Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2710

ตอนที่ 2710 คลื่นลมแห่งการท้าทาย

บรรยากาศงานเลี้ยงกลมเกลียวนัก

ไม่ว่าจะเป็นศิษย์สืบทอดแท้จริงหรือศิษย์แกนหลัก ต่างรู้ว่าหลินสวินแสดงความสามารถสะท้านโลกในการทดสอบทั้งสามรอบ ในใจชื่นชมยิ่ง วาจายังเจือความเคารพ

ถึงอย่างไรคนอย่างลี่จงหยวนยังถูกหลินสวินเอาชนะ มองไปทั้งยอดเขาที่เก้า ต่อให้เป็นกู่อวี้ที่เป็นศิษย์แกนหลักอันดับหนึ่งก็ยังด้อยกว่าลี่จงหยวน

ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าละเลย ‘คนใหม่’ อย่างหลินสวินคนนี้

เรื่องที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้ไม่มา

ยามงานเลี้ยงจะจบลง จู่ๆ ผู้อาวุโสเจิ้งเฉียนซึ่งดูแลเรื่องกฎเกณฑ์ของยอดเขาที่เก้าก็เอ่ยว่า

“หลินสวิน เจ้าก็รู้ว่าสถานการณ์ของตัวเองอันตรายแค่ไหน ข้าหวังว่าภายหน้าเจ้าจะเก็บเนื้อเก็บตัวหน่อย อย่าไปหาเรื่อง มิเช่นนั้นรังแต่จะทำให้ยอดเขาที่เก้าของพวกเราพลอยติดร่างแหไปด้วย”

ประโยคเดียวทำให้บรรยากาศที่เดิมครึกครื้นเจื่อนลงทันที

หลินสวินประสานมือเอ่ย “ผู้อาวุโสเจิ้งวางใจ ต่อให้ศิษย์ทำผิดก็จะออกตัวรับผิดชอบทุกอย่างเอง จะไม่ทำให้ยอดเขาที่เก้าพลอยติดร่างแหไปด้วยเด็ดขาด”

เจิ้งเฉียนพยักหน้าเอ่ยว่า “เช่นนั้นข้าก็เตือนเรื่องมิพึงปรารถนาไว้ก่อน ถ้าภายหน้าเจ้ากล้าทำผิดอะไร ข้าจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยเจ้าไว้”

วาจาสงบนิ่ง แต่ความหมายกลับเป็นจริงเป็นจังถึงที่สุด

นี่ทำให้ทุกคนต่างฉงนใจไม่หยุด รู้สึกได้ว่าเจิ้งเฉียนเหมือนไม่ชอบหลินสวิน ถึงกับมีใจต่อต้านและแบ่งแยกอยู่กลายๆ

หลินสวินเลิกคิ้ว ขณะกำลังจะพูดอะไรโม่หลันซานก็หัวเราะคลี่คลายบรรยากาศว่า “เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องน่าเสียอารมณ์เช่นนี้อีกเลย”

เจิ้งเฉียนลุกขึ้นเอ่ยว่า “ข้ามีธุระสำคัญอื่น ขอตัวก่อน พวกเจ้าสังสรรค์กันต่อเลย”

พูดจบก็จากไปทันที

งานเลี้ยงที่เดิมครึกครื้นแช่มชื่นพลันอึมครึมลงเพราะเจิ้งเฉียน

ในที่สุดทุกคนก็ทยอยสลายตัว

“พี่หลิน”

ระหว่างทางกลับถ้ำสวรรค์ เย่ฉุนจวินตามมา เขาเหมือนลังเลอยู่ครู่หนึ่งถึงค่อยสื่อจิตเอ่ยว่า ‘ผู้อาวุโสเจิ้งเฉียนกำลังไขว่คว้าตำแหน่งผู้ดูแลหอแรกนภาอยู่ เจ้าต้องระวังหน่อย อย่าให้เขาจับจุดอ่อนได้’

หลินสวินหรี่ตาลงเล็กน้อย สื่อจิตเอ่ยว่า ‘ความหมายของพี่เย่คือ เป็นไปได้สูงยิ่งที่ผู้อาวุโสเจิ้งจะใช้ข้าสร้างผลงาน เพื่อแลกกับตำแหน่งผู้ดูแลหอแรกนภาหรือ’

เย่ฉุนจวินเอ่ย “สรุปคือ เจ้าต้องระวังตัวหน่อย”

หลินสวินเข้าใจในทันที กล่าวว่า “ขอบคุณพี่เย่ที่เอ่ยเตือน ภายหน้ามีโอกาสจะต้องตอบแทนอย่างงาม”

เย่ฉุนจวินยิ้มเจื่อน “ข้าไม่ได้ต้องการการตอบแทนอะไร คิดเพียงว่าในที่สุดยอดเขาที่เก้าของพวกเราก็รับมหาเทพอย่างเจ้ามาได้สักที ภายหน้าต้องสาดแสงเจิดจรัส เปลี่ยนสถานการณ์ของยอดเขาที่เก้าได้แน่ ข้าไม่ได้อยากให้เจ้าถูกคนอื่นวางแผนลอบทำร้าย”

วาจาจริงจังนัก

หลินสวินยิ้มพลางตบไหล่เย่ฉุนจวิน เอ่ยว่า “ข้าเข้าใจความคิดเจ้าแล้ว”

ความจริงด้วยงานเลี้ยงรวมตัววันนี้ เขาเองก็ประทับใจผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าเช่นกัน แม้อันดับของยอดเขาที่เก้าจะรั้งท้าย แต่ก็เป็นอย่างที่เซียวเหวินหยวนว่าไว้ ที่นี่ไม่มีเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย เขาฝึกปราณที่นี่เหมาะสมยิ่ง

ขนาดผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้ ดูเหมือนต่อต้านตน แต่ก็รับตนมาแล้ว เพียงประพฤติตัวอยู่ในรูปในรอย เขาก็จะไม่สร้างความลำบากให้ตน

กลับเป็นเจิ้งเฉียนผู้นี้…

พอกลับมาถึงถ้ำสวรรค์ของตน นึกถึงพูดของเจิ้งเฉียนในงานเลี้ยงนั้น หลินสวินก็เผยแววตาเย็นชาอย่างอดไม่ได้

ถ้าเจ้าเฒ่านี่กล้าใช้ตนสร้างผลงานด้วยวิธีการบางอย่างเพื่อแลกกับตำแหน่งผู้ดูแลหอแรกนภาจริงๆ เช่นนั้นก็อย่าหาว่าเขาหลินสวินไม่เกรงใจแล้วกัน!

……

สามวันต่อมา

หลินสวินได้รับป้ายคำสั่งสำนักจากมือโม่หลันซาน

ป้ายคำสั่งที่ทำจากหยกเทพอมตะอันเป็นเอกลักษณ์ชนิดหนึ่ง ด้านหน้าสลักอักษรหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ด้านหลังสลักอักษรว่าผู้สืบทอดยอดเขาแท่นบัวหลินสวิน

พอสงบใจสัมผัส ภายในป้ายคำสั่งสำนักนี้ถึงกับประทับพลังระเบียบอันคลุมเครือยิ่งเอาไว้!

ตามคำพูดของโม่หลันซาน ป้ายคำสั่งสำนักนี้นอกจากเป็นป้ายยืนยันตัวตนผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิด ตัวป้ายเองยังเป็นสมบัติระเบียบชิ้นหนึ่ง ถ้าเจอเคราะห์หนักเป็นตายก็จะมีประโยชน์สลายเคราะห์สังหารได้

“หากถือป้ายคำสั่งนี้ไว้ ตอนนี้เจ้าก็จะไปเอาทรัพยากรฝึกปราณได้แล้ว” โม่หลันซานยิ้มเอ่ย

หลินสวินพยักหน้า

หอแรกมายา ตั้งอยู่บนเขาแรกมายา

หลังเขาแรกมายาก็คือ ‘เขาตำรา’ อันโด่งดังในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด

เรือนสมบัติสวรรค์

สถานที่ที่รับผิดชอบวางแผนและแจกจ่ายทรัพยากรฝึกปราณ

สิ่งที่ผู้สืบทอดเก้ายอดเขาใหญ่จำเป็นต้องใช้ในการฝึกปราณล้วนต้องรับมาจากเรือนสมบัติสวรรค์

นอกจากนี้เรือนสมบัติสวรรค์ก็ยังรับผิดชอบแจกจ่ายภารกิจต่างๆ ในสำนัก ถ้าอยากได้ผลงานก็ต้องมารับที่เรือนสมบัติสวรรค์เช่นกัน

ยามหลินสวินมาถึง ภายในเรือนสมบัติสวรรค์ยุ่งวุ่นวายไปหมด

เงาร่างหลายร่างกำลังรับภารกิจสำนัก และยังมีคนที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางเอาของจากภารกิจที่ทำสำเร็จไปแลกผลงาน

การมาถึงของหลินสวินก่อให้เกิดความชุลมุนภายในเรือนสมบัติสวรรค์เช่นกัน

“รีบดูเร็ว นั่นคือหลินสวิน ลี่จงหยวนก็แพ้ให้เขา ตอนนี้เข้าฝึกปราณที่ยอดเขาที่เก้าแล้ว”

“ที่แท้ก็คนผู้นี้”

“เฮอะๆ รอก่อนเถอะ ภายหน้าต้องมีเรื่องสนุกให้ดูแน่”

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้น สายตามากมายมองมาที่หลินสวิน สีหน้าก็ผิดแผกกันไป

พูดจบเขาก็ตรงดิ่งจากไป

“แค่กล้าพูดขู่แต่ไม่กล้าลงมือโดยตรง ใครบอกว่าเจ้าหลินสวินนี่ใจกล้ายิ่ง”

เฉาจ้งหลินหัวเราะหยัน แววตามีแววผิดหวังอยู่รางๆ

คล้ายว่าการที่หลินสวินไม่ได้โมโหหรือลงมือ ทำให้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายของเขา

‘ดูท่าหลินสวินคนนี้จะไม่ได้แผลงฤทธิ์ไม่หวั่นเกรงอย่างที่ลือกัน และย่อมไม่ใช่พวกบ้าบิ่น’ ในเรือนสมบัติสวรรค์มีคนจำนวนหนึ่งครุ่นคิด

การท้าทายของเฉาจ้งหลินก่อนหน้านี้ ใครก็ดูออกว่าตั้งใจสร้างความลำบากให้หลินสวิน

แต่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินทนไว้ไม่ได้ติดกับ

ตอนนี้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมา นั่นก็คือพวกตงหวงเซ่าเหวิน มู่จุนอู๋ ฉีชิงซือ

เห็นชัดว่าพวกเขาก็มารับเบี้ยรายเดือน

เฉาจ้งหลินเอาทรัพยากรฝึกปราณใส่ถุงเก็บของแล้วส่งให้พวกเขาแต่ละคนอย่างเบิกบาน

จนพวกตงหวงเซ่าเหวินจากไป เฉาจ้งหลินจึงพลิกม้วนตำราอีกครั้ง จิบชาอย่างผ่อนคลายไปพลางลอบเอ่ยในใจว่า ‘ยังขาดเซี่ยงเสี่ยวหยวน ความสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนี้กับหลินสวินไม่ธรรมดา รอนางมาแล้วจะได้จัดการให้ดีสักหน่อย ทำให้นางเสียการควบคุม เช่นนั้นก็ยิ่งดี ทั้งกำราบและเป็นการแสดงอำนาจให้ผู้อื่นเห็นไปในคราวเดียว ดูว่าหลินสวินคนนี้จะกล้าทำเรื่องโง่ๆ หรือไม่…’

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ จู่ๆ ตรงหน้าเขาก็มืดลง พอเงยมองไปก็เห็นว่าหลินสวินที่จากไปก่อนหน้านี้ดันกลับมาอีกครั้ง

ยามนี้กำลังคราวนี้ยืนอยู่หน้าโต๊ะพอดี

“ศิษย์น้องหลินสวิน เจ้ากลับมาอีกทำไม”

เฉาจ้งหลินเอ่ยถาม

“ทำไมพวกตงหวงเซ่าเหวินถึงได้รับเบี้ยรายเดือน กลับมีแต่ข้าที่ไม่ได้” หลินสวินแววตาลุ่มลึก จดจ้องเฉาจ้งหลินอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้จากไป รออยู่นอกเรือน จึงเห็นเหตุการณ์ที่พวกตงหวงเซ่าเหวินได้รับเบี้ยรายเดือนทั้งหมด

เฉาจ้งหลินเอ่ยอย่างไม่ร้อนรนว่า “ศิษย์น้องเอ๋ย เบี้ยรายเดือนของสำนักเรามีจำนวนจำกัด พวกตงหวงเซ่าเหวินมาทักเอาไว้ก่อน ข้าก็แบ่งไว้ให้พวกเขา ส่วนเจ้ามาผิดจังหวะเกินไป ย่อมหมดอยู่แล้ว”

“พูดแบบนี้ ข้ามาคราวหน้ายังอาจจะเกิดเรื่องผิดจังหวะแบบนี้อีกใช่ไหม” หลินสวินถาม

เฉาจ้งหลินหัวเราะแหะๆ ขึ้นมา “ศิษย์น้อง เรื่องนี้ใครจะไปพูดจาชี้ชัดได้”

สายตาหลินสวินกวาดไปทั่วเรือนสมบัติสวรรค์ เอ่ยว่า “คนที่รับผิดชอบแจกจ่ายเบี้ยรายเดือนมีแต่เจ้าหรือ”

เฉาจ้งหลินหัวเราะเบิกบานยิ่งขึ้นไปอีก “จะว่าไปก็บังเอิญ เหล่าผู้อาวุโสพวกนั้นต่างยุ่งกับธุระสำคัญกันหมด ที่นี่มีแต่ข้ารับผิดชอบคนเดียวจริงๆ”

หลินสวินร้องอ้อ พลันยื่นมือไปทางเฉาจ้งหลิน

ด้วยไม่ได้ตั้งตัว เฉาจ้งหลินจึงขัดขืนไม่ทันสักนิด ถูกมือใหญ่ของหลินสวินบีบคอยกขึ้นมาจากหลังโต๊ะทันที

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์