Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2881

ตอนที่ 2881 กระหน่ำโจมตี

ครึ่งเค่อ!

หลินสวินคำนวณเวลาการต่อสู้ครานี้ตั้งแต่เริ่มจนจบอย่างแม่นยำ

พลังอภินิหารของประตูเนรเทศบนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งยังอยู่ หากไม่เก็บไปก็ยังอยู่ต่อได้ช่วงหนึ่ง

การต่อสู้นี้เขาใช้พลังของตนกำจัดขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์แปดคน สังหารหวังจ้งหยวนพร้อมฟางเต้าผิง

สิ่งที่เขาต้องจ่ายในศึกนี้ก็คือพลังปราณเกือบสี่ส่วน ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นไม่มีแม้แต่น้อย

ผลงานการต่อสู้เรียกได้ว่าโดดเด่นสะดุดตา!

หากให้บุคคลระดับเดียวกันที่เคยต่อสู้กับหลินสวินอย่างจี้ซานไห่ จิ่งจงเยวี่ยเห็นภาพทั้งหมดนี้ เกรงว่าต้องทำความเข้าใจพลังต่อสู้ของหลินสวินใหม่

ด้วยตอนนั้นยามอยู่แดนมารสวรรค์ ต่อให้พวกเขาสู้กับหลินสวินพร้อมกัน ถึงตอนท้ายก็ไม่อาจบีบให้หลินสวินใช้พลังต่อสู้ถึงขีดสุดได้

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าหลินสวินในตอนนั้นยังไม่ได้ใช้กายมรรคทั้งห้าและอภินิหารประตูเนรเทศด้วย

“คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ…”

ฟางเต้าผิงทอดถอนใจ สภาวะจิตยังไม่อาจนิ่งสงบ

สำหรับเฒ่าชราอย่างเขา เวลาสิบปีไม่พอปิดด่านฝึกปราณครั้งหนึ่งด้วยซ้ำ

แต่สิบปีนี้หลินสวินกลับเปลี่ยนไปอย่างเป็นรูปธรรมบนมรรคาอมตะหลายครั้ง จนปัจจุบันไร้พ่ายทุกสมรภูมิ โจมตีไม่เคยพลาดภายใต้การปิดล้อมของสัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์!

นี่น่าทึ่งเกินไปแล้ว!

ฟางเต้าผิงกล้ายืนยันว่าในกาลเวลาไร้สิ้นสุดนับแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน ล้วนไม่เคยเกิดกรณีอย่างหลินสวินมาก่อน เรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งก็ไม่เกินไป

ปาฏิหาริย์ไร้ใดเปรียบตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน!

“ผู้อาวุโส พวกเรารีบออกจากที่นี่เถอะ”

ขณะกล่าวหลินสวินหยิบโอสถอมตะสุริยันจันทรากำหนึ่งยัดเข้าปาก

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าบนหนทางต่อจากนี้ต้องมีศัตรูบุกมาอีกแน่ เรื่องเร่งด่วนคือไปได้ไกลเท่าไรให้ไปไกลเท่านั้นก่อน

เคราะห์ดีที่ในบรรดาสิบยักษ์ใหญ่อมตะไม่มีระดับนิรันดร์ที่แท้จริงบัญชาการ ถึงขั้นว่ายามต่อสู้พวกเขาย่อมไม่มีทางใช้รูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์เป็นธรรมดา

มิฉะนั้นการต่อสู้ครานี้คงไม่มีทางจบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่

เวลานี้หลินสวินเพิ่งรู้ซึ้ง ถึงสาเหตุที่สิบขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อมตะกล้าไปแตะต้องอำนาจของลัทธิแรกกำเนิด

หนึ่งเป็นเพราะหัวหน้าหอทั้งสามของลัทธิแรกกำเนิดต่างเกิดเรื่องบางอย่าง อีกด้านเป็นเพราะสิบยักษ์ใหญ่อมตะนี้มีเผ่าเทพนิรันดร์แห่งน่านฟ้าที่เก้าหนุนหลัง

มิฉะนั้นด้วยรากฐานพลังของพวกเขา ย่อมไม่มีทางมีความมั่นใจไปเปิดศึกกับลัทธิแรกกำเนิดแต่แรก

“หืม?”

แต่เมื่อฟางเต้าผิงกำลังจะพาหลินสวินจากไป

ตูม!

กลางฟ้าดาราประทับธรรมมหึมาราวบดบังนภาปรากฏขึ้นกะทันหัน เปล่งประกายเจิดจรัสเหมือนหล่อจากทองเทพ เจืออานุภาพน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตจู่โจมมาทางฟางเต้าผิงเต็มแรง

“หึ! ชื่อเย่ รู้อยู่แล้วว่าลาหัวโล้นอย่างเจ้าคงไม่เลิกล้ม!”

ฟางเต้าผิงแค่นเสียงเย็นชา ดาบยาวเจิดจ้าในมือโบกสะบัด

ฟุ่บ!

ปราณดาบยาวหมื่นจั้งสายหนึ่งพุ่งออกมา ดุดันเผด็จการ

ตูม!

ประทับธรรมสีทองเจิดจรัสพลันแตกระเบิด ถูกผ่าแหวกจากภายใน ความมืดมนฟุ้งกระจาย

กลางฟ้าดาราห่างออกไปปรากฏเงาร่างสูงใหญ่เคร่งขรึมมีสง่า เท้าเหยียบกลางแท่นบัวสีทอง เงาร่างผอมตอบ มือถือบรรทัดทัณฑ์สีเขียวเล่มหนึ่ง

เป็นจอมมุนีชื่อเย่!

“ก่อนหน้านี้ที่นี่มีการต่อสู้เกิดขึ้น พวกหวังจ้งหยวนประสบเคราะห์หมดแล้วหรือ”

ชื่อเย่มุ่นคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งเครียด

เห็นชัดว่าเขาเพิ่งตามมา แม้สังเกตเห็นกลิ่นอายการต่อสู้ที่เหลืออยู่ในฟ้าดาราแถบนี้ แต่ไม่รู้รายละเอียดของการต่อสู้ก่อนหน้านี้อย่างแน่ชัด

บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ลงมือทันที

“ไม่ผิด พวกเขาล้วนถูกสังหารแล้ว”

ฟางเต้าผิงเอ่ยราบเรียบ “หากเจ้าชื่อเย่อยากเจริญรอยตามพวกเขาก็มาสู้กันได้เลย”

ชื่อเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางกล่าว “กำจัดขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สิบคนจนสิ้นซากได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ ดูท่าว่าในมือเจ้าฟางเต้าผิงยังกุมไพ่ตายอย่างหนึ่งไว้ ถ้าให้ข้าเดา หรือว่าไพ่ตายใบนี้เกี่ยวข้องกับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์”

ฟางเต้าผิงหลุดขำออกมา มีหรือจะดูไม่ออกว่าในใจชื่อเย่เริ่มตื่นตระหนกไม่หยุดแล้ว

“หากข้าบอกว่าเจ้าเดาผิด เจ้าต้องไม่เชื่อแน่”

ฟางเต้าผิงกล่าว “แต่พูดถึงเรื่องพวกนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ข้าคนแซ่ฟางจะกล่าวแค่ประโยคเดียว ภายหน้าหากไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งระหว่างลัทธิแรกกำเนิดกับลัทธิฌาน เจ้าควรหยุดมือตอนนี้ดีกว่า!”

น้ำเสียงราบเรียบ แต่กลับเจือพลังที่ไม่ยอมให้กังขา

ชื่อเย่เงียบไปครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ลัทธิฌานของข้าไม่ต้องการระเบียบระดับเทพนั่น ขอเพียงเจ้ายกเจ้าหลินสวินนี่ให้ข้า ข้าจะจากไปทันที”

นัยน์ตาฟางเต้าผิงหดรัด คล้ายกับแปลกใจยิ่ง นี่พิสูจน์ว่าในสายตาของชื่อเย่ หลินสวินสำคัญกว่าระเบียบระดับเทพนั่นอย่างไม่ต้องสงสัย!

เขากล่าวเย็นชา “ละเมอเพ้อพก!”

แต่ตอนนี้หลินสวินพลันเอ่ยปาก “หากเจ้าใช้มรรควิถีแห่งตนเอาชนะข้าได้ ข้าจะไปกับเจ้าทันที แต่หากแพ้ก็จากไปเสียตอนนี้เป็นอย่างไร”

เขาดูออกว่าสิ่งที่ฟางเต้าผิงหวาดกลัวไม่ใช่ชื่อเย่ หากแต่เป็นไพ่ตายที่มีโอกาสสูงว่าจะเกี่ยวข้องกับระดับนิรันดร์ในมือชื่อเย่!

หากมั่นใจว่าจะชนะ ฟางเต้าผิงไม่มีทางพูดมากเช่นนี้แน่ คงลงมือตั้งแต่พริบตาแรกแล้ว

ชื่อเย่อึ้งงัน คล้ายไม่กล้าเชื่อว่าหลินสวินจะพูดเช่นนี้

ใช้มรรควิถีขั้นหลุดพ้นขั้นต้นมาสู้กับตนหรือ

ในใต้หล้าใครกล้าอวดดีเช่นนี้บ้าง

เห็นชัดว่าชื่อเย่ไม่เชื่อว่าบนโลกยังมีเรื่องดีเช่นนี้อยู่ เขาเหลือบมองฟางเต้าผิงแล้วเอ่ยถาม “พี่ฟาง คำพูดของเจ้าหมอนี่เป็นจริงหรือ”

สายตาฟางเต้าผิงแปลกไปบ้างเล็กน้อยก่อนกล่าว “หากเจ้ารับรองว่าจะใช้แค่มรรควิถีแห่งตนต่อสู้ ข้าย่อมไม่คัดค้านข้อเสนอของหลินสวิน”

ชื่อเย่ขมวดคิ้ว เขารับรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่กลับเดาไม่ออกว่าฟางเต้าผิงจะทำอะไรกันแน่ จึงเงียบไปอย่างอดไม่ได้

เงาร่างจู่เหวินเหิงกลับซวนเซไปพักหนึ่งทันที

สีหน้าเคร่งขรึมของชื่อเย่ฉายแววอึ้งงันอย่างไม่อาจระงับ

ด้านจู่เหวินเหิงเหมือนประหลาดใจมาก จากนั้นสีหน้าพลันคร่ำเคร่ง คล้ายอับอายจนกลายเป็นโกรธ ซัดหมัดออกไปอีกครั้งทันที

ตูม!

พลังขับเคลื่อนทั้งตัวเขาส่งเสียงกัมปนาท มรรควิถีที่หล่อหลอมเคี่ยวกรำมาเป็นเวลาไร้สิ้นสุดโคจรพลุ่งพล่านในยามนี้ กระทั่งทำให้หมัดนี้เต็มไปด้วยอานุภาพยิ่งใหญ่ไม่อาจขวางกั้น รวมสารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณ เจตจำนงทั้งตัวเขาไว้ด้วยกัน!

ทว่าหมัดนี้กลับถูกหลินสวินใช้วิธีแข็งชนแข็งต้านไว้อีกครั้ง

“นี่เป็นไปได้อย่างไร!?”

จู่เหวินเหิงเบิกตากว้าง ลูกตาแทบถลน สังเกตเห็นความผิดปกติทันที

ตอนนี้หลินสวินฉวยโอกาสพุ่งเข้าไปแล้ว เงาร่างพริบไหว กายมรรคทั้งห้าออกเคลื่อนพลพร้อมกัน ล้อมโจมตีจู่เหวินเหิงด้วยอานุภาพปกคลุมฟ้าดิน วิชามรรคและพลังชวนประหวั่นนานัปการกระหน่ำโจมตีเหมือนเขาถล่มสมุทรคำราม

ตูม!

เพียงชั่วขณะจู่เหวินเหิงก็ตกอยู่ในการปิดล้อมแน่นหนา ทั่วทุกทิศคือการกระหน่ำโจมตี เงาร่างเขาล้วนถูกแสงมรรคไร้ขอบเขตฝังกลบ

เมื่อเห็นภาพนี้ชื่อเย่สูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้ หน้าเปลี่ยนสี รู้ในที่สุดว่าทำไมหลินสวินถึงมั่นใจเช่นนั้นแล้ว

พลังต่อสู้ของเจ้าหนุ่มนี่ไม่ใช่สิ่งที่ขั้นหลุดพ้นขั้นต้นทั่วไปเทียบได้อย่างสิ้นเชิง!

แต่ชื่อเย่ยังคงไม่อาจจินตนาการได้เหมือนเดิม หลินสวินเพิ่งทะลวงปราณแจ้งมรรคมีพลังต่อสู้พลิกฟ้าน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร

นี่ล้มล้างการคาดเดาของเขาโดยสิ้นเชิง!

ต้องรู้ว่าจู่เหวินเหิงเป็นถึงราชครูดินของลัทธิพ่อมด ความแข็งแกร่งของมรรควิถีทั้งตัวเขาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปในระดับเดียวกันเทียบได้แต่แรก

แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินกำราบอย่างสมบูรณ์!

ตูม!

ในการต่อสู้มีเสียงกัมปนาทดังไม่หยุด ทั้งมีเสียงคำรามเดือดดาลของจู่เหวินเหิงดังขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ไม่นานก็ถูกเสียงเข่นฆ่าโรมรันอึกทึกสนั่นหูฝังกลบ

ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนไม่อาจทำลายการล้อมโจมตีของหลินสวินได้!

ชื่อเย่เห็นดังนี้แล้วมองฟางเต้าผิงที่อยู่ห่างไปอย่างอดไม่ได้ กลับเห็นฝ่ายหลังสีหน้าราบเรียบ คล้ายเดาได้แต่แรกแล้วว่าจะเป็นเช่นนี้

นี่ทำให้ชื่อเย่นึกถึงเรื่องหนึ่งอย่างอดไม่ได้…

ก่อนหน้านี้พวกเฒ่าชราของสิบยักษ์ใหญ่อมตะนั้น คงไม่ได้ถูกหลินสวินกับฟางเต้าผิงร่วมมือกันสังหารเกลี้ยงกระมัง

เพิ่งนึกถึงตรงนี้ ในการต่อสู้มีเสียงกึกก้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น

“จู่เหวินเหิง ยอมแพ้หรือไม่”

ก็เห็นหลินสวินและร่างแยกของเขากระจายตัวกันทันที

ยามนี้ชื่อเย่เห็นจู่เหวินเหิงชัดเจนแล้ว แต่ตอนนี้ราชครูดินแห่งลัทธิพ่อมดคนนี้กลับน่าอนาถเกินทน สะบักสะบอมไปทั้งตัว เลือดอาบเนื้อหลุด การขับเคลื่อนพลังทั่วร่างซ่านเซ็น

ท่าทางบาดเจ็บหนักเจียนตาย!

ชื่อเย่เห็นแล้วขนพองสยองเกล้า

…………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์