ตอนที่ 2737 คลื่นใต้น้ำซัดขึ้นนับไม่ถ้วน
ที่แท้ก็เป็นข่าวที่ศิษย์พี่สามส่งมา!
หลินสวินลอบถอนหายใจโล่งอก
“ส่วนตระกูลลั่ว… ตอนคนพวกนั้นส่งกำลังพลไปเขาเทพหลังมังกรในน่านฟ้าที่หก ที่นั่นก็กลายเป็นบ้านร้างคนหายไปแล้ว”
ตู๋กูยงพูดพลางส่งม้วนหยกม้วนหนึ่งให้หลินสวิน “นี่เป็นข่าวที่ศิษย์พี่จวินหวนผู้นั้นของเจ้าส่งมา”
หลินสวินอึ้งไป นำม้วนหยกมาเปิดดู ในใจก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย
ในม้วนหยกมีคำพูดเพียงประโยคเดียว ‘ตระกูลลั่วปลอดภัย’
“ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้วหรือยัง”
ตู๋กูยงเอ่ยยิ้มๆ
หลินสวินกุมมือคารวะว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่แจ้งเรื่องเหล่านี้”
ตู๋กูยงเอ่ย “คีรีดวงกมลของพวกเจ้ากับลัทธิแรกกำเนิดของพวกเรามีศัตรูร่วมกัน ข้ากับเฒ่าชราบางส่วนไม่อยากเห็นสภาวะจิตเจ้าได้รับผลกระทบในช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญนี้”
เขาหยุดไปแล้วกล่าวต่อ “รอเมื่อเจ้าตัดสินใจทะลวงระดับ ข้าจะคุ้มครองเจ้าด้วยตัวเอง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัดสินใจทะลวงระดับเมื่อไร”
หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยว่า “พรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
ตู๋กูยงแปลใจ คล้ายผิดคาดอยู่บ้าง
เจี่ยงเยี่ยที่อยู่ข้างๆ ยิ้มพลางอธิบายไปด้วยว่า “ก่อนหน้านี้หลินสวินเคยพูดว่าเขาจะแจ้งมรรคที่ไหนเมื่อไรก็ได้”
ปากตู๋กูยงขมุบขมิบเป็นคำว่า ‘ที่ไหนเมื่อไรก็ได้’ อยู่ครู่หนึ่ง แววประหลาดปรากฏขึ้นบนดวงตาเขาเช่นกัน เพียงไม่กี่คำเท่านั้น แต่ความหมายนั้นน่าตะลึงเกินไปแล้ว!
มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิบนโลกหมายจะแจ้งมรรคอมตะ มักจำเป็นต้องหาจุดเปลี่ยนอันเลือนรางอย่างหนึ่ง
จุดเปลี่ยนนี้ก็เหมือนการหยั่งรู้ฉับพลันที่ฉายวาบขึ้นในหัว เป็นความฉุกคิดที่เกิดขึ้นทันที ทั้งยังเหมือนลางสังหรณ์ที่ไม่อาจควบคุม ไม่อาจขบคิดได้
ต่อให้เป็นปีศาจไร้เทียมทานที่รากฐานน่ากลัว โดดเด่นตระการตา ถ้าจุดเปลี่ยนนี้ไม่มา ร้อยพันปีก็ไม่อาจแตะธรณีประตูของมรรคาอมตะได้
เพราะการแจ้งมรรคอมตะไม่เกี่ยวข้องกับมรรควิถี พรสวรรค์และการหยั่งรู้ของตนโดยสิ้นเชิง ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับความอุตสาหะในการฝึกปราณ สิ่งที่จำเป็นมีเพียงจุดเปลี่ยนเดียวเท่านั้น
แต่จุดเปลี่ยนนี้กลับทำให้อัจฉริยะไร้เทียมทานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่รู้เท่าไรต้องทุกข์ทน!
อย่างในเก้ายอดเขาใหญ่ ปีศาจไร้เทียมทานระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิมีมากมายขนาดไหน แต่ละคนวิปริตเสียยิ่งกว่าอีกคน แต่ส่วนมากในนั้นต่างชะงักอยู่ที่ระดับนี้มาเป็นร้อยปีพันปี ถึงขึ้นว่าหลายพันปียังไม่ได้แจ้งมรรคอมตะ!
เช่นนี้แล้ว หลินสวินที่พูดว่า ‘จะแจ้งมรรคที่ไหนเมื่อไรก็ได้’ ความหมายที่สื่อถึงย่อมน่าตกตะลึง
“เช่นนั้นเจ้าคิดจะแจ้งมรรคที่ไหน”
หลังจากสงบใจลงแล้วตู๋กูยงก็เอ่ยถาม
หลินสวินเอ่ยโดยไม่ต้องคิด “ยอดเขาที่เก้า”
คำตอบนี้ทำให้ตู๋กูยงกับเจี่ยงเยี่ยรู้สึกประหลาดใจทันที
แต่เมื่อใคร่ครวญดู ทั้งสองต่างพอจะเข้าใจ
ยอดเขาที่เก้าในตอนนี้ ผู้สืบทอดบ้างบาดเจ็บบ้างถูกลงโทษ ผู้นำยอดเขาฉินอู๋อวี้ถูกเหล่าคนใหญ่คนโตที่นำโดยรองหัวหน้าหอฉีเซียวอวิ๋นยื่นเรื่องถอดถอนจากตำแหน่ง สถานการณ์ยากเข็ญบีบคั้น
พูดได้ว่าทั้งยอดเขาที่เก้าอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินเลือกทะลวงระดับที่นี่เท่ากับแสดงจุดยืนของตนอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ใต้เท้า ข่าวที่หลินสวินจะแจ้งมรรคที่ยอดเขาที่เก้าในวันพรุ่งนี้จะต้องปิดไว้ก่อนหรือไม่”
เจี่ยงเยี่ยมองตู๋กูยง
ส่วนตู๋กูยงก็มองไปยังหลินสวิน
“ผู้อาวุโส เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ต้องปิดบังหรอก ข้าอยากให้ศัตรูพวกนั้นเห็นกับตาตัวเอง ว่าข้าหลินสวินแจ้งมรรคอมตะได้อย่างไร!”
ดวงตาดำหลินสวินลุ่มลึก มีแววโอหังที่สามารถกลืนกินใต้หล้าได้รางๆ
“ดี”
ตู๋กูยงพยักหน้าตอบรับ
ทะลวงระดับแจ้งมรรคในลัทธิแรกกำเนิดท่ามสายตาสาธารณะชน เกรงว่าเฒ่าชราที่หมายใจจะฆ่าหลินสวินให้ตายพวกนั้นคงไม่กล้าลงมือขัดขวางอย่างเหิมเกริมไม่หวั่นเกรงเช่นกัน
……
ข่าวที่หลินสวินออกจากเขาตำราหลังจากผ่านไปเจ็ดเดือนถูกคนที่สนใจในลัทธิแรกกำเนิดล่วงรู้ทันที ก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำนับไม่ถ้วน
และเมื่อรู้ว่าหลินสวินจะแจ้งมรรคอมตะที่ยอดเขาที่เก้าในวันพรุ่งนี้ ก็เหมือนสายฟ้าสะท้านโลกสายหนึ่งฟาดลงมาในลัทธิแรกกำเนิด
คนนับไม่ถ้วนสะท้านสะเทือนเพราะเรื่องนี้
“หลินสวินเพิ่งเข้าสำนักได้ไม่ถึงปีก็จะแจ้งมรรคอมตะแล้วหรือ”
ในหมู่ผู้สืบทอดเก้ายอดเขา มีคนตกตะลึงอ้าปากค้างไม่รู้เท่าไร
“ดูท่าการอ่านมรดกอมตะในตำหนักที่เก้าเป็นเวลาเจ็ดเดือนนี้จะทำให้หลินสวินคว้าจุดเปลี่ยนบรรลุระดับอมตะได้แล้ว…”
มีคนวิเคราะห์อย่างใจเย็น
“แต่เจ็ดเดือนนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนั้น เขาไม่กังวลว่าสภาวะจิตจะได้รับผลกระทบหรือ”
“รอดูเถอะ ต่อให้คราวนี้เขาอยากบรรลุระดับก็เกรงว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น”
…เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ดังขึ้นในสามหอเก้ายอดเขา
เรือนน้อย
“โยวหรัน พรุ่งนี้เจ้าตามข้าไปยอดเขาที่เก้า ดูสักหน่อยว่าเจ้านั่นจะแจ้งมรรคอย่างไร ข้าสังหรณ์ว่าด่านเคราะห์ที่เขาต้องเผชิญคราวนี้ต้องไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ในอดีตและปัจจุบัน”
ตู๋กูยงเอ่ยเสียงเบา
ตู๋กูโยวหรันร้องอืมคราหนึ่ง เนตรดารามีชีวิตชีวา สง่างามยิ่งยวดเหมือนเมื่อก่อน
เพียงแต่เมื่อพูดถึงหลินสวิน ในใจนางกลับเกิดความรู้สึกซับซ้อนบอกไม่ถูกอยู่เสมออย่างเลี่ยงไม่ได้
……
“ผู้อาวุโสเซียว ผู้อาวุโสหลี พรุ่งนี้อยากไปยอดเขาที่เก้ากับข้าสักรอบไหม”
ที่หอแรกพิสุทธิ์ ฟางเต้าผิงเอ่ยถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์