Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2928

ตอนที่ 2928 กระบวนรบน่าครั่นคร้าม

คำพูดเดียวของหวังจ้งเทียนทำให้ทั้งโถงเงียบกริบ

เงียบเชียบไร้เสียง

เหล่าผู้นำตระกูลต่างอึ้งไป

เคลื่อนกำลังพลพันธมิตรสงครามสิบตระกูลทั้งหมด!

ต้องพูดว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ใจกล้าบ้าคลั่งเป็นอย่างยิ่ง

เดิมทีพวกเขาต้องการรอจนโหยวเป่ยไห่แจ้งมรรคนิรันดร์ถึงจะส่งกำลังพลเช่นนี้บุกเข้าลัทธิแรกกำเนิด

แต่ตอนนี้หวังจ้งเทียนถึงกับจะใช้กำลังพลเช่นนี้ไปจัดการกับหลินสวินน่านฟ้าที่หก นี่จะให้ผู้อื่นไม่ตกตะลึงไม่ประหลาดใจได้อย่างไร

“เช่นนี้แล้วพวกเราต้องได้เปรียบโดยสมบูรณ์ เคลื่อนพลชนิดถอนรากถอนโคนสังหารหลินสวิน ทำลายแผนของลัทธิแรกกำเนิดให้สิ้นซาก!”

หวังจ้งเทียนเอ่ยต่อ “แน่นอนว่าต่อให้หลินสวินกับคนของลัทธิแรกกำเนิดตระหนักได้ถึงความไม่เข้าทีล่วงหน้า สำหรับพวกเราแล้วก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด”

“ได้ ก็ทำเช่นนี้แล้วกัน!”

ฝูเฉาหลันกัดฟันรับปากทันที

หลายปีมานี้พวกเขาตระกูลฝูเสียหายมากที่สุด สาเหตุก็เพราะพวกเขาตระกูลฝูปักหลักอยู่ในลัทธิแรกกำเนิดมาตลอดในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา คนในตระกูลหลายคนต่างฝึกปราณในลัทธิแรกกำเนิดทั้งนั้น

แต่ตอนนี้ล้วนถูกสังหารในการกวาดล้างครั้งใหญ่ของลัทธิแรกกำเนิด!

นี่ทำให้ทั้งตระกูลฝูต่างเคืองแค้น หากไม่ได้ล้างแค้นใครก็เก็บกลั้นความโกรธนี้ไม่ได้

“ได้”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำตามนี้เถิด”

“ขอเพียงสังหารเจ้าหลินสวินนี่ได้ เสียค่าตอบแทนทั้งหมดก็คุ้มค่า”

ผู้นำตระกูลคนอื่นต่างตอบรับอย่างต่อเนื่อง ไอสังหารพลุ่งพล่าน

หวังจ้งเทียนเห็นดังนี้จึงเอ่ยว่า “นอกจากนี้พวกเรายังต้องขอรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์สามคน เรื่องนี้ก็ให้พวกเจ้าตระกูลจงหลี ตระกูลจ้ง และตระกูลฉีจัดการ”

ผู้นำของทั้งสามตระกูลลังเลอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้

เบื้องหลังพวกเขามีพลังของเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าหนุนหลังอยู่เช่นกัน แต่คิดจะไปขอให้รูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์มาลงมือก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนมากยิ่งไอรีนโนเวล

ทว่าเมื่อเผชิญกับสายตาที่ทุกคนมองมา ผู้นำทั้งสามตระกูลพลันรับรู้ได้ว่าจะลังเลอีกไม่ได้แล้ว

หาไม่จะต้องสร้างความไม่พอใจให้ทุกคนเป็นแน่

พวกเขาจึงรับปากทันที

หวังจ้งเทียนเอ่ยเย็นชา “เรื่องนี้ก็ควรให้ลัทธิฌานกับลัทธิพ่อมดรู้ การจัดการกับลัทธิแรกกำเนิดและหลินสวินนี้จะมีแต่พวกเราออกแรงไม่ได้”

ได้ยินดังนั้นทุกคนเห็นด้วยโดยไม่ต้องใคร่ครวญ

……

ลัทธิแรกกำเนิด

เรือนมรรคกลาง

รองหัวหน้าหอเจ็ดคนอย่างพวกเสวียนเฟยหลิง ตู๋กูยงมารวมตัวกัน

พวกเขาตกตะลึงทันทีที่รู้ข่าวที่เกิดขึ้นในน่านฟ้าที่หก

ตู๋กูยงนิ่วหน้าพูด “นี่เท่ากับหลินสวินไปแหย่รังแตนแล้ว ภายใต้ความเดือดดาลอับอาย เกรงว่าพันธมิตรสงครามสิบตระกูลจะทำการเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งบางอย่าง”

“วางใจเถอะ ต่อให้เป็นพลังของรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้”

เสวียนเฟยหลิงยิ้มปลอบ

คนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นต่างมีสีหน้าพิกล

ศึกใหญ่ครั้งหนึ่งคร่าชีวิตเฒ่าดึกดำบรรพ์สิบคนอย่างพวกหวังเต้าสิง ผลงานการศึกโดดเด่นเช่นนี้ทำให้พวกเขายังตกตะลึงอ้าปากค้าง

แม้ว่าในข่าวไม่ได้มีรายละเอียดการต่อสู้ แต่พวกเขาล้วนกล้ามั่นใจว่ารูปจำลองเจตจำนงของชางเจี้ยนเซิงก็ถูกหลินสวินทำลาย

“หรือพวกเราจะรอดูเฉยๆ อยู่ที่ลัทธิแรกกำเนิด”

ฟางเต้าผิงถาม

อวี๋สิ่งก็เอ่ยอย่างกังวลใจ “แพ้หนักขนาดนี้ ถ้าพันธมิตรสงครามสิบตระกูลออกเคลื่อนไหวอีกจะต้องใช้พลังทั้งหมดแน่ เช่นนี้แล้วสถานการณ์ของหลินสวินคงไม่ดีนัก”

เสวียนเฟยหลิงเงียบไปครู่สั้นๆ หุบยิ้มแล้วพูดจริงจังว่า “ทุกท่านยังจำคำพูดของหลินสวินตอนที่เขาจากไปได้หรือไม่ ไม่ว่าโลกภายนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้นพวกเราไม่ต้องออกเคลื่อนไหวทั้งนั้น”艾琳小說

เขาเว้นช่วงไปแล้วเอ่ยว่า “ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้สู้ไม่ได้ ด้วยความสามารถตอนนี้ของเขาก็สามารถหนีรอดกลับมาลัทธิแรกกำเนิดได้”

ตู๋กูยงเอ่ยอย่างหงุดหงิด “เจ้าเฒ่าเสวียน เจ้าจะใจดำปล่อยให้หลินสวินเผชิญเคราะห์ที่โลกภายนอกคนเดียวหรือ”

เสวียนเฟยหลิงยิ้มขื่น “ไม่ใช่ข้าใจดำ แต่สถานการณ์ยังไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่พวกเจ้าคิด พวกเจ้าคิดว่าด้วยพลังของพวกเรา ต่อให้ไปน่านฟ้าที่หกเพื่อช่วยหลินสวินจะมีประโยชน์มากแค่ไหนกัน”

เขาหยุดไปแล้วเอ่ยชัดถ้อยชัดคำว่า “พวกเราเพียงแค่ปกป้องลัทธิแรกกำเนิดไว้ เมื่อหลินสวินต่อสู่ที่โลกภายนอกจึงจะวางใจได้โดยสมบูรณ์!”

ทุกคนสบตากัน ต่างจมสู่ความเงียบงัน ความรู้สึกในใจซับซ้อน

“ทุกท่าน เมื่อก่อนหลินสวินอ่อนแอ จำเป็นต้องมีพวกเรากันแดดบังฝนให้เขา แต่เขาในตอนนี้พลังต่อสู้เหนือล้ำกว่าพวกเราไปแล้ว เฒ่าชราอย่างพวกเราช่วยเขาเฝ้าประตูบ้านไว้ก็พอ”

เสวียนเฟยหลิงเอ่ยทอดถอนใจ “ข้ารู้ความคิดของเจ้าหมอนี่ เขาก็แค่อยากทำอะไรเพื่อสำนักของเรามากขึ้นก่อนที่หัวหน้าหอโหยวเป่ยไห่จะแจ้งมรรคนิรันดร์ ทำใจเห็นสำนักประสบเคราะห์ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไปสลายเคราะห์พิบัติเหล่านั้นด้วยตัวเองคนเดียว…”

พูดถึงตอนท้ายความรู้สึกของเขาก็ไม่อาจสงบได้

ชั่วขณะหนึ่งเหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ในเรือนมรรคกลางต่างซาบซึ้งนัก

หลินสวิน!

ใครจะคิดได้ว่าคนหนุ่มที่หลายปีก่อนหน้านี้ยังต้องให้พวกเขาปกป้อง ได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่สูงเทียมฟ้าต้นหนึ่ง เป็นที่กันแดดบังฝนให้ทั้งสำนักได้แล้ว

“เรื่องนี้ก็เอาตามนี้ล่ะ!”

เสวียนเฟยหลิงตัดสินใจ

กระทั่งตอนที่ออกจากเรือนมรรคกลาง ฟางเต้าผิงไล่ตามมาแล้วสื่อจิตเอ่ยถามว่า ‘เจ้าเฒ่าเสวียน เจ้าแน่ใจว่าจะไม่ไปช่วยหลินสวินจริงๆ หรือ’

เสวียนเฟยหลิงอึ้งไป สื่อจิตเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า ‘ไม่มีทางอยู่แล้ว’

ฟางเต้าผิงพลันยิ้มออกมา ‘ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนที่ปล่อยหลินสวินไว้ไม่ได้มากที่สุด!’

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์