ตอนที่ 2947 ตัวแปรใหญ่
นอกจากความสั่นสะท้าน พวกหลินสวินต่างสัมผัสได้ว่าไม่ว่าบรรพจารย์สี่คนนี้จะคุมเชิงหรือต่อสู้กัน พลังที่ปลดปล่อยออกมาล้วนไม่ได้กระทบกันคนนอก
นี่เป็นการปกป้องพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
หาไม่แล้วไม่ว่าจะเป็นพวกหลินสวินกับเสวียนเฟยหลิง หรือพวกถูมู่หุนกับจี้คงจะต้องประสบเคราะห์ไปด้วยแน่
……
ในสนามรบ เจตกระบี่สายหนึ่งถาโถม เหนี่ยวนำอานุภาพนิรันดร์ชั้นยอดออกมา!
“ศุภโชครวมยอด แรกกำเนิดเกิดเร้นลับ จากจุดนี้ก็เห็นถึงความสง่างามของร่างต้นสหายยุทธ์ได้สามส่วน”
นัยน์ตาซื่อหดรัดเล็กน้อย
ขณะสนทนา เขายื่นมือขยายไปในห้วงอากาศ นิ้วทั้งห้าดุจบัวบาน ทันใดนั้นแสงธรรมไพศาลก็พวยพุ่งออกมา ประหนึ่งส่องสว่างรัตติกาลหมื่นกาล เข้าถึงทุกสรรพชีวิต
ตูม!
พริบตานั้นเจตกระบี่ประทะแสงธรรม คล้ายตวัดพลิกหมื่นลักษณ์ฟ้าดิน ทำลายโลกหล้า ยามระลอกคลื่นการต่อสู้อันน่าสะพรึงแผ่กระจาย ปรากฏการณ์ประหลาดพิสดารน่ากลัวนับไม่ถ้วนอุบัติขึ้น
พวกหลินสวินยังแสบตาไปครู่หนึ่ง เบื้องหน้ามีแต่สีขาวโพลน
พลังเช่นนั้นสูงส่งยิ่งยวด อยู่เหนือกฎระเบียบมหามรรค ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเข้าใจได้
ต่อให้เป็นรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เหล่านั้นยังเผยสีหน้าสะท้านไหว
ระดับนิรันดร์ก็มีการแบ่งสูงต่ำ!
จะทะลวงผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้หรือไม่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ระดับนิรันดร์บนโลกนี้เดิมทีก็มีน้อยมากอยู่แล้ว และผู้ที่สามารถผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้ ก็เป็นบุคคลสะท้านฟ้าระดับนิรันดร์แทบทั้งนั้น
และบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสี่หอบรรพจารย์นี้ ต่างเป็นบุคคลที่ข้ามผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพหลายครั้งแล้วทั้งสิ้น!
แม้ตอนนี้สิ่งที่เคลื่อนไหวจะเป็นรูปจำลองเจตจำนง แต่ความแกร่งกล้าของพลังที่มี ระดับนิรันดร์ทั่วไปเทียบไม่ติด!
“ฮ่าๆๆ มาอีก!”
ในสนามรบเสียงหัวเราะลั่นของบรรพจารย์ลัทธิวิญญาณซวีอิ่นดังขึ้น ก็พบว่าเจตกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏออกมา ธารยาวหมื่นกาลกว้างไกลไพศาล ม้วนตลบกรรโชก โค่นพันธนาการกาลเวลา ทำลายอุปสรรคห้วงมิติ แกร่งกล้าหาใดเทียบ
บรรพจารย์ลัทธิฌาณซื่อสีหน้าสงบนิ่งดังเดิม แสงธรรมทั้งตัวไหลเวียน ยามก้าวย่างมีโลกใหญ่เมืองพุทธอุบัติขึ้นนับไม่ถ้วน มีสรรพชีวิตนับร้อยพันกำลังท่องคัมภีร์อย่างเคร่งครัด อานุภาพยิ่งใหญ่ประหนึ่งนายเหนือหัวแห่งโลกหล้า
เขากับซวีอิ่นต่อสู้ดุเดือด พลังและวิชาลับที่ใช้เหนือกว่าจินตนาการของทุกคนในที่นั้น หลุดจากขอบเขตมหามรรคในความหมายธรมดาสามัญไปแล้ว! ไอรีนโนเวล
“ฆ่า!”
ทันใดนั้นบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดเทียนอูก็ลงมือ ระเบียบนิรันดร์สีดำแปลงเป็นคมประกายแสบตา พลุ่งพล่านเหนือเงาร่างผอมบางสูงโปร่งนั้น
ไอสังหารนองเลือดชวนครั่นคร้ามแผ่ออกมา เมื่อเทียนอูกดฝ่ามือลงไป เกิดเสียงตูมคราหนึ่งประเหนึ่งยามโลกแรกกำเนิด
“ก็รู้ว่าเจ้าร้อนใจอยากโดนอัดจนทนไม่ได้”
หยวนชูพึมพำ ผมขาวโพลนของเขาปลิวไสว เสื้อผ้าโบกสะบัด
โครม!
เค้าโครงใต้หล้าอันกว้างใหญ่ปรากฏขึ้น เข้ากำราบเทียนอูที่โจมตีมา
ความรู้สึกที่มอบให้ผู้คน ก็เหมือนหยวนชูย้าย ‘ใต้หล้า’ สักแห่งมากระแทกใส่เทียนอูอย่างแรง ภาพอันน่าเหลือเชื่อนั้นทำให้หลินสวินยังตกตะลึงอ้าปากค้าง
ครั้นมองดูคนอื่นอย่างพวกเสวียนเฟยหลิง ถูมู่หุน สีหน้าต่างเต็มไปด้วยความสะท้านไหวเช่นกัน
การต่อสู้ระดับนี้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เกรงว่าในน่านฟ้าที่เก้ายังหาได้ยาก!
ตูม โครม… ตูม ครืน…
การเปิดศึกกันระหว่างสี่บรรพจารย์คล้ายเกิดอยู่ไกลนอกเก้าชั้นฟ้า แต่พลังที่พวกเขาใช้กลับเรียกได้ว่าน่าครั่นคร้ามไม่อาจประเมินได้
เหมือนดั่งนายเหนือหัวแห่งโลกหล้าแท้จริงสี่องค์กำลังปะทะกัน!
และในขณะเดียวกัน ท้องฟ้าทั่วน่านฟ้าที่เจ็ดล้วนเกิดปรากฏการณ์ทำลายล้างอย่างน่าเหลือเชื่อ มีสุริยันจันทราดาราร่วงหล่น มีนรกที่ประหนึ่งภูเขาศพทะเลเลือดปรากฏ มีเสียงสวดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว และยังมีเสียงกระบี่ชิ้งๆ ดังกังวานดุจฟ้าคำรน
สรรพชีวิตมากมายที่กระจายอยู่ตามบริเวณต่างๆ ในน่านฟ้าที่เจ็ด ไม่ว่าพลังปราณจะสูงหรือต่ำต่างรู้สึกหวาดหวั่นจากใจจริง
ปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน!
และในน่านฟ้าที่หนึ่งถึงหกก็เกิดปรากฏการณ์ประหนึ่งภัยพิบัติน่าเหลือเชื่อมากมาย ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนพบว่ากลิ่นอายมหามรรคกลางฟ้าดินเปลี่ยนเป็นโกลาหลยุ่งเหยิง ไม่อาจสัมผัสได้อย่างชัดเจน กระทั่งพลังกฎระเบียบฟ้าดินยังถูกจู่โจม ปั่นป่วนรุนแรงไม่ว่างเว้น 艾琳小說
ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นเพราะอะไร แต่เมื่อทุกอย่างนี้เกิดขึ้น ผู้ฝึกปราณแต่ละคนต่างรู้สึกเหมือนมีมหาเคราะห์ใกล้มาเยือน พรั่นพรึงกระวนกระวาย!
ส่วนในน่านฟ้าที่แปด…
อาณาเขตของสิบยักษ์ใหญ่อมตะก็มีเสียงอุทานดังขึ้นไม่รู้เท่าไร
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตอนที่บรรพจารย์ของสี่หอบรรพจารย์สู้กัน เพียงแค่พลังรูปจำลองเจตจำนงที่เคลื่อนไหวก็ส่งผลกระทบกับทุกน่านฟ้าในโลกยอดนิรันดร์แล้ว!
เรื่องนี้น่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย
……
แดนแรกเริ่ม
แสงเคราะห์น่าครั่นคร้ามดุจธารดาราเก้าชั้นฟ้าไหลหลั่งรุนแรง จู่โจมไปที่โหยวเป่ยไห่ที่กำลังข้ามด่านเคราะห์ เงาร่างของเขาล้วนถูกแสงเคราะห์อันโชติช่วงกลบมิดจนมองไม่เห็นแล้ว
เหยียนจี้ที่คุ้มครองอยู่ไกลๆ มาตลอดเหมือนเผชิญหน้าศัตรูตัวฉกาจ สีหน้าเคร่งเครียด
เพียงแต่ที่ทำให้เขากังวลยิ่งกว่าก็คือการต่อสู้นอกลัทธิแรกกำเนิด!
ตอนนี้พลังระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมรอบๆ แดนแรกเริ่มถูกมหาเคราะห์นิรันดร์บีบอัด เท่ากับเสียอานุภาพทั้งหมดไป
เหยียนจี้สัมผัสได้อย่างชัดเจนถึง ‘ศึกบรรพจารย์’ ที่น่ากลัวที่สุดกำลังปะทุอยู่เหนือทะเลหมื่นดารา
ทันทีที่ระลอกคลื่นการต่อสู้เช่นนี้กระจายออกมาและโจมตีถึงแดนแรกเริ่ม…
เกรงว่าทั้งแดนแรกเริ่มจะถูกทำลายแหลกลาญ กลายเป็นซากปรักหักพังร่วงโรย
นี่เท่ากับทำลายฐานที่มั่นของลัทธิแรกกำเนิด!
และเทียบกับเรื่องพวกนี้แล้ว สิ่งที่เหยียนจี้กังวลยิ่งกว่าคือด้วยกำลังที่ลัทธิแรกกำเนิดมีในตอนนี้ ทันทีที่ภัยพิบัติเช่นนี้เกิดขึ้นก็แทบจะสกัดกั้นได้ยาก
ถึงตอนนั้นที่พังลงจะไม่ได้มีแค่แดนแรกเริ่ม แต่ชีวิตของคนทั้งลัทธิแรกกำเนิดจะถูกคุกคามอย่างรุนแรง!
‘เหล่าโหยวหนอเหล่าโหยว เจ้าแค่ฝ่าด่านเคราะห์เท่านั้น ทำไมถึงเกิดเรื่องครึกโครมได้ขนาดนี้’
เหยียนจี้หัวเราะเจื่อนๆ ในใจ
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เคลื่อนกวาดไปไกลลิบ สีหน้าเจือแววน่าเกรงขามแล้ว “ทุกคน ถ้าภัยพิบัตินั่นพุ่งเข้าแดนแรกเริ่ม สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำคือรีบไปแดนลับแรกฟ้าให้เร็วที่สุด!”
สีหน้าของพวกรองหัวหน้าหออย่างตู๋กูยง ฟางเต้าผิง หยวนอู่เทียนปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ
พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสถานการตอนนี้อันตรายถึงขีดสุดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์