ตอนที่ 2898 บรรพจารย์เปิดสำนัก
ถ้ำอิสระ
สถานที่ที่เหยียนจี้หัวหน้าหอแรกนภาปิดด่าน ความจริงก็คือแดนลับที่เทียบได้กับโลกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทางเข้าอยู่กลางภูเขาเทพแห่งหนึ่ง
ตอนที่หลินสวินไปถึง ในปากทางเข้าก็มีเสียงต่ำลึกน่าเกรงขามดังขึ้น
“พลังผนึกถอนออกแล้ว เข้ามาเถอะ”
หลินสวินเดินเข้าไปทันที
ชั่วพริบตาภาพตรงหน้าพลันเปลี่ยนไป ปรากฏโลกที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ทุกพื้นที่ทั่วภูเขาปลูกป่าไผ่เขียวมรกต เขียวสดสบายตา
“ในนี้”
ข้างลำธารไหลเอื่อยมีป่าไผ่เขียวมรกตผืนหนึ่ง เงาร่างผอมร่างหนึ่งนั่งขัดสมาธิ ยามหลินสวินปรากฏตัวเขาก็เอ่ยเสียงเบา
ครู่หนึ่งหลังจากนั้นหลินสวินเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศมาถึง
ป่าไผ่พลิ้วไปตามสายลม เงาร่างผอมนั้นถือเบ็ดตกปลา กำลังตกปลาอยู่ริมธาร
หลินสวินลอยตัวลงแล้วประสานมือคำนับ “หลินสวินคารวะผู้อาวุโส”
พูดจบสายตาของเขากวาดมองรอบๆ กลับเห็นว่าที่แห่งนี้มีเพียงเหยียนจี้คนเดียว
“เจ้าหาคงเจวี๋ยอยู่หรือ เขาเพิ่งจากไปเมื่อวาน”
เหยียนจี้รูปลักษณ์ผอมตอบ สวมชุดเทา สีหน้าอบอุ่นนิ่งสงบ ราวกับชาวประมงที่ปลีกวิเวก เก็บตัวอยู่อย่างไรอย่างนั้น
หลินสวินพลันประหลาดใจ “อาจารย์อาไปไหนหรือขอรับ”
“ข้าไม่รู้หรอก”
เหยียนจี้สะบัดคันเบ็ด ปลาเกล็ดเขียวตัวใหญ่ก็ถูกตวัดขึ้นมาจากน้ำ ร่วงลงไปในข้องตรงหน้าเหยียนจี้
เขาวางคันเบ็ดลงแล้วหยิบข้องขึ้นมา ก่อนเดินไปยังส่วนลึกของป่าไผ่ “ตามข้ามาเถอะ ตอนนี้เจ้าเป็นรองหัวหน้าหอของหอแรกนภาแล้ว มีบางเรื่องควรให้เจ้ารู้ไว้”
หลินสวินตามไปทันที
ส่วนลึกของป่าไผ่มีกระท่อมไผ่เรียบง่ายที่สร้างจากต้นไผ่ ตรงหน้ากระท่อมไผ่เป็นลานเรือน
เหยียนจี้ก่อไฟ ทำความสะอาดปลาเกล็ดเขียวรอบหนึ่งแล้วเสียบบนไม้ไผ่ ก่อนจะย่างบนกองไฟ
“นั่งตามสบาย ก่อนกินปลาข้าจะเล่าที่มาของสี่หอบรรพจารย์ให้เจ้าฟัง รวมถึงเรื่องในอดีตบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าแห่งคีรีดวงกมลอาจารย์ของเจ้า”
เหยียนจี้หยิบขวดเครื่องปรุงออกมา เริ่มทาบนปลาย่างพลางเอ่ยพูดสบายๆ
แต่หลินสวินกลับหัวใจสั่นไหว นั่งขัดสมาธิข้างๆ แล้วเอ่ยว่า “ผู้น้อยพร้อมรอฟังขอรับ”
“บรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสี่หอบรรพจารย์ล้วนไม่ใช่คนของยุคนี้ พวกเขามาจากการสับเปลี่ยนของยุคสมัย ต่างมีที่มาของตน”
เหยียนจี้เอ่ย “บรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิแรกกำเนิดมาจากแหล่งสถานคุนหลุน เรียกตนเองว่า ‘หยวนชู’ ผ่านมาหลายยุคสมัย เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกจนชิน”
“แหล่งสถานคุนหลุนหนึ่งในจตุโบราณสถานหรือขอรับ”
หลินสวินตกใจ
“ไม่ผิด”
เหยียนจี้เอ่ย “แม้แหล่งสถานคุนหลุนจะรกร้างไม่เหลือสภาพนานแล้ว แต่ในการดับสิ้นของยุคสมัยทุกครั้ง ยักษ์ใหญ่มากมายที่พยายามเอาตัวรอดในมหาเคราะห์เช่นนี้ ล้วนจะได้มาซึ่งจุดเปลี่ยนเสี้ยวหนึ่งจากในแหล่งสถานคุนหลุน”
“จุดเปลี่ยนของการได้ไปเยือนแหล่งสถานอัศจรรย์ เพราะมีเพียงการเข้าสู่แหล่งสถานอัศจรรย์ ถึงไม่ต้องกลัวอันตรายของการดับสิ้นของยุคสมัยอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นทุกครั้งที่การดับสิ้นของยุคสมัยมาเยือน ต่อให้เป็นระดับนิรันดร์ก็ต้องรับมหาเคราะห์ที่ไม่อาจจินตนาการได้”
คำตอบของเหยียนจี้ทำให้ในใจหลินสวินสั่นสะท้าน หลุดปากกล่าว “ผู้อาวุโสหมายถึง ;เคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ’ หรือ”
ยามอยู่ในแหล่งสถานศุภโชค หลินสวินก็เคยได้ยินเฉินหลินคงพูดถึงเรื่องของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพแล้ว ว่ากันว่าเคราะห์นี้มาจากผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังการดับสิ้นของยุคสมัย
เมื่อนานมาแล้วจักรพรรดิเทพรัตติกาลนิรันดร์ก็เคยพบเจอการโจมตีของเคราะห์นี้ เป็นเหตุให้ถูกขังอยู่ในแดนผนึกเรืองแสง
เหยียนจี้อดประหลาดใจไม่ได้ มองหลินสวินแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ไม่ผิด สำหรับผู้คนทั่วหล้า ไม่ว่าใครล้วนยากจะหนีจากการโจมตีของเคราะห์มรรคห้าเสื่อม แต่เคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพอันตรายต่อระดับนิรันดร์ที่สุด ต่อให้ครั้งนี้สามารถสบายไปได้ แต่ยามเคราะห์แห่งการดับสิ้นของยุคสมัยครั้งต่อไปมาเยือนก็จะถูกเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพโจมตีอีกครั้ง และอานุภาพจะรุนแรงกว่าครั้งก่อน”
หลินสวินกล่าว “พูดเช่นนี้ มีเพียงไปถึงแหล่งสถานอัศจรรย์จึงจะไม่ต้องกังวลต่อพิบัติเคราะห์นี้อย่างแท้จริงหรือขอรับ”
“น่าจะเป็นเช่นนั้น”
เหยียนจี้กล่าว “เจ้าลัทธิแรกกำเนิดผ่านมาสิบแปดยุคสมัย และผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพสิบแปดครั้ง ศักยภาพของเขาแค่คิดก็รู้ว่าแข็งแกร่งเพียงใด แต่ครั้งนี้… เขากลับมีลางสังหรณ์ว่ายามเคราะห์แห่งยุคสมัยปะทุขึ้น ด้วยพลังของเขายังยากจะต้านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ ดังนั้นหลายปีก่อนหน้านี้จึงได้ออกไปด้วยเหตุผลว่าจะไปท่องโลก แต่ความจริงคือไปหาเบาะแสของแหล่งสถานอัศจรรย์ล่วงหน้า”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์