ตอนที่ 2496 สำนักเซียนยอดยุทธ์!
ตำหนักเก่าแก่มหึมา กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ราวกับที่พำนักของทวยเทพ
มีเสียงท่องคัมภีร์ดังขึ้นเป็นระยะๆ
ฟุ่บ!
แสงสีขาววาบไหว
ตำราหยกที่ถูกพวกหลินสวินสะกดรอยตามมาตลอดทางนั้น เวลานี้ได้เผยอานุภาพน่าอัศจรรย์ สาดแสงรุ้งสายหนึ่งออกมา
หน้าประตูตำหนักมหึมานั้นมีลายมรรคหลายชั้นปกคลุมแน่นหนา ลำแสงส่องประกายไหววูบ เหมือนคลื่นทะเลสาบส่องสะท้อนระยิบระยับ
เมื่อแสงรุ้งสายนี้พุ่งออกมา ประตูหินมหึมาคู่หนึ่งส่งเสียงดังครืดคราด กำลังเคลื่อนไปช้าๆ เผยร่องที่หมอกควันเลือนรางชวนตะลึงพุ่งออกมา
หมอกควันสีขาวเหมือนหมอกเซียน คลุมเครือ เลื่อนลอย ไหวเคลื่อนบางเบา
ขณะเดียวกันตำราหยกพลันพุ่งเข้าไปในนั้น
“ตาม!”
พวกหลินสวินเริ่มเคลื่อนไหวทันที
หลังจากเงาร่างของพวกเขาแทรกตัวเข้าไปในซอกประตูหินมหึมานั่น สิ่งที่ตามมาพร้อมกันคือเสียงกึกก้องสายหนึ่ง ประตูหินมหึมาปิดสนิทแน่นหนา
ในตำหนักหมอกขาวพัดผ่านราวกับแดนเซียนแห่งหนึ่ง ไม่รู้สึกถึงไอสังหาร ทั้งมองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตน่ากลัว ดูเงียบสงบเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้พวกหลินสวินผิดคาดคือ ในตำหนักนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ราวกับแดนลับแห่งหนึ่ง
แวบแรกพวกเขาก็เห็นสระน้ำแห่งหนึ่งที่แห้งขอดมานานแล้ว ข้างสระน้ำมีป้ายหินมหึมาตั้งอยู่
บนป้ายหินสลักอักษรโบราณบิดเบี้ยวแปลกประหลาดไว้สามคำ หนักแน่นงดงาม
สระชำระกระบี่!
พวกหลินสวินรู้จักตัวอักษรบนนั้น แต่ไม่นานพวกเขาก็ถูกรอยกระบี่สายหนึ่งดึงดูด
ก้นสระชำระกระบี่ที่แห้งขอดมีรอยกระบี่ยาวตรงดิ่งสายหนึ่ง เห็นชัดว่ามีมาตั้งแต่ยุคก่อน ผ่านกาลเวลาไร้สิ้นสุด ท้องทะเลเปลี่ยนเป็นผืนนา รอยกระบี่ก็ยังคงอยู่
นี่คือรอยกระบี่น่ากลัวที่ยอดฝีมือเหลือไว้ แม้จะถูกกาลเวลาพรากพลังและท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ของรอยกระบี่นั้นไป แต่กลับมีเจตกระบี่ที่ไม่ดับสูญชั่วกาล!
แวบแรกที่มองไปพวกเขาล้วนสัมผัสได้ถึงไอสังหารไร้เทียบเทียมที่เผด็จการและดุดัน เหมือนเทพกระบี่องค์หนึ่งเคยฟันกระบี่ไร้เทียมทานที่นี่ แม้แต่กาลเวลาก็ไม่อาจสลายเจตกระบี่ของมันได้!
เยวี่ยตู๋ชิวพลันส่งเสียงอึดอัดในคอคราหนึ่ง หน้าเปลี่ยนสี ไม่กล้ามองรอยกระบี่นั้นอีก
เจตกระบี่นั้นมีมาตั้งแต่ยุคก่อน แต่ยังน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่ยามเขาสงบใจหยั่งรู้ สภาวะจิตถึงกับรู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชาก
นี่ทำให้เขาตกใจ เขาเป็นถึงมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ด แต่กลับไม่อาจต้านพลังของรอยกระบี่ได้!
แค่คิดก็รู้แล้วว่าผู้ฟันกระบี่นี้ในปีนั้นน่ากลัวระดับใด
ไม่นานดวงหน้างามของเซี่ยงเสี่ยวหยวนก็ซีดขาว ถอนสายตากลับไปเช่นกัน หว่างคิ้วเผยแววตระหนกที่ไม่อาจระงับ
เห็นชัดว่านางเหมือนเยวี่ยตู๋ชิว สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของรอยกระบี่นี้
ทั้งสองล้วนมองไปทางหลินสวินตามจิตใต้สำนึก กลับเห็นฝ่ายหลังสีหน้านิ่งสงบเหมือนเข้าฌาน ไม่ผิดแปลกแม้แต่น้อย
ครู่ใหญ่หลินสวินจึงถอนหายใจยาวพลางกล่าว “นี่คือเจตกระบี่อมตะสายหนึ่ง น่ากลัวจนเหนือความคาดหมาย หากพลังของกระบี่นี้ยังอยู่เกรงว่าคงสังหารพวกเราได้ในพริบตา”
ก่อนหน้านี้ยามหยั่งรู้เจตกระบี่นี่ก็ทำให้เขาจิตใจปั่นป่วน ต้องรวบรวมพลังทั้งหมดจึงพอแบกรับได้
ตอนนี้ทั้งสามคนต่างระวังตัวขึ้นมา
เพิ่งเข้ามาในตำหนักเก่าแก่ แค่สระชำระกระบี่แห้งขอดแห่งหนึ่งก็เหลือรอยกระบี่น่ากลัวเช่นนี้ไว้ ช่างทำให้ผู้คนไม่อาจจินตนาการว่าสถานที่นี้ยังมีอันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่าอีกหรือไม่
พวกเขาเดินเข้าไปข้างใน สลายหมอกขาวแล้วมุ่งหน้าไปทีละก้าว
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาล้วนใจสั่น สิ่งที่มองเห็นทั้งหมดนั้นชวนสยอง
เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือลานมรรคแห่งหนึ่ง ราวกับสถานที่ถ่ายทอดวิชาฝึกปราณให้กับศิษย์ในสำนัก แต่ตอนนี้บนพื้นกลับมีร่างไร้วิญญาณศพแล้วศพเล่านอนเกลื่อนกลาด เลือดสีสดไหลทะลัก!
ซากศพพวกนี้ล้วนประหลาดมาก มาจากเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน เหมือนไม่ได้อยู่ในโลกนี้โดยสิ้นเชิง มีโอกาสสูงว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในยุคก่อน
มีเพียงหลินสวินที่ใจสะท้าน รู้ความเป็นมาของซากศพบางส่วน
“เผ่าวิญญาณงู เผ่ากิเลนคราม เผ่าวิญญาณมาร…” หลินสวินพึมพำ ในหัวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องในอดีตช่วงหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว
ตอนนั้นเขายังเด็ก ในเมืองหมอกอำพรางมณฑลซีหนานแห่งจักรวรรดิจื่อเย่า ยามเขาเข้าไปฝึกใน ‘ดินแดนลี้ลับแห่งสมรภูมิร้อยศึก’ ด่านที่สามของทางเดินเมฆาหยกเก้าด่านแห่งห้องโถงมรรคาสวรรค์
ในดินแดนลี้ลับแห่งสมรภูมิร้อยศึก มีรูปปั้นสิ่งมีชีวิตที่ต่างกันร้อยกว่าชนิดเรียงราย การทดสอบของด่านที่สามก็คือการห้ำหั่นกับสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒน์มาจากรูปปั้นพวกนี้
ภายในนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งของเผ่าวิญญาณงู เผ่ากิเลนคราม เผ่าวิญญาณมารด้วย!
หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าในแดนแห่งวาสนาที่เข้ามาตอนนี้ ถึงกับได้เจอซากศพผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์พวกนี้อีก
หลินสวินอึ้งงันไปชั่วขณะอย่างอดไม่ได้
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าสิ่งมีชีวิตหนึ่งร้อยกว่าเผ่าในดินแดนลี้ลับแห่งสมรภูมิร้อยศึกนั้นอาจจะมีอยู่ แต่แน่นอนว่าคงอยู่ในฟากฝั่งฟ้าดารา
แต่ตอนนี้ดูท่าว่าสิ่งมีชีวิตหลากเผ่าพวกนี้ มีโอกาสสูงว่าจะอยู่ในยุคก่อน!
“พี่หลิน เจ้ารู้ความเป็นมาของซากศพพวกนี้ด้วยหรือ” เซี่ยงเสี่ยวหยวนกับเยวี่ยตู๋ชิวอดตะลึงไม่ได้
หลินสวินใคร่ครวญเล็กน้อยแล้วกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้าเคยเจอ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอที่นี่”
เขาพูดพลางก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ แต่ก็เป็นเวลานี้เอง
ฮูม…
รอยเลือดแดงสดและซากศพที่แผ่อานุภาพชวนประหวั่นในลานมรรคนั้นล้วนกลายเป็นเถ้าธุลี หายไปในพริบตา
เห็นชัดว่าเจ้าของร่างไร้วิญญาณพวกนี้สิ้นชีพในยุคสมัยดับสิ้น กาลเวลาไร้สิ้นสุดผ่านไปแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนล้วนตายจากไหจนหมดสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์