ตอนที่ 2934 เขากลับมาแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2934 เขากลับมาแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2934 เขากลับมาแล้ว
ในบรรดาสิบยักษ์ใหญ่อมตะ รากฐานและขุมอำนาจของตระกูลหวังแข็งแกร่งที่สุด
แต่ต่อให้แข็งแกร่งเช่นตระกูลหวัง ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมาก็มีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์เพียงเก้าคน
หลายปีก่อนหน้านี้หวังจ้งหยวนก็ถูกหลินสวินสังหาร
ไม่นานมานี้หวังเต้าสิงก็ตายด้วยน้ำมือหลินสวินในน่านฟ้าที่หก
และตอนนี้ ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สี่คนที่นำโดยหวังเต้าเฟิงล้วนประสบเคราะห์สิ้นชีพ
นี่ก็หมายความว่า… ตระกูลหวังที่ถูกเรียกว่ายักษ์ใหญ่อมตะอันดับหนึ่ง ตอนนี้เหลือขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์เพียงสามคนเท่านั้น…
บุคคลที่เป็นดั่งเสาค้ำตระกูลสูงสุดล้มตายเกินครึ่ง นี่ไม่ใช่แค่เสียหายหนัก แต่ถึงขั้นสั่นคลอนไปถึงรากฐานของตระกูลหวังด้วยซ้ำ!
อันที่จริงขั้นหลุดพ้นที่ตระกูลหวังมีตอนนี้ก็ไม่ถือว่าน้อย แต่ในเวลาสั้นๆ หากอยากให้ปรากฏขั้นหลุดพ้นสมบูรณ์อีกก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
นี่ก็คือสาเหตุในอาการเสียกิริยาของหวังจ้งเทียนผู้นำตระกูลหวังหลังจากได้ยินข่าวร้ายนี้
ตระกูลหวังซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อมตะอันดับหนึ่งยังเป็นเช่นนี้ แค่คิดก็รู้ว่าสถานการณ์ของยักษ์ใหญ่อมตะอื่นๆ อีกเก้าตระกูลจะสาหัสขนาดไหน
ตระกูลที่น่าเวทนาที่สุดก็คือตระกูลฝู
เดิมที่พวกเขาทั้งตระกูลมีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์อยู่เจ็ดคน
แต่ตอนนี้เหลืองเพียงคนเดียว
ยักษ์ใหญ่อมตะอื่นๆ แม้จะไม่ถึงขั้นนี้ แต่ก็เหลือสองคนบ้าง สามคนบ้าง…
กล่าวอย่างไม่เกินจริง การต่อสู้สองครั้งที่ปะทุขึ้นในน่านฟ้าที่หก เท่ากับหลินสวินอาศัยกำลังของตัวเองคนเดียวสร้างความเสียหายหนักให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะ ทำเอาพวกเขาถูกโจมตียับเยินหาใดเปรียบ
นี่จึงจะเป็นสาเหตุของอาการเสียกิริยาของผู้นำตระกูลเหล่านี้
ไม่มีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ที่มากพอคอยดูแล สถานการณ์ของยักษ์ใหญ่อมตะที่ตั้งอยู่ในน่านฟ้าที่แปดเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนเป็นอันตรายเช่นกัน
“พี่หวัง ข้าขอลาก่อนแล้ว”
ฝูเฉาหลันยืนขึ้น ก่อนจากไปด้วยสีหน้าเขียวคล้ำทันที
เกิดเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ เขาต้องกลับไปดูแลสถานการณ์ทั้งหมดในตระกูลด้วยตัวเอง มิเช่นนั้นเกรงว่าในตระกูลจะแตกตื่นจนเกิดความวุ่นวายไปหมด
ผู้นำตระกูลอื่นๆ ก็ทยอยลุกขึ้นจากไปตามๆ กัน แต่ละคนสีหน้าอึมครึมไม่น่ามอง ในใจล้วนหนักอึ้ง
ไม่นานก็เหลือเพียงหวังจ้งเทียนคนเดียว
เขานั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุด
พักใหญ่ถึงเอ่ยทอดถอนใจยาวๆ ออกมา “จบสิ้นแล้ว…”
หวังจ้งเทียนรู้ว่านับแต่นี้ไปพันธมิตรสงครามสิบตระกูลเป็นเพียงชื่อไปแล้ว สิบยักษ์ใหญ่อมตะไม่มีทางรวมกำลังพลไปล้างแค้นลัทธิแรกกำเนิดได้อีก
ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าก็คือ ตั้งแต่วันนี้ไปสิ่งที่ขุมอำนาจใหญ่อย่างพวกเขาซึ่งอยู่ในน่านฟ้าที่แปดต้องทำ คือการปกป้องตัวเอง!
หวังจ้งเทียนมีลางสังหรณ์ว่าเมื่อรู้สถานการณ์ของสิบยักษ์ใหญ่อมตะแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่หลินสวินจะนิ่งเฉย!
“ใครก็ได้เข้ามา”
หวังจ้งเทียนเอ่ยเสียงขรึม น้ำเสียงแหบแห้งน้อยๆ
“ใต้เท้ามีเรื่องใดจะกำชับหรือขอรับ”
ข้ารับใช้อาวุโสคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นนอกโถงใหญ่
“ถ่ายทอดคำสั่งของข้า เรียกคนในตระกูลที่กระจายตัวอยู่ที่โลกภายนอกทั้งหมดกลับมา ช้าสุดภายในสามวันต้องกลับมาตระกูลให้หมด!”
“นอกนั้นถ้าไม่มีคำสั่งของข้า ต่อไปไม่อนุญาตให้คนในตระกูลออกไปข้างนอกโดยพลการ มิฉะนั้นจะลงโทษสถานหนักตามกฎของตระกูล!”ไอรีนโนเวล
ได้ยินดังนี้ข้ารับใช้อาวุโสก็รับคำอย่างเคร่งเครียด “ขอรับ!”
“ไปเถิด”
หวังจ้งเทียนโบกมือ
จนกระทั่งเงาร่างของข้ารับใช้อาวุโสจากไป เขาถอนหายใจยาวๆ ตัดสินใจออกเดินทางวันนี้ มุ่งหน้าไปน่านฟ้าที่เก้าสักรอบ
ไม่ว่าเป็นจัดการลัทธิแรกกำเนิดหรือหลินสวิน ขุมอำนาจน่านฟ้าที่แปดล้วนไร้ประโยชน์ไปแล้ว
มีเพียงเผ่าเทพในน่านฟ้าที่เก้าลงมือเท่านั้นถึงจะแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง!
เพียงแต่ในใจหวังจ้งเทียนก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
เพราะเขารู้ดีว่าภายในพันปีเคราะห์แห่งยุคสมัยก็จะมาเยือน ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องสำคัญที่สุด พวกคนใหญ่คนโตในเผ่าเทพนิรันดร์ของน่านฟ้าที่เก้าคงไม่ลงมาน่านฟ้าอื่นด้วยตัวเองแน่
“ไม่ว่าเช่นไรก็ต้องลองไปดู!”
หวังจ้งเทียนกัดฟันตัดสินใจ
…
ลัทธิวิญญาณ
ในโถงใหญ่แห่งหนึ่ง
“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่…”
ร่างงามของเฉิงอวี๋ปรี่เข้ามาในโถงใหญ่อย่างรวดเร็วพลางกล่าวอย่างตื่นเต้น “ศิษย์น้องเล็กชนะแล้ว ชนะขาดรอย!”
รัวซู่กำลังคุยกับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนอื่นๆ อย่างพวกเสวี่ยหยา ผู่เจิน ได้ยินแล้วก็นัยน์ตาล้วนวาบวาว
“ในข่าวว่าอย่างไรบ้าง” เสวี่ยหยากล่าวอย่างดีใจ
น้ำเสียงเฉิงอวี๋นุ่มนวลกระจ่างใส “ศึกใหญ่สองครั้ง ในพันธมิตรสงครามสิบตระกูลมีผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ทั้งหมดห้าสิบคนล้วนย่อยยับทั้งหมด ถูกศิษย์น้องเล็กสังหารสิ้น! ว่ากันว่าแม้แต่รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ก็ถูกศิษย์น้องเล็กทำลายไปทั้งหมดห้าคน”
เฮือก!
คนที่นั่งอยู่อดสูดปากไม่ได้ ถูกจำนวนตัวเลขนี้ทำเอาสะท้านสะเทือนแล้ว
“ตอนนี้ศิษย์น้องแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วหรือ” เสวี่ยหยาจุ๊ปากกล่าว
ปีนั้นเขากับผู่เจินหนีมาจากแดนยอดจักรวาล ตลอดทางถูกพวกจอมมุนีชื่อเย่คนของลัทธิฌานไล่ฆ่า สุดท้ายตอนหลบหนีมาถึงเรือนเมฆปรกก็บังเอิญเจอกับหลินสวิน
หลินสวินในตอนนั้นยังเป็นเพียงผู้ฝึกปราณขั้นอายุขัยเทียมฟ้า
แต่รั่วซู่รู้ดีว่าถ้าพวกเขาลงมือ เป็นไปได้ว่าจะทำให้ลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานคว้าจับตัวแปรออกมาได้มากมาย
และถ้าเพราะตัวแปรพวกนี้ส่งผลกระทบถึงหลินสวิน นั่นจึงจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่รอ รอโอกาสที่เหมาะสมจริงๆ
อย่างเช่น ตอนที่ลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานอดลงมือไม่ได้!
…
ลัทธิแรกกำเนิด
เรือนมรรคกลาง
รองหัวหน้าหอเจ็ดคนอย่างพวกเสวียนเฟยหลิง ตู๋กูยง ฟางเต้าผิงต่างถอนหายใจ มองตากันแล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เสียงหัวเราะนั้นฉายแววปลาบปลื้ม ยินดี และผ่อนคลาย สะท้อนก้องอยู่ในเรือนมรรค
“เจ้าหมอนี่แทบจะไร้ศัตรูแล้ว!”
ครู่ใหญ่เสวียนเฟยหลิงก็ตบเข่าฉาด ส่งเสียงทอดถอนใจ
ข่าวที่เฒ่าดึกดำบรรพ์สี่สิบคนอย่างพวกหวังเต้าเฟิงพ่ายแพ้ พวกเขาล้วนรับรู้ทันทีเช่นกัน นี่สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งจริงๆ
ความกังวลและเป็นห่วงทั้งหมดก่อนหน้าถูกกวาดหายสิ้น เหลือเพียงความตื้นเต้นและสะท้านไหวในใจ
ถึงจะไม่รู้สภาพการต่อสู้ แต่พวกเขารู้ชัดว่าหลินสวินที่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในระดับอมตะแล้ว!
มองดูตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ล้วนหาคนที่สองไม่พบ!
ต่อให้เป็นเฒ่าชราอย่างพวกเขาก็ทำได้เพียงทอดถอนใจกับตัวเอง
“เกรงว่าสิบยักษ์ใหญ่อมตะคงแตกตื่นร้อนรนไปแล้ว!”
ตู๋กูยงแหงนหน้าหัวเราะลั่น รู้สึกเพียงทั่วร่างไม่มีตรงไหนไม่เบิกบาน
คนอื่นก็ยิ้มกว้างถึงใบหูเช่นกัน
เดิมทีเมื่อรู้ว่าหลินสวินจะออกไปสู้ข้างนอกตามลำพัง พวกเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ไหนเลยจะคิดได้ว่าลำพังหลินสวินคนเดียว ก็สามารถทำให้พันธมิตรสงครามสิบตระกูลแพ้ราบคาบและเสียหายอย่างหนักได้
พวกเขากล้ามั่นใจว่าหลังผ่านการต่อสู้สองครั้งนี้ พันธมิตรสงครามสิบตระกูลที่ตั้งขึ้นเพื่อจัดการพวกเขาลัทธิแรกกำเนิดเหลือแต่ชื่อเท่านั้นแล้ว
สิบยักษ์ใหญ่อมตะนั่นไม่มีทางลงมือกับพวกเขาลัทธิแรกกำเนิดได้อีก!
“มีเรื่องอะไรถึงทำให้ผู้อาวุโสสทุกท่านเบิกบานขนาดนี้หรือ”
จู่ๆ น้ำเสียงแจ่มใสสายหนึ่งก็ดังขึ้นนอกเรือนมรรค
พวงเสวียนเฟยหลิงชะงักไปทั้งร่าง จากนั้นพลันลุกขึ้นตามจิตใต้สำนึก สายตามองไปทางนอกเรือนมรรคะอย่างพร้อมเพรียง
เงาร่างสูงโปร่งผ่าเผยสายหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร เขาสวมชุดสีขาวพระจันทร์ ราบเรียบละโลกีย์ มีสง่าเมหือนเก่า ถ้าไม่ใช่หลินสวินแล้วจะเป็นใครเล่า
ชั่วขณะหนึ่งพวกเสวียนเฟยหลิงล้วนอารมณ์ปั่นป่วน ครู่ใหญ่ถึงหัวเราะลั่นพลางเดินเข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง
—
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์