช่นไร

“พวกเขาปักหลักอยู่ที่นี่ พิสูจน์ได้เพียงว่าด้วยกำลังของพวกเขายังไม่อาจพิชิตแดนอำพรางได้โดยสมบูรณ์ นี่ก็ถือเป็นข่าวที่ไม่เลวนัก”

หลินสวินรีบเอ่ย

“จักรพรรดิสงครามคำรน!?”

“หมาชั่วตัวนี้ปรากฏตัวแล้ว!”

“เจ้าคนที่อยู่ข้างหมาชั่วนั่นเหมือนจะเป็น… หลินเต้ายวนหรือ”

เสียงเซ็งแซ่ระลอกหนึ่งดังขึ้น ที่ตามมาติดๆ คือระดับจักรพรรดิซึ่งซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงเหล่านั้นต่างกระโจนออกมา มีถึงสิบกว่าคน กลิ่นอายน่ากลัวคับฟ้าอบอวลไปทั้งร่าง

ฟ้าดินแห่งนี้สั่นระรัว สิบทิศต่างหวาดหวั่น บรรยากาศกดดัน

พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับจักรพรรดิที่มาจากแดนกษิติครรภ์และสำนักโบราณจรัสเทพต่างสังเกตหลินสวินกับต้าหวงอย่างฉงน คล้ายคิดไม่ถึงว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ อีกฝ่ายจะถึงกับใจกล้ามาปรากฏตัวที่นี่!

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์