ตอนที่ 2730 ตกปลา
พริบตานั้นเบื้องหน้าหลินสวินพลันมืดลง มือใหญ่เหี่ยวชราบดบังฟ้าข้างหนึ่งปกคลุมลงมา ความแข็งแกร่งของกลิ่นอายที่แผ่ออกมาทำให้เขาลมหายใจสะดุด รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันตรายร้ายแรง
เหมิงซานลงมือแล้ว!
ก่อนหน้านี้ยามเห็นภาพเหยียนถูถูกฆ่าก็ทำให้ในใจเขาโกรธจัดแล้ว กระทั่งเห็นว่าแม้แต่ผู้สืบทอดอีกสองคนยังมีอันตรายถึงชีวิต เขาก็ออกโรงโดยทนไม่ไหวอีก
“แค่การต่อสู้ของคนรุ่นหลัง ทำไมสหายยุทธ์ต้องวู่วามด้วย”
ท่ามกลางเสียงเฉยชา เงาร่างของโม่หลันซานปรากฏตัว สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งทันที
ตูม!
ฟ้าดินพลันสั่นสะเทือนรุนแรง มือใหญ่เหี่ยวชรานั้นฟุ้งกระจายกลางอากาศ
โม่หลันซานพาหลินสวินเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ห่างไกล
เมื่อมองไปไกลๆ เหมิงซานที่เดิมแก่ชราหาใดเปรียบมีแสงมรรคอมตะแผ่คลุม ทั้งตัวราวกับคืนความอ่อนเยาว์ในพริบตา กลายเป็นชายห้าวหาญที่ผมเผ้าหนวดเคราดุจสีหมึก ร่างกายดั่งขุนเขาคนหนึ่ง
ไอสังหารที่แผ่ออกมาจากตัว ทำให้เวิ้งฟ้ามืดมน มีความรู้สึกว่าส่ายสั่นคล้ายจะร่วงหล่น
“ฆ่าผู้สืบทอดลัทธิข้า ข้ามีหรือจะไม่โกรธ”
เสียงเหมิงซานเย็นชา “โม่หลันซาน ส่งตัวเจ้าหมอนี่มา เรื่องนี้ข้าจะถือว่าแล้วกันไป ไม่อย่างนั้นวันนี้เจ้ากับเจ้าหมอนี่ก็ไปไหนไม่ได้!”
โม่หลันซานขมวดคิ้ว “นี่เจ้าจะก่อศึกระหว่างพวกเราสองหอบรรพจารย์หรือ”
“นั่นต้องดูว่าเจ้าจะส่งตัวเจ้าหมอนี่มาหรือไม่!”
เหมิงซานเสียงเหี้ยมเกรียม
“คิดไม่ถึง หอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดของพวกเจ้าถึงกับแพ้ไม่เป็น” หลินสวินยิ้มเยาะ
โม่หลันซานกล่าว “ใช่ว่าพวกเขาแพ้ไม่เป็น แต่ไม่เห็นกฎเกณฑ์และสัญญาใดในสายตาโดยสิ้นเชิง คิดอาศัยการต่อสู้ตัดสินมาทำให้พวกเขาก้มหัวจากไป แน่นอนว่าไม่มีทาง”
เหมิงซานกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย ข้าขอถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จะส่งคนมาหรือไม่”
น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ไอสังหารเต็มเปี่ยม
“ไม่ส่งคนมาก็ตาย”
ในห้องโดยสารที่ห่างไกลมีเสียงเฉยชาดังขึ้นกะทันหัน
จากนั้นรุ้งเทพสีเลือดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากห้องโดยสาร เงาร่างหนึ่งยืนอยู่บนนั้น อาภรณ์ขาวพลิ้วไหว รูปงามหล่อเหลา นัยน์ตามีกลิ่นอายแห่งกาลเวลาแน่นหนาม้วนซัด
เมื่อเขาปรากฏตัว อานุภาพกดดันน่ากลัวไร้รูปก็แผ่กระจายตามมา ทำให้ฟ้าดินต่างเงียบกริบ
“จวี้หู่!”
โม่หลันซานสีหน้าขรึมลงทันที “เจ้าเป็นถึงราชครูดินคนหนึ่งของหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมด แต่กลับเข้ามายุ่งเรื่องนี้ ไม่คิดว่าไร้ยางอายหรือ”
เขารู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว
หากพาศิษย์ออกมาฝึก แค่เหมิงซานคนเดียวก็พอ แต่ราชครูดินอย่างจวี้หู่ ฐานะเท่ากับรองหัวหน้าหอคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิด ไม่จำเป็นต้องพาศิษย์ออกมาฝึกแต่แรก!
“ขอพูดตามตรง ครั้งนี้ข้ามาเพื่อเจ้าหมอนี่โดยเฉพาะ”
สายตาจวี้หู่มองไปทางหลินสวิน เขาดูองอาจ ท่วงท่าสง่าผ่าเผยเหมือนชายหนุ่ม แต่ความจริงกลับเป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่อายุมากยิ่งคนหนึ่ง
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด ในใจตระหนักได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน
“แค่ผู้สืบทอดคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิดของข้า มีค่าอะไรให้สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างเจ้าสนใจเช่นนี้”
โม่หลันซานกล่าวเย็นชา
“เขาเป็นผู้สืบทอดลัทธิแรกกำเนิดของพวกเจ้าจริงๆ แต่ตัวเขายังเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมลด้วย คงไม่ใช่ว่าเจ้าโม่หลันซานไม่รู้ว่าพวกเราลัทธิพ่อมดมองคีรีดวงกมลเป็นศัตรูมาตลอดกระมัง”
จวี้หู่กล่าวราบเรียบ น้ำเสียงสบายๆ แต่คำพูดเดียวกลับเผยฐานะของหลินสวิน!
โม่หลันซานมองจวี้หู่แล้วหันมองเหมิงซานที่อยู่อีกด้าน กล่าวด้วยสีหน้าอึมครึม “ข้าอยากรู้นัก ใครเป็นคนบอกเรื่องพวกนี้กับพวกเจ้า”
น่าสงสัยนัก!
ที่นี่คือเขตต้องห้ามสะเก็ดดาวในโลกชางถู นอกจากพวกเขาหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดแล้ว มีคนรู้น้อยมาก
แต่ตอนนี้คนของหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดกลับมาเยือนโดยกะทันหัน ทั้งยังพูดตามตรงว่ามาเพราะหลินสวิน นี่ทำให้โม่หลันซานรับรู้ได้ ว่ามีโอกาสสูงที่คนในลัทธิแรกกำเนิดจะเปิดเผยร่องรอยของเขากับหลินสวินออกไป!
นี่ต่างหากคือสาเหตุที่ทำให้โม่หลันซานบันดาลโทสะ
“ขอแค่เจ้าส่งตัวเจ้าหมอนี่มาข้าก็จะบอกเจ้า”
แววตาจวี้หู่เปี่ยมประสบการณ์ ตั้งแต่ปรากฏตัวถึงตอนนี้ก็ทำท่าเหมือนกำชัยไว้แล้ว
“เจ้าไม่ส่งคนมาก็ได้ แต่เกรงว่าเจ้าคงต้องตายพร้อมเจ้าหมอนี่ที่นี่แล้ว”
เหมิงซานที่อยู่อีกฝั่งกล่าวเย็นชา
เหตุการณ์นี้ทำให้ในใจหลินสวินเดือดดาลไม่หยุด มีหรือจะไม่รู้ว่าตนกับผู้อาวุโสโม่หลันซานถูกศัตรูในลัทธิแรกกำเนิดขายแล้ว
ไม่ต้องเดาหลินสวินก็รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหนานป๋อหงผู้นำยอดเขาที่สามแน่!
แต่เวลานี้โม่หลันซานกลับยิ้มกล่าว “หลินสวิน เจ้ารู้ไหมว่าออกเดินทางมาครั้งนี้ ผู้นำยอดเขาพูดว่าอย่างไร”
ไม่รอให้หลินสวินตอบ โม่หลันซานกล่าวต่อไป “ครั้งนี้เจ้ากับข้าก็เหมือนเหยื่อ ดูว่าจะตกปลาตัวใหญ่ได้หรือไม่ แต่ข้ากลับคิดไม่ถึง ว่าปลาใหญ่สองตัวที่ติดเบ็ดครั้งนี้กลับมาจากหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมด เท่านี้ก็รู้แล้วว่าคนบางส่วนในสำนักพวกเราเสียสติถึงขั้นไหนแล้ว”
หลินสวินอึ้งไป สังเกตเห็นว่าผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้กับผู้อาวุโสโม่หลันซานเหมือนเตรียมการมาก่อน!
“ตกปลา?”
จวี้หู่เลิกคิ้ว คล้ายสังเกตเห็นว่าไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง ลงมือตั้งแต่พริบตาแรกทันที
เขายืนนิ่งไม่ขยับ แต่ฟ้าดินแถบนี้พลันพลิกตลบ ดวงดาวนับไม่ถ้วนหม่นแสงสั่นคลอน ราวกับจมสู่หายนะวันสิ้นโลกชวนประหวั่นในครู่เดียว
จากนั้นพื้นดินแตกระแหง ทวนศึกสีเลือดนับหมื่นพันพุ่งออกมา พุ่งไปหาโม่หลันซานด้วยอานุภาพปกคลุมฟ้าดิน
กลิ่นอายน่ากลัวเหมือนไม่เสื่อมสูญ เจิดจ้าจนหลินสวินลืมตาไม่ขึ้น ในใจรู้สึกหวาดกลัวและอันตรายนัก ความรู้สึกนั้นก็เหมือนอยู่ในเขตแดนมรณะ
ด้วยพลังนี้สูงส่งเกินไป เหนือกว่าขั้นอายุขัยเทียมฟ้า เป็นอานุภาพของขั้นดับเทพสัมบูรณ์ ฟ้าพลิกดินตลบในหนึ่งห้วงคิด!
“ฟัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์