Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2333

ตอนที่ 2333 คนแปลกหน้าที่คุ้นเคย

ตูม!

ทางเข้าตาน้ำพุราวกับเปลี่ยนเป็นน้ำวนพายุ ซัดมิติกาลเวลาปั่นป่วนบ้าคลั่ง

เงาร่างของหลินสวินหายไปในส่วนลึกของตาน้ำพุก่อนหนึ่งก้าว จึงหลีกเลี่ยงภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ ไม่เช่นนั้นหากถูกกระแสกาลเวลาปั่นป่วนม้วนเข้าไป ต่อให้แข็งแกร่งอย่างบรรพจารย์จักรพรรดิก็จะถูกทึ้งจนแหลกละเอียดในชั่วพริบตา

ครู่ใหญ่หลังจากนั้นบริเวณตาน้ำพุจึงคืนสู่ความสงบ เพียงแต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ พลังกาลเวลาที่วนเวียนอยู่บริเวณนั้นเห็นได้ชัดว่าอ่อนแอลงเล็กน้อย…

ดาราเคลื่อนคล้อย ฟ้าดินหมุนเวียน

หลินสวินรู้สึกเพียงร้อนผ่าวไปทั้งตัว ถูกห่อหุ้มเคลื่อนย้ายอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ตรงหน้าเต็มไปด้วยเงาแสงที่บิดเบี้ยวหลากหลายสีสัน

ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่

เงาร่างของหลินสวินถึงค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบ การรับรู้ที่ตอนแรกพร่าเบลอก็ค่อยๆ กลับมาชัดเจน

ใจเขาไหวกระตุก พลันสังเกตเห็นว่าชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดเหมือนกลายเป็นผลึก โปร่งแสงเป็นประกาย ภายในมีพลังแห่งกาลเวลาที่ทรงพลังหาใดเปรียบพลุ่งพล่านอยู่

ความรู้สึกเช่นนั้น เหมือนในขวดใสใบหนึ่งเต็มไปด้วยกระแสน้ำ…

ถึงขั้นทำให้หลินสวินเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่ง ว่าชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดที่หิวโหยในที่สุดก็ได้อิ่มท้องมื้อหนึ่งแล้ว

เพียงแต่ทั้งที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เสมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเช่นนั้นทำให้หลินสวินตระหนักได้ทันที

บางทีหลังจากชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดหลอมพลังแห่งกาลเวลาที่กลืนกินไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ก็จะเกิดการแปรสภาพครั้งที่สาม!

ซึ่งก็คือพลังแห่งหุบเหวกลืนกินขั้นสาม!

‘แต่ถึงอย่างไรตอนนั้นก็อันตรายเกินไป ถ้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจจะ…’ นึกถึงภาพที่กระแสกาลเวลาปั่นป่วนรอบตาน้ำพุในตอนนั้น หลินสวินก็อดหวาดหวั่นไม่ได้ มีความรู้สึกเหมือนรอดชีวิตจากพิบัติเคราะห์

“สหายน้อย ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง” เสียงของระฆังไร้กฎดังขึ้น เผยความกังวล

“ไม่เป็นไรแล้ว” หลินสวินสูดหายใจลึกๆ เงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ก็พบว่าตอนนี้มาถึงหน้าประตูน้ำวนแห่งหนึ่งแล้ว

“นอกประตูนี้ก็คือทางเข้าแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์”

ระฆังไร้กฎกล่าว “แต่เจ้าจะต้องเตรียมใจ นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์คือที่ตั้งของทะเลกลืนวิญญาณ ถูกระเบียบมหามรรคกดข่ม มรรควิถีทั้งหมดของเจ้าจะถูกกำราบอยู่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ แต่ขอเพียงเข้าสู่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ มรรควิถีทั้งหมดก็จะคืนกลับมา”

หลินสวินพยักหน้า

ทะเลกลืนวิญญาณ!

เชื่อมต่อกับส่วนลึกที่สุดของทะเลตะวันออกแห่งจักรวรรดิจื่อเย่าในโลกชั้นล่าง นับว่าเป็นอาณาเขตของโลกชั้นล่าง

เมื่อนานมาแล้วยามเฒ่าโดดเดี่ยวและราชครูเก็บตัวอยู่ในนครต้องห้ามแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า พลังทั้งร่างก็เคยถูกกดข่ม

ไม่เช่นนั้นด้วยมรรควิถีของพวกเขา สามารถทะลวงฟ้าได้อย่างง่ายดาย!

เท่าที่หลินสวินรู้ หลังจากศึกมรรคสิบทิศในยุคดึกดำบรรพ์ปะทุขึ้น แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคของดินแดนรกร้างโบราณถูกโจมตี พลังต้นกำเนิดเสื่อมถอย และเปลี่ยนเป็น ‘โลกชั้นล่าง’

ก็หมายความว่าโลกชั้นล่างก็คือ สิ่งที่แปลงมาจากแกนหลักของ ‘แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค’!

สถานที่ที่ลึกลับหาใดเปรียบอย่างแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทะเลกลืนวิญญาณ สุสานสมุทรฝังมรรค สมรภูมิกระหายเลือด… ล้วนตั้งอยู่ในโลกชั้นล่าง

หลินสวินในตอนนี้จะไม่เข้าใจได้อย่างไร ว่าโลกชั้นล่างไม่ใช่สถานที่แร้นแค้นถูกทอดทิ้งอะไร แต่มีที่มายิ่งใหญ่!

พอคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ยังอยู่แหล่งสถานคุนหลุน ผ่านไปไม่นานก็สามารถกลับมายังทะเลกลืนวิญญาณได้แล้ว ทำเอาหลินสวินอดตกตะลึงไม่ได้

นับเวลาดูแล้ว ตั้งแต่เข้าสู่ทางเดินโบราณฟ้าดาราจนตอนนี้ก็หลายสิบปีแล้ว แม้แต่หลินสวินก็คิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสหวนกลับโลกชั้นล่างภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

เงาร่างหลินสวินพริบไหว พุ่งเข้าไปในประตูน้ำวนโดยไม่เสียเวลา

ทะเลมรกตแห่งหนึ่งปรากฏในสายตาทันที ทอดสายตามองไป ฟ้าสูงเมฆบาง คลื่นมรกตซัดกระเพื่อม กว้างใหญ่ไพศาล

แต่ในเวลาเดียวกันหลินสวินเองก็สังเกตเห็นพลังระเบียบมหามรรคปรากฏขึ้น กดข่มจนกลิ่นอายตนจมดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งลดต่ำลงไปใต้ระดับจักรพรรดิอยู่ในระดับมกุฎกึ่งจักรพรรดิ ถึงค่อยๆ มั่นคง

ในเวลาเดียวกันการกดข่มของระเบียบมหามรรคก็หายไปด้วย

‘ระเบียบของโลกนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ’

หลินสวินเอามือไพล่หลัง ยืนอยู่กลางอากาศเหนือทะเลมรกต ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้

ตอนนั้นยังเด็ก พลังปราณตื้นเขิน ไม่สามารถสัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของฟ้าดินผืนนี้ ยามนี้หวนกลับมา เขาเป็นจักรพรรดิเต้ายวนที่สะเทือนทั่วหล้าฟ้าดาราแล้ว จึงสัมผัสได้ว่าโลกชั้นล่างนี้แตกต่างเพียงใด

ระฆังไร้กฎกล่าว “ทางเดินโบราณฟ้าดารากว้างใหญ่ไพศาลไร้สิ้นสุด รวมหมื่นโลกทั่วหล้า แต่ก็มีเพียงเส้นทางโบราณนภสินธุ์ที่เชื่อมสู่แหล่งสถานคุนหลุน แต่โลกชั้นล่างนี้กลับเสมือนมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าไม่ธรรมดามาก”

สายตาของหลินสวินทอดมองไปรอบๆ ความทรงจำครั้งเยาว์วัยค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัว

ยังจำได้ว่าตอนนั้นเขาได้รับคำเชิญจากจ้าวจิ่งเซวียน เดินทางไปกับเหล่าผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ออกจากจักรวรรดิจื่อเย่า ข้ามทะเลกลืนวิญญาณไปถึงแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างหวุดหวิด

และในสุสานสมุทรฝังมรรคนั่น ก็ได้เจอเจ้าคางคกจินตู๋อี ทายาทคางคกทองสามขา…

หลังจากนั้นเขากับเจ้าคางคกบุกเข้าแดนลับอสูรมารอริยะด้วยกัน ต่อสู้แย่งชิงกับพวกบุตรเทพรุ่นเยาว์เผ่าวาฬมังกร เผ่าหงส์หิรัณย์ เผ่าวัวมารทรงพลัง เผ่าเต่าทมิฬ เผ่าโห่วเมฆา เผ่าวิญญาณขนนกเป็นต้น

ประสบอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า ได้รับวาสนาครั้งแล้วครั้งเล่า

กระทั่งเข้าสู่ซากคีรีดวงกมล ทำให้เขาได้รับมรดกมรรคคาถาที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลทิ้งเอาไว้ โดยอาศัยพลังของเจดีย์ไร้สิ้นสุด

และก็เป็นตอนนั้นในการต่อสู้แย่งชิงอันดุเดือดครั้งหนึ่ง เขาชิงมรดกของศิษย์พี่ใหญ่… วิชาอริยะยุทธ์มาได้!

นึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างตอนนั้น หลินสวินก็อดเหม่อลอยเล็กน้อยไม่ได้

สายตาของพวกเขากำลังพินิจหลินสวิน

และในเวลาเดียวกัน หลินสวินตะลึงอย่างอดไม่ได้ จำฐานะของสาวงามคนนั้นได้…

เมิ่งเหลียนชิง!

ตอนนั้นในแดนลับอสูรมารอริยะ เมิ่งเหลียนชิงดูสะดุดมากในหมู่บุตรเทพ ประหนึ่งเทพธิดาที่สง่างามยิ่งยวด

เพียงแต่หลินสวินกับนางคือศัตรูกัน ตอนนั้นเพื่อชิงวิชาอริยะยุทธ์ ถึงขั้นเคยเกิดความขัดแย้งที่ดุเดือดหาใดเปรียบ

ตอนนั้นหลินสวินคนเดียวสู้กับคนมากมาย เริ่มจากกำราบบุตรเทพอย่างพวกหนิวทุนเทียน เสวียนหลัวจื่อ ข่งซิ่วก่อน และหลังจากเมิ่งเหลียนชิงรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ก็เลือกจะถอยไป

เพียงแต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึง ว่าเพิ่งกลับมาที่น่านน้ำบริเวณแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ก็เจอ ‘สหายเก่า’ คนนี้แล้ว

หลินสวินไม่รู้ว่าผ่านไปหลายปีขนาดนี้ เมิ่งเหลียนชิงเป็นบุคคลที่สะดุดตาที่สุดคนหนึ่งในหมื่นเผ่าดึกดำบรรพ์แล้ว

นางเป็นคนแรกในบรรดาคนรุ่นหลังที่ทะลวงสู่ระดับกึ่งจักรพรรดิ ความสูงส่งของฐานะ สามารถเทียบได้กับสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีชีวิตมาพันหมื่นปีเหล่านั้น

หลายปีมานี้ในบรรดาขุมอำนาจอหมื่นเผ่า เมิ่งเหลียนชิงเป็นคนที่ทุกขุมอำนาจใหญ่ไม่อาจมองข้ามได้

เมื่อรวมกับรูปลักษณ์งดงาม เรียกได้ว่าโดดเด่นเหนือผู้อื่น จึงถูกชายหนุ่มมากความสามารถไม่รู้เท่าไหร่มองเป็นเทพธิดาในใจ

อันที่จริงชายหนุ่มที่ท่าทางดูแตกต่างกันเหล่านั้น ก็คือผู้ที่ชื่นชอบเมิ่งเหลียนชิงนั่นเอง หากไม่ใช่ผู้มีฐานะที่ไม่ธรรมดาอย่างมาก ก็เป็นผู้ที่มีความสำเร็จโดดเด่นบนมหามรรค

กลับเห็นเมิ่งเหลียนชิงในตอนนี้เดี๋ยวขมวดคิ้วเดี๋ยวเหม่อลอย ดวงตาคู่ใสก็เปลี่ยนไปไม่สามารถสงบได้ เหมือนกำลังหวนคิดถึงอดีต ครู่ใหญ่ถึงเอ่ยปากอย่างแฝงความประหลาดใจ “เจ้าคือ…”

นางมาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์วันนี้ เดิมตั้งใจจะฟังท่านจอมมรรคท่านนั้นบรรยายนัยเร้นลับมหามรรค ไม่คิดว่าจะเจอเงาร่างคุ้นเคย ทำเอานางนึกถึงสิ่งที่ประสบยามเข้าสู่แดนลับอสูรมารอริยะในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน

ประสบการณ์ครั้งนั้นเหมือนกับฝันร้าย แม้ผ่านไปหลายปี แต่ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังคงทำให้เมิ่งเหลียนชิงรู้สึกไม่จำยอมและขมขื่น

“มีอะไรหรือ” หลินสวินถาม

เขาไม่คิดจะเปิดเผยฐานะ ความขัดแย้งในตอนนั้น ในสายตาเขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเรื่องเล็กที่ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง

และตอนนี้แม้ศักยภาพถูกจำกัด แต่ไม่ว่าท่าทางหรือรูปลักษณ์ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อตอนยังเยาว์ ถ้าไม่อยากถูกจำได้ ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิที่คุ้นเคยกับเขาก็มองไม่ออก

เผชิญกับสายตากระจ่างและนิ่งสงบของหลินสวิน เมิ่งเหลียนชิงกลับลังเลเล็กน้อย เอ่ยว่า “ขออภัย สหายยุทธ์เหมือนคนรู้จักเก่าคนหนึ่งของข้ามาก คงจะจำคนผิด แต่ข้าขอทราบนามของสหายยุทธ์ได้หรือไม่”

“เต้ายวน” หลินสวินบอกฉายามรรคของตนง่ายๆ

‘เต้ายวนหรือ ไม่ใช่เขาจริงๆ ด้วย…’

เมิ่งเหลียนชิงชะงัก เหมือนยกภูเขาออกจากอก และเหมือนมีความผิดหวังเล็กน้อย ในดวงตากระจ่างเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนละเอียดอ่อน

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์