Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2866

สรุปบท ตอนที่ 2866 ความเดือดดาลของชื่อเย่: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2866 ความเดือดดาลของชื่อเย่ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2866 ความเดือดดาลของชื่อเย่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2866 ความเดือดดาลของชื่อเย่

จี้ซานไห่พาหลีเจินหลบไปไกล

นางดูออกว่าหลินสวินในตอนนี้เหมือนมังกรที่ถูกแตะเกล็ดย้อน ต้องระบายความเดือดดาลและไอสังหารในใจออกมา

และเมื่อเห็นรูปการณ์เช่นนี้ พวกขู่เสวียนกลับยิ่งสงบนิ่งลง

ในฐานะพุทธองค์ลัทธิฌาน แต่ละคนต่างมีชีวิตมาไม่รู้นานเพียงใด ได้พบเจอเรื่องราวความเป็นไปบนโลกไม่รู้เท่าไร ว่าด้วยพรสวรรค์อาจจะสู้คนรุ่นหลังที่เด่นสะดุดตาอย่างหลินสวิน เหวินเฉียวสุ่ยไม่ได้

แต่รากฐานพลังของพวกเขาต่างผ่านการหลอมชำระจากลมฝนและคาวเลือดนับครั้งไม่ถ้วนจนแน่นหนาหาใดเทียบ ย่อมมั่นใจว่ายังมีกำลังต่อสู้ได้

อันที่จริงหากสุ่มเลือกพวกเขามาสักคน ในน่านฟ้าที่เจ็ดล้วนสามารถกำราบเผ่าเทพอมตะบางตระกูลจนโงหัวไม่ขึ้นได้!

เมื่อเห็นหลินสวินทะยานเข้ามา กลิ่นอายบนร่างพุทธองค์ทั้งสี่คนก็พลุ่งพล่าน แสงธรรมปกคลุมฟ้าดินดุจมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาล แต่ละคนล้วนน่าเกรงขาม

พวกเขาไม่ลังเล ลงมือพร้อมกัน

สมบัติที่ทะยานฟ้าขึ้นมาอย่างบาตร ลูกประคำ บรรทัดทัณฑ์ คทาขักขระต่างปลดปล่อยอานุภาพแกร่งกล้าไร้สิ้นสุด แสงธรรมกฎเกณฑ์อันถาโถมแผ่กระจาย ยิ่งเห็นเงามุนินทร์นับไม่ถ้วนอุบัติขึ้นรางๆ มีเสียงสวดท่องธรรมขจรไกล เปี่ยมด้วยสีสันดุจบุปผาสวรรค์เกลื่อนพื้น

ฟ้าดินปั่นป่วน ภูผาธาราไหวโคลง

อานุภาพที่ปลดปล่อยพร้อมกันเช่นนั้นทำให้คนสิ้นหวังนัก

หลินสวินไม่ได้หลบหนี เขาตะบึงเข้าไปทันที กายมรรคทั้งห้าออกเคลื่อนไหวด้วยกัน ประหนึ่งเทพสวรรค์กลุ่มหนึ่งออกศึกด้วยความพิโรธ

โครม!

การต่อสู้ปะทุขึ้น ดวงอาทิตย์อับแสง

ครั้งนี้หลินสวินไม่ได้ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง มีแต่หมัดเปล่าๆ ถึงกระนั้นการโจมตีทุกครั้งล้วนมีพลังแกร่งกล้าน่าตกตะลึง แฝงอานุภาพของกฎเกณฑ์ลึกลับไม่อาจหยั่งถึง น่าครั่นคร้ามยิ่งยวด

เปรี๊ยะ!

เพียงไม่กี่พริบตาคทาขักขระที่อยู่ในมือเจวี๋ยเวินก็ถูกปราณกระบี่แน่นขนัดบดขยี้ เศษชิ้นส่วนปลิวว่อน เงาร่างเขาถูกแสงเพลิงคับฟ้าม้วนตลบ กายธรรมที่เรียกได้ว่าอยู่ยงคงกระพันหลอมละลายไปด้วยความเร็วที่ตาเนื้อยังมองเห็น ชั่วพริบตาก็กลายเป็นเถ้าธุลีหายลับไป

นี่ทำให้พวกขู่เสวียนสีหน้านิ่งขึง จิตใจถูกโจมตี

เมื่อได้สู้กันจริงๆ พวกเขาถึงรู้ซึ้งว่ามรรควิถีของหลินสวินน่ากลัวปานไหน เป็นขั้นดับเทพสัมบูรณ์เหมือนกัน แต่หลินสวินกลับทำให้พวกเขารู้สึกไม่อาจสั่นคลอนได้

ไม่ว่าจะเป็นวิชามรรคหรือสมบัติใดก็ถูกเขาทำลายลงอย่างง่ายดาย!

ส่วนกายมรรคทั้งห้าของเขาต่างก็มีพลังไม่ด้อยไปกว่าร่างต้น เมื่อโจมตีพร้อมกันห็ทำให้พวกเขาเหมือนตกอยู่กลางพายุฝนทันที ไม่มีที่ให้หนี จะถอยก็ถอยไม่ได้

ปัง!

ลูกประคำสีดำเส้นหนึ่งแตกกระจายกลางอากาศ

แทบจะในขณะเดียวกัน ปราณกระบี่สายหนึ่งก็พริบวาบแล้วหายลับไป

เจวี๋ยเจินนัยน์ตาหดรัด ปากเอ่ยอย่างขมขื่นว่า “นี่ก็คือศักยภาพของยอดอมตะหรือ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราเอื้อมถึงดังคาด…”

เสียงยังลอยล่อง แต่ร่างเขาพลันถูกฟันสะพายแล่ง ร่างกายทั้งสองท่อนถูกคลื่นการต่อสู้อันบ้าคลั่งพุ่งซัดบดขยี้ จิตสิ้นวิญญาณสลาย

และยามนี้สถานกาณ์ของขู่เสวียนกับขู่จี้ก็อันตรายหาใดเทียบเช่นเดียวกัน

เพราะกายมรรคทั้งห้าล้อมโจมตี พวกเขาจึงได้รับบาดเจ็บต่อเนื่อง กระอักเลือดไม่ว่างเว้น เพียงแต่สายตาทั้งคู่ยังสงบนิ่งเช่นเคย ไม่ได้กระวนกระวาย ไม่ได้หวาดหวั่น

มองความเป็นตายเหมือนเรื่องไม่สลักสำคัญ!

น่าเสียดาย หลินสวินที่ทะลวงปราณขั้นสัมบูรณ์เรียกได้ว่าเป็นยอดในมรรคาอมตะ ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะต้านทานได้สักนิด

ไม่ทันไรขู่จี้ก็ประสบเคราะห์ บรรทัดทัณฑ์ที่อยู่ในมือเขาถูกหลินสวินฟันทำลาย หัวยังถูกเด็ดทิ้ง สภาพการตายน่าอนาถ ไม่อาจทนดูได้

ไม่นานนักขู่เสวียนก็ร่วงหล่นเช่นกัน ถูกร่างต้นของหลินสวินกับกายมรรคทั้งห้ารุมสังหารถึงแก่ความตาย ระเบิดกระจุยทั้งเป็น

ก่อนตายเขาเพียงแค่เปล่งเสียงถอนใจยาวอย่างไม่ยินยอมออกมาครั้งหนึ่ง

ถึงตอนนี้พุทธองค์ของหอบรรพจารย์ลัทธิฌานสี่คนที่เข้าร่วมศึกมรรคอมตะต่างร่วงหล่นลงที่นี่!

กลิ่นคาวเลือดอบอวลกลางฟ้าดิน มีแต่ภาพทำลายล้างทุกหนแห่ง

หลินสวินเก็บร่างแยกมหามรรคแล้วสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ความโกรธในใจเพิ่งสลายไปได้ไม่น้อยในยามนี้

“นี่ก็คืออานุภาพของยอดอมตะที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลตั้งตาคอยหรือ”

ไกลออกไปจี้ซานไห่เดินมาหา เนตรกระจ่างดุจวารีเจือแววตกตะลึง

นางเห็นการต่อสู้เมื่อครู่ทั้งหมด รับรู้ได้อย่างฉับไวว่าพลังปราณของหลินสวินเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

สามปีก่อนนางเคยแข่งกับหลินสวินใกล้ๆ หุบเหวมารปฐพี หลินสวินตอนนั้นแม้จะมีพลังปราณแค่ขั้นดับเทพขั้นปลาย แต่พลังต่อสู้เรียกได้ว่าเย้ยฟ้าเป็นอย่างยิ่งไปแล้ว

และหลินสวินในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าตอนนั้นมาก!

ถึงกับทำให้นางยังไม่อาจประเมินได้ว่าหลินสวินในตอนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่

“ต่อให้ร้ายกาจแค่ไหน เมื่อครู่ก็ยังช่วยผู้อาวุโสหลีเจินในทันทีไม่ได้ กลับเป็นแม่นางซานไห่ที่มาทันเวลา ช่วยข้าคลี่คลายสถานการณ์ลำบากไปครั้งหนึ่ง”

หลินสวินถอนใจเบาๆ

พอนึกถึงเหตุการณ์แต่ละอย่างที่ได้ประสบเมื่อครู่ เขาก็ดีใจไม่ออกจริงๆ

ขณะที่พูดคุยแลกเปลี่ยน เขากำชับให้หลีเจินรักษาอาการบาดเจ็บที่นี่ ฝ่ายหลังบาดเจ็บสาหัสมากจริงๆ ทำให้หลินสวินที่ได้เห็นยังเป็นห่วงไม่หยุด

เห็นหลีเจินเริ่มนั่งสมาธิ จี้ซานไห่จึงเอ่ยว่า “เหวินเฉียวสุ่ยวางแผนเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัว อย่าว่าแต่เจ้า ต่อให้เป็นขั้นหลุดพ้นก็พลาดท่าได้เหมือนกัน”

นางเห็นการเคลื่อนไหวของเหวินเฉียวสุ่ย รู้ดีว่าหลินสวินถูกทำให้ติดกับอย่างไร

ว่ากันถึงแก่นก็ง่ายดายนัก เพราะเหวินเฉียวสุ่ยเตรียมพร้อมมาก่อน!

ผนึกเทพกักฟ้าเป็นหนึ่งในสามกระบวนผนึกเทพของตระกูลเหวิน กักขังขั้นหลุดพ้นได้

มรดกลักฟ้าแลกตะวันก็เป็นวิชาต้องห้ามวิชาหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มจนจบเหวินเฉียวสุ่ยใช้ไปสองครั้ง แม้จะถูกพลังสะท้อนกลับ แต่ก็หลบการเผชิญหน้ากับหลินสวินสำเร็จไปสองครั้ง

และเป้าหมายของเหวินเฉียวสุ่ยตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่หลินสวิน ด้วยแผนการเช่นนี้ ต่อให้หลินสวินมีพลังยอดอมตะ แต่จะไปปกป้องหลีเจินได้อย่างไร

ว่ากันถึงที่สุดแล้วนี่ไม่ใช่การต่อสู้ซึ่งหน้า แต่เป็นการลอบโจมตีที่วางแผนมาอย่างดี!

พูดกลับกัน ถ้ามั่นใจว่าจะกำราบหลินสวินซึ่งหน้าได้ ไยเหวินเฉียวสุ่ยต้องลำบากลำบนขนาดนี้ด้วย

และในความเห็นของจี้ซานไห่ เหวินเฉียวสุ่ยก็ฉลาดมากจริงๆ ถ้าเขาต่อสู้ซึ่งหน้ากับหลินสวิน เช่นนั้นเป็นไปได้สูงยิ่งว่าสุดท้ายคนที่แพ้จะเป็นเขาเหวินเฉียวสุ่ย!

คนใหญ่คนโตจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะเหล่านั้นพากันเอ่ยปาก ชี้ปลายหอกเข้าใส่หลินสวิน

“ผู้เข้าร่วมศึกของพวกเจ้าสิบขุมอำนาจใหญ่พ่ายแพ้ยกทัพ พวกเจ้าบอกว่านี่เป็นฝีมือหลินสวิน ผู้เข้าร่วมศึกลัทธิพ่อมดสามคนร่วงหล่น พวกเจ้าบอกว่านี่เป็นฝีมือหลินสวิน มาตอนนี้ผู้เข้าร่วมศึกลัทธิฌานสี่คนร่วงหล่นเช่นกัน พวกเจ้าก็ยังบอกว่าเป็นฝีมือหลินสวินอีก…”

ฟางเต้าผิงกวาดมองเฒ่าชราเหล่านั้นอย่างเย็นชา “ทุกท่านติดโรคเพ้อเจ้อชอบใส่ร้ายอะไรเข้าหรือไม่”

คำพูดเดียวทำเอาเฒ่าชราเหล่านั้นต่างสีหน้าอึมครึม

“ทุกท่านอย่าเถียงกันอีกเลย ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงแดนมารสวรรค์เปิด กระทั่งถึงตอนที่ศึกมรรคอมตะครั้งนี้ปิดฉากลง ก็เหลือเวลาแค่ไม่ถึงสี่เดือน”

จู่เหวินเหิงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถึงเวลานั้นย่อมรู้ว่าในสิบปีนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ฟางเต้าผิงหนักอึ้งในใจ

เสียงสื่อจิตของจอมวิญญาณชิงอวิ๋นดังขึ้นในโสตของเขา ‘พี่ฟาง เจ้าต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน’

ฟางเต้าผิงพยักหน้าน้อยๆ

……

แดนมารปฐพี สองวันต่อมา

ภายในประทับผนึกเวลา

หลีเจินยังนั่งสมาธิฟื้นฟูบาดแผล ส่วนหลินสวินสำแดงประตูเนรเทศแล้วเคลื่อนตัวเข้าไปในนั้น

ในโลกอันเวิ้งว้างมืดมน เงาร่างหลินสวินเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เคลื่อนผ่านบริเวณที่จานเทพคร่าศพอยู่ มาจนถึงหน้าผาสมบัติร่วงหล่น

กฎระเบียบผาสมบัติร่วงหล่นปกคลุมที่นี่ ก็พบว่าบนริมผานั้นมีน้ำเต้าขนาดเท่าฝ่ามือสองใบ สีม่วงหนึ่งสีเขียวหนึ่งลอยอยู่ ใบแรกแวววาวโปร่งแสง ใบหลังหม่นทึบคลุมเครือ ตัดกันเป็นอย่างดี

เพียงแต่น้ำเต้าทั้งสองดูประหนึ่งนักโทษ น่าสงสารนัก ไม่จองหองอวดดีอย่างก่อนหน้านี้อีก

หลินสวินเห็นดังนี้ก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้ ยื่นมือไปคว้า

สวบ!

น้ำเต้าม่วงร่วงลงสู่ฝ่ามือมันใด

มันดิ้นรนอย่างแรง แต่กลับไม่ช่วยอะไร เพราะที่นี่เป็นประตูเนรเทศ เป็นอาณาเขตของหลินสวิน กระทั่งกฎระเบียบสมบัติร่วงหล่นยังถูกหลินสวินหยิบยืมใช้

หลินสวินจับจ้องโดยละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วมือเคาะน้ำเต้าม่วงเบาๆ ฝ่ายหลังคล้ายถูกยั่วโมโหในทันใด แสงประกายพวยพุ่งออกมาจากปากน้ำเต้า กระบี่สีเขียวเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมาเช่นกัน

กระบี่นี้พร่าเลือนเหมือนฟ้าครามหมื่นกาล ปราดเปรียวและโปร่งแสง ดุดันสะดุดตา เพียงแค่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาก็ทำให้หลินสวินรู้สึกแสบตาอยู่กลายๆ

ทันทีที่กระบี่เทพสีเขียวพุ่งออกมาก็หมายจะฟันหลินสวิน แต่กลับถูกกฎระเบียบผาสมบัติร่วงหล่นกดข่มไว้มั่น น้ำเต้าม่วงเหมือนโกรธเคืองหาใดเทียบ ส่งเสียงร้องลั่นคล้ายกำลังโหวกเหวกเสียงดังอยู่

ตอนนี้หลินสวินกลับอึ้งไปแล้ว

เขาเพิ่งสังเกตเกตเห็นว่ากระบี่เทพสีเขียวเล่มนี้ถึงกับแปลงมาจากพลังระเบียบที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์!

มิหนำซ้ำสมบัตินี้ยังวิเศษเช่นนี้ นี่จะหมายความว่าน้ำเต้าม่วงนี้กับกระบี่เทพสีเขียวที่มันบ่มเพาะอยู่ จะเป็นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากหรือไม่

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์