ตอนที่ 2831 ทะลวงขั้นดับเทพ นัดต่อสู้สะเทือนฟ้า
หลังจากกลับถ้ำสถิต หลินสวินก็เริ่มปิดด่านฝึกปราณ
ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เขาก็มีรากฐานพลังและโอกาสในการทะลวงขั้นแล้ว
จนถึงตอนนี้สามารถก้าวเข้าธรณีประตูนี้ได้ตลอดเวลา
เมื่อวานหลังจากกลับมา ที่ตัดสินใจไปทดสอบเลื่อนเป็นผู้ดูแลวันนี้ ล้วนเพราะอยากปิดด่านฝึกปราณเพิ่มเติมหลังจากกลายเป็นผู้ดูแล และหลังจากออกด่านก็จะไปทำสอบตำแหน่งผู้อาวุโสโดยตรง
แต่ตอนนี้หลินสวินเปลี่ยนความคิดแล้ว
หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง พลังขับเคลื่อนรอบตัวโคจรออกมา ทันใดนั้นแสงมรรคบนตัวเขาพวยพุ่ง ประกายศักดิ์สิทธิ์ไหลวน สะท้อนปรากฏการณ์ประหลาดมหามรรคที่เหลือเชื่อออกมา
เสียงมรรคปานเสียงสวดท่องธรรมเป็นระลอกดังออกจากร่างเขา
ชั่วขณะหนึ่งทั้งร่างเขาราวกับเทพไท้นั่งอยู่ในหมู่เทพ วิวัฒน์นัยเร้นลับแห่งมหามรรคมากมายออกมา
ขั้นดับเทพ ก็คือการทำให้จิตวิญญาณและรูปจำลองเจตจำนงเกิดการแปรสภาพถึงขีดสุด จนชักนำให้มรรควิถีแห่งตนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ในขั้นอายุขัยเทียมฟ้า หยั่งรู้ได้จากในพลังระเบียบเท่านั้น จากนั้นควบรวมกฎเกณฑ์อมตะของตนออกมา
ส่วนการทะลวงสู่ขั้นดับเทพ กลับสามารถหลอมพลังระเบียบให้เป็นส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์อมตะแห่งตนโดยตรง!
ตัวอย่างเช่นพลังระเบียบระดับสวรรค์เหมือนกัน ขั้นอายุขัยเทียมฟ้าสามารถหยั่งถึงนัยเร้นลับได้จากในนั้นเท่านั้น จากนั้นควบรวมกฎเกณฑ์อมตะด้วยพลังมหามรรคของตน
แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งขั้นดับเทพ กลับสามารถหลอมระเบียบระดับสวรรค์นี้ได้โดยตรง ผสานเข้าไปในกฎเกณฑ์อมตะของตน!
นี่ก็คือจุดที่น่ากลัวของขั้นดับเทพ
โดยเฉพาะยามต่อสู้ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งขั้นอายุขัยเทียมฟ้าบางส่วนใช้พลังระเบียบ ก็ยังยากจะกำราบพวกขั้นดับเทพ เหตุผลเพราะว่ากฎเกณฑ์อมตะของผู้แข็งแกร่งขั้นดับเทพมีพลังระเบียบหลอมรวมอยู่แต่แรกแล้ว ย่อมไม่กลัวการกำราบเช่นนี้
อีกทั้งยิ่งระดับของพลังระเบียบที่ผู้แข็งแกร่งขั้นดับเทพหลอมยิ่งสูง อานุภาพที่สำแดงออกมายามต่อสู้ก็ยิ่งน่ากลัว
นี่แตกต่างกับกฎเกณฑ์อมตะที่ขั้นอายุขัยเทียมฟ้าครอบครอง
ครืน… ครืน…
ไม่ทันไรร่างกายของหลินสวินก็ราวกับเตาหลอมมหามรรค เสียงมรรคดังอย่างต่อเนื่อง ทรงพลังไร้ขอบเขต แสงมรรคประกายศักดิ์สิทธิ์ทั่วร่างก็ประหนึ่งโหมคลั่ง มีท่าทีจะปะทุอยู่กลายๆ
หากไม่ใช่เพราะถ้ำสวรรค์แดนมงคลนี้มีพลังระเบียบของลัทธิแรกกำเนิดบดบัง ทั้งยังปกคลุมด้วยกระบวนผนึกหนาแน่น เพียงแค่ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ก็คงชักนำปรากฏการณ์ประหลาดที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว
ไม่กี่วันหลังจากนั้น
หลินสวินที่นั่งสมาธิอยู่ขับเคลื่อนความคิดในใจ ลูกกลอนโอสถที่เจิดจ้าพร่างพราวราวกับตะวันดวงเล็กเม็ดหนึ่งพุ่งออกมา และถูกเขากลืนเข้าไปในร่างกาย
ลูกกลอนหมื่นแปรดับเทพ!
หลอมจาก ‘ระเบียบวิญญาณโอสถ’ ระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายาก ทุกๆ หมื่นปีจึงสามารถหลอมออกมาได้เพียงหนึ่งเม็ด เมื่อกินโอสถนี้เข้าไป ยามทะลวงขั้นดับเทพเพิ่มโอกาสได้อีกห้าส่วน และโอสถนี้ยังมีประโยชน์มหัศจรรย์ที่น่าเหลือเชื่อต่อการหลอมชะระมรรควิถีขั้นดับเทพ
และหากอยากได้โอสถนี้ จะต้องได้รับความยินยอมจากหัวหน้าหอทั้งสามหอ หรือไม่ก็ต้องได้รับความยินยอมจากรองหัวหน้าหอเก้าคน ไม่เช่นนี้ต่อให้สร้างความชอบมากเพียงใดก็ยากจะได้รับสมบัตินี้
ลูกกลอนหมื่นแปรดับเทพเม็ดนี้เป็นรางวัลที่หลินสวินได้รับหลังจากศึกถกมรรคเก้ายอดเขา
สำหรับเขา ย่อมไม่สนใจผลลัพธ์ที่มีต่อการทะลวงขั้นของลูกกลอนโอสถนี้ แต่สนใจประโยชน์มหัศจรรย์ที่ลูกกลอนนี้มีต่อการหลอมชำระฐานมรรคขั้นดับเทพ
ตูม!
ทันทีที่กลืนลูกกลอนโอสถนี้เข้าไป หลินสวินเพียงรู้สึกว่าจิตวิญญาณ สภาวะจิต ร่างกาย ล้วนราวกับเพลิงเทพที่ลุกโชนรุนแรง ทั้งร่างมีความรู้สึกเหมือนถูกหล่อหลอมอยู่ในเตาไฟ
เขาจดจ่อทำสมาธิ ทำการหลอมเต็มกำลัง
ชั่วขณะหนึ่งในถ้ำสถิตแสงสมบัติพวยพุ่ง ประกายศักดิ์สิทธิ์สาดจ้า เงาร่างของหลินสวินถูกกลบอยู่ในนั้น
จนกระทั่งเจ็ดวันให้หลัง
โครม!
ในถ้ำสถิตที่หลินสวินอยู่เกิดเสียงสนั่นโดยพลัน ราวกับจักรวาลแรกกำเนิด พลังมหามรรคที่เดือดพล่านแผ่กระจายอย่างเสิบสาน ซัดจนพลังผนึกในถ้ำสถิตส่งเสียงดังวู้มๆ สั่นสะเทือนรุนแรง
ความเคลื่อนไหวนี้ดำเนินอยู่หนึ่งเค่อเต็มๆ
จากนั้นก็เห็นว่าบริเวณที่หลินสวินนั่งสมาธิปรากฏวังวนหุบเหวที่ลึกล้ำคลุมเครือ ยามโคจรช้าๆ แสงมรรคประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ราวกับคลื่นนั่นล้วนเหมือนวัวดินโยนลงทะเล หายเกลี้ยงไม่เหลือ ถูกกลืนกินจนหมด
และเงาร่างผ่าเผยของหลินสวินก็ปรากฏออกมา
มองเห็นว่าด้านหลังเขาวงแหวนเทพอมตะอุบัติขึ้น กลมเกลี้ยงมหัศจรรย์ กลางวงแหวนเทพมีรูปจำลองเจตจำนงที่สูงใหญ่ไร้ใดเปรียบนั่งบัญชา กลืนเมฆคายหมอก ลมหายใจดั่งลมสายฟ้า สุริยันจันทราดารา ภูผาธาราสรรพสิ่ง หลักการฟ้าดินหมื่นลักษณ์ทั่วหล้า ล้วนวนเวียนอยู่รอบๆ รูปจำลองเจตจำนงอย่างชัดแจ้งบ้างเลือนรางบ้าง
ท่ามกลางความเลื่อนลอย วงแหวนเทพอมตะนั่นเหมือนจักรวาลแห่งหนึ่ง และรูปจำลองเจตจำนงนั่นก็คือนายเหนือหัวไร้ใดเปรียบหนึ่งเดียวในนั้น!
ครั้งมองดูบนร่างหลินสวินอีกครั้ง พลังมหามรรคที่พลุ่งพล่านไร้ขอบเขตแฝงท่วงทำนองเร้นลับมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง บนผิวหนังที่ราวกับหลอมจากหยกเซียนทองเทพเผยแสงประกายพร่างพราว ผิวหนัง เอ็นกระดูก น้ำเลือดล้วนเปล่งคลื่นพลังชีวิตที่น่ากลัวออกมา แม้แต่เส้นผมของเขายังเผยประกายศักดิ์สิทธิ์
และในร่างเขาเหมือนดั่งโลกวัฏจักรที่ความขุ่นมัวแรกกำเนิดอบอวล กระแสมหามรรคประหนึ่งธารยาวแม่น้ำใหญ่ไหลบ่าพวยพุ่ง ทะลวงผ่านเส้นปราณจุดชีพจร อวัยวะตันห้ากลวงหก วิถีโคจรที่เร้นลับนั่นประหนึ่งพลังกฎระเบียบของโลกจักรวาลแห่งหนึ่งกำลังโคจรและวิวัฒน์อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของกายมรรคและพลังปราณ การเปลี่ยนแปลงของรูปจำลองเจตจำนงในห้วงนิมิตน่าตกใจยิ่งกว่า
ห้วงนิมิตที่เดิมก็กว้างใหญ่ไพศาลอยู่แล้ว มีแสงเทพไพศาลไหลเคลื่อน พร่าวพราวโปร่งแสง รูปจำลองเจตจำนงที่เหมือนดั่งเตาหลอมตั้งตระหง่านอยู่ภายใน สำแดงอานุภาพไม่เสื่อมไม่ดับ หนึ่งเดียวไม่เสื่อมคลายอยู่รางๆ
พลังจิตวิญญาณที่พวยพุ่งกลายเป็นกฎเกณฑ์มหามรรคหลากชนิดรอบๆ รูปจำลองเจตจำนง ล้วนตัดสลับไปมาปานระเบียบโซ่เทพ เกรียงไกรอย่างที่สุด
นี่ก็คือขั้นดับเทพ
วงแหวนเทพอมตะกำเนิดรูปจำลอง ห้วงนิมิตเจตจำนงดั่งโลกจักรวาล!
วงแหวนเทพอมตะของขั้นอายุขัยเทียมฟ้าไม่มีรูปจำลองเจตจำนงควบคุมดูแล อีกทั้งรูปจำลองจิตวิญญาณในห้วงนิมิตก็ไม่สามารถสำแดงพลังมหามรรคทั้งมวลที่เหมือนดั่งระเบียบได้
‘ดับเทพ…’
เมื่อสัมผัสการแปรสภาพประหนึ่งพลิกฟ้าพลิกดินของมรรควิถีทั้งร่างแล้ว ในใจหลินสวินกลับไม่ดีใจหรือเสียใจ นิ่งสงบอย่างที่สุด
ไม่มีอุปสรรค ไม่มีเรื่องไม่คาดฝัน ทุกอย่างล้วนราบรื่น แน่นอนว่าไม่ถึงอาจเรียกได้ว่าตื่นเต้นเกินไป
เดิมทีทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้แล้ว
แต่ตอนนี้ก็ไม่นับว่าสายเกินไป
ไม่นานหลินสวินก็สลัดความคิดฟุ้งซ่าน นั่งขัดสมาธิอีกครั้ง
เขาเริ่มทำความคุ้นเคยและสร้างความมั่นคงให้พลังของระดับขั้นใหม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์