Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2943

ตอนที่ 2943 สู้ให้รู้ดำรู้แดง

ตูม!

กระแสมหามรรคอันน่ากลัวแผ่กระจาย

อูหวนเจินถูกระเบิดแล้ว รูปจำลองเจตจำนงของเขากลายเป็นละอองแสงสาดกระเซ็นสะท้านฟ้าดิน

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเหมือนถูกสายฟ้าฟาด จ้องจนตาถลน ล้วนตะลึงกับภาพนี้

“นี่…”

ถูมู่หุนหนังศีรษะชาหนึบ มือเท้าเย็นเฉียบ

หลินสวินขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนหนึ่ง ถึงกับอาศัยพลังต่อสู้ของตนทำลายรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ของลัทธิพ่อมดของพวกเขาได้

แรงโจมตีที่ซัดเข้ามานั้นยิ่งใหญ่เกินไป ทำเอาถูมู่หุนยังยากจะเชื่อ

คนของลัทธิพ่อมดที่อยู่ข้างกายเขาเหล่านั้นสีหน้าล้วนตกตื่น คล้ำเขียวไม่น่าดู

มีชีวิตมานานขนาดนี้ ผ่านลมฝนนองเลือดนับไม่ถ้วน สภาพจิตใจพวกเขาถูกเคี่ยวกรำให้เยือกเย็นมานานแล้ว แต่บัดนี้พวกเขากลับรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง หนาวสะท้านไปทั้งตัว

ระดับนิรันดร์สูงส่งปานไหน ยืนตระหง่านเหนือโลกหล้า เหยียดมองยุคสมัย

ใครจะกล้าเชื่อว่าพลังของระดับนิรันดร์จะถึงกับถูกเจ้าหนุ่มขั้นหลุดพ้นเช่นนี้คนหนึ่งระเบิดไปอย่างไม่อาจต้าน

“ถูกเจ้าหมอนี่กำจัดไปจริงๆ…”

เสวียนเฟยหลิงยังสูดหายใจสะท้าน สภาวะจิตตกตะลึงยิ่งยวด

ฟุ่บ!

ทันใดนั้นเสียงทึบอู้อี้หนึ่งดังขึ้น ถัดมาเลือดสดๆ ก็สาดกระเซ็นออกมา

เหล่าเฒ่าดึกดำบรรพ์ลัทธิฌานที่กำลังล้อมโจมตีซย่าจื้ออยู่ คนหนึ่งถูกทวนศึกกระดูกขาวของซย่าจื้อแทงทะลุ ศพยังถูกชูขึ้นกลางอากาศ จากนั้นระเบิดดังสนั่น

ภาพที่หลินสวินสังหารรูปจำลองเจตจำนงของอูหวนเจินก่อนหน้านี้ทำให้เฒ่าดึกดำบรรพ์คนนี้ตกตะลึง จิตใจสั่นไหวไปชั่วพริบตา จึงถูกซย่าจื้อคว้าโอกาสสังหารคาที่ในทันใด

ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นให้คนอื่นในที่นั้นหน้าเปลี่ยนสี

และยามนี้หลินสวินบุกเข้าใส่เฒ่าดึกดำบรรพ์ลัทธิพ่อมดเหล่านั้นอีกครั้งแล้ว

“จี้คง ถ้าไม่ใช้ไพ่ตายอีก เกรงว่าวันนี้พวกเราล้วนจะต้องหยุดอยู่นอกลัทธิแรกกำเนิด!”

ถูมู่หุนเอ่ยเสียงแหบแห้ง

“เช่นนั้นก็ตัดสินแพ้ชนะเป็นพอ”

จี้คงพนมมือ สีหน้าจริงจัง

“ดี!”

ถูมู่หุนสูดหายใจลึก ล้วงเอาม้วนหนังสัตว์โบราณออกมาจากแขนเสื้อ

“อัญเชิญ!”

ม้วนหนังโบราณลุกโชนอยู่ใต้เวิ้งฟ้า จากนั้นรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ร่างแล้วร่างเล่าปรากฏกลางอากาศ มีถึงหกคนเต็มๆ

รูปจำลองเจตจำนงเหล่านี้มีทั้งชายทั้งหญิง ทั้งแก่ทั้งเด็ก แต่ต่างมีกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามคับฟ้า!

ผืนน้ำแห่งนี้ต่างเงียบสงัดกดดันหาใดเทียบ

แรงกดดันอันน่ากลัวถึงขั้นส่งผลให้กฎระเบียบฟ้าดินปั่นป่วน พลังมหามรรคล้วนเกิดสัญญาณโกลาหลเหมือนยามแรกกำเนิด

รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคน!

นี่เป็นไพ่ตายแข็งแกร่งที่สุดที่ยอดบุคคลของหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดทิ้งไว้ในกาลเวลาไร้สิ้นสุด เดิมทีเพื่อใช้ยามหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดเผชิญหายนะเท่านั้น

แต่ตอนนี้กลับถูกถูมู่หุนเอาออกมาใช้แล้ว

นี่ยังไม่หมด…

แทบจะในขณะเดียวกัน จี้คงเรียกแท่นบัวสีทองแท่นหนึ่งออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเสียงสวดท่องธรรมอันไพศาลระลอกหนึ่งดังขึ้น บนแท่นบัวสีทองก็สะท้อนเงาร่างสูงใหญ่ดุจบรรพจารย์พุทธแห่งโลกร่างแล้วร่างเล่าออกมา

มีทั้งสิ้นแปดคน!ไอรีนโนเวล

แต่ละคนล้วนเป็นรูปจำลองเจตจำนงที่ยอดบุคคลลัทธิฌานทิ้งไว้ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมา ต่างครอบครองอานุภาพเหนือโลกหล้าที่ไม่อาจประเมินได้

พวกเขาบ้างแย้มยิ้มถือบุปผา บ้างขึงขังกราดเกรี้ยว บ้างเศร้าสร้อยเวทนา บ้างแห้งเหี่ยวเงียบงัน บ้างรูปลักษณ์น่าเกรงขาม…

เมื่อพวกเขาปรากฏตัว ฟ้าดินล้วนถูกย้อมด้วยแสงพุทธไพศาลสะดุดตาชั้นหนึ่ง!

หลินสวินดึงซย่าจื้อมาอยู่ข้างกายทันที สีหน้ายังเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย

รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคนของลัธิพ่อมด กับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์แปดคนของลัทธิฌาน รวมกันก็เป็นสิบสี่คน!

ไม่ต้องสงสัยว่าคราวนี้เพื่อจัดการกับลัทธิแรกกำเนิด สองหอบรรพจารย์อย่างลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานลงทุนครั้งใหญ่ยิ่ง นำต้นทุนเก่าที่สั่งสมมาไม่รู้นานเท่าไรออกมาแล้ว

กำลังรบเช่นนี้ นอกจากน่านฟ้าที่เก้าแล้วเกรงว่าจะหาที่ไหนไม่ได้อีก!

น่าสะพรึงเกินไป!

ยามนี้ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ของลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานเหล่านั้นต่างถอยทัพกลับ ต่อให้เป็นพวกเขา เมื่อเห็นภาพนี้ในใจก็ยังปั่นป่วนสั่นระรัวไม่หยุด

เดิมทีพลังเช่นนี้เป็นสิ่งที่ต้องการใช้หลังจาบุกเข้าไปในลัทธิแรกกำเนิดแล้ว

ใครก็คิดไม่ถึงว่าเพิ่งอยู่แค่บนทะเลหมื่นดาราแห่งนี้ เพียงเพราะพวกหลินสวินสองคน ถึงกับบีบให้พวกเขาสองหอบรรพจารย์ต้องใช้ไม้ตายเช่นนี้!

“แย่แล้ว!”

และทันทีที่เห็นภาพนี้เสวียนเฟยหลิงนั่งไม่ติดแล้ว พุ่งทะยานออกมาจากทางเข้าลัทธิแรกกำเนิด ตะโกนเสียงกร้าวว่า “นี่พวกเจ้าคิดตัดสินเป็นตายกับลัทธิแรกกำเนิดของข้าจริงๆ หรือ!?”

เสียงดังสนั่นทั่วฟ้าเหนือทะเลหมื่นดารา และในตอนที่เสียงดังขึ้น เสวียนเฟยหลิงก็เคลื่อนย้ายมายืนอยู่ข้างกายหลินสวินแล้ว โกรธจนตาแทบถลน

กระทั่งเขายังคิดไม่ถึงว่าเพื่อจัดการกับหลินสวินและซย่าจื้อ สองหอบรรพจารย์นี่จะถึงกับทุ่มทุนเช่นนี้!

ถูมู่หุนเอ่ยเสียงแหบพร่า “เสวียนเฟยหลิง ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวแล้ว เพียงแต่… เกรงว่าแค่เจ้าคนเดียวจะเป็นการมารนหาที่ตายเช่นกัน!”

จี้คงเอ่ยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเรามาคราวนี้เพียงเพื่อพาหลินสวินไป แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนี่จะพลังต่อสู้เย้ยฟ้า ทำให้พวกเราไม่อาจไม่ใช้วิธีเช่นนี้ อันที่จริงเป็นการกระทำที่จำใจ”

เสวียนเฟยหลิงสีหน้าเย็นชา เอ่ยว่า “จำใจหรือ ถึงกับวิ่งมาหาเรื่องหน้าประตูลัทธิแรกกำเนิดของข้า ยังเรียกว่าจำใจหรือ พวกเจ้าลัทธิฌานต่ำช้าถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

เห็นดังนี้เสวียนเฟยหลิงคล้ายตัดสินใจได้ในที่สุด ถอยออกไปเงียบๆ

“รนหาที่ตาย!”

ในฝั่งลัทธิพ่อมด ชายรูปลักษณ์เหมือนเด็กหนุ่มคนหนึ่งพุ่งตัวออกมาข้างหน้า แกว่งหมัดชกออกไป

ตูม!

เมื่อหมัดนี้โจมตีออกมา ฟ้าดินพลันสั่นโคลง จักรวาลพลิกกลับ คล้ายหมัดนี้ทำลายพันธนาการของกฎระเบียบฟ้าดิน แข็งแกร่งไร้สิ้นสุด

พลังหมัดอันเกรียงไกรเจือประกายดั่งสนธยา ให้ความรู้สึกสิ้นหวังเหมือนวันสิ้นโลกมาเยือน สะเทือนใจคน

เฒ่าดึกดำบรรพ์ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์มากมายจิตใจหวาดผวา เบื้องหน้าสายตาเจ็บแสบ

นี่เป็นพลังของระดับนิรันดร์ ใช้กฎระเบียบฟ้าดิน มีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่อมตะหมื่นกาล นิจนิรันด์หนึ่งเดียว

แค่หมัดนี้ก็สามารถสังหารพวกเขาคนใดๆ ได้อย่างง่ายดาย!

กลับพบว่าหลินสวินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น กฎเกณฑ์อมตะทั่วร่างไหลเวียน แปลงเป็นหุบเหวบังฟ้า ทำให้อานุภาพเปลี่ยนเป็นลุ่มลึกพร่าเลือน พิศวงมิอาจคาดเดาเช่นกัน

ตูม!

เขาสะบัดแขนเสื้อ พลังหมัดเจือประกายแสงสนธยานั้นพลันระเบิดออก ดับสลายไปทุกกระเบียดเบื้องหน้าเขา ไม่อาจทำร้ายเขาได้สักนิด

นี่ทำให้ชายที่เหมือนเด็กหนุ่มคนนั้นนัยน์ตาหดรัดลง

และยังทำให้รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์คนอื่นๆ หน้าเปลี่ยนสีไป ดังคาด เจ้าหนุ่มคนนี้มีพลังต่อสู้เย้ยฟ้า ไม่อาจเอามาตรฐานทั่วไปมาวัดได้!

พวกเขาสบตากันปราดหนึ่ง ลงมือพร้อมกันในตอนนี้

รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สิบสี่คนโจมตีพร้อมกัน ภาพเช่นนั้นจะน่ากลัวปานไหน

ก็เห็นว่าทะเลหมื่นดาราอันไพศาลแห่งนี้ยังพังทลายดังสนั่นในพริบตา น้ำทะเลระเหยแห้ง ห้วงอากาศกลางฟ้าดินพังถล่มดังครั่นครืนเหมือนกระดาษเปื่อย สรรพสิ่งสรรพชีวิตล้วนจมสู่ภาพทำลายล้างอันน่าสะพรึง

ประหนึ่งวันโลกาวินาศ!

วิชาชั้นยอดสารพัดทะยานออกมา แสงมรรคดุจนิรันดร์อุบัติขึ้นปกฟ้าคลุมดิน ปรากฏการณ์ประหลาดที่เรียกได้ว่าโลกตะลึงเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน

พริบตานั้นทุกคนต่างรู้สึกเหมือนฟ้าดินพังถล่ม สุริยันจันทราแหลกลาญ ทุกอย่างไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปภายใต้การโจมตีน่ากลัวเช่นนี้!

น่าสะพรึงเกินไป

ทุกคนในที่นั้นต่างหายใจติดขัด เสียวสันหลังวาบ จิตใจหวาดหวั่น

แต่หลินสวินที่เผชิญกับการจู่โจมอันน่าครั่นคร้ามเช่นนี้กลับสีหน้าเรียบเฉยดังเก่า มีเพียงส่วนลึกของดวงตาเฉยชาคู่นั้นที่มีจิตต่อสู้ลุกโชน สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งตัวเขาเดือดพล่านโดยสิ้นเชิง

ไอสังหารร้อนระอุที่ไม่อาจอธิบายอาละวาดอยู่ในทรวงอกเขา กระตุ้นจนผิวหนังทุกกระเบียดคล้ายกระหายการต่อสู้ กระหายจะดื่มกินเลือดสดๆ ของศัตรู

ศึกนี้

เขาจะไม่ยั้งมือใดๆ แล้ว!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์