ตอน ตอนที่ 2490 เจ้าเมืองยอดยุทธ์ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2490 เจ้าเมืองยอดยุทธ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 2490 เจ้าเมืองยอดยุทธ์
ฝนโลหิตสาดพรม เสียงร้องโหยหวนของกิเลนดำพลันหยุดลง ถูกปราณกระบี่ฝังกลบโดยสมบูรณ์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เหวินเทาเลวี่ยที่เดิมนั่งอยู่บนนั้นซวนเซลอยออกไป ดูน่าอนาถอยู่บ้าง
พริบตานี้ผู้คนนับไม่ถ้วนสีหน้าอึ้งงัน แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
ถึงกับฆ่าพาหนะของบรรพจารย์จักรพรรดิในการปะทะซึ่งหน้าได้!
“เดรัจฉาน!”
เหวินเทาเลวี่ยหน้าคล้ำเขียว รู้สึกเพียงว่าหน้าม้านไป แต่ไม่อาจมาปวดใจเรื่องพาหนะ เขาก้าวขึ้นไปบนอากาศ โบกสะบัดทวนศึกจู่โจมไปทางหลินสวิน
อานุภาพน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมแล้ว!
“ไป!”
เขาสะบัดมือเรียกโคมพระราชวังสีทองอ่อนดวงหนึ่ง มันหมุนวนโคจร เพลิงเทพสีดำแถบหนึ่งทะยานออกมา
เปลวเพลิงนั้นแผดเผาห้วงอากาศ เผยรอยสีดำยาวกลางอากาศเหมือนรอยศิลาเพลิง
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือในเพลิงเทพสีดำมีเงาร่างเทพมารนับไม่ถ้วนปรากฏ แต่ละคนเย้ยฟ้าท้าดิน ประหนึ่งก้าวออกมาจากตำนานเทพดึกดำบรรพ์
“โคมแปลงมาร!” มีคนตะโกนลั่น
นี่คือยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิโบราณชิ้นหนึ่ง ตกทอดมาในตระกูลเหวิน มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง เปลวไฟในตัวโคมได้รับการกล่าวขานว่าไม่มีสิ่งใดที่เผาไม่ได้ ผลาญสิ้นตะวันจันทรา หากกระตุ้นพลังเต็มกำลัง ย่อมถึงขั้นผลาญโลกใหญ่แห่งหนึ่ง ดับฟ้าดาราฟากหนึ่งได้ในพริบตา!
ก็เห็นหลินสวินไม่หลบหลีก เร่งเร้าเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโจมตีออกไปโดยตรง
ตูม!
กลิ่นอายยิ่งใหญ่น่าหวาดกลัวม้วนซัดกลางอากาศ
สามารถมองเห็นแสงมรรคนับหมื่นแสนไหลวนออกมาจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส กำราบเงาร่างเทพมารทั่วฟ้าที่พุ่งจู่โจมเข้ามานั้นได้อยู่หมัด ส่วนเพลิงเทพสีดำที่สามารถผลาญตะวันจันทราธารดารานั้น ก็ไม่อาจทำลายเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้แม้แต่น้อย กลับเป็นว่าถูกกลืนกินและดับสลายอย่างต่อเนื่อง
เพียงชั่วขณะเท่านั้น การโจมตีของโคมแปลงมารก็ถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง!
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงตาค้าง ตระหนักได้ว่าอานุภาพของเตากระบี่ในมือหลินสวิน ต้องเหนือกว่าโคมแปลงมารยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิที่อยู่ตรงนั้นมาก
บุคคลแห่งยุคบางส่วนยิ่งเผยสีหน้าเร่าร้อน ความเย้ยฟ้าของอานุภาพเตากระบี่ทำให้พวกเขาใจเต้นเช่นกัน มุ่งหวังว่าจะได้มันมาครอบครอง
“เจ้าเฒ่า ถ้าไม่อยากตายก็ไสหัวไป!”
ท่ามกลางเสียงตวาดลั่น หลินสวินกระตุ้นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งให้พุ่งไปข้างหน้า
เหวินเทาเลวี่ยสีหน้าไม่น่าดู เป็นถึงบรรพจารย์จักรพรรดิ ต่อสู้มานานแต่กลับไม่อาจเผด็จศึก หากเรื่องนี้กระจายออกไป ต้องกลายเป็นตัวตลกคนหนึ่งอย่างแน่นอน
เขาสูดหายใจลึก อานุภาพดุดันยิ่งกว่าเดิม ควบคุมทวนพลางกระตุ้นโคมแปลงมาร อานุภาพทั้งตัวน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมแล้ว
หลินสวินไม่อยากร่ำไร กำลังจะเปิดทางรอดชีวิตเต็มกำลัง
ก็ในตอนนี้เอง…
ตึง!
ทันใดนั้นมีเสียงกลองดังลั่นประหนึ่งฟ้าดินแรกกำเนิด
ในใจหลินสวินสั่นสะเทือนรุนแรง หลีกหลบตั้งแต่พริบตาแรกทันที
ตูม!
ห้วงอากาศที่เขาอยู่ในตอนแรกพลันระเบิดออก คลื่นพลังที่กระจายออกมาดุจเขาถล่มสมุทรคำราม ม้วนกลืนทั่วทิศ ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน
ก็เห็นชายหยาบเถื่อนถือกลองหนังสัตว์คนหนึ่งปรากฏตัวในที่นั้น โครงร่างใหญ่ นัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี ทั่วร่างถูกแสงมรรคระดับบรรพจารย์ปกคลุม เหมือนเทพเถื่อนยุคดึกดำบรรพ์องค์หนึ่ง
เหิงสิงโจว!
ระดับบรรพจารย์คนหนึ่งของตระกูลเหิง
ทันทีที่พุ่งออกมาก็ตีกลองหนังสัตว์ในมือ เสียงกลองที่ดังขึ้นสะเทือนจนจิตวิญญาณผู้คนรวดร้าว เบื้องหน้าพร่าเลือน ผู้คนนับไม่ถ้วนทรมานจนเกือบกระอักเลือด
ต่อให้ตัดสัมผัสทั้งหกก็ไม่อาจต้านเสียงกลองเช่นนี้ได้ แปลกประหลาดเกินไปแล้ว ส่งผลต่อจิตวิญญาณและสภาวะจิตโดยตรง
เพียงชั่วขณะในที่นั้นมีบรรพจารย์จักรพรรดิออกโจมตีถึงสองคน ทำให้หลินสวินอดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ไม่มีสีหน้าหวาดกลัวอะไร
เดิมทีเขาก็เตรียมต่อสู้อย่างดุเดือดไว้แล้ว!
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเหิงสิงโจวเพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นาน เงาร่างผอมแห้งเหมือนภาพมายาสายหนึ่งก็ตามมาติดๆ
นี่คือหญิงชราคนหนึ่ง ผมขาวแกมเทา ริ้วรอยร่องลึกเต็มใบหน้า แต่แววตากลับใสกระจ่างดุจวารี แฝงความเยียบเย็นเสียดกระดูก
นางถือไม้เท้าหยกมรกต เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศโดยไร้เสียง เงื้อไม้เท้าหยกมรกตจ้วงใส่แผ่นหลังของหลินสวินเต็มแรง
ดูเหมือนเรียบง่ายสบายๆ แต่กลับมีอานุภาพน่าหวาดกลัวอย่างหนึ่ง ฉีกกระชากพันธนาการของห้วงอากาศว่างเปล่า ราวกับทะลวงสิ่งกีดขวางทั้งปวงได้
ตึง!
หลินสวินใช้เตากระบี่ต้านทาน แต่ยังถูกกระเทือนจนเลือดลมทั่วร่างปั่นป่วน นัยน์ตาหดรัดอย่างอดไม่ได้ ยายแก่นี่ดูเหมือนไม่สะดุดตา แต่เห็นชัดว่าแข็งแกร่งกว่าเหวินเทาเลวี่ยนั่นอยู่บ้าง!
เมื่อเห็นหญิงชราคนนี้ปรากฏตัว ในที่นั้นก็แตกตื่นกันไปหมด
ลั่วเสินถู!
เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่กลายเป็นบรรพจารย์มาหลายหมื่นปีคนหนึ่ง ไม้เท้าต้อนดาราในมือเป็นถึงยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิที่น่ากลัวถึงขีดสุดชิ้นหนึ่ง เล่าลือว่าสามารถต้อนดาวดวงโต แบ่งแยกธารดาราได้!
ลั่วเสินถูเพิ่งปรากฏตัวก็ร่วมมือกับเหวินเทาเลวี่ยและเหิงสิงโจว ตั้งกระบวนรบเป็นรูปอักษรผิ่น (品) ปิดล้อมหลินสวินไว้ ทำให้สถานการณ์ของหลินสวินเปลี่ยนเป็นอันตรายหาใดเปรียบในชั่วขณะเดียว
บรรพจารย์มรรคสามคนออกเคลื่อนพล!
กวาดสายตามองทั่วแดนใหญ่พันศึก บุคคลที่อยู่ต่ำกว่าระดับบรรพจารย์จักรพรรดิคนไหนสามารถเทียบกับพวกเขาได้บ้าง
“หากไม่มีไพ่ตายก้นหีบ หลินสวินนี่ได้ถึงคราวจบสิ้นแน่” ฮว่ารั่วซวีที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตา เวลานี้ก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
ถ้าเขาต้องสู้หนึ่งต่อสามคงไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย ต่อให้ใช้วิธีเอาตัวรอดก็ได้แต่ปลีกตัวหนี ไม่มีทางชิงโอกาสเอาชนะได้แน่
“หลินสวิน คราวนี้ดูสิว่าเจ้าจะหนีได้อย่างไร!” สีหน้าลั่วหลิงเยียบเย็นดุจน้ำค้างแข็ง ในการต่อสู้ห้ำหั่นก่อนหน้านี้ ตระกูลลั่วสูญเสียระดับจักรพรรดิไปไม่น้อย นี่ทำให้นางปวดใจอย่างมากเช่นกัน
“เป็นเช่นนี้แล้วจะสู้ได้อย่างไร”
เวลานี้แม้แต่เหล่าผู้ชมการต่อสู้ในที่นั้นยังมองออก สถานการณ์หลินสวินย่ำแย่ ในใจต่างพลิกตลบขึ้นมาระลอกหนึ่ง
ไม่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ไม่มีแววเหน็บแนมและหยามเหยียด หลินสวินผ่านการเข่นฆ่าและฟาดฟันก่อนหน้านี้มาได้ก็ทำให้จิตใจของพวกเขาสั่นสะท้านแล้ว ใครจะกล้าดูถูก
พวกเขาเพียงรู้สึกว่าเสียดาย
ยอดคนเช่นนี้ยากพบเจอในกาลนิรันดร์ ยากเสาะหาในหมื่นชาติภพ หากรอดชีวิต ภายหน้าต้องเป็นตำนานคนหนึ่งที่เหนือกว่าระดับบรรพจารย์แน่
แต่ตอนนี้…
ส่วนหลินสวินก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสดีที่สุดในการกำจัดบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนนี้ไปเช่นกัน
ทั้งเขายังไม่รู้ว่าที่เจ้าเมืองเข้ามาแทรกแซงตอนนี้ จะเป็นโชคหรือภัยกันแน่
เมื่อเห็นว่าบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนพุ่งโจมตีเข้ามาโดยไม่สนใจไยดี ก็เท่ากับตกหลุมพรางหลินสวินแล้ว
แต่เวลานี้เอง…
เสียงฮึเย็นชาหนึ่งดังขึ้น สะท้อนก้องจักรวาล
ก็เห็นเงาร่างสีเขียวสายหนึ่งปรากฏตัวในที่นั้นอย่างไม่คาดฝัน ยื่นมือตบออกไปทันที
ตูม!
ทวนศึกสีเงินของเหวินเทาเลวี่ย กลองหนังสัตว์ของเหิงสิงโจว ไม้เท้าต้อนดาราของลั่วเสินถู ถึงกับถูกซัดกระเด็นออกไปอย่างแข็งกร้าว
นัยน์ตาทั้งสามพลันหดรัด เก็บสมบัติกลับไปทันที สีหน้าปรวนแปรไม่หยุด
เกือบจะเวลาเดียวกัน หลินสวินสยบเพลิงระเบียบดับสูญที่เกือบปล่อยออกมาเข้าไปในเตากระบี่ใหม่อีกครั้ง หัวคิ้วขมวดขึ้น
พอมองไปกลางลานอีกครั้ง เงาร่างสีเขียวนั้นกลับเป็นชายรูปงามที่เหมือนเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ผมขาวดุจหิมะทิ้งตัวลงถึงกลางหลัง นัยน์ตาล้ำลึกราวกับห้วงสมุทร แฝงกลิ่นอายกาลเวลาไร้ขอบเขต
ทั่วลานเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง
ทุกสายตาต่างมองเด็กหนุ่มรูปงามผมขาวคนนี้กันพรึ่บพรั่บ ไม่ว่าใคร ไม่ว่าพลังปราณจะสูงหรือต่ำ ไม่ว่าที่มาเป็นอย่างไร ล้วนเผยสีหน้ายำเกรงไม่มากก็น้อย
ด้วยคนผู้นี้คือไป๋เจี้ยนเฉิน เจ้าเมืองยอดยุทธ์
บรรพจารย์กระบี่ที่เหมือนตำนานคนหนึ่ง ผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าที่มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลไป๋แห่งน่านฟ้าที่เจ็ด!
กิตติศัพท์ของเขาเลื่องลือทั่วแดนใหญ่พันศึก หยั่งรากลงในใจของผู้แข็งแกร่งทุกคนนานแล้ว!
เวลานี้แม้แต่หลินสวินก็เผยสีหน้ากริ่งเกรงเสี้ยวหนึ่งอย่างอดไม่ได้
เป็นบรรพจารย์มรรคเหมือนกัน แต่เทียบกับไป๋เจี้ยนเฉินแล้ว พวกเหวินเทาเลวี่ยกลับดูอับแสงมาก ไม่ว่าจะเป็นอานุภาพหรือมาดสง่างามหยิ่งผยองนั่น ล้วนน่านับถือกว่าบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วไป
คนเช่นนี้น่ากลัวมากอย่างไม่ต้องสงสัย!
เหมือนเช่นก่อนหน้านี้ เขาแค่โจมตีลวกๆ ก็สลายการจู่โจมเต็มกำลังของบรรพจารย์จักรพรรดิสามคนได้แล้ว อานุภาพเช่นนี้จะไม่ให้ผู้คนหวาดกลัวได้อย่างไร
“เจ้าเมือง ทำไมต้องขวางพวกเราด้วย”
เหวินเทาเลวี่ยสีหน้าอึมครึม เสียงแหบพร่าทำลายความเงียบในที่นั้น
“เมืองยอดยุทธ์ไม่อาจวุ่นวายต่อไปได้อีกแล้ว”
สายตาของไป๋เจี้ยนเฉินทอดมองไปนอกเวิ้งฟ้า นั่นคือทิศทางที่โบราณสถานมหามรรคตั้งอยู่ “การเปลี่ยนแปลงประหลาดและพิบัติเคราะห์ที่เกิดขึ้นในโบราณสถานมหามรรคพร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เวลานี้เมืองยอดยุทธ์จะปั่นป่วนไม่ได้เช่นกัน”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับให้ความรู้สึกว่าไม่อาจขัดขืนได้
“แต่คนผู้นี้เป็นนักโทษในประกาศจับ! ทุกคนล้วนฆ่าเขาให้ตายได้ ไม่เช่นนั้นเมืองยอดยุทธ์จะมีแต่วุ่นวายยิ่งกว่าเดิม!” เหิงสิงโจวกล่าวเดือดดาล
สายตาไป๋เจี้ยนเฉินมองไปยังเหิงสิงโจวพลางกล่าวราบเรียบ “เจ้าคิดว่ามีข้าอยู่ เมืองยอดยุทธ์นี้จะเกิดเรื่องวุ่นวายหรือ”
ประโยคแผ่วเบาประโยคหนึ่ง กลับเผยความเผด็จการและหยิ่งผยองออกมาอย่างสมบูรณ์
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาและคำถามของไป๋เจี้ยนเฉิน เหิงสิงโจวพลันรู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นวาบ
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์