ตอนที่ 2314 การปะทะของพลังระเบียบ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2314 การปะทะของพลังระเบียบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2314 การปะทะของพลังระเบียบ
บรรพจารย์จักรพรรดิที่เพิ่งเดินออกจากประตูภูเขา ฉายาว่า ‘หนิงเจิน’ เป็นผู้อาวุโสชั้นสูงสามของสำนักโบราณจรัสเทพ เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิต มรรควิถีทั่วร่างเทียมฟ้าครอบปฐพี อานุภาพสุดหยั่ง
ยามสัมผัสถึงกรงเล็บสุนัขใหญ่ยักษ์ที่ตะปบเข้ามาก็อดแค่นเสียงไม่ได้ เบื้องหน้าปรากฏแสงมรรคแถบหนึ่ง พลุ่งพล่านดั่งมหาสมุทร เข้าปะทะตรงๆ
ตูม!
หน้าประตูภูเขาประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลาย ละอองแสงสาดกระเซ็น
เงาร่างบรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจินวูบไหวเล็กน้อย นัยน์ตาหดรัดอย่างอดไม่ได้ “จักรพรรดิสงครามคำรน เจ้าถึงกับก้าวสู่ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิแล้วหรือ”
ขณะพูดแขนเสื้อเขาโบกพลิ้ว โซ่ตรวนดุจมังกรทองตัวใหญ่สองเส้นพุ่งทะยานออกมา สิ่งที่ประทับบนโซ่ตรวนล้วนเป็นกฎเกณฑ์ระดับบรรพจารย์ที่แน่นขนัดเจิดจ้า กลิ่นอายทำลายล้างสะท้านโลก
ตรวนนรกทองคำ!
ศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของบรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจิน หลอมเป็นอาวุธวิญาณแล้ว ลือกันว่าสามารถพันธนาการจักรวาล กักขังหมื่นวิญญาณ ละทิ้งมหามรรคได้
“บรรพจารย์จักรพรรดิหรือ สายตาอะไรกัน ข้าจวนจะฝ่าทะลวงระดับนี้ไปอยู่แล้ว!”
กลับเห็นต้าหวงหิ้วกระบองยักษ์กระดูกขาวเล่มหนึ่งฟาดลงอย่างแรง เสียงดังตึง ตรวนนรกทองคำสั่นสะเทือนพลิกม้วน สะเก็ดไฟสาดกระเซ็น
พลังโจมตีของต้าหวงกร้าวแกร่ง แสงมรรคทั่วร่างก้องสะท้อน กระบองกระดูกขาวชี้ฟ้าฟาดปฐพี ดุดันเผด็จการ กดดันจนบรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจินแทบเงยหน้าไม่ขึ้นไปชั่วขณะ ได้แค่เข้าต้านเป็นฝ่ายตั้งรับ
เขาตกตะลึงไม่หาย
ตั้งแต่อดีตจนบัดนี้ หอวิหคทองแดงสามารถยืนอยู่ในอันดับสามยักษ์ใหญ่ในโลกมืดได้ หัวใจของสำนักนี้ไม่ได้อยู่ที่มีระดับจักรพรรดิแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน และไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีการกระจายตัวของขุมอำนาจมากน้อยเท่าไร
แต่อยู่ที่มีเจ้าหอวิหคทองแดงอยู่
คนผู้เดียว ดุจดั่งนายเหนือหัวผู้ไร้ศัตรู ค้ำยันเวิ้งฟ้า!
และเท่าที่บรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจินรู้ นักรบแกนหลักที่แท้จริงของหอวิหคทองแดงมีเพียงห้าคน จักรพรรดิสงครามคำรนเป็นแค่หนึ่งในนั้น นอกจากนี้ในภาพจำของคนทั่วหล้า หมาขนทองที่เจ้าหอวิหคทองแดงเก็บมาเลี้ยงตัวนี้ก็อยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นแปดปลายยอดมาโดยตลอด
ทว่าตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจินกลับพบว่า สิ่งที่คนทั่วหล้าลือกันเชื่อถือไม่ได้สักนิด!
หมาขนทองที่ยโสโอหังและเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายตัวนี้ มีรากฐานพลังน่าสะพรึงในระดับบรรพจารย์จักรพรรดินานแล้วชัดๆ!
โครม!
การต่อสู้ยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
ในพื้นที่ต่อสู้อีกด้านหนึ่ง หลินสวินยังคงครอบครองข้อได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ ใช้ท่าทีกวาดล้างบดขยี้สังหารระดับจักรพรรดิคนแล้วคนเล่า เลือดสดสาดพรม เสียงร้องโหยหวนคับฟ้า
ในที่นั้นระดับจักรพรรดิที่แต่เดิมมีจำนวนสิบเก้าคน ตอนนี้เหลือเพียงสามคน!
“หลินเต้ายวนตัวดี จักรพรรดิสงครามคำรนตัวดี ถึงขั้นกล้าโร่มาอาละวาดที่สำนักโบราณจรัสเทพของข้า คร้านจะมีชีวิตอยู่แล้วชัดๆ!”
ทันใดนั้นเสียงเย็นเยียบที่เดือดดาลหาใดเปรียบสายหนึ่งดังก้องเวิ้งฟ้า ก็เห็นบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงที่หล่อเหลาราวเด็กหนุ่มพาระดับบรรพจารย์จักรพรรดิสองคนซึ่งเพิ่งออกด่านเดินออกมาจากประตูภูเขา
แต่ละคนกลิ่นอายล้วนน่าสะพรึงท่วมฟ้า ก่อกวนเมฆลม
“ศิษย์น้องอวิ๋นจิว ศิษย์น้องเล่อหรง พวกเจ้าไปช่วยหนิงเจินสังหารจักรพรรดิสงครามคำรน”
บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงออกคำสั่ง
สวบ! สวบ!
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผู้อาวุโสชั้นสูง’ สองคนก็ลงมือฉับพลัน
คนหนึ่งสวมชุดนักพรตลายสน หน้าตาเคร่งขรึม ครอบครองประทับมรรคอสนีเพลิง ฉายาบรรพจารย์จักรพรรดิอวิ๋นจิว
อีกคนสายตาเย็นเยียบดุจสายฟ้า บนตัวสวมชุดเกราะ ผมเคราปลิวไสว ถือง้าวใหญ่สีดำดั่งเทพสงครามที่กรำศึกทั่วหล้า ฉายาบรรพจารย์จักรพรรดิเล่อหรง ผลงานการศึกชั่วชีวิตนับไม่ถ้วน
ทั้งคู่ล้วนเป็นระดับบรรพจารย์ ทันทีที่เข้าร่วมการต่อสู้ก็มอบความกดดันยิ่งยวดมาให้ต้าหวง และทำให้บรรพจารย์จักรพรรดิหนิงเจินที่ถูกกดข่มลอบถอนใจโล่งอก
“หลินเต้ายวน วันนี้เจ้าต้องตาย!”
และขณะเดียวกันเงาร่างบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงก็พริบไหว โผล่มาอยู่ตรงหน้าหลินสวิน ฝ่ามือดุจกรงเล็บ พุ่งเข้าบีบคอหลินสวินอย่างแรง
ตูม!
ลำพังแค่อานุภาพที่ปลดปล่อยออกจากตัวเขาก็กดข่มจนห้วงอากาศแถบนั้นระเบิดเป็นเสี่ยงๆ หลินสวินที่อยู่ภายใต้อานุภาพเช่นนี้ยังหายใจสะดุด
และก็เป็นเวลานี้ เงาร่างอรชรของซีพลันปรากฏท่ามกลางละอองแสงสาดกระเซ็น สลายการโจมตีนี้ของบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงได้อย่างง่ายดาย
ในเสียงปะทะสนั่นหวั่นไหว เงาร่างบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงโงนเงน ก่อนจะโผล่ไกลออกไปสองสามพันจั้ง แววตาเย็นเยียบ จ้องซีที่ปรากฏตัวกลางอากาศ “เจ้าก็คือหญิงที่สังหารบรรพจารย์จักรพรรดิขู่เซิงแห่งแดนกษิติครรภ์ตายเช่นนั้นหรือ”
“คูหมิง ต้าซวีข้าก็เป็นคนฆ่าเอง” ซีเอ่ยเสียงเย็นเยียบเรียบเรื่อย
บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงสายตาวาบวาว กล่าวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “น่าเสียดาย ในอาณาเขตสำนักโบราณจรัสเทพของข้า แม้เจ้าจะแข็งแกร่งปานใดก็ต้องประสบเคราะห์แน่นอน”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงก็โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
บรรทัดหยกเล่มหนึ่งผุดลอยเหนืออากาศ บนบรรทัดหยกสลักอักษรมรรคเรียบง่ายสองคำว่า ‘นำมรรค’ เมื่อมันปรากฏตัว เหนือท้องฟ้าแถบนั้นพลันมีพลังระเบียบต้องห้ามอุบัติขึ้นแถบหนึ่ง ดุจดั่งเมฆาเคราะห์ดำทะมึนร่วงหล่นลงมา รินรดเข้าสู่บรรทัดหยกเล่มนี้
ชั่วอึดใจอานุภาพของบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงพลันเปลี่ยนไป ประหนึ่งกลายร่างเป็นเทพเหนือสุด ควบคุมพลังแห่งระเบียบ อานุภาพสะท้านทั่วหล้า!
นี่คือพลังระเบียบ!
ใช้บรรทัดหยกเป็นตัวนำ หยิบยืมพลังระเบียบต้องห้ามที่แผ่ครอบเหนือฟ้าดารานั่น!
กลับเห็นหลินสวินและซีสบตากันปราดหนึ่ง แม้ในแววตาจะมีแววแปลกไป แต่กลับไม่ตื่นตระหนก
หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เผชิญหน้ากับอานุภาพเช่นนี้ทั้งคู่ต้องเผ่นหนีทันควันแน่นอน เหมือนอย่างครั้งแรกที่บุกเข้าแดนวังมังกร ยามเผชิญหน้ากับพลังระเบียบที่ผู้อาวุโสประหัตวิญญาณควบคุมยังไม่อาจไม่หลบหนี
ทว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่กลัวนานแล้ว!
ก็เห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมหาใดเปรียบ
การที่สามารถหยิบยืมพลังระเบียบต้องห้ามได้เป็นที่พึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ทว่าตอนนี้เมื่อพลังระเบียบที่ซีครอบครองปรากฏขึ้น ทำให้ข้อได้เปรียบทั้งหมดที่เขามีไม่เหลือแล้ว!
ซีไม่ใช่คนชอบพูดมาแต่ไหนแต่ไร เงาร่างนางขยับไหว กระตุ้นทวนศึกที่แปรสภาพมาจากพลังระเบียบเล่มนั้นโจมตีเข้าไป
ละอองแสงดุจดั่งมายาเกี่ยวถักทอรอบตัวนาง แพรวพราวงดงามประหนึ่งเทพเซียนบนฟากฟ้า และฝีมือต่อสู้ของนางก็เรียกได้ว่าดุกร้าวไร้ทัดเทียม
ชั่วอึดใจก็ทำเอาบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงบาดเจ็บสาหัส!
ท่วงท่างามสง่าไร้ใครเทียบเช่นนั้น ทำให้หลินสวินยังเลื่อมใสในใจไม่หาย
“เจ้าหนู อย่ามัวแต่ชมดูการต่อสู้แล้ว รีบมาเสริมทัพเร็ว!” ไกลออกไปเสียงตะโกนอึมครึมของต้าหวงดังขึ้น
มันกำลังถูกบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนล้อมกรอบ ตกอยู่ในสภาพตั้งรับ
หลินสวินร้องอ้อคราหนึ่ง ร่างกายพริบไหวเคลื่อนย้าย ก่อนกระตุ้นเตากระบี่โจมตีเข้าไป
ไม่ว่าใครเห็นภาพนี้เกรงว่าคงคิดว่าหลินสวินบ้าไปแล้ว นั่นเป็นถึงการต่อสู้ระหว่างระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ ระดับจักรพรรดิขั้นสี่คนหนึ่งพรวดพราดเข้าไป ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตายชัดๆ
อันที่จริงบรรพจารย์จักรพรรดิทั้งสามคนอย่างหนิงเจิน อวิ๋นจิว เล่อหรงก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ในสายตาพวกเขามีแต่แววเหยียดหยันและดูแคลนต่อการเข้าร่วมของหลินสวิน
แต่เมื่อเบื้องหน้าหลินสวินมีแสงมรรคกาลเวลาขาวโพลนอุบัติออกมาแถบหนึ่ง ฟ้าดินนี้ดุจดุ่งจมสู่ความเงียบไปชั่วขณะ
การเคลื่อนไหวของพวกเขาล้วนแข็งค้างทั้งหมด
ปึง!
และเป็นยามนี้ที่ต้าหวงควงกระบองกระดูกขาวฟาดลงมาอย่างแรง ร่างบรรพจารย์จักรพรรดิอวิ๋นจิวพลันแตกระเบิดทันที ถูกฟาดกระจุยทั้งเป็น เลือดเนื้อและวิญญาณล้วนถูกบดขยี้สิ้นซาก!
สองบรรพจารย์จักรพรรดิที่เหลือหวาดผวา หน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?
“ฆ่า!”
สถานการณ์ที่ถูกล้อมกรอบถูกทำลายลง ทำให้อานุภาพต้าหวงดุดันหาใดเปรียบ อหังการยิ่งยวด ไล่ทุบตีสองบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างหนิงเจินและเล่อหรงทันที
และในเวลานี้ เสียงอู้อี้ของบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงดังขึ้นจากไกลๆ เขาอยู่ในสภาพร่างแหลก ถูกซีกำราบในการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
“ไป!” ในเวลานี้บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงตัดสินใจโดยไม่ลังเล ถอยทัพออกมาเพื่อรักษาชีวิตไว้ก่อน
หนิงเจินและเล่อหรงต่างก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ โดยเฉพาะภาพร่วงหล่นของบรรพจารย์จักรพรรดิอวิ๋นจิวก่อนหน้านี้กระเทือนจิตใจพวกเขานานแล้ว ทำเอาพวกเขาตกใจกลัว
เวลานี้พวกเขาก็ไม่กล้ายึดติดกับการต่อสู้อีก รีบถอนตัวถอยออกมา
“เสี่ยวอู่ ตาเจ้าลงสนามแล้ว!” แต่ในขณะเดียวกันหลินสวินก็เอ่ยขึ้นเสียงดังลั่น
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์