สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2901 มาเยือน – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 2901 มาเยือน ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2901 มาเยือน
สามยอดเขาโอบล้อมปกป้อง
บนยอดเขาหนึ่งในนั้น คฤหาสน์เรียงราย
คนใหญ่คนโตตระกูลตู๋กูอย่างพวกตู๋กูเซียวรวมตัวกัน สายตามองไปยังผู้แข็งแกร่งสี่ตระกูลตงหวงไกลๆ สีหน้าแต่ละคนล้วนย่ำแย่
ในฐานะผู้นำตระกูล ในใจตู๋กูเซียวนอกจากความเดือดดาล ยิ่งมีความเสียใจและละอายอันลึกล้ำอย่างหนึ่ง
ตระกูลอวิ๋นและตระกูลตู๋กูมีความสัมพันธ์อันดีมาตลอด วันนี้อวิ๋นฉางคงผู้นำตระกูลอวิ๋นมาเยือน ตู๋กูเซียวไม่มีความสงสัยใดๆ เชิญอวิ๋นฉางคงเข้าแดนถ้ำสวรรค์หยกงามทันที
จากนั้นเคราะห์ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น…
อวิ๋นฉางคงพกสมบัติลับ ‘ภาพจักรวาลภูผาธารา’ และผู้แข็งแกร่งของสี่ตระกูลตงหวงก็ซ่อนตัวอยู่ภายใน
หลังจากอวิ๋นฉางคงเข้าแดนถ้ำสวรรค์หยกงามอย่างราบรื่น ก็นำภาพจักรวาลภูผาธาราออกมาทันที จากนั้นผู้แข็งแกร่งสี่ตระกูลตงหวงต่างปรากฏตัวและชักทำให้เกิดคราวเคราะห์ครั้งนี้
กำลังพลของพวกเขาแข็งแกร่ง และมีการเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว ตู๋กูเซียวทำได้เพียงหนีทันเท่านั้น รวบรวมคนในตระกูลมารวมตัวในสถานที่แกนหลักของตระกูล
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังบาดเจ็บล้มตายอย่างน่าอนาถ
คนในตระกูลที่หนีเข้าสถานที่แกนหลักของตระกูลไม่ทัน ล้วนถูกสี่ตระกูลตงหวงสังหารอย่างไร้ปรานี สังหารจนศีรษะกลิ้งเต็มพื้น เลือดไหลเป็นแม่น้ำ
แดนถ้ำสวรรค์หยกงามที่กว้างใหญ่ไพศาลกองเพลิงท่วมฟ้า พังพินาศไปทั้งหมด!
นี่ทำให้ในใจตู๋กูเซียวหลั่งเลือด โกรธจนแทบคลั่ง คิดจนหัวแตกก็คิดไม่ถึง ว่าการมาของอวิ๋นฉางคงจะทำให้เกิดพิบัติเคราะห์เลือดสาดเช่นนี้
คนสนิทแทงข้างหลังเจ็บปวดที่สุด และทำให้ผู้อื่นตั้งตัวไม่ทันที่สุด!
จุดสำคัญของพิบัติเคราะห์ครั้งนี้ก็อยู่ที่ตู๋กูเซียวไม่ระแวงการมาเยือนของอวิ๋นฉางคงแม้แต่น้อย และคิดไม่ถึงว่าสี่ตระกูลตงหวงจะร่วมมือกัน กลายเป็นทัพใหญ่เข้ามาสังหาร
นี่เป็นพิบัติเคราะห์ที่ไม่คาดคิดชัดๆ
เวลานี้มองตามสายตาของพวกตู๋กูเซียวไป เทือกเขาไกลๆ ถล่มทลาย พื้นดินแตกแยก ฝุ่นควันคละคลุ้ง ควันไฟแผ่กระจาย ทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาดในตอนแรก กลายเป็นแดนแห่งเปลวเพลิง!
นี่ทำให้หัวใจของคนใหญ่คนโตตระกูลตู๋กงเจ็บปวดและเศร้าโศกอย่างที่สุด
“ผู้นำตระกูล พลังระเบียบของตระกูลใกล้จะต้านไม่ไหวแล้ว!”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสเสื้อเทาคนหนึ่งพูดเสียงสั่น
ประโยคเดียวทำเอาพวกตู๋กูเซียวหัวใจจมดิ่ง
พลังระเบียบของตระกูลตู๋กูคือระดับสวรรค์ขั้นเก้า มหัศจรรย์หาใดเปรียบ ปกป้องตระกูลมาถึงตอนนี้ไม่รู้กี่ปีแล้ว
นี่ก็คือปราการอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้พวกเขายืนหยัดมาได้ถึงตอนนี้
หากถูกทำลาย พวกเขาก็จะไม่มีที่หลบอีกต่อไปแล้ว!
“ผู้หญิงและคนรุ่นเยาว์ในตระกูลอยู่ในที่ปลอดภัยหรือยัง”
ตู๋กูเซียวสูดหายใจลึก ถามเสียงขรึม
“ตามคำสั่งของผู้นำตระกูล ได้เก็บพวกเขาไว้ใน ‘กระสวยบินอาทิตย์แรกกำเนิด’ แล้ว หากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ผู้อาวุโสเก้าจะพาพวกเขาจากไป”
มีคนตอบอย่างรวดเร็ว
“ดี!”
ในสายตาของตู๋กูเซียววาบประกายเด็ดขาด “อีกเดี๋ยวยามพลังระเบียบถูกทำลาย พวกเราโจมตีออกไปพร้อมกัน ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องช่วยผู้อาวุโสเก้าเปิดทาง ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่ ก็สามารถพากระสวยบินอาทิตย์แรกกำเนิดจากไปได้ ตระกูลตู๋กูของพวกเราก็จะไม่ถึงกับดับสิ้นเพียงเท่านี้”
“ขอรับ!”
สัตว์ประหลาดเฒ่าทั้งหมดต่างเผยสีหน้าไม่ยี่หระกับความตาย
มีคนเอ่ยเสียงขรึม “ผู้นำตระกูล เมื่อวานผู้อาวุโสตู๋กูยงได้ส่งข่าวมาว่าจะรับพวกเราทั้งตระกูลไปอยู่ในแดนแรกเริ่ม ขอเพียงแค่พวกเรายืนหยัดจนคนของลัทธิแรกกำเนิดปรากฏตัว บางทีอาจมีทางรอดได้”
“น้ำไกลดับไฟใกล้ไม่ได้”
ตู๋กูเซียวถอนหายใจยาวคราหนึ่ง “ยิ่งไปกว่านั้นทุกท่านดูไม่ออกหรือว่าสี่ตระกูลตงหวงเตรียมพร้อมมาอย่างดี ทุกตระกูลล้วนพกรูปจำลองเจตจำนงของขั้นหลุดพ้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ลัทธิแรกกำเนิดส่งมา ต่อให้มาถึงก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา”
สภาวะจิตของทุกคนยิ่งหนักอึ้ง
กำลังพลของสี่ตระกูลตงหวงครั้งนี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึง แค่ขั้นดับเทพก็มีเกือบร้อยคนแล้ว!
นอกจากนี้ยังมีขั้นอายุขัยเทียมฟ้าสี่ร้อยกว่าคน ในนั้นส่วนใหญ่มาจากสี่ตระกูลตงหวง และมีส่วนหนึ่งที่มาจากขุมอำนาจภายใต้อาณัติสี่ตระกูลตงหวง
ส่วนระดับจักรพรรดิมีอยู่ประมาณแปดร้อยคน
ระดับจักรพรรดิเหล่านี้ไม่มีประโยชน์อะไรนักยามต่อสู้ แต่กลับมีประโยชน์ยามจับกุมและสังหารคนที่อ่อนแอในตระกูลตู๋กู
พูดได้ว่าแค่ดูกำลังพลระดับนี้ก็รู้แล้ว ว่าสี่ตระกูลตงหวงมาครั้งนี้เพื่อกวาดล้างตระกูลตู๋กูให้สิ้นซาก!
นอกจากนี้สิ่งที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือ ในมือของผู้นำสี่ตระกูลตงหวงล้วนมีรูปจำลองเจตจำนงของขั้นหลุดพ้น นี่ต่างหากที่เป็นไพ่ตายของพวกเขา
ในเผ่าจักรพรรดิอมตะแต่ละตระกูลของน่านฟ้าที่เจ็ด ขั้นดับเทพเป็นบุคคลที่สูงส่งไร้ที่เปรียบแล้ว ยากมากที่จะเห็นขั้นหลุดพ้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เมื่อมีรูปจำลองเจตจำนงของขั้นหลุดพ้น ก็เรียกได้ว่าเป็นไพ่ตายที่สุดยอดที่สุดในน่านฟ้านี้แล้ว!
แน่นอนว่าตระกูลตู๋กูเองก็มีไพ่ตายเช่นนี้ นั่นคือรูปจำลองเจตจำนงของตู๋กูยง แต่น่าเสียดายที่มีเพียงชิ้นเดียว ไม่ถึงช่วงสำคัญเป็นตายจริงๆ ตู๋กูเซียวย่อมไม่ยอมใช้
พูดอีกอย่างก็คือ เขามองว่าไพ่ตายนี้เป็นวิธีที่ต้องสู้สุดชีวิตแล้ว จะใช้ตอนโจมตีเปิดทาง ให้ผู้อาวุโสเก้าพากระสวยบินอาทิตย์แรกกำเนิดจากไปหลังจากนี้!
ตูม โครม!
เสียงโจมตีสะเทือนฟ้าดินดังขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า พลังผนึกนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมบริเวณสามยอดเขากำลังทลายลงทีละชั้น
แม้แต่พลังระเบียบก็กระเพื่อมไหวรุนแรง มีสัญญาณว่าจะต้านไม่อยู่รางๆ
สี่ตระกูลตงหวงโจมตีอยู่ตลอด เร่งทำลายพลังผนึกและพลังระเบียบของที่นี่
“พี่ตู๋กู ถ้าเจ้ายื้อต่อไปอีก รอพลังป้องกันของที่นี่สลายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ถึงตอนนั้นคงเลี่ยงไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายได้ยากแล้ว”
เสียงของอวิ๋นฉางคงผู้นำตระกูลอวิ๋นดังขึ้นอีกครั้ง “อีกอย่างกำลังพลของพวกเราสี่ตระกูลตงหวงเข้าควบคุมทั้งเขตแดนดาราจื่อเวยแล้ว คนตระกูลตู๋กูที่กระจายอยู่ที่อื่นๆ ก็คงยากจะหนีรอด”
“เป็นโยวหรันกับผู้ยิ่งใหญ่ลัทธิแรกกำเนิดมาด้วยกันแล้ว เพียงแต่เจ้าหนุ่มคนนี้คือใคร”
“คงจะเป็นหลินสวิน เจ้าหนุ่มที่โดดเด่นยิ่งของลัทธิแรกกำเนิด ว่ากันว่าแจ้งมรรคอมตะตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน มีมรรควิถีขั้นอายุขัยเทียมฟ้า กลายเป็นผู้ดูแลคนหนึ่ง”
“ขั้นอายุขัยเทียมฟ้าหรือ”
“จบกัน ผู้อาวุโสตู๋กูยงคงไม่รู้พิบัติเคราะห์ที่ตระกูลเราเจอในวันนี้ จึงได้ส่งโยวหรันกับเจ้าหนุ่มคนหนึ่งมารับพวกเรา…”
คนใหญ่คนโตเหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสี สีหน้ากังวลเต็มประดา
พวกเขาเคยได้ยินชื่อหลินสวิน รู้ว่าเขาโดดเด่นมาก เรียกได้ว่าเป็นปีศาจแห่งยุค
เพียงแต่พวกเขายังไม่รู้ชัด ว่าหลินสวินในตอนนี้ไม่ใช่ ‘ผู้ดูแล’ อีกต่อไปแล้ว…
ขณะเดียวกันคนใหญ่คนโตของสี่ตระกูลตงหวงอย่างพวกอวิ๋นฉางคง หนานเจิ้นหยวน ลี่ชิงเจิ้ง กู้ซานสิงก็เห็นหลินสวินและตู๋กูโยวหรันแล้ว
พวกเขาอึ้งไปก่อนเช่นกัน จากนั้นก็เผยสีหน้าผ่อนคลาย
“ฮ่าๆๆ ข้ายังนึกว่าเป็นใคร ที่แท้ก็หลานโยวหรันนี่เอง เจ้ามาได้จังหวะพอดี มีเจ้าอยู่ พ่อของเจ้าก็ไม่ต้องดื้อดึงต่อไปแล้ว”
อวิ๋นฉางคงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา เสียงสะเทือนชั้นฟ้า
“เจ้าหมอนั่นก็คือหลินสวิน! เจ้าสวะที่ฆ่าผู้แข็งแกร่งมากมายในสี่ตระกูลตงหวงของพวกเรา!”
พวกหนานเจิ้นหยวน ลี่ชิงเจิ้งจำหลินสวินได้ แม้พวกเขาได้เจอหลินสวินเป็นครั้งแรก แต่จากข้อมูลต่างๆ ก็จดจำรูปลักษณ์ของหลินสวินไว้ในหัวได้นานแล้ว
ยามนี้พวกเขาแผ่ไอสังหารที่ไม่อาจควบคุมไปทั้งร่าง
สี่ตระกูลตงหวงของพวกเขาผูกความแค้นกับหลินสวินไว้นานมากแล้ว
ในโบราณสถานทวยเทพ หลินสวินเคยสังหารผู้แข็งแกร่งของพวกเขาทั้งกลุ่ม จนกระทั่งหลายปีนี้ที่หลินสวินเข้าสู่โลกยอดนิรันดร์ ผู้แข็งแกร่งสี่ตระกูลตงหวงที่ตายในมือหลินสวินยิ่งไม่น้อย
แม้อยู่ในลัทธิแรกกำเนิด คนของสี่ตระกูลตงหวงอย่างพวกอวิ๋นมู่เจอก็ถูกหลินสวินฆ่าไปไม่น้อยเช่นกัน
พูดได้ว่าความแค้นนี้ต่อให้ใช้น้ำทะเลจดหมดก็ยากจะชำระล้างได้แล้ว!
“ท่านพ่อ พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง”
ใบหน้างดงามของตู๋กูโยวหรันขาวซีด เอ่ยอย่างกังวล
ตั้งแต่เข้าแดนถ้ำสวรรค์หยกงาม สิ่งที่เห็นระหว่างทางคือภาพโกลาหล พังทลายและนองเลือด จนถึงตอนนี้เมื่อเห็นกำลังคนของสี่ตระกูลตงหวงล้อมยอดเขาสามลูกนั้น นี่ทำให้หัวใจตู๋กูโยวหรันหดรัด ทั้งโกรธทั้งแค้น กังวลถึงขีดสุด
“หลินสวิน ขอเจ้ารีบพาลูกสาวข้ากลับลัทธิแรกกำเนิดด้วย!!”
ทันใดนั้นเสียงของตู๋กูเซียวดังจากบนยอดเขาแห่งหนึ่งไกลๆ เผยความร้อนรน
“มาก็มาแล้ว เหตุใดต้องให้พวกเขาไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาในตอนนี้… ยังจะไปได้หรือ”
อวิ๋นฉางคงพูดพร้อมรอยยิ้ม เพียงแต่รอยยิ้มกลับเย็นเยียบและเฉยชาเป็นพิเศษ
………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์