Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2444

ตอนที่ 2444 คลื่นใต้น้ำปั่นป่วน

จนกระทั่งท้องฟ้าใกล้สว่าง

ถานไถเฟิงที่งัวเงียเมาตาเยิ้มถูกคนหิ้วปีกพยุงเดินเข้าไปในห้อง

ตาของหลินสวินก็ค่อนข้างปรือเช่นกัน หลังจากโงนเงนเดินเข้าไปในห้องก็โคจรปราณไล่ความเมาทั่วร่างออกทั้งหมดเป็นสิ่งแรก จากนั้นจึงพ่นลมหายใจหนักหน่วงออกมา

ในห้องร่างต้นของหลินสวินยิ้มน้อยๆ แล้วเก็บร่างแยก จากนั้นจมสู่ภวังค์ความคิด

ก่อนหน้านี้ที่ไปลอบสังหารเหวินเซ่าเหิง ถึงแม้จะตกม้าตายตอนจบ แต่ดีชั่วอย่างไรก็ฆ่าพวกร้ายกาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าบรรพจารย์ขั้นเก้าอย่างท่านย่าเสวี่ยได้ ก็ถือว่าได้กำไรอยู่

หนำซ้ำจากทรัพย์หลังศึกบนตัวท่านย่าเสวี่ย กลับทำให้หลินสวินได้รับทรัพย์เป็นกอบเป็นกำ ลำพังแค่ผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งก็มีสามแสนกว่าผลึก

นอกจากนี้ยังมีศาสตราจักรพรรดิที่คุณภาพชั้นยอดกับเจตวัตถุและและโอสถเทพนานาชนิดอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่ารวมกันแล้วก็น่าตกใจยิ่ง

และในบรรดาทรัพย์หลังศึกเหล่านี้ สมบัติสีดำที่รูปร่างคล้ายหอยสังข์ชิ้นหนึ่งดึงดูดความสนใจของหลินสวินเข้า

บนหอยสังข์ประทับแผนภาพลายมรรคแปลกพิสดารซ้อนทับเป็นชั้นๆ เมื่อแทรกพลังเข้าไปภายในนั้น ลายมรรคแปลกพิกลเหล่านั้นก็จะกลายเป็นอักษรลึกลับเป็นแถวๆ

บนนั้นเขียนไว้ว่า ‘ครึ่งปีให้หลังน้ำค้างจึงจะมาถึง ต้องกำจัดเจ้านี่ได้แน่ จำไว้ว่าต้องให้นายน้อยของเจ้าเตรียมสองล้านผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งไว้ให้พร้อม’

และเพราะประโยคนี้ทำให้หลินสวินจมสู่ภวังค์ ตระหนักได้ว่าการแพ้ยับเยินของนกกระเรียนเมื่อคราวก่อนไม่ได้ทำให้การลอบสังหารนี้ปิดฉากลงทั้งอย่างนี้ ตรงข้ามกลับเรียก ‘น้ำค้าง’ ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามาอีกคน!

“นกกระจอกเขียว เจ้ารู้จักน้ำค้างจากแดนเร้นนภาหรือไม่” หลินสวินถาม

“น้ำค้าง?”

นกกระจอกเขียวคล้ายถูกทำให้ตกใจ “คงไม่ใช่ว่าแดนเร้นนภายังคิดจะลอบสังหารเจ้าอีกกระมัง”

หลินสวินพยักหน้า “น่าจะเป็นเช่นนั้น”

นกกระจอกเขียวอึ้งงันไปชั่วขณะ ครู่ใหญ่กว่าจะกล่าวว่า “เจ้าอาจได้เจอภัยคุกคากถึงชีวิตแล้ว”

จากนั้นมันก็เล่าผลงานส่วนหนึ่งของน้ำค้างให้หลินสวินฟัง

น้ำค้าง มือลอบสังหารระดับมกุฎจักรพรรดิของแดนเร้นนภา อยู่อันดับที่สี่ หญิงลึกลับที่ทำให้บรรพจารย์ขั้นเก้าได้ยินชื่อก็ขวัญหนีคนหนึ่ง

ว่ากันว่าฝีมือลอบสังหารที่ช่ำชองของนาง ถึงขั้นที่สามารถขู่ขวัญบรรพจารย์มรรคได้ วิปริตน่าสะพรึงถึงขีดสุดยิ่ง!

ว่ากันว่าตั้งแต่น้ำค้างเริ่มรับหน้าที่ปฏิบัติภารกิจจนบัดนี้ ไม่เคยมีกรณีที่ล้มเหลวสักครั้ง เมื่อเทียบกับนกกระเรียนยังแข็งแกร่งมากกว่าหนึ่งช่วง

ว่ากันว่า…

ตำนานที่น่าสะพรึงต่างๆ นานาทำให้ ‘น้ำค้าง’ ปกคลุมด้วยสีสันอันน่ากลัวลึกลับ

กล่าวถึงตอนท้ายนกกระจอกเขียวยังอดสงสัยไม่ได้ กล่าวว่า “นกกระเรียนก็ว่าน่ากลัวพอแล้ว ตอนนี้ยังส่งน้ำค้างมาอีก เหวินเซ่าเหิงนี่ต้องจ่ายค่าตอบแทนมากมายขนาดไหนถึงสามารถทำได้ถึงขั้นนี้”

“ทั้งหมดนี้ล้วนพิสูจน์ได้แค่ว่า เขาตั้งใจจะไม่ตายไม่เลิกรากับข้าตั้งแต่ต้น”

สายตาหลินสวินเย็นเยียบ “ขอเพียงมีโอกาส ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาได้หนีรอดอีก!”

ไม่ว่าใครถูกขุมอำนาจมือสังหารที่ลึกลับสุดหยั่งแห่งหนึ่งหมายหัว เกรงว่าก็คงเหมือนมีชนักติดหลัง กินไม่ลงนอนไม่หลับกันทั้งนั้น

และทั้งหมดนี้ ล้วนต้องขอบคุณเหวินเซ่าเหิงที่มอบให้มา!

ถึงขั้นที่เพราะเหวินเซ่าเหิง ทำให้แผนการของหลินสวินรวนไปหมด เดิมทีเขาตั้งใจจะทะลวงขั้นในเมือง แต่ตอนนี้เห็นชัดว่าทำไม่ได้แล้ว

ข่าวเกี่ยวกับเหวินเซ่าเหิงถูกมือสังหารซุ่มโจมตีดังฮือฮาไปทั่วทั้งเมืองตั้งต้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ก่อคลื่นระลอกใหญ่ขึ้น

“ถึงกับมีคนใจกล้าทำการอุกอาจในเมือง เบื่อว่าชีวิตยาวไปรึ”

คนมากมายจุ๊ปาก

“นี่ยังไม่ถือเป็นอะไร เหวินเซ่าเหิงนั่นเป็นถึงบุคคลชั้นสูงเผ่าจักรพรรดิอมตะ ผู้แข็งแกร่งจากโลกพันจักรวาลใครกล้าไม่ให้เกียรติเขาบ้าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปลอบสังหารเลย หลิงเสวียนจื่อนั่นบ้าบิ่นสิ้นคิดชัดๆ!”

“แต่ว่าหลิงเสวียนจื่อนี่ก็ช่างร้ายกาจ ยังไม่ถูกจับดำเนินการอีก ว่ากันว่าเจ้าเมืองเหิงเทียนซั่วยังจนหนทางกับเขา สุดยอดจริงๆ”

…ทุกแห่งหนในเมืองล้วนมีแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์

การลอบสังหารครั้งนี้น่าตกใจเกินไปจริงๆ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นนานมากแล้ว

บวกกับเหวินเซ่าเหิงที่ถูกลอบสังหารยังมีที่มาไม่ธรรมดา ความโกลาหลที่เกิดขึ้นแค่คิดก็รู้ว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน

ระคลอกคลื่นฉากนี้ดำเนินเรื่อยมานานหลายวัน

หลังจากผู้แข็งแกร่งอย่างพวกสิงมู่เทียน ยอดจักรพรรดิเสวียนซิง จักรพรรดิขวงหรู หนิงเต้าจื้อเข้าสู่แดนใหญ่พันศึกจากประตูข้ามแดนปฐพีมาถึงเมืองตั้งต้นเหมือนกับหลินสวิน ก็ได้รู้ข่าวเหล่านี้ในทันทีเช่นกัน

ชั่วขณะเดียวต่างอดอึ้งงันเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ สะท้านสะเทือนไม่หาย

การตายของฟางเสวียนเจินทั้งขบวนก็ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจแล้ว

และตอนนี้ หลิงเสวียนจื่อนี่ยังถึงกับไปลอบสังหารเหวินเซ่าเหิงในเมืองอีก นี่เหมือนเย้ยฟ้าชัดๆ ทำเอาพวกเขาเกือบไม่กล้าเชื่อ

ภายใต้การค้นหาอย่างตั้งใจของพวกเขา ไม่นานก็เจอหลินสวินที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้น

ที่ต่างจากที่พวกเขาคาดคะเนเอาไว้ก็คือ หลินสวินที่ผ่านเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น ไม่เพียงไม่มีท่าทางตึงเครียดกังวลใจ ตรงข้ามกลับเห็นได้ชัดว่าสบายใจ ผ่อนคลายจนเหมือนคนไม่มีเรื่องอย่างไรอย่างนั้น

นี่ทำให้พวกเขาเหล่านี้ล้วนอดเลื่อมใสไม่ได้

เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นสิงมู่เทียน ยอดจักรพรรดิเสวียนซิง หรือพวกจักรพรรดิขวงหรู หนิงเต้าจื้อ ต่างไม่เคยพูดคุยสนทนากับหลินสวินมาก่อน รักษาระยะห่างไว้ระดับหนึ่งอย่างมีไหวพริบ

ไม่ว่าใครต่างก็รู้ดี สถานการณ์ของหลินสวินในตอนนี้อันตราย ก็เหมือนตัวหายนะคนหนึ่ง ใครก็ไม่อยากถูกลูกหลงด้วย

ถ้าเกิดถูกเหวินเซ่าเหิงมองเป็นพวกเดียวกับหลินสวิน นั่นย่อมเป็นหายนะเดือดร้อนเปล่าอย่างแน่นอน

สำหรับเรื่องนี้หลินสวินเห็นอยู่ในสายตา แต่ไม่ได้พูดมากความอะไร

แสวงโชคหลีกหนีเคราะห์ร้ายเป็นธรรมชาติของมนุษย์

นับประสาอะไรกับเขาและคนพวกนี้ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกัน ในเรื่องความหมางเมินของพวกเขา หลินสวินไม่ใส่ใจสักนิด

สาเหตุก็เพราะอีกสองสามวันแดนลับฝึกหลอมก็จะเปิดแล้ว

ในวันนี้เมื่อหลินสวินเดินออกจากห้อง เสี่ยวเอ้อร์ในโรงเตี๊ยมก็เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม กล่าวว่า “ผู้อาวุโส รายชื่อผู้เข้าร่วมฝึกฝนครั้งนี้เพิ่งออกประกาศ ท่านต้องการสักฉบับหรือไม่”

หลินสวินอัศจรรย์ใจ “ราคาเท่าไหร่”

“หนึ่งพันผลึกต้นกำเนิดจักรวาล”

เสี่ยวเอ้อร์รีบร้อนกล่าว “ท่านอย่าได้เข้าใจว่าข้าน้อยเรียกร้องเกินควรเชียว รายชื่อนี้ประกาศมาจากจวนเจ้าเมือง บนนั้นเขียนกำกับข้อมูลข่าวสารที่มีมูลค่าไว้เยอะมาก เชื่อว่าต้องไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจ่ายผลึกต้นกำเนิดมรรคจักรวาลเพื่อซื้อหนึ่งฉบับ

เสี่ยวเอ้อร์จากไปด้วยอาการหน้าชื่นตาบาน แล้วไปเร่ขายให้แขกคนอื่นๆ ต่อ

หลินสวินหาที่นั่งง่ายๆ ที่หนึ่งในโรงเตี๊ยมชั้นหนึ่ง สั่งสุรามาหนึ่งกาแล้วเริ่มสำรวจรายชื่อในมือ

ไม่นานหลินสวินก็เผยสีหน้าประหลาดออกมา

ผู้แข็งแกร่งที่เข้าร่วมแดนลับฝึกหลอมครั้งนี้ ถึงกับทะลุถึงหกร้อยกว่าคน ผู้ที่อ่อนแอที่สุดในนั้นยังมีปราณระดับจักรพรรดิขั้นห้า

พวกบรรพจารย์ขั้นเก้ายิ่งมีให้เห็นจนไม่แปลกใหม่

แต่หลินสวินมองข้ามเรื่องพวกนี้อย่างสิ้นเชิง สายตาของเขาไล่สำรวจรายชื่อที่เขียนกำกับไว้ของบุคคลขอบเขตมกุฎเหล่านั้น

มกุฎมหาจักรพรรดิพวกนี้มีถึงห้าสิบสี่คน ล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ที่มาจากมิติจักรวาลต่างๆ ในโลกพันจักรวาล พลานุภาพไร้ขอบเขต เด่นสะดุดตาสุดขีด

พลังปราณล้วนอยู่ระหว่างขั้นห้าถึงขั้นแปด

นี่ทำให้หลินสวินอดใจหายวาบไม่ได้ เขาสังเกตเห็นว่ามกุฎมหาจักรพรรดิเหล่านี้แทบจะมาจากมิติจักรวาลสิบอันดับแรกในโลกพันจักรวาลทั้งนั้น

โดยเฉพาะในนั้น มีเกือบยี่สิบคนล้วนมาจาก ‘เขตแดนดาราเทพผงาด’ ที่อยู่อันดับหนึ่ง!

แค่คิดก็รู้ว่าเขตแดนดาราเทพผงาดนี้น่าสะพรึงปานใด การที่อยู่อันดับหนึ่งในโลกพันจักรวาลได้ ย่อมไม่มีทางชื่อเสียงไม่สมคำล่ำลือแน่นอน

ทว่าหลินสวินก็พบว่าแม้จะมีมกุฎมหาจักรพรรดิมาก แต่กลับไม่มีใครที่เหยียบย่างสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นเก้าเลยสักคน!

‘ดูท่าระดับจักรพรรดิขั้นเก้านี่ สำหรับบุคคลขอบเขตมกุฎแล้ว ต้องเป็นปราการสวรรค์ที่ยากจะก้าวผ่านถึงขีดสุดอย่างหนึ่งแน่…’

หลินสวินคล้ายใคร่ครวญ

ทันใดนั้นเสียงอุทานตกใจสายหนึ่งพลันดังขึ้น “เขายอดกระบี่!”

ประโยคเดียวสามคำ กลับทำให้บรรยากาศที่อึกทึกจอแจของโรงเตี๊ยมชั้นหนึ่งเงียบเชียบไปอย่างน่าแปลก เหมือนมีอานุภาพน่าเกรงขามอันไร้รูปก็ไม่ปาน

แขกในโรงเตี๊ยมทุกคนต่างเงียบปาก เผยสีหน้าสะดุ้งตกใจ มองไปยังประตูใหญ่โรงเตี๊ยม

เงาร่างห้าสายปรากฏอยู่บริเวณประตูใหญ่โรงเตี๊ยมและสาวเท้าก้าวเข้ามา คนตรงกลางนั้นท่วงท่าโดดเด่นผ่าเผย ศีรษะสวมเกี้ยวประดับทองม่วง เอวรัดเข็มขัดหยกขาว หล่อเหลาองอาจไม่ธรรมดา เจือความน่ายำเกรงยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง

เสมือนจอมราชันมาเยือนยังโลกมนุษย์!

……………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์