ตอนที่ 2789 หม้อตกมาจากฟ้า
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ภายใต้แรงกระตุ้นหยามเหยียดรุนแรง ฉินจิงเทียนลงมืออย่างเดือดดาล ตบฝ่ามือใส่หัวหลินสวิน
แต่เขาลืมไปว่าตอนนี้เขามีมรรควิถีแค่ระดับหกประสานเท่านั้น ไม่ใช่ระดับจอมยุทธ์ด่านสองที่ทำทุกอย่างได้ตามใจเหมือนก่อนหน้านี้อีก
กร๊อบ!
หลินสวินยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ ข้อมือที่ฉินจิงเทียนตบออกมากลับถูกซัดละเอียด เลือดสีสดสาดกระเซ็น ความเจ็บปวดสาหัสทำให้เขายอมรับความจริงในที่สุด
“ที่นี่คือแดนเทพต้าฉิน ถ้าเจ้าฆ่าพวกเราก็ไม่มีทางจากไปได้แบบมีชีวิต” ดวงตาฉินจิงเทียนคั่งโลหิต กล่าวเสียงแหบพร่า
“เช่นนั้นก็ส่งเจ้าไปลงนรกก่อน”
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
เงาร่างของฉินจิงเทียนระเบิดดังตูม สลายกลายเป็นธุลี หายไปโดยไร้ร่องรอย
ห่างไปไม่ไกลฉินจิงเหวินกับฉินจิงเลวี่ยหน้าแข็งทื่อราวสูญพ่อสิ้นแม่ ความเคียดแค้นดุจอสรพิษกัดกร่อนจิตใจพวกเขาอย่างหนักหน่วง
ครู่หนึ่งก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่เห็นหลินสวินอยู่ในสายตา
หลังจากนั้นพวกเขาเหมือนเทพบนสวรรค์ตกสู่เหวลึก!
หากลงมือเร็วกว่านี้ก้าวหนึ่ง จับตัวอีกฝ่ายทันที มีหรือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึงเช่นนี้
ว่ากันตามจริง ก็เป็นพวกเขาที่คิดไม่ถึงว่าบนตัวหลินสวินมีพลังอภินิหารต้องห้ามเย้ยฟ้าเช่นนี้อยู่
เวลาย้อนคืน ตัดมรรควิถี การโจมตีนี้รุนแรงเกินไป รุนแรงถึงขั้นทำให้สภาวะจิตของพวกเขาล้วนมีสัญญาณว่าจะพังทลาย!
“เจ้าอยากช่วยพ่อแม่ของเจ้าหรือ”
ฉินจิงเลวี่ยพลันเงยหน้ามองหลินสวิน
“แน่นอน” หลินสวินกล่าว
“ข้าช่วยเจ้าได้”
ฉินจิงเลวี่ยสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง “ข้าถึงขั้นทำให้ตระกูลฉินของข้าลงมือช่วยเจ้าพาพ่อแม่เจ้าออกไปได้ ขอเพียงเจ้าให้โอกาสรอดชีวิตกับพวกเรา”
“อยากอยู่ต่อหรือ”
“แม้แต่มดยังรักชีวิต นับประสาอะไรกับผู้ฝึกปราณอย่างพวกข้า” ฉินจิงเลวี่ยกล่าวราบเรียบ
“เช่นนั้นเจ้าคิดช่วยข้าอย่างไร” หลินสวินถาม
ฉินจิงเลวี่ยพูดโดยไม่ต้องคิด “พ่อแม่ของเจ้าติดอยู่ในแดนผนึกเรืองแสง หลายปีมานี้นอกแดนผนึกเรืองแสงถูกปิดล้อมแน่นหนา ด้วยพลังของเจ้าย่อมไม่มีโอกาสช่วยพ่อแม่เจ้าได้แม้แต่น้อย”
“แดนผนึกเรืองแสง…”
หลินสวินพูดพลางหรี่ตาเล็กน้อย
“แต่หากมีเผ่าข้าคอยช่วย ย่อมสร้างโอกาสให้เจ้าช่วยพ่อแม่เจ้าได้ ไม่อย่างนั้นต่อให้เจ้าครอบครองอภินิหารต้องห้ามแห่งกาลเวลาก็ไร้ประโยชน์”
ฉินจิงเลวี่ยกล่าวราบเรียบ
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร”
หลินสวินครุ่นคิด
ในใจฉินจิงเลวี่ยสั่นไหว รู้ว่าโอกาสพลิกสถานการณ์อาจมาถึงแล้ว เขาใคร่ครวญครู่หนึ่งพลางเอ่ย “ขอพูดตรงๆ ขุมอำนาจที่เฝ้าอยู่นอกแดนผนึกเรืองแสง นอกจากตระกูลฉินของข้าแล้ว ยังมีขุมอำนาจของสามเผ่าเทพชั้นยอดอีก”
“มีเผ่าเทพตระกูลอิ๋งจาก ‘ยุคเงาเมฆ’ เผ่าเทพตระกูลเยี่ยนจาก ‘ยุคต้นพิสุทธิ์’ เผ่าเทพตระกูลเหลียงชิวจาก ‘ยุคมรรคราชัน’”
“ในโลกยุคสมัยนับร้อย สามเผ่าเทพนี้จัดอยู่ในสิบอันดับแรกของแหล่งสถานศุภโชค เป็นเผ่าเทพชั้นยอดที่สมชื่อคู่ควร ในตระกูลมีบุคคลน่ากลัวระดับเทพยุทธ์บัญชาการ”
“เทียบกับพวกเขาแล้ว ตระกูลฉินของพวกเราถือว่าเป็นเผ่าเทพชั้นรอง ทั้งตระกูลฉินของข้ายังมีความแค้นกับพวกเขาด้วย แต่เพราะอานุภาพสู้อีกฝ่ายไม่ได้จึงต้องทำตามคำสั่ง”
หลินสวินฟังถึงตรงนี้แล้วเลิกคิ้วกล่าว “พ่อแม่ข้าติดอยู่ในนั้น แต่กลับสะเทือนถึงตระกูลฉินของพวกเจ้ากับสามเผ่าเทพชั้นยอด นี่เป็นเพราะเหตุใด”
ฉินจิงเลวี่ยแววตาซับซ้อนกล่าวว่า “ลั่วทงเทียนตาทวดของเจ้าไม่ได้บอกเจ้าหรือ ยอดสมบัติที่เขานำไปจากแดนเทพต้าฉินเมื่อปีนั้น สำหรับเหล่าเผ่าเทพในแหล่งสถานศุภโชคแล้วสำคัญเพียงใด”
“เป็นเพราะโลงนิรันดร์หรือ”
หลินสวินมุ่นคิ้ว
“ไม่ผิด”
ฉินจิงเลวี่ยพยักหน้า “สมบัตินี้มีความเกี่ยวพันยิ่งใหญ่ ภายในซ่อนนัยเร้นลับสะท้านโลก เล่าลือกันว่าความลับยิ่งใหญ่ที่สุดของแหล่งสถานศุภโชคซ่อนอยู่ในนั้น ใครได้ครอบครองสมบัตินี้ ย่อมกลายเป็นนายเหนือหัวที่แท้จริงของแหล่งสถานศุภโชค อารยธรรมยุคสมัยนับร้อยล้วนยอมจำนนใต้ฝ่าเท้า!”
หลินสวินเผยสีหน้ากระจ่าง
“แน่นอนว่านี่เป็นแค่คำเล่าลือ ด้วยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันโลงนิรันดร์ดุจดั่งตำนาน มีน้อยคนนักที่เห็นโฉมหน้าของมัน ทั้งต่อให้เป็นเผ่าเทพในแหล่งสถานศุภโชคก็ได้แต่คาดเดา สิ่งที่ซ่อนอยู่ในโลงนิรันดร์คือพลังต้องห้ามที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา โชคชะตา กฎกรรม”
ฉินจิงเลวี่ยกล่าว “แต่ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าภายในนั้นยังซ่อนความลับยิ่งใหญ่ของแหล่งสถานศุภโชคไว้หรือไม่ ทั้งไม่มีใครกล้ายืนยันว่าหากได้สมบัตินี้แล้วจะเป็นผู้อยู่เหนือแหล่งสถานศุภโชคจริงหรือไม่”
“สิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือโลงนิรันดร์ต้องมีอยู่แน่!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้สีหน้าเขาเอ่อล้นด้วยความขมขื่นและผิดหวังสุดซึ้ง “แต่ใครเล่าจะคาดคิด โลงนิรันดร์ที่เหมือนตำนานนี้ถึงกับปรากฏในแดนเทพต้าฉินของข้า!”
สองมือเขากำแน่นขึ้นมา
หลินสวินกล่าวเรียบๆ “แม้ว่าสมบัตินี้ปรากฏในอาณาเขตของพวกเจ้า แต่กลับถูกตาทวดข้าเอาไป นี่ทำให้พวกเจ้าโกรธจนแทบคลั่งถูกหรือไม่”
ฉินจิงเลวี่ยสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด กล่าวว่า “ไม่ผิด ปีนั้นเผ่าข้าเคียดแค้นชิงชังหาใดเปรียบจริงๆ ทั้งยังต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนักด้วยเหตุนี้เช่นกัน”
“ค่าตอบแทนอะไร” หลินสวินกล่าว
ฉินจิงเลวี่ยกล่าวเสียงต่ำ “ไม่นานข่าวเรื่องโลงนิรันดร์ปรากฏขึ้นในแดนเทพต้าฉินก็ปั่นป่วนทั่วแหล่งสถานศุภโชค แต่ละเผ่าเทพทยอยเคลื่อนพลมาแดนเทพต้าฉิน หมายช่วงชิงสมบัตินี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์