Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2962

สรุปบท ตอนที่ 2962 คนเดียวก็เพียงพอ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2962 คนเดียวก็เพียงพอ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2962 คนเดียวก็เพียงพอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2962 คนเดียวก็เพียงพอ

หลินสวิน!

บริเวณเขาเทพจันทร์กระจ่าง บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดขึ้นมาทันที มีเพียงเสียงราบเรียบของหลินสวินดังก้องอยู่กลางฟ้าดิน

ทุกคนต่างตาเบิกโพลง คล้ายอยากมองรูปลักษณ์ของชายที่ราวกับตำนานคนนี้ให้ชัด

อันที่จริงพวกเขาทุกคนล้วนเจอหลินสวินเป็นครั้งแรก เมื่อก่อนเพียงแค่เคยได้ยินเรื่องน่าตกตะลึงเกี่ยวกับเขาเท่านั้น

“เมื่อครู่นี้ข้า… ข้าบอกว่าเขาเป็นพวกขี้ขลาดต่อหน้าเจ้าตัว…”

เด็กสาวอึ้งงันไปแล้ว

ปู่ของนางก็ตกใจจนเหงื่อชุ่มเช่นกัน ปิดปากนาง “นางหนู ขืนยังพูดต่อจะเป็นภัยแล้ว”

ครืน!

ห่างออกไป ในเขาเทพจันทร์กระจ่างพลันปรากฏคลื่นมหามรรคน่ากลัวระลอกหนึ่ง มีพลังผนึกนับไม่ถ้วนพลุ่งพล่าน ประกายศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลวงเก้าชั้นฟ้า และมีพลังระเบียบกระจายอบอวล บังฟ้าคลุมตะวัน

ราวกับว่าสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่หลับใหลมานานปีตัวหนึ่งฟื้นตื่นขึ้นมา

“หลินสวิน ข้ารอเจ้ามาหลายวันแล้ว ในที่สุดเจ้าก็มาเสียที!” ไอรีนโนเวล

เสียงน่าเกรงขามก้องฟ้า จากนั้นเงาร่างของตงหวงจิ่วหุ่ยก็ทะยานออกจากเขาเทพจันทร์กระจ่าง ยืนนิ่งบนชั้นเมฆ

ข้างกายเขามีกลิ่นอายน่ากลัวมากมายพวยพุ่ง จากนั้นก็เห็นสัตว์ประหลาดเฒ่าขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ปรากฏตัวคนแล้วคนเล่า

มีถึงสิบกว่าคน!

แสงศักดิ์สิทธิ์สีต่างๆ เปล่งประกายบนร่างกายพวกเขาเป็นระลอก บ้างเป็นไอกระบี่หนาแน่น บ้างเป็นเปลวเพลิงพุ่งทะลวงฟ้า บ้างราวกับภูตผี… ต่างควบคุมดูแลในทิศทางหนึ่ง พวกเขาราวกับสุริยันดวงโตบนฟ้า ในร่างทุกคนล้วนสาดประกายไร้จำกัด อานุภาพราวกับคลื่น พุ่งไปทั่วทิศเป็นระลอก สะเทือนฟ้าดิน

ในพื้นที่เล็กๆ แห่งหนึ่ง รวมตงหวงจิ่วหุ่ยไปด้วยมีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์สิบเก้าคนรวมตัวกัน!

นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด

ตูม โครม!

แม้สัตว์ประหลาดเฒ่าทุกคนล้วนเก็บอานุภาพบนตัว แต่พลังอันไร้รูปที่พรั่งพรูออกมายังคงทำให้ภูผาระเบิด ห้วงอากาศถล่ม

ตัวพวกเขาก็คือกายที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์อมตะนับไม่ถ้วนกลบท่วมฟ้าดิน ทำให้พื้นที่ทั้งแถบบิดเบี้ยว ห้วงอากาศถูกทำลายแหวกอออกเป็นสายๆ พัดพาลมพายุไร้สิ้นสุด

“นั่นเป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ของสิบยักษ์ใหญ่อมตะ!”

ในอาณาเขตรอบๆ มีเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวดังมา

ผู้คนแตกตื่น สีหน้าตกใจ ใครก็คิดไม่ถึงว่าตระกูลตงหวงจะถึงรวมตัวเฒ่าดึกดำบรรพ์ของยักษ์ใหญ่อมตะอื่นๆ มาเสริมทัพ

แล้วดูฝั่งหลินสวิน… กลับมีเพียงแค่เขาคนเดียว!

สองฝั่งเปรียบเทียบกัน ไม่ว่าใครก็อดปาดเหงื่อแทนหลินสวินไม่ได้

“เจ้าก็คือหลินสวินหรือ”

หวังเต้าชวนในชุดโบราณสวมเกี้ยวสูงพูดเรียบๆ

กลางฟ้าดินอานุภาพพลุ่งพล่าน กฎเกณฑ์ไหลเคลื่อน เพลิงเทพ แสงมรรค เปลวมารเป็นสายๆ อัดแน่นฟ้าดิน ทำให้ห้วงอากาศบิดเบี้ยว

เฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านี้พบเจอหลินสวินเป็นครั้งแรกเช่นกัน เห็นเขายืนอยู่กลางอากาศเพียงลำพังก็อดประหลาดใจไม่ได้

“ถึงตอนนี้แล้วเหตุใดคนของลัทธิแรกกำเนิดยังไม่เผยร่องรอย หลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้ไม่คิดว่าเป็นการหยามเกียรติหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดของพวกเจ้าหรือ”

มีสัตว์ประหลาดเฒ่าพูดอย่างเย็นเยียบ

“รู้ว่าพวกเจ้ากังวลอะไร วางใจเถอะ คนที่มาน่านฟ้าที่แปดครั้งนี้มีเพียงข้าคนเดียว”

ดวงตาดำของหลินสวินลุ่มลึกนิ่งสงบ

เขาเอามือไพล่หลัง ยืนนิ่งอยู่กลางฟ้าดิน แม้เผชิญหน้ากับคลื่นอานุภาพล้นฟ้าที่แผ่จากเขาเทพจันทร์กระจ่าง แต่กระทั่งผมเส้นเดียวก็ยังไม่ขยับ

ใบหน้าของเขาหล่อเหลา บุคลิกนิ่งสงบละโลกีย์ ทำให้ยากจะจินตนาการว่านี่คือบุคคลระดับตำนานที่ตอนนี้ชื่อเสียงสะเทือนทั่วหล้า ราวกับสุริยันกลางฟ้าอย่างไรอย่างนั้น

“แค่เจ้าคนเดียวหรือ”

พวกตงหวงจิ่วหุ่ยนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย เหมือนคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะตรงไปตรงมาขนาดนี้

“คนเดียวก็เพียงพอแล้ว”

หลินสวินพูดเรียบๆ

“เหอะๆ สมกับเป็นรองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิด ปากดีจริงๆ!”

มีคนหัวเราะเยาะ

หากแค่หลินสวินคนเดียวจริงๆ ต่อให้มียอดอมตะแล้วอย่างไร สำหรับพวกเขาแล้วก็ไม่ได้มีการคุกคามมากขนาดนั้นจริงๆ

เฒ่าดึกดำบรรพ์หลายคนต่างวางใจ ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม 艾琳小說

สิ่งที่พวกเขาหวาดเกรงที่สุดคือกำลังพลของลัทธิแรกกำเนิด ตอนนี้หลินสวินมาคนเดียว ทำให้สภาวะจิตของพวกเขาเปลี่ยนไป

“เจ้ากล้ามากจริงๆ พวกเรายักษ์ใหญ่อมตะมารวมตัวกันที่นี่ เจ้ากลับกล้ามาคนเดียว ไม่รู้ว่ามั่นใจจนเย่อหยิ่งหรือมีที่พึ่งจริงๆ คิดว่าจะสามารถทำให้พวกข้าที่ร่วมมือกันพ่ายแพ้ได้หรือ”

สายตาของหวังเต้าชวนเผยแววนึกสนุก มองหลินสวินพลางเอ่ยด้วยเสียงเบิกบาน

สายตาของเฒ่าดึกดำบรรพ์คนอื่นๆ ที่มองไปยังหลินสวินก็แฝงท่าทีจับจ้องมองเหยื่อ ยิ่งมีไอสังหารเย็นเยียบที่กดไม่อยู่รางๆ

หัวเดียวกระเทียมลีบ กลับกล้ามาท้าทาย นี่ต่างอะไรกับมดเขย่าต้นไม้ใหญ่

“ตอนนั้นพันธมิตรสงครามสิบตระกูลรวมตัวขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ห้าสิบคน กลับพ่ายแพ้ทั้งขบวนในน่านฟ้าที่หก ตอนนี้แค่เฒ่าชราอย่างพวกเจ้า… ไม่รู้สึกน่าอนาถหรือ”

หลินสวินน้ำเสียงราบเรียบ ความหมายในคำพูดเห็นชัดว่าไม่เห็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่รวมตัวกันไกลออกไปในสายตา

“หึ”

“หยิ่งผยอง!”

ชั่วขณะนั้นเองมีเฒ่าดึกดำบรรพ์ไม่รู้เท่าไรเดือดดาล อานุภาพก็ไม่เก็บงำอีกต่อไป แผ่ขยายออกมา

ตูม โครม!

ชั่วขณะนั้นฟ้าดินยังเงียบสงัดไปด้วย ทุกคนต่างเบิกตาโพลงอย่างยากจะเชื่อ

ชั่วพริบตาเหล่ามือสังหารขั้นหลุดพ้นแดนเร้นนภาที่เรียกได้ว่ามีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในโลก กลับถูกสังหารสิ้นเช่นนี้!

จิงซานหูเห็นดังนี้สีหน้าพลันคล้ำเขียว ในดวงตามีโทสะพวยพุ่ง

เดิมทีนี่เป็นการจู่โจมที่เขาเตรียมการมาอย่างพิถีพิถัน ที่รวบรวมมาล้วนเป็นพวกชั้นยอดที่สุดของแดนเร้นนภา แต่ตอนนี้กลับตายทั้งหมดแล้ว!

แข็งแกร่งมาก!

ผู้ชมการต่อสู้ไกลออกไปขนลุกซู่ หนังหัวชาวาบ

เห็นอานุภาพเทพของหลินสวินกับตา ถึงจะตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าพลังน่ากลัวนี้น่าทึ่งเพียงใด!

ชั่วขณะนี้ในใจเฒ่าดึกดำบรรพ์เหล่านั้นต่างตึงเครียด

“เรียกกระบวนสังหารเก้ายอดออกมา!”

ตงหวงจิ่วหุ่ยตะโกน

ตูม!

ในเขาเทพจันทร์กระจ่าง เงาร่างนับร้อยพุ่งออกมาโดยพลัน ต่างควบคุมธงรบลายมรรคสำริด กลายเป็นกระบวนค่ายกลที่เหี้ยมโหดน่ากลัว

เหล่าผู้แข็งแกร่งนับร้อยคนนั้นล้วนเป็นขั้นหลุดพ้นขั้นต้นและขั้นกลางแทบจะทั้งหมด อานุภาพทั่วร่างปลดปล่อยออกมา ทันใดนั้นพลันเห็นกระบวนสังหารเก้าชั้นปรากฏกลางฟ้าดิน

กระบวนสังหารทุกชั้นล้วนเทียบได้กับโลกแห่งหนึ่ง บ้างเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ลุกโชน บ้างเย็นเยียบเสียดกระดูก บ้างปรากฏดาราไพศาล บ้างเป็นภาพปานภูเขาศพทะเลเลือดผุดขึ้นมาประหนึ่งแดนมาร…

ตอนที่กระบวนค่ายกลนี้ปรากฏกลางฟ้าดิน ไอสังหารน่ากลัวพุ่งทะลวงออกมาและแผ่ไปทั่วทิศ ห้วงอากาศและภูผาธารารอบๆ ล้วนถล่มทลาย ราวกับจมลงไปอย่างสิ้นเชิงอย่างไรอย่างนั้น!

นี่ยังไม่นับว่าจบสิ้น

ตอนที่กระบวนค่ายกลนี้เพิ่งควบรวมเสร็จ ก็มีเงาร่างที่ประกายแสงสะดุดตามากมายเคลื่อนออกมา พุ่งเข้าไปในกระบวนค่ายกล ล้วนเป็นขั้นหลุดพ้นของขุมอำนาจใหญ่ที่เป็นบริวารใต้อาณัติตระกูลตงหวง

เมื่อพวกเขาเข้าร่วม กลิ่นอายของกระบวนสังหารเก้ายอดที่เหี้ยมโหดน่ากลัวก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก เหมือนจะกลืนกินฟ้าดินอย่างไรอย่างนั้น!

“ฆ่า!”

ในกระบวนค่ายกล เสียงตะโกนกึกก้องดังขึ้นพร้อมกัน ราวกับฟ้าร้องสะเทือนไปทั่วทิศ

ตูม!

กระบวนสังหารเก้ายอดโคจรถึงขีดสุด ราวกับแสงมรรคไพศาลพวยพุ่งขึ้นมา อานุภาพปกฟ้าคลุมดิน ปกคลุมไปทางหลินสวิน

เห็นเช่นนั้นหลินสวินกำหมัดดึงเข้าหาร่างตน ทั้งร่างโค้งเหมือนคันธนู

ดึงหมัดปานคันธนู!

ฟ้าดินคล้ายเงียบสงัดไปด้วย แม้แต่กฎเกณฑ์ยังเกาะตัวกันโดยมีตำแหน่งที่หลินสวินยืนเป็นศูนย์กลาง ห้วงอากาศสิบฝั่งล้วนทรุดทลายโดยพลัน เกิดเสียงระเบิดสะเทือนฟ้าดิน

จากนั้นหมัดที่ควบรวมออกมาถูกหลินสวินซัดออกไปกลางอากาศ

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์