Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2696

สรุปบท ตอนที่ 2696 ฆ่าคนสังหารจิต: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2696 ฆ่าคนสังหารจิต – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2696 ฆ่าคนสังหารจิต ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2696 ฆ่าคนสังหารจิต

ปราณกระบี่สีขาวหิมะปกคลุมทั่วภูผาธารา

กลิ่นอายของกระบี่เล่มนี้ทำให้คนใจสะท้าน

หากเป็นเวลาอื่นล้วนสามารถสร้างแรงกดดันยิ่งยวดให้แก่คนระดับเดียวกันได้

ด้วยเหตุนี้จะเห็นว่าแม้อวิ๋นมู่เจอจะยืนกรานต่อสู้กับหลินสวินตัวต่อตัว แต่ยามลงมือจริงๆ กลับไม่ได้เลินเล่อแม้เพียงเสี้ยว

อันที่จริงในฐานะคนระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ ทั้งยังสามารถเข้าร่วมการทดสอบของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดได้ ย่อมไม่มีใครเป็นพวกโง่เง่า

ใครไม่รู้ถึงผลงานการต่อสู้อันเจิดจรัสเป็นที่ประจักษ์ของหลินสวินในช่วงหลายปีมานี้บ้าง

แล้วใครจะกล้ามองเขาเหมือนคนทั่วไปอีกเล่า

ดังนั้นทันทีที่อวิ๋นมู่เจอลงมือจึงทุ่มหมดฝีมือดุจอสนีบาตร หมายจะใช้มรรคกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดโค่นหลินสวินลงในทันทีเหมือนอย่างที่เขาพูด!

ตูม!

ฟ้าดินดังสนั่นอึงอล ปราณกระบี่พวยพุ่งราวสมุทร ภูผาธาราบริเวณนั้นล้วนพังถล่ม

เพียงแต่กระบี่ที่ตระการตาจนทำให้มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนอื่นๆ ร้องชมนี้กลับพังพินาศเป็นเสี่ยงๆ เบื้องหน้าหลินสวิน

ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับ ทำเพียงดีดนิ้วคราหนึ่ง

และจากนั้นปราณกระบี่สีขาวหิมะที่แผ่คลุมทั่วเวิ้งฟ้าก็ถล่มกระจายดุจสายฝน

ภาพนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นนัยน์ตาหดรัด แววดีใจและรอยยิ้มบนใบหน้าแข็งค้าง ไม่ทันไรก็ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าทีอยู่บ้าง

“แค่นี้ก็กล้าคุยโวว่าจะทำให้ข้าลิ้มรสความพ่ายแพ้หรือ”

หลินสวินยิ้มหยัน

ไกลออกไปอวิ๋นมู่เจอสีหน้าเยือกเย็นแน่วแน่ ไม่สะทกสะท้าน

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง อานุภาพทั่วร่างแกร่งกล้าขึ้นเรื่อยๆ ทั้งตัวประดุจกระบี่เทพสะท้านยุคเล่มหนึ่ง เหยียบย่างกลางอากาศ ทุกครั้งที่ก้าวเท้าก็จะฟันกระบี่ออกไปคราหนึ่ง

ปราณกระบี่แต่ละสายล้วนแข็งแกร่งยิ่งกว่าปราณกระบี่ก่อนหน้าช่วงใหญ่

เมื่อฟันออกไปเก้ากระบี่

ปราณกระบี่พร่างพราวเก้าสายตัดสลับกลายเป็นลักษณะของเก้าวัง ดุจดั่งกรงขังแห่งกระบี่ ปิดฟ้าบังตะวัน

กรงกระบี่เก้าวัง!

มรรคกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งสร้างขึ้นจากความอุตสาหะตลอดชีวิตของอวิ๋นมู่เจอ

ตูม!

พริบตานั้นปราณกระบี่สะเทือนเก้าชั้นฟ้า กรงกระบี่ร่วงลงมาดั่งทัณฑ์สวรรค์มาเยือนโลก หมายจะกักขังศัตรูไว้ในกรง รอโทษประหารชีวิต

การโจมตีนี้ดึงดูดความสนใจและสายตาไม่รู้เท่าไร

แม้แต่ระดับอมตะยังอดพยักหน้าเงียบๆ ไม่ได้

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ หลินสวินยังคงไม่ขยับ ทำเพียงยื่นมือออกมาคว้า

มือใหญ่ปิดฟ้าขนาดมหึมาข้างหนึ่งควบหลอมขึ้นกลางอากาศ ห้านิ้วดุจเสาค้ำฟ้า ฝ่ามือราวหุบเหวไร้ขอบเขต ยามปิดครอบลงมา กรงกระบี่เก้าวังพลันเกิดเสียงดังสนั่นรุนแรง

ต่อมามือใหญ่ข้างนั้นของหลินสวินบดขยี้กรงกระบี่เก้าวังทั้งอย่างนั้นภายใต้สายตาอึ้งค้างของทุกคน!

“นี่…”

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิของสี่ตระกูลตงหวงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเหล่านั้นแต่ละคนล้วนเบิกตาโพลง

นั่นเป็นถึงหนึ่งในกระบวนท่าไม้ตายที่อวิ๋นมู่เจอภูมิใจที่สุด โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ทั่วทั้งน่านฟ้าที่เจ็ดได้ยินชื่อเป็นต้องถอยหลบ

แต่ตอนนี้กลับถูกบดขยี้ลงเช่นนี้!!

ภาพสะเทือนจิตใจคนนั่นทำให้ทุกคนที่โลกภายนอกล้วนอดสูดหายใจสะท้านไม่ได้

แม้จะรู้แต่แรกว่าหลินสวินเย้ยฟ้ายิ่ง แต่ไม่นึกว่าภายใต้การโจมตีรุนแรงเช่นนี้ ยังสามารถสลายไปได้อย่างง่ายดาย น่าเหลือเชื่อชัดๆ

“ก็ยังอ่อนแอเกินไป” หลินสวินส่ายหน้า

ไม่ได้ถากถาง ไม่ได้เหยียดแคลน เสมือนทอดถอนใจไปตามประสา แต่ความหมายในคำพูดกลับทำให้อวิ๋นมู่เจอที่วางตัวเยือกเย็นมาโดยตลอดหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ ภายในใจบังเกิดความเดือดดาล

เจ้าคนที่ก่อนหน้านี้ไม่ถูกเขาเห็นอยู่ในสายตาสักนิดคนนี้ ตอนนี้กลับลบหลู่ตนถึงเพียงนี้!

ทว่าถึงอย่างไรอวิ๋นมู่เจอก็หาใช่คนทั่วไป เขาไม่ได้ถูกเพลิงโทสะครอบงำจนหน้ามืด หากแต่สูดหายใจลึกแล้วลงมืออีกครั้ง

ตูม!

สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กฎเกณฑ์ระดับบรรพจารย์รูปกระบี่สีขาวหิมะเป็นสายๆ พุ่งออกมาจากผิวหนังของเขา เบียดเสียดแน่นขนัด ตัดสลับเวียนวน ดุจดั่งกระแสปราณกระบี่ขาวหิมะกำลังแล่นตะบึงไป

และบนแท่นวิญญาณเหนือศีรษะเขาก็ปรากฏเงาร่างเจตจำนงที่ใหญ่มโหฬาร สว่างเจิดจ้าแสบตาร่างหนึ่งขึ้น เจตกระบี่ที่แผ่คลุ้งออกมาจากทั่วร่างทำให้ฟ้าดินแถบนี้สั่นสะเทือน ต้นไม้ใบหญ้ากลายเป็นเถ้าถ่าน สรรพสิ่งพังทลาย

นี่คือเจตจำนงมหามรรคในตัวของเขา!

และเวลานี้หลังจากเจตจำนงมหามรรคนี้ปรากฏขึ้น ก็หลอมรวมเข้าสู่กระบี่มรรคในมือเขาทั้งหมด

“ฟัน!”

ในเสียงตะโกนเย็นชาเต็มไปด้วยแววเหยียดหยัน อวิ๋นมู่เจอฟันกระบี่นี้ที่อัดหลอมมรรควิถีในตัวเขาทั้งหมดออกไป

ฟ้าดินสั่นสะเทือนรุนแรงทันที คล้ายกับแบกรับอานุภาพของกระบี่เล่มนี้ไม่ไหว

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนอื่นๆ แถวนั้นล้วนถอยหลบตามจิตใต้สำนึก

ทุกคนในโลกภายนอกก็รู้สึกอัศจรรย์ใจอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

กระบี่นี้น่าสะพรึงเหนือธรรมดาจริงๆ!

ก็เป็นเวลานี้ที่หลินสวินเริ่มขยับแล้ว ไม่หลบไม่ถอย แต่พุ่งเข้าใส่ตรงๆ

รอบตัวเขาปรากฏหุบเหวใหญ่ผลุบโผล่ คลุมเครือยากหยั่งถึง ดุจดั่งถ้ำมืดมิดโคจรเงียบๆ กลางฟ้าดารา กลืนกินวัตถุและแสงเงาทุกอย่างบนโลก

ตูมโครม!

ปราณกระบี่ไร้ทัดเทียมฟันลงไป กระแทกกับหุบเหวใหญ่รอบตัวหลินสวิน บังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ทำเอาหนังศีรษะชาวาบ

ภายใต้สายตาสะท้านสะเทือนที่จับจ้องอยู่ของทุกคน เงาร่างของหลินสวินอานุภาพดุจผ่าลำไผ่ บดขยี้กระบี่ที่พุ่งเข้าใส่ทั้งอย่างนั้น ละอองแสงท่วมฟ้าพุ่งกระฉูด

เพียงชั่วพริบตา

ตัวเขาก็มาอยู่ตรงหน้าอวิ๋นมู่เจอแล้ว

อวิ๋นมู่เจอหน้าถอดสียกใหญ่ นัยน์ตาหดรัด จิตมรรคที่หนักแน่นดุจเหล็กกล้าเรื่อยมาก็สั่นคลอนรุนแรงในชั่วขณะนี้เช่นเดียวกัน

เขาไม่นึกว่ากระบี่ที่รวมมรรควิถีทั้งชีวิต ผนึกเจตจำนงทั้งตัว จะถึงกับถูกหลินสวินบดขยี้อย่างง่ายดายด้วยวิธีเช่นนี้

และจิตมรรคของเขาก็เสมือนถูกกดทับไปพร้อมกัน!

อารมณ์เดือดดาล ท้อแท้ ไม่อยากเชื่อที่อธิบายไม่ถูกพุ่งทะลักไปทั่วร่างราวธารพลิกสมุทรคว่ำ ทำให้เขาสติหลุดโดยสิ้นเชิง ยากจะวางตัวเยือกเย็นเช่นก่อนหน้านี้ได้อีก

ฆ่าคนสังหารจิต!

ก็เป็นเวลานี้ที่ทุกคนสังเกตเห็นว่ามีเงาร่างอรชรสายหนึ่งเดินมาจากบริเวณไกลๆ ของสนามรบ สวมกระโปรงยาวสีเขียวทั้งชุด งามดุจเซียน

เมื่อเห็นนางปรากฏตัว หลินสวินที่เตรียมจะบดขยี้อวิ๋นมู่เจอต่ออดอึ้งไปไม่ได้ เหตุใดจึงเป็นนาง

หญิงสาวงามเลิศล้ำเจ้าของเงาร่างอรชร แผ่กลิ่นอายงดงามมีชีวิตชีวาทั่วร่างคนนั้น ถึงกับเป็นตู๋กูโยวหรัน!

“พี่หลิน พอจะ… เห็นแก่หน้าข้าแล้วปล่อยเขาไปสักครั้งได้หรือไม่”

สีหน้าท่าทางของตู๋กูโยวหรันเต็มไปด้วยแววลังเลและพะว้าพะวง

ในที่นั้นเงียบกริบ

สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปที่ตัวหลินสวินและตู๋กูโยวหรัน

ใครก็คาดไม่ถึงว่าเวลานี้ ขณะที่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิของสี่ตระกูลตงหวงพวกนั้นยังไม่ทันยื่นมือเข้าช่วยเหลืออวิ๋นมู่เจอ ตู๋กูโยวหรันกลับโผล่มาขอร้องหลินสวิน!

นี่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน

ขนาดจวินหวนยังอึ้งไป ลอบกล่าวว่ารูปโฉมของแม่นางน้อยคนนี้งามยิ่งยวด หรือว่าจะมีลับลมคมในกับศิษย์น้องเล็ก

หลังจากนั้นจวินหวนก็เผยสีหน้าประหลาดอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คำขอร้องของแม่นางน้อยผู้นี้เกรงว่าจะยิ่งทำร้ายอวิ๋นมู่เจอคนนั้น…

ดังคาด พรอบตาถัดก็เห็นอวิ๋นมู่เจอดวงตาแทบถลน ร้องคำรามราวกับบ้าคลั่ง “โยวหรัน ใครให้เจ้าไปขอร้องเขา?! เพราะอะไรเจ้าถึงทำเช่นนี้ เพราะอะไร?!”

“ต่อให้ข้าตายก็ไม่มีวันซึ้งใจ!!”

ว่าจบเขาก็กระอักเลือดออกมาอีกคำ ในหัวปรากฏดาวสีทอง ทั้งตัวล้วนรู้สึกเหมือนจะพังทลาย

เขาแพ้แล้ว แต่กลับถูกสตรีที่เขาใส่ใจมากที่สุดในชีวิตเห็นสภาพยามพ่ายแพ้ เดิมนี่ก็อัปยศมากพอแล้ว

และเมื่อสตรีที่เขาใส่ใจมากที่สุดไปขอร้องบุรุษคนนี้ที่ต่อสู้ชนะเขา แรงโจมตีเช่นนั้นเปรียบเหมือนการเหยียบย่ำหัวใจของเขาจนแหลกลาญ

ตู๋กูโยวหรันสีหน้าเปลี่ยนไปน้อยๆ นางไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

หลินสวินถอนใจเบาๆ กล่าวว่า “แม่นางโยวหรัน เจ้ารู้หรือไม่ว่ายามอยู่ที่ด่านนภาอมตะด่านที่เก้า ญาติผู้พี่คนนี้ของเจ้าเคยคิดจะยืมมือผู้อาวุโสไป๋เจี้ยนเฉินกำจัดข้า”

ตู๋กูโยวหรันอึ้งค้าง “นี่เป็นไปได้อย่างไร”

หลินสวินกล่าว “เจ้าไม่รู้ก็พอเข้าใจได้ หากไม่เพราะผู้อาวุโสไป๋เจี้ยนเฉินเอ่ยเตือน แม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่าญาติผู้พี่คนนี้ของเจ้าจะร้ายกาจต่ำช้าถึงเพียงนี้”

ตู๋กูโยวหรันเบิกตากว้าง มองดูอวิ๋นมู่เจอที่หายใจรวยริน ผมเผ้ายุ่งเหยิงแล้วเอ่ยอย่างเดือดดาล “ท่านพี่ เป็นเช่นนี้จริงหรือ”

สติครองตัวของอวิ๋นมู่เจอล้วนกระเจิดกระเจิง สภาวะจิตเสียการควบคุม เมื่อได้ยินก็กล่าวเสียงแหบพร่า “เศษเดนคีรีดวงกมลอย่างเขาไม่สมควรตายอย่างนั้นหรือ ข้าฆ่าเขา เท่ากับทำหน้าที่แทนสวรรค์!”

ตู๋กูโยวหรันขบกลีบปาก นัยน์ตาวูบไหวไปมาระลอกหนึ่ง คล้ายกับผิดหวัง ปวดใจ และโมโหเดือดดาล

ครู่ใหญ่นางสูดหายใจลึกคราหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “คำพูดก่อนหน้านี้คิดเสียว่าข้าไม่เคยพูด”

กล่าวจบตู๋กูโยวหรันก็หมุนตัวออกไป

ความห่อเหี่ยวและหดหู่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทะลักสู่กลางใจ

จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าตนโง่เกินไปหรือไม่ ญาติผู้พี่ที่ตนเชื่อใจมากที่สุดตั้งเล็กจนโต เหตุใดจึงทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ลับหลังตน…

ที่น่าขันคือตนยังลุกออกมาขอร้องหลินสวินแทนเขาอย่างโง่งม

ใครจะรู้บ้างว่าตอนที่ตนรวบรวมความกล้าไปขอร้อง ภายในใจตนทรมานเพียงใด

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์