Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2680

ตอนที่ 2680 ระเบียบพิรุณเคราะห์

จวงซิวอู่อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนหัวเราะฮ่าๆ กล่าวว่า “สหายน้อยช่างเข้าใจพูดเล่นจริงๆ”

หลินสวินกล่าวยิ้มๆ “ผู้อาวุโส ประเดี๋ยวตอนที่ข้าและศิษย์พี่จากไป ท่านอย่าลืมสินน้ำใจที่รับปากว่าจะให้พวกเราเชียวล่ะ”

รอยยิ้มของจวงซิวอู่แข็งค้างน้อยๆ ทันที เวลาไหนแล้วเจ้าเวรนี่ยังมัวห่วงเรื่องพวกนี้อีก!

หลินสวินไม่ได้สนใจจวงซิวอู่อีก เดินตามเส้นทางภูเขาขึ้นไปข้างบน

ตั้งแต่ต้นจนจบจวินหวนเดินตามหลินสวินไปโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ

เมื่อเห็นเช่นนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของจวงซิวอู่หุบลง ทั้งตัวคล้ายจะยิ่งผ่อนคลายลงเรื่อยๆ ก่อนสาวเท้าเดินไปตามเส้นทางภูเขา

บริเวณไหล่เขา

ไผ่เขียวเนืองแน่น หญ้าสดโน้มใบ คฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งตระหง่าน

ภายในคฤหาสน์ว่างเปล่าไร้ผู้คน

หรือกล่าวอีกอย่างคือทั่วยอดเขาทั้งบนล่างล้วนไม่มีใครสักคน แม้แต่บ่าวไพร่ที่คอยปรนนิบัติยังไม่มี

หลินสวินหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคฤหาสน์ แล้วหมุนตัวมองทางจวงซิวอู่พลางยิ้มกล่าว “ผู้อาวุโส ท่านตั้งใจจะขอโทษก่อน หรือว่าจัดการเรื่องราวก่อนหรือ”

จวินหวนยืนอยู่ข้างๆ หลินสวิน นัยน์ตาใจกระจ่างมองจวงซิวอู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นกัน

“ขอโทษหรือ”

จวงซิวอู่กลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป แววตาที่มองหลินสวินและจวินหวนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เจือแววเวทนาขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง “พวกเจ้าสองคน เขานี้นามว่า ‘ไต่สวน’ เป็นสถานที่สำคัญสำหรับกักขังนักโทษของตระกูลเรา ไม่ได้ใช้งานนานหลายปีแล้ว”

หลินสวินพูดอย่างประหลาดใจ “กล่าวเช่นนี้ ท่านก็ไม่ได้ขอโทษสักนิด หากแต่จะกักขังข้ากับศิษย์พี่ไว้ที่นี่หรือ”

“เพิ่งเข้าใจเอาป่านนี้หรือ”

จวงซิวอู่สีหน้าเหมือนมองคนเบาปัญญา กล่าวเย้ยหยัน “ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอย่างพวกเจ้าล้วนถูกสิบยักษ์ใหญ่น่านฟ้าที่แปดหมายหัวแล้ว สถานการณ์อันตรายปานใดกลับยังกล้าเปิดเผยร่องรอยประเจิดประเจ้อเช่นนี้ ต้องโง่เง่าเพียงไหน”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อ “แน่นอน พวกเจ้าก็ไม่ต้องกังวลไป ดีชั่วตระกูลจวงของข้าก็เห็นแก่ไมตรีในอดีต ไม่มีทางลงมือสังหารพวกเจ้าแน่ ขอเพียงพวกเจ้าอยู่ที่นี่แต่โดยดีก็พอ”

หลินสวินกล่าวอย่างไม่เข้าใจ “หากไม่ยินดีช่วยพวกเราทั้งยังไม่อยากขอโทษ เหตุใดต้องทำเช่นนี้ด้วย”

จวงซิวอู่กล่าวเสียงเย็น “อยากรู้จริงๆ หรือ”

หลินสวินพยักหน้า

“เช่นนั้นข้าจะบอกพวกเจ้าให้ก็ได้ ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว ตระกูลจวงของข้าอาศัยความเกี่ยวข้องกับบรรพจารย์จวงซื่อหลิว ไปเชื่อมสัมพันธ์ทางการแต่งงานกับ ‘ตระกูลมู่’ หนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่อมตะ”

กล่าวถึงตรงนี้หว่างคิ้วจวงซิวอู่ปรากฏแววภาคภูมิใจขึ้นรางๆ มองหลินสวินด้วยสายตาเย็นเยียบ “ส่วนเจ้าหนุ่มอย่างเจ้า ปีนั้นเคยสังหารมู่อี้บุคคลชั้นสูงของตระกูลมู่ในโบราณสถานทวยเทพ แค้นนี้ตระกูลมู่ไม่เคยลืมมาโดยตลอด”

หลินสวินเข้าใจทันที เอ่ยว่า “ดังนั้นพวกเจ้าตระกูลจวงจึงตั้งใจจะจับข้าให้ตระกูลมู่จัดการหรือ”

จวงซิวอู่กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้คิดจะทำเช่นนี้สักนิด แต่ใครใช้ให้พวกเจ้าเป็นฝ่ายโร่มาหาถึงที่เองเล่า หากจะโทษก็โทษที่พวกเจ้าโชคไม่ดี มีเคราะห์ครานี้ก็สมควรแล้ว!”

“ศิษย์พี่ ที่แท้พวกเราติดกับแล้วจริงๆ”

หลินสวินหันมองจวินหวน

จวินหวนเหลือบมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใจเจ้าอยากเห็นมากที่สุดพอดีหรือ”

หลินสวินหัวเราะทันที

เมื่อเห็นว่าทั้งคู่พูดคุยกันตามสบาย ไม่ได้สำเหนียกว่ากลายเป็นนักโทษแต่อย่างใด จวงซิวอู่ก็พูดเตือนขึ้นว่า “ทั่วบนล่างยอดเขาไต่สวนปกคลุมด้วย ‘พิรุณเคราะห์’ ระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าของตระกูลข้า หากพวกเจ้าไม่รู้ดีชั่ว พยายามจะต่อต้าน ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

เสียงเจือแววคุกคามแข็งกร้าว

หลินสวินยิ้มชื่นบานยิ่งกว่าเดิม มองดูจวงซิวอู่ แววตาปรากฏแววเวทนาออกมาเช่นกัน กล่าวว่า “เจ้าเฒ่า เดิมทีพวกเราตั้งใจจะอดกลั้นความคับข้องเอาไว้ ไม่ถือสาตระกูลจวงของพวกเจ้า แต่ตอนนี้ดูท่าพวกเจ้าตระกูลจวงจะไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณ แต่คิดจะแทนคุณด้วยความแค้น เจ้าเล่ห์ใจระยำชัดๆ”

จวงซิวอู่สีหน้าขรึมลง “พูดดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลัง!”

ตูม!

หยกประดับใบไผ่ชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของเขา เมื่อหยกประดับเรืองแสง กลางห้วงอากาศพลันมีสายฝนพรำขมุกขมัวขึ้นมาทันที เล็กละเอียดวูบไหว

แต่น้ำฝนเป็นหยดๆ นั่นกลับแผ่กลิ่นอายพิบัติเคราะห์ทำลายล้างน่าสะพรึงออกมา ทันทีที่ปรากฏก็ครอบฟ้าดินแถบนี้ราวกับแหนับไม่ถ้วน

พิรุณเคราะห์!

พลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่วิเศษมหัศจรรย์หาใดเปรียบอย่างหนึ่ง!

และเวลานี้สีหน้าจวงซิวอู่ก็เปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้นมาเช่นกัน แววตาดูแคลนไม่ปกปิดใดๆ

แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ หลินสวินและจวินหวนล้วนเยือกเย็นมากอย่างเห็นได้ชัด แววตาที่มองเขาก็เจือแววดูแคลนและอำมหิตแบบเดียวกัน

นี่ผิดวิสัยเกินไปแล้ว

ในใจจวงซิวอู่เกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างประหลาด

นอกยอดเขาไต่สวน

ผู้ตระกูลจวงปี้ป๋อนำขบวนบุคคลสำคัญกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่นี่

จวงปี้ป๋อผมเคราราวหมึก สวมชุดลายมังกรเหลืองสด รูปร่างกำยำ ใบหน้าเหลี่ยมเต็มไปด้วยอานุภาพดุดัน

เขาเป็นระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้า กุมอำนาจในตระกูลมาเป็นเวลาเก้าพันปีแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบกัน ตัวเขาเรียกได้ว่าเป็นผู้นำตระกูลที่อายุน้อยคนหนึ่ง เพราะบรรดาเผ่าจักรพรรดิอมตะส่วนใหญ่ในน่านฟ้าที่เจ็ด ผู้นำตระกูลที่กุมอำนาจของตระกูลหลายหมื่นปีนั้นมีไม่น้อย

จะว่าไปเขาควรต้องขอบคุณจวงซื่อหลิวพี่ชายของเขา หากไม่เพราะจวงซื่อหลิวถูกเลือกไปฝึกปราณที่หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดในปีนั้น ตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้ย่อมตกเป็นของจวงซื่อหลิว

แต่ตอนนี้จวงซื่อหลิวเป็นหนึ่งในผู้ดูแลหอแรกพิสุทธิ์ของลัทธิแรกกำเนิดแล้ว หากพูดถึงตำแหน่งและอำนาจ ก็เหนือกว่าผู้นำตระกูลอย่างเขานัก

ถึงขั้นที่เป็นเพราะจวงซื่อหลิว ทำให้ตระกูลจวงของพวกเขาได้รับผลประโยชน์มากมายเช่นกัน

ที่ได้เชื่อมสัมพันธ์ทางการแต่งงานกับตระกูลมู่แห่งน่านฟ้าที่แปดก็เพราะจวงซื่อหลิวออกหน้าให้ ตอนนี้กลายเป็นที่โจษขานของน่านฟ้าที่เจ็ด

ข้างกายจวงปี้ป๋อมีชายหญิงห้าหกคนยืนอยู่ ล้วนเป็นคนสนิทของจวงปี้ป๋อ แต่ละคนต่างมีมรรควิถีระดับอมตะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์