Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2803

สรุปบท ตอนที่ 2803 ความองอาจอย่างเทพมารในอดีต: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2803 ความองอาจอย่างเทพมารในอดีต จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2803 ความองอาจอย่างเทพมารในอดีต คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2803 ความองอาจอย่างเทพมารในอดีต

บนถนน เลือดนองดุจแม่น้ำ แผ่ขยายออกมา

ศัตรูล้วนถูกฆ่าหมดแล้ว เหลือเพียงเงาร่างที่ผ่าเผยนั้นของหลินสวินยืนอยู่เพียงลำพัง เนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่บาดเจ็บสักนิด

อารมณ์สะท้านไหวพวยพุ่งขึ้นในใจผู้คนที่เฝ้ามองดูอยู่ไกลๆ ไม่รู้มีคนเท่าไรขนลุก

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ทั้งหมดยังไม่ถึงครึ่งเค่อ คนผู้เดียวฟันมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดินับร้อย การสังหารที่นองเลือดระดับนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองเทพศุภโชค

เขาเป็นใครกันแน่

เหตุใดพลังต่อสู้จึงน่ากลัวเพียงนี้

บรรดาผู้ฝึกปราณที่ตามหลังหลินสวินมาไกลโดยตลอดขาอ่อนแล้ว สายตาอึ้งงัน พวกเขาตามหลินสวินมาตลอดทาง เห็นขั้นตอนทั้งหมดที่หลินสวินสังหารตั้งแต่นอกประตูสวรรค์ทิศใต้มาถึงที่นี่

หลายครั้งที่พวกเขาต่างตกใจ รู้สึกอยากถอยหนีอย่างแรงกล้า

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทนเอาไว้ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าเมื่อแต่ละขุมอำนาจเผ่าเทพส่งผู้ฝึกปราณมา หลินสวินต้องตกอยู่ในการปิดล้อมของทัพใหญ่แน่นอน

แต่ตอนนี้…

ความเชื่อมั่นในใจพวกเขาล้วนพังทลาย ถูกความตื่นตกใจและหวาดหวั่นเข้าแทนที่

บรรยากาศกดดันและเงียบกริบทำให้คนหายใจไม่ออก

หลินสวินกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปัดเสื้อผ้าลวกๆ จะเดินทางต่อ จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ เอ่ยว่า

“ใครรู้บ้างว่าพื้นที่ที่เก้าเผ่าเทพอย่างตระกูลเหลียงชิว ตระกูลอิ๋ง ตระกูลเยี่ยนตั้งอาณาเขตไว้อยู่ที่ไหน”

เสียงกังวานทั่วพื้นที่นี้

คนมากมายขนลุกซู่ คนแซ่หลินนี่คิดจะทำอะไร หรือยังคิดจะไปบุกอาณาเขตของเก้าเผ่าเทพ!?

แม้ตื่นตกใจแต่ก็ไม่มีคนตอบ

ก่อนหน้านี้หลินสวินสังหารผู้แข็งแกร่งของขุมอำนาจเผ่าเทพไปมากมายขนาดนั้น เผ่าเทพเหล่านี้ไม่มีทางหยุดเพียงเท่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ใครจะกล้าเปิดเผยข่าวสารให้หลินสวิน

หลินสวินเหมือนไม่ได้ประหลาดใจนัก ยื่นมือไปคว้าง่ายๆ

ปัง!

ชายชุดดำที่ตามหลังมาตลอดคนหนึ่งถูกคว้าจากกลางอากาศ กลิ้งร่วงมาอยู่เบื้องหน้าหลินสวิน

“พูดมา” หลินสวินพูดง่ายๆ

ชายชุดดำเอ่ยอย่างตื่นตระหนก “ข้า… ถ้าพูดข้าต้องตาย!”

“เจ้าไม่พูดก็จะต้องตายตอนนี้”

“เจ้า…”

“คิดว่าข้าฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจใช่หรือไม่ ขอโทษด้วย เจ้าไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ ตอนที่อยู่นอกเมืองเจ้าเป็นคนแรกที่ส่งข่าวมาในเมือง คิดว่าข้าไม่เห็นจริงหรือ”

ชายชุดดำหน้าเปลี่ยนสีไป กัดฟันกล่าว “ข้ามาจากเผ่าเทพตระกูลเป้า…”

ปัง!

พูดยังไม่ทันจบก็ถูกฝ่ามือหนึ่งของหลินสวินตบจนร่างแหลก ดึงพลังจิตของเขาออกมาพลางถอนหายใจเบาๆ “ถึงขนาดนี้แล้วยังจะเอาฐานะมาขู่ โง่จริงๆ”

ขณะพูดจิตรับรู้ของเขาแทงเข้าไปในพลังจิตของอีกฝ่ายราวกับคมกระบี่

ไม่นานหลินสวินก็ได้รู้คำตอบที่ตนต้องการ

“ล่วงเกินเผ่าเทพไปแล้ว เจ้ารอดชีวิตได้อีกไม่กี่วันหรอก!” พลังจิตของคนผู้นั้นคำราม

เสียงเปรี๊ยะดังขึ้นคราหนึ่ง หลินสวินบดขยี้พลังจิตของเขาจนระเบิด กลายเป็นละอองแสงพร่างพรม

เหล่าคนที่เห็นภาพนี้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าคนแซ่หลินนี่ไม่สนใจการคุกคามของเผ่าเทพใดๆ!

ไร้ซึ่งความหวาดกลัวถึงได้ไร้พะวง!

“ตรงนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ตอนนี้เองไกลออกไปมีเงาร่างผู้ฝึกปราณพุ่งมาอีกกลุ่ม อานุภาพทรงพลัง

แต่เมื่อเห็นภาพที่เลือดนองดุจดั่งภาพวาดนี้ แต่ละคนล้วนหน้าเปลี่ยนสี สายตาที่มองหลินสวินก็แฝงความตกตะลึงไปด้วย

“รีบไป คนผู้นี้สู้ไม่ไหว! ก่อนหน้านี้ได้สังหารมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดินับร้อยแล้ว!”

ผู้ฝึกปราณที่ดูอยู่ไกลๆ คนหนึ่งตะโกนเตือนอย่างร้อนใจ

ตอนนี้เองก็เห็นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนตัดสลับ กลายเป็นกระแสปราณกระบี่ที่หอบม้วนห้วงอากาศ พุ่งไปทางผู้ฝึกปราณกลุ่มนั้น

“ไป!”

“รีบแยกตัว!”

ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแต่แรกแล้ว ทั้งยังถูกเตือน จะไม่เข้าใจความผิดปกติได้อย่างไร

หลังจากที่หลินสวินลงมือ พวกเขาก็เลือกถอยทัพในทันที

แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว

ตูม โครม!

กระบี่ครวญสะเทือนฟ้าดินพวยพุ่ง ในห้วงอากาศเงาร่างสายแล้วสายเล่าถูกปราณกระบี่ที่แหลมคมหาใดเปรียบกวาดพาด ร่างแยกเป็นสี่ห้าส่วน เลือดสาดราวกับน้ำตก

ชั่วพริบตาถูกฆ่าจนหมด!

ภาพการตายเหล่านี้กระตุ้นจนคนที่มองดูอยู่ไกลๆ ล้วนเหมือนบ้าคลั่งขึ้นมา ส่งข่าวอย่างลนลาน

“บอกคนในตระกูล อย่ามาเด็ดขาด!”

“เจ้าคนแซ่หลินนี่ฆ่ามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิร้อยกว่าคนแล้ว รีบบอกผู้แข็งแกร่งในตระกูล ไม่เช่นนั้นจะประสบเคราะห์ใหญ่!”

“เร็ว รีบห้ามคนในตระกูล!!”

…ข่าวต่างๆ กระจายไปยังสี่ทิศแปดด้าน

ที่น่าขันคือ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่นอกประตูเมืองก็เป็นคนเหล่านี้ที่ส่งข่าว หวังให้ขุมอำนาจเบื้องหลังเคลื่อนไหวในทันที จัดการหลินสวินเสีย…

กับเรื่องนี้หลินสวินไม่ได้ห้าม เขาก้าวเท้ามุ่งหน้าต่อไป

เมืองเทพศุภโชคเทียบได้กับโลกใหญ่แห่งหนึ่ง กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุด

ผู้ฝึกปราณที่รวมตัวอยู่ในเมืองมีมากกว่าร้อยล้าน ในนั้นมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคือตัวตนที่สูงส่งที่สุด

ทว่าคนเช่นนี้แม้พบได้ไม่ยาก แต่ในขอบเขตผู้ฝึกปราณมากกว่าร้อยล้านคนก็ยังถือเป็นแค่ส่วนเล็กๆ

ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่ในเมืองล้วนมีปราณต่ำกว่าระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ ยิ่งมีผู้ฝึกปราณที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิ

แค้นมีเจ้าของ หนี้มีเจ้าหนี้

หลินสวินไม่ได้จะกวาดล้างทั้งเมือง แน่นอนว่าไม่อาจฆ่าผู้บริสุทธิ์

ว่ากันถึงที่สุด เขาในตอนนี้ต้องการฆ่าเพื่อระบายความแค้นในใจ

ตูม!

การต่อสู้ปะทุขึ้น แสงมรรคพลุ่งพล่านท่วมฟ้าดินผืนนั้น

เพียงครู่เดียว

ผู้แข็งแกร่งที่มองดูอยู่ตลอดต่างหน้าเปลี่ยนสีโดยพร้อมเพรียง ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

“นี่เป็นไปได้อย่างไร”

“บนโลกนี้มีมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”

“คนระดับนี้ เทียบเท่ากับธิดาเทพตระกูลเราแล้ว…”

“ไม่ เกรงว่าธิดาเทพยังไม่ร้ายกาจเท่าคนแซ่หลินนี่ด้วยซ้ำ”

ในครรลองสายตาของพวกเขา หลินสวินประหนึ่งกระบี่เทพที่ทำลายได้ทุกสิ่ง เพียงครู่เดียวก็สังหารคู่ต่อสู้สิบกว่าคน แข็งแกร่งยิ่งยวด

ผู้แข็งแกร่งตระกูลเป้าและตระกูลฉู่ที่เข้าปิดล้อมพ่ายแพ้ไม่เป็นกระบวนในทันที

นี่ทำให้พวกเขาเดือดดาลและรู้สึกหวาดกลัวเช่นกัน

“จะไปช่วยหนุนหรือไม่”

มีคนส่งเสียงอย่างยากลำบาก

“ช่วยหนุนหรือ ข้าว่าไปรนหาที่ตายมากกว่า! ป้องกันอยู่ที่นี่ อย่าเคลื่อนไหวโดยพลการ!”

ชายชุดทองโกรธจนหน้าเขียว

สีหน้าของคนอื่นๆ ก็ไม่น่าดูเช่นกัน แต่ละคนสภาวะจิตกดดัน

ผู้แข็งแกร่งตระกูลฉู่และตระกูลเป้าที่อยู่ไกลออกไป หากพูดถึงมรรควิถีล้วนไม่ด้อยกว่าพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้กลับถูกคนผู้เดียวสังหารจนสิ้นกระบวน บาดเจ็บล้มตายต่อเนื่อง นี่ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามรุนแรง

ที่ยิ่งทำให้พวกเขาทั้งโกรธและตกใจกว่าคือ การต่อสู้ดำเนินไปได้ไม่นาน ผู้แข็งแกร่งตระกูลฉู่และเป้ากลับหนีไปแล้ว!

แต่ละคนราวกับถูกฆ่าจนหลอนไปแล้ว หนีกันรวดเร็วยิ่ง

“พวกสารเลว!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์ขั้นดับเทพคนนั้นโกรธจนก่นด่า

เพียงแต่ครู่ต่อมา สีหน้าที่เดือดดาลของเขาก็ถูกความตะลึงแทนที่

ก็เห็นปราณกระบี่เรืองรองนับไม่ถ้วนกระจายออกจากร่างหลินสวิน หอบม้วนไปยังสี่ทิศแปดด้าน

ปังๆๆ!

เสียงทึบหนักถี่ยิบระลอกหนึ่งดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งสองเผ่าเทพที่หนีไป แต่ละคนร่างระเบิด ถูกฆ่าตายคาที่ เลือดสาดกระเซ็นขึ้นสูง

“นี่…”

บนยอดเขาลมพิสุทธิ์ เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าเทพตระกูลเยี่ยนอึ้งงันอยู่ตรงนั้น เบิกตาโพลง สีหน้าเผยความหวาดกลัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิสองเผ่าเทพหลายสิบคนถูกสังหารจนหมด!!

ทั้งหมดนี้ยังเกิดขึ้นภายใต้สายตาของพวกเขา ภาพที่นองเลือดแต่ละภาพทำเอาพวกเขาถึงขั้นรู้สึกอยากทิ้งที่มั่น หนีไปให้รู้แล้วรู้รอด

แต่ตอนนี้หลินสวินก้าวเข้ามาแล้ว มาถึงหน้ายอดเขาลมพิสุทธิ์ ใต้แสงฟ้า เงาร่างผ่าเผยนั้นปกคลุมด้วยแสงประกายที่ทำให้คนใจสั่นชั้นหนึ่ง

ดุจดั่งเทพมาร!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์