Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2552

ตอนที่ 2552 ต้นหงเหมิงหมื่นมรรค

“ทำไมต้องรอให้ออกจากที่นี่ อย่าลืมสิ หลังจากศึกชิงบัลลังก์แล้วยังมี ‘งานตำหนักเซียน’ อีก!”

จงหลีเซียวเอ่ยปากเย็นชา

งานตำหนักเซียน!

ในยุคก่อนหลังศึกฟ้าเลือกสรรสิ้นสุด ขอเพียงเป็นผู้ฝึกปราณที่เข้ามาในศึกชิงบัลลังก์ หากไม่ยินยอมก็สร้างความลำบากให้บุตรฟ้าเลือกสรรในงานตำหนักเซียนได้!

หากบุตรฟ้าเลือกสรรต้านอุปสรรคทั้งหมดได้ ถึงนับเป็นผู้สืบทอดของตำหนักเซียนใจกลางที่แท้จริง

หากต้านไม่อยู่…

ชื่อเรียก ‘บุตรฟ้าเลือกสรร’ ก็จะถูกช่วงชิงโดยผู้ชนะ เข้าสู่ตำหนักเซียนใจกลาง กลายเป็นผู้สืบทอดของตำหนักเซียนใจกลาง

แต่เล่าลือว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นน้อยนัก

ด้วยขอแค่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถฝ่าออกมาจากศึกฟ้าเลือกสรรทุกแสนปี ย่อมเรียกได้ว่าเป็นบุคคลชั้นยอด มีอานุภาพไร้คู่ต่อกรในระดับเดียวกันทั้งสิ้น

แต่คำพูดนี้ของจงหลีเซียวกลับเตือนทุกคนในที่นั้น เรื่องที่ไม่เคยเกิดในยุคก่อน ปัจจุบันใช่ว่าจะไม่เกิดเสมอไป

เหตุผลนั้นง่ายมาก พวกเขาล้วนเชื่อว่าการผ่านหนทางฟ้าเลือกสรรของหลินสวินมีปัญหา ไม่มีทางเป็นสิ่งที่มรรควิถีทั้งตัวเขาทำได้แน่

“ไม่ผิด ยังมีงานตำหนักเซียนอยู่!”

นัยน์ตาของมู่อี้วาววาบขึ้นมาในชั่วขณะเดียว เขาที่ก่อนหน้านี้ถูกโจมตีอย่างหนัก ตอนนี้เหมือนเห็นความหวังใหม่อีกครั้ง เห็นโอกาสกำราบหลินสวิน ชิงศุภโชคบนตัวเขามา!

เวลานี้ฉีหลิงอวิ๋นก็เอ่ยปาก นัยน์ตากระจ่างดั่งวารี น้ำเสียงรื่นหู “ทุกท่าน ข้าไม่สนใจบุตรฟ้าเลือกสรรอะไรนั่น แต่หากทุกท่านลงมือพร้อมกันในงานตำหนักเซียนแล้วจัดการหลินสวินได้ ข้าไม่รังเกียจที่จะพาทุกท่านมุ่งหน้าไปฝึกปราณในน่านฟ้าที่แปดด้วยกัน”

ในลานเกิดความไม่สงบ ผู้ฝึกปราณสามร้อยกว่าคนแทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง แค่ไปช่วยจัดการคนร้ายกาจแซ่หลิน ก็มุ่งหน้าไปฝึกปราณบนน่านฟ้าที่แปดได้หรือ

หลิ่วเซียงเชวียกับเซี่ยงเสี่ยวหยวนหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน หนาวสะท้านในใจ ฉีหลิงอวิ๋นคนนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ต้องการให้ทุกคนตั้งกระบวนรบ จัดการหลินสวินพร้อมกัน!

“เรื่องนี้ข้าก็รับปาก” ชือพั่วจวินเอ่ยปาก

จงหลีเซียวกล่าว “นับรวมข้าด้วยคน”

พวกเขาสองคนมีหรือจะไม่เข้าใจ การกระทำนี้ของฉีหลิงอวิ๋นคือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

กระตุ้นกำลังพลทั้งหมดไปจัดการหลินสวิน ทั้งเป็นการได้ตัวเหล่าผู้มีความสามารถที่ยากจะหาในหมื่นคน!

ต้องรู้ว่าเหล่าผู้ฝึกปราณในที่นั้นล้วนเป็นยอดบุคคลที่ผ่านการคัดกรองของ ‘ศึกครองสังเวียน’ และ ‘ศึกล่าสัตว์’ ทะลวงออกมาจากระดับจักรพรรดิเกือบสามหมื่นคน

ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนเป็นคนชั้นยอดในระดับเดียวกัน หากชวนมาเป็นบริวารได้ เกรงว่าผลประโยชน์นั้นคงทำให้เหล่ายักษ์ใหญ่อมตะใจเต้นเช่นกัน

เช่นมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างคนสะพายดาบ ยิ่งเป็นบุคคลที่แม้แต่ยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปดยังให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ยินดีจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลเพื่อชักชวนมา!

“แน่นอนว่าข้าไม่บังคับทุกท่าน หากใครยินดีก็รองานตำหนักเซียนเริ่มแล้วลงมือพร้อมกันก็พอ”

ฉีหลิงอวิ๋นกล่าวราบเรียบ

เมื่อกล่าวคำนี้ออกมาก็ทำให้หลายคนลอบโล่งอก สามารถมุ่งหน้าไปฝึกปราณบนน่านฟ้าที่แปด แน่นอนว่าทำให้ผู้คนใจเต้น แต่ความเสี่ยงที่ต้องจ่ายนี้ก็มากเกินไป

แต่ในที่นั้นสีหน้าของคนตระกูลกู้กับตระกูลอวิ๋นกลับอึดอัดที่สุด ในใจรัดเกร็ง

พวกฉีหลิงอวิ๋นเข้ามาแทรกแซง ย่อมทำลายแผนการที่พวกเขาจะจับตัวหลินสวินโดยไม่ต้องสงสัย หากพลาดโอกาสไปเช่นนี้ ภายหน้าพวกเขาจะรายงานตระกูลตงหวงอย่างไร

บางทีสิ่งที่พวกฉีหลิงอวิ๋นมุ่งหมายอาจเป็นศุภโชคของตำหนักเซียนใจกลางนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาสี่ตระกูลตงหวงมุ่งหมาย ไม่ใช่เรื่องพวกนี้!

“อดทนรอสักประเดี๋ยว อย่าลืมสิ ระดับอมตะของพวกเราสี่ตระกูลล้วนรออยู่นอกโบราณสถานทวยเทพนี้ ถึงตอนนั้นหากหลินสวินตาย แล้วก็ให้เหล่าระดับอมตะออกหน้า ไปทวงศุภโชคเกี่ยวกับนิพพานนั่นกับพวกฉีหลิงอวิ๋น”

กู้ปั้นจวงเสียงเหมือนริ้นไร ยืนอยู่บนหน้าผาซึ่งห่างไกลจากฝูงชน

พลังปราณถูกกำราบ ไม่อาจสื่อจิต การรับรู้ของทุกคนอ่อนแอลง ไม่ต้องห่วงว่าคนอื่นจะได้ยินคำพูดที่นางกล่าว

“ก็ได้แต่ทำเช่นนี้แล้ว”

อวิ๋นลั่วหงก็พยักหน้า

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาหรือพวกกู้ปั้นจวงล้วนรู้สึกอัดอั้นหาใดเปรียบ

ทำไมเรื่องดีบนโลกนี้ล้วนถูกเขาหลินสวินยึดครองคนเดียวเล่า

ศุภโชคนิพพานที่ตระกูลตงหวงมุ่งมาดอยู่บนตัวเขา ส่วนสมบัติลึกลับชั้นสูงของตำหนักเซียนใจกลางนี้ก็ถูกเขาได้ไป

กระทั่งตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงแห่งน่านฟ้าที่แปดอย่างพวกฉีหลิงอวิ๋นหรือพวกเขาสี่ตระกูลตงหวง ถึงขั้นมีโอกาสสูงว่าจะเกิดความขัดแย้งเพราะช่วงชิงศุภโชค…

นี่ช่างทำให้คนหมดคำพูดจริงๆ

“รอก่อนเถอะ ช้าสุดงานตำหนักเซียนจะเริ่มหลังจากนี้หนึ่งเดือน ถึงตอนนั้นเขาคนแซ่หลินกินอะไรไปก็ต้องคายออกมาให้ข้าทั้งหมด!”

จงหลีเซียวแววตาเยียบเย็นนัก เดิมทีเขาชื่นชมหลินสวินมาก ยังมีความคิดชี้แนะอีกฝ่ายมุ่งหน้าไปฝึกปราณบนน่านฟ้าที่แปด

แต่ทุกการกระทำของหลินสวินก่อนหน้านี้กลับทำให้เขาเดือดดาลถึงขีดสุด!

“อย่าลืมเรื่องการพนัน พวกเจ้าต้องช่วยโน้มน้าวหลินสวินให้เขาก้มหัวศิโรราบต่อข้า” ห่างไปไม่ไกลฉีหลิงอวิ๋นยิ้มพลางกล่าวเตือน

เมื่อพูดถึงการพนัน สีหน้าของจงหลีเซียว ชือพั่วจวิน มู่อี้ล้วนอึมครึมลงไม่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์