Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2801

สรุปบท ตอนที่ 2801 คนเดียวสะเทือนทั้งเมือง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2801 คนเดียวสะเทือนทั้งเมือง – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2801 คนเดียวสะเทือนทั้งเมือง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2801 คนเดียวสะเทือนทั้งเมือง

บริเวณประตูสวรรค์ทิศใต้ของเมืองเทพศุภโชคเงียบกริบและกดดัน

ระดับนิรันดร์สิบกว่าคนนั้นไม่ได้จากไป ทำให้ผู้ฝึกปราณบริเวณประตูเมืองต่างประหลาดใจไม่สามารถสงบได้

หลินสวินรู้ว่าเฒ่าชราพวกนี้ไม่ยินยอม!

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สัมผัสการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอายตน

ทันทีที่มาถึงเมืองเทพศุภโชค มรรควิถีของเขาถูกกดข่มจนถึงระดับจักรพรรดิ รักษาระดับไว้ที่ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิเท่านั้น

มองดูผู้ฝึกปราณคนอื่นบริเวณนั้น กลิ่นอายของผู้ฝึกปราณล้วนอยู่ในระดับจักรพรรดิและต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ ไม่เห็นพลังของระดับอมตะใดๆ

เห็นชัดว่าข่าวลือเป็นจริง ผู้ฝึกปราณคนใดที่มาถึงเมืองเทพศุภโชค หากศักยภาพเหนือกว่าระดับจักรพรรดิ จะถูกกดลงอยู่ที่ระดับจักรพรรดิเท่านั้น

“ผู้แข็งแกร่งยุคมรรคราชันโปรดฟัง หากใครสามารถฆ่าเจ้าหมอนี่ได้ ก็จะได้เจ้ามาฝึกปราณในตระกูลเหลียงชิวของข้า!”

ทันใดนั้นบนฟ้าดาราไกลๆ ชายในชุดเกราะสีทอง สูงใหญ่ราวกับเทพผู้นั้นเอ่ยขึ้น เสียงก้องกังวานชี้นิ้วมายังหลินสวิน

ทุกคนต่างฮือฮา สายตาของผู้ฝึกปราณบริเวณนั้นล้วนมองไปที่หลินสวินอย่างยากจะเชื่อ

คนผู้นี้เป็นใคร ถึงได้เรียกไอสังหารจากตระกูลเหลียงชิวมาได้

และมีผู้ฝึกปราณมากมายสายตาวูบไหว ใจเต้นขึ้นมา

ใครบ้างไม่รู้ว่าในโลกยุคสมัยนับร้อยของแหล่งสถานศุภโชค รากฐานพลังและอำนาจบารมีของตระกูลเหลียงชิวสามารถจัดอยู่ในห้าอันดับแรกได้

“ผู้แข็งแกร่งยุคต้นพิสุทธิ์ฟังให้ดี คนที่จับเป็นเจ้าหมอนี่ได้ ตระกูลเยี่ยนของข้ายินดีมอบโอกาสแจ้งมรรคอมตะเป็นรางวัล!”

ส่วนลึกของฟ้าดารา ผู้ยิ่งใหญ่ระดับนิรันดร์อีกคนเอ่ยปาก

ประโยคเดียวทำให้ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรลำคอแห้งผาก จิตใจไหวกระเพื่อม โอกาสแจ้งมรรคอมตะ!

นี่คือศุภโชคไร้เทียมทานที่แม้ได้พบเจอก็ไม่อาจครอบครอง!

ถึงขั้นทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าหลินสวินทำเรื่องอะไรกันแน่ ถึงได้กระตุ้นให้ขุมอำนาจใหญ่เผ่าเทพลงทุนขนาดนี้

“ผู้แข็งแกร่งยุคเงาเมฆฟังให้ดี ขอเพียงสังหารเจ้าหมอนี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสแจ้งมรรคอมตะ หรือเข้ามาฝึกปราณในตระกูลอิ๋งของข้า ล้วนสามารถตอบแทนได้!”

บริเวณประตูสวรรค์ทิศใต้ฮือฮาอย่างสิ้นเชิง ตอนที่สายตามากมายมองไปยังหลินสวิน ล้วนแฝงความกระเหี้ยนกระหือรือ แต่ทุกอย่างยังไม่จบเพียงเท่านี้

จากนั้นระดับนิรันดร์คนแล้วคนเล่าแสดงจุดประสงค์

“ผู้แข็งแกร่งยุคชิ่งหลงฟังให้ดี…”

“ผู้แข็งแกร่งยุคต้าฉู่ฟังให้ดี…”

“ยุคเฟยกวง…”

เสียงน่าเกรงขามเสียงแล้วเสียงเหล่าดังก้องขึ้น ทำให้บริเวณประตูสวรรค์ทิศใต้เดือดพล่านอย่างสิ้นเชิง ฮือฮาอย่างที่สุด

“เผ่าเทพของอารยธรรมยุคสมัยเก้าแห่งถึงกับร่วมมือกันจะฆ่าคนผู้เดียวกัน เขาเป็นใครกันแน่”

มีคนอึ้งจนพูดไม่ออก

“เป็นใครก็ช่าง ล่วงเกินเก้าเผ่าเทพจะรอดชีวิตได้อย่างไร”

มีคนถูมือ กระเหี้ยนกระหือรือ แววตาที่มองไปยังหลินสวินร้อนเร่าขึ้นมา ราวกับจ้องเหยื่อที่เย้ายวน

“เจ้าสารเลว ให้โอกาสเจ้ามอบตัว ไม่เช่นนั้นวันนี้คือวันตายของเจ้า!”

มีคนพุ่งออกไปโดยตรง เขาสวมชุดเขียว รูปร่างสูงโปร่ง ถือกระบี่โบราณเล่มหนึ่ง ดวงตาดุจสายฟ้า ไม่ปกปิดไอสังหารของตนสักนิด

นี่คือระดับบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่ง

ในเมืองเทพศุภโชคก็ถือเป็นระดับสูงสุดแล้ว ถึงได้ไร้เกรงกลัวเช่นนี้

หลินสวินไม่ได้สนใจคนผู้นี้ หรือควรบอกว่าตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้มองคนผู้นี้แม้แต่แวบเดียว

เขาสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

พลังไร้ใดเปรียบพุ่งออกมา กดข่มไปทางชายชุดเขียว

ปัง!

ชายชุดเขียวไม่ทันดิ้นรนด้วยซ้ำก็ถูกโจมตีจนร่างแหลกโดยตรง กลายเป็นฝนเลือดสาดกระเซ็นทั่วฟ้า ผู้ฝึกปราณบางส่วนที่อยู่ใกล้ที่สุดตกใจจนร้องเสียงหลง รีบถอยหนีแทบไม่ทัน

“แข็งแกร่งยิ่ง!”

ผู้ฝึกปราณมากมายหน้าเปลี่ยนสี ในใจหวาดหวั่น

การโจมตีที่เรียบง่ายนี้ กลับสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่ง!

พลังระดับนี้ ในเมืองเทพศุภโชคนี้ก็สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่ได้แต่แหงนหน้าชื่นชมแล้ว

พวกคนที่ตอนแรกยังหมายมั่นปั้นมือเหมือนถูกทำลายขวัญกำลังใจ แข็งทื่อไปทั้งตัว ในใจถอยหนีแล้ว

แม้รางวัลจะยั่วยวน แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิต

“สักวันข้าคนแซ่หลินจะต้องแก้แค้นเรื่องวันนี้”

หลินสวินกวาดมองระดับนิรันดร์สิบกว่าคนบนฟ้าดาราไกลๆ ครู่หนึ่ง ก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปในประตูสวรรค์ทิศใต้

ผู้ฝึกปราณที่อยู่บริเวณนั้นต่างหลีกทางให้ตามจิตใต้สำนึก

และมีคนไม่ยินยอมเช่นกัน เอ่ยกระตุ้นทุกคน “ทุกท่าน พวกเราลงมือพร้อมกันย่อมสามารถจัดการเขาได้แน่…”

พรูด!

ยังไม่ทันพูดจบ คนผู้นี้ก็ถูกปราณกระบี่สายหนึ่งสังหารคาที่ เลือดไหลเต็มพื้น

ภาพความตายอันนองเลือดนั่นทำเอาทุกคนหนังหัวชาวาบ

แข็งกร้าวเกินไปแล้ว!

แม้ถูกเก้าเผ่าเทพออกคำสั่งโจมตีสังหาร แต่คนผู้นี้กลับไร้ซึ่งความหวาดกลัว ทั้งยังสังหารเด็ดขาด เลือดเย็นเหี้ยมโหด ทำเอาคนใจสั่น

เห็นเงาร่างของหลินสวินเดินเข้าประตูสวรรค์ทิศใต้ ผู้ฝึกปราณบางส่วนต่างลังเล ถอนหายใจในใจ ล้มเลิกความคิดเพ้อฝันทั้งหมด

แต่ก็มีผู้ฝึกปราณไม่น้อยที่กัดฟันตามหลังหลินสวินไป

“รีบกระจายข่าวออกไป บอกว่ามีมหาศุภโชคมาเยือนถึงที่แล้ว”

หลายคนเลือกส่งข่าวเข้าไปในเมือง หวังจะให้ขุมอำนาจเบื้องหลังไปสังหารหลินสวิน

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่ได้สนใจ

ตอนนี้แม้ทุกอย่างจะจบลงแล้ว แต่ทุกคนล้วนรู้ดีว่าเมืองเทพศุภโชคกำลังจะเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

“เผ่าเทพของเก้าโลกยุคสมัยออกคำสั่ง ตามฆ่าชายแซ่หลิน!”

“อะไรนะ”

“เจ้าคนแซ่หลินนี่เป็นใคร”

“รางวัลมหาศาลนัก คนแซ่หลินนั่นอยู่ที่ไหน”

…เมื่อข่าวกระจายออกไป ในเมืองเทพศุภโชคก็เกิดเสียงอุทานตกใจและเสียงฮือฮาระลอกแล้วระลอกเหล่า

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมืองเทพศุภโชคเป็นพื้นที่ที่ ‘เพิกเฉยเทพ’ มาโดยตลอด และทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนของผู้ฝึกปราณโลกยุคสมัยนับร้อย รุ่งเรืองอย่างที่สุด

อย่างเช่นขุมอำนาจของแต่ละเผ่าเทพ ล้วนปักหลักอยู่ในเมืองนี้ ในทุกวันยิ่งมีผู้ฝึกปราณมากมายมาเยือนจากทั่วทุกสารทิศ

จนถึงปัจจุบันถึงขั้นมีคนเรียกเมืองเทพศุภโชคว่า ‘เมืองเทพอันดับหนึ่ง’ ในยุคสมัยนับร้อยของแหล่งสถานศุภโชค!

แต่วันนี้เพราะการมาเยือนของหลินสวิน ทำให้ในเมืองเทพศุภโชคเกิดความฮือฮาครั้งใหญ่!

อีกทั้งความฮือฮาเช่นนี้ยังคงดำเนินและแผ่ขยายออกไปอยู่

ขุมอำนาจอย่างตระกูลเหลียงชิว ตระกูลอิ๋ง ตระกูลเยี่ยนที่มีการตั้งอาณาเขตอยู่ในเมืองนี้ ทันทีที่รู้ข่าวก็เปิดฉากเคลื่อนไหวแล้ว

อันที่จริงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีขุมอำนาจใดสามารถยึดครองเมืองเทพศุภโชคได้แต่เพียงผู้เดียว แต่ในเมืองนี้แต่ละขุมอำนาจเผ่าเทพยังคงเป็นราชันสมชื่อ

พวกเขากระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของเมือง แต่ละคนดูแลพื้นที่แถบหนึ่ง แม้ผู้แข็งแกร่งที่ดูแลที่นี่อยู่ในระดับจักรพรรดิ แต่ทั้งหมดนี้ล้วนไม่อาจส่งผลต่อความหวาดกลัวและเคารพนับถือของผู้ฝึกปราณอื่นๆ ที่มีต่อพวกเขา

“เร็ว คนแซ่หลินนั่นเข้ามาจากประตูสวรรค์ทิศใต้แล้ว”

“คนของพวกเราจับตามองคนแซ่หลินนี่ไว้แล้ว เขาหนีไม่รอดแน่!”

“ไป!”

……

หากมองลงไปจากท้องฟ้า ก็จะพบว่าในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองล้วนมีเงาร่างเป็นกลุ่มก้อนเคลื่อนไหว ราวกับกระแสน้ำกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า พุ่งมายังพื้นที่ที่ประตูสวรรค์ทิศใต้ตั้งอยู่

ระหว่างทางผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจเผ่าเทพที่อานุภาพพลุ่งพล่านเต็มไปด้วยไอสังหารเหล่านั้น ล้วนดึงดูดสายตาหวาดกลัวได้ไม่รู้เท่าไร

ในยามนี้ ต่อให้โง่แค่ไหนก็รู้ว่าวันนี้จะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น!

หลังจากหลินสวินเข้าประตูเมืองทิศใต้ก็เดินตรงไปตามทาง เขายังไม่รู้ว่าเพราะการมาเยือนของเขา ในเมืองได้เกิดคลื่นใต้น้ำปั่นป่วนแล้ว กระแสคลื่นโหมซัดสาด

ทว่าต่อให้รู้ เขาก็คงไม่ใส่ใจเช่นเดิม

ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ด้านหลังเขามีผู้ฝึกปราณมากมายตามมา และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ระหว่างทางไม่ว่าเขาจะเดินไปถึงไหนก็ล้วนดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน

สะดุดตาเกินไปแล้ว!

แต่หลินสวินไม่ใส่ใจ

ตอนนี้เขาเพียงอยากระบายความโกรธที่สั่งสมอยู่ในใจ อยากให้ศัตรูรีบตามมา!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์