ตอนที่ 2404 หนทางอันยากลำบาก – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2404 หนทางอันยากลำบาก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2404 หนทางอันยากลำบาก
บางทีผู้ฝึกปราณทั่วไปอาจเล่นสกปรก อย่างการขวางทางปล้นชิง
แต่พวกระดับจักรพรรดิ ไม่มีทางทำเรื่องเสื่อมเกียรติเช่นนี้แน่
หลินสวินกวาดสายตามองรอบหนึ่ง ไม่ได้เปล่งเสียง
ชายชุดหลากสีระดับจักรพรรดิขั้นแปดที่เป็นผู้นำนั้นเอ่ยปากเย็นชา “เจ้ามาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราหรือ”
หลินสวินกล่าวเสียงเรียบ “ไม่ผิด”
“เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว จงมาพร้อมพวกเราเถอะ” ชายชุดหลากสีดูอวดดีมาก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเฉยชา วาจาไม่อาจขัดขืน
“ไปไหน” หลินสวินเลิกคิ้ว
ชายสวมเสื้อคลุมนกกระเรียนสีเลือด ผิวขาวเกลี้ยงเกลายิ่งกว่าหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างยิ้มหวาน กล่าวอย่างอดไม่ได้ “รอไปแล้วเจ้าก็จะเข้าใจ”
นกกระจอกเขียวที่ยืนอยู่บนบ่าหลินสวินพลันพูดขึ้น “พวกเขาคือคนของภูเขาเทพสรรพวิญญาณ สำนักอันดับหนึ่งของเขตแดนดาราอีกาขาว เท่าที่ข้ารู้ ขอเพียงเป็นคนที่ถูกพวกเขาจับตัว จะถูกช่วงชิงพลังจิต หลอมเป็นหุ่นกระบอกที่ไม่มีเจตจำนงและความรู้สึกนึกคิดทั้งสิ้น”
“หากเจ้าตามพวกเขาไป ย่อมมีโอกาสสูงที่จะพบจุดจบเช่นนี้”
พวกชายชุดหลากสีมองนกกระจอกเขียวอย่างอดไม่ได้ คล้ายคิดไม่ถึงว่านกกระจอกเขียวตัวนี้ถึงกับมองฐานะของพวกเขาออก
เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็เข้าใจ นัยน์ตาล้ำลึกฉายแววเยียบเย็น “ดูท่าว่าทุกท่านคงเป็นพวกสวะที่ขวางทางดักปล้นจริงๆ ไม่สิ พวกเจ้าแย่ยิ่งกว่า คนอื่นแค่ชิงทรัพย์ พวกเจ้ากลับต้องการชีวิต โสมมกว่า”
ชายชุดหลากสีถอนหายใจพลางกล่าว “ทำไมผู้ฝึกปราณของทางเดินโบราณฟ้าดาราอย่างพวกเจ้าถึงไม่ค่อยรู้สถานการณ์ของตัวเอง เทียบกับรนหาที่ตายไปแดนใหญ่พันศึก ยังไม่สู้หยุดอยู่ที่ภูเขาเทพสรรพวิญญาณของข้า ต่อให้ถูกหลอมเป็นหุ่นกระบอก แต่ชั่วดีอย่างไรก็ได้คงอยู่ตราบนิรันดร์”
หลินสวินเหมือนคิดอะไรได้ “ถ้าเช่นนั้นก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็เคยจับตัวผู้ฝึกปราณของทางเดินโบราณฟ้าดาราไปมากแล้วสินะ”
ชายชุดหลากสีพยักหน้า ดูเปิดเผยมาก “ช่วงสิบปีนี้มีระดับจักรพรรดิเหมือนเจ้าประมาณยี่สิบกว่าคน ตอนนี้ล้วนกลายเป็นหุ่นรบมรรคจักรพรรดิ ขายชีวิตให้ภูเขาเทพสรรพวิญญาณของข้าแล้ว”
หลินสวินกล่าว “พวกที่อยู่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิเป็นอย่างไร”
ชายอ่อนหวานที่สวมชุดคลุมกระเรียนสีเลือดนั้นอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ สอดปากกล่าว “เจ้าตัวเล็กพวกนั้นไม่คู่ควรให้ภูเขาเทพสรรพวิญญาณของพวกเราลงมือ”
น้ำเสียงเจือความมาดมั่น
“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลินสวินอดทอดถอนใจไม่ได้
นอกทางเดินโบราณฟ้าดารามีจักรวาลล่มสลายที่เกิดพิบัติเคราะห์บ่อยครั้ง เท่านี้ก็ขวางหนทางของผู้แข็งแกร่งมากมายแล้ว อุตส่าห์เข้ามาในเขตแดนดาราอีกาขาวนี้ได้ ก็ถูกขุมอำนาจใหญ่ของแดนดาราแถบนี้จับจ้องเหมือนเหยื่ออีก…
สำหรับผู้ฝึกปราณของทางเดินโบราณฟ้าดาราพวกนั้น หนทางมุ่งสู่ฟากฝั่งนี้อันตรายเกินไปจริงๆ
“หากสหายยุทธ์เข้าใจแล้วก็ยอมให้จับแต่โดยดีเถอะ หลีกเลี่ยงการต่อยตีสังหารที่จะทำให้เจ้าทุกข์ระทมมากเกินไป”
ชายชุดคลุมกระเรียนสีเลือดยิ้มกล่าว
“เช่นนั้นรึ ข้ากลับคิดว่าวันนี้เกรงว่าพวกเจ้าคงหนีไม่พ้นแล้ว”
หลินสวินเอ่ยราบเรียบ
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เขาก้าวไปข้างหน้า แขนเสื้อพลิกตลบ ปราณกระบี่ที่เจิดจรัสแสบตามากมายพาดผ่านอากาศเหมือนรุ้งเทพ พุ่งสาดออกไปรอบทิศ
ฟ้าดาราที่วังเวงแถบนี้ล้วนถูกปราณกระบี่เจิดจ้าไร้ขอบเขตสาดส่อง
“ฮึ รู้อยู่แล้วว่าเจ้าคงไม่ยอมรับชะตากรรม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ ลงมือ!”
ชายชุดหลากสีที่เป็นผู้นำแค่นเสียงเย็นชา ออกโจมตีตั้งแต่พริบตาแรกทันที
ตูม!
เขาเงื้อมือขึ้น ขวานศึกสีเงินด้ามหนึ่งพุ่งออกมา ก่อให้เกิดแสงสมบัติทั่วฟ้า เสียงมรรคกู่ก้องราวอสนีบาต อานุภาพดุดันหาใดเปรียบ
อีกด้านหนึ่งพวกหญิงสาวชุดหลากสีห้าคนก็ออกโจมตีพร้อมกัน ต่างคนต่างเรียกสมบัติออกมา สำแดงวิชามรรคปิดล้อมหลินสวิน
ทว่าพวกเขายังประเมินความน่ากลัวของปราณกระบี่พวกนั้นต่ำไป
ปึง!
ผู้ประสบเคราะห์คนแรกก็คือชายชุดหลากสีนั่น ขวานยักษ์สีเงินที่ฟาดออกไปถูกปราณกระบี่ทะลวงผ่าน ระเบิดกระจุยดังสนั่นกลางอากาศ
ไม่รอให้ชายชุดหลากสีตอบสนอง ปราณกระบี่พุ่งสังหารเข้ามาด้วยการกวาดผ่านแผ่วเบา
เสียงฉัวะดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปดคนนี้ถูกปราณกระบี่บดขยี้ร่างโดยตรง จิตสิ้นวิญญาณสลาย
จากนั้นในทิศทางอื่นก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น มีน้ำเลือดสาดกระเซ็นตลอดเวลา มีสมบัติระเบิดแหลกกลางอากาศ มีวิชามรรคแตกสลายกระจายดุจกระแสน้ำ
โดยเฉพาะชายอ่อนหวานที่สวมชุดคลุมกระเรียนสีเลือดนั้น ยิ่งถูกปราณกระบี่หลากสายแทงร่างจนพรุนตายคาที่
ระดับจักรพรรดิหกคนพ่ายแพ้ย่อยยับในชั่วดีดนิ้ว!
ฟ้าดาราใกล้เคียงยังคงสั่นสะเทือนรุนแรง กลิ่นคาวเลือดเพิ่งคละคลุ้ง แต่ในที่นั้นกลับไม่มีคู่ต่อสู้แล้ว
ดวงตาฉลาดเฉลียวของนกกระจอกเขียวอึ้งงัน ครู่หนึ่งจึงเอ่ยพึมพำ “คนอย่างเจ้านี่ซ่อนพลังลึกล้ำยิ่ง ที่แท้ก็เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิ ไม่แปลกที่คุณหนูจะเหลียวมองเจ้า…”
หลินสวินยิ้มรับเหมือนเพิ่งทำเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้หยุดพัก เคลื่อนย้ายจากไป
หลังผ่านไปหนึ่งก้านธูป
ในฟ้าดาราแถบนี้มีเงาร่างสีทองราวกับแผดเผาลุกโหมสายหนึ่งปรากฏตัวกลางอากาศ นัยน์ตาเปล่งประกาย อานุภาพทั้งตัวบีบกดจนฟ้าดาราแถบนี้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เมื่อมองอย่างละเอียด เขาสวมเกราะศึกไพฑูรย์ ศีรษะประดับเกี้ยวขนนก ท่าทางอาจหาญเหมือนเด็กหนุ่ม แต่ยามลืมตากลับมีกลิ่นอายแห่งกาลเวลาอบอวล
ทันทีที่มาถึงเขาก็กวาดมองสนามรบ ผ่านไปครู่ใหญ่เขาพลันยื่นมือออกไป ม่านแสงสายหนึ่งปรากฏแล้วฉายภาพหนึ่งออกมา
ภาพนั้นคือเหตุการณ์ที่หลินสวินคนเดียวถูกระดับจักรพรรดิมากมายปิดล้อม
นัยน์ตาของชายคนนี้จับจ้องหลินสวินเขม็ง ด้วยอยากมองอะไรบางอย่างให้ออก แต่ภาพนั้นกลับดูเลือนรางเกินไป เพียงไม่นานก็ฟุ้งกระจายหายไป
“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ข้าจำเจ้าไว้แล้ว!”
ที่น่าเศร้าที่สุดคือต่อให้ไปถึงแดนใหญ่พันศึก ยังมีความหวังเปิดเส้นทางเลือด ไปถึงโลกยอดนิรันดร์นั้นได้สักเท่าไหร่
‘นี่คือทางโลหิตฝังกระดูก อันตรายเกินคาดเดา ถ้าอยากก้าวไปเบื้องหน้าต้องเหยียบภูเขาศพทะเลเลือด เปิดทางรอดชีวิต!’ หลินสวินกล่าวกับตัวเอง
จักรวาลเยียบเย็น น่านฟ้ามืดมิด หลินสวินเดินทางอยู่ในนั้นคนเดียว ตลอดทางเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวและเดียวดาย
มีเพียงนกกระจอกเขียวเป็นเพื่อนคอยปลอบโยน
แต่เมื่อเร่งเดินทางไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นหลินสวินหรือนกกระจอกเขียวก็เปลี่ยนเป็นเงียบขรึมขึ้นมาก
ตลอดทางนี้หลินสวินผ่านจักรวาลที่ตกอยู่ในสภาพล่มสลายหลายแห่ง ที่นั่นเกิดพิบัติฟ้าบ่อยครั้ง พลังน่าหวาดกลัวที่เกิดขึ้นทำให้เขาเกือบประสบเคราะห์หลายครั้งเช่นกัน
ต่อมาจากคำอธิบายของนกกระจอกเขียว หลินสวินถึงรู้ว่าโลกจักรวาลล่มสลายพวกนั้น แรกเริ่มเดิมทีก็เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก มีสรรพชีวิตอยู่อาศัย
แต่ส่วนใหญ่ล้วนจมสู่ความแห้งแล้งและดับสูญเพราะพลังระเบียบพังทลายหายไป ถึงตอนท้ายสิ่งมีชีวิตไม่คงอยู่ เหลือเพียงความรกร้างว่างเปล่าทุกแห่งหน รวมถึงพิบัติฟ้าที่ทยอยปะทุขึ้น
ระหว่างทางหลินสวินก็เคยผ่านเขตแดนโลกจักรวาลที่การฝึกปราณเฟื่องฟู กว้างใหญ่ไพศาลถึงขีดสุดแห่งแล้วแห่งเล่า มิติจักรวาลบางแห่งถึงขั้นแข็งแกร่งกว่าเขตแดนดาราอีกาขาว แค่กลิ่นอายระดับบรรพจารย์ที่หลินสวินสัมผัสได้ระหว่างทางก็พบเห็นได้ทั่วไป
ยามเขาท่องอยู่ในโลกจักรวาลที่แปลกตานั้น บางทีจะเกิดการปะทะและห้ำหั่นไม่มากก็น้อย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกองโจรฟ้าดาราที่ขวางทางปล้นชิงพวกนั้น ส่วนใหญ่หลินสวินจะถูกคนจับจ้อง ต้องการรั้งเขาไว้
ส่วนพวกที่กล้าเลือกลงมือกับระดับจักรพรรดิอย่างเขา แน่นอนว่าไม่ใช่บุคคลทั่วไป
แต่ทั้งหมดล้วนถูกหลินสวินฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น
ด้วยพลังปราณของเขาย่อมไม่หวั่นเกรงบรรพจารย์จักรพรรดินานแล้ว ระดับจักรพรรดิทั่วไปมาหาถึงที่ นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย
แต่ต่อมาหลินสวินก็ได้พบความจริงที่ทำให้เขาระวังตัว…
ในมิติจักรวาลที่รุ่งเรืองเจิดจรัสถึงขีดสุดบางแห่ง มีบุคคลน่ากลัวที่เหนือกว่าระดับบรรพจารย์ บรรลุถึงระดับอมตะดำรงอยู่ ทั้งยังมีจำนวนไม่น้อย!
ยังดีที่ตลอดทางนี้เขาเดินทางอย่างรีบเร่ง นอกจากตอนที่เจอปัญหา เวลาอื่นล้วนเก็บงำตัวตนและเร่งเดินทาง ด้วยเหตุนี้จึงไม่เคยดึงดูดความสนใจของระดับอมตะ
แต่ประสบการณ์ระหว่างทางก็ทำให้หลินสวินตัดสินเรื่องหนึ่งได้ในที่สุด
เปรียบเทียบกับโลกจักรวาลที่พบเจอตลอดทางพวกนั้นแล้ว ทางเดินโบราณฟ้าดารา… ตกต่ำมากเกินไปจริงๆ
อย่างน้อยบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ย่อมไม่อาจให้กำเนิดระดับอมตะได้อีกแล้ว!
ผ่านไปครึ่งปี
หลินสวินที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งลมฝน มาถึงโลกจักรวาลที่พังทลายแห้งแล้ง เกิดพิบัติฟ้าบ่อยครั้งแถบหนึ่ง
ผ่านการสืบเสาะและตรวจสอบโดยละเอียด หลินสวินมาถึงดาวเคราะห์ดวงใหญ่ที่ค่อนข้างปลอดภัยแห่งหนึ่ง
หลังจากผ่านมาหลายปี ในที่สุดหลินสวินก็ได้เจอโอกาสทะลวงปราณเพื่อก้าวสู่ระดับจักรพรรดิขั้นหกที่นี่!
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์