ตอนที่ 3011 เหยียบย่ำทำลาย
ความทรงจำของจิตวิญญาณจวีหมางทำให้หลินสวินเข้าใจเขาผนึกดารารอบด้าน
ดังนั้นจึงสังหารผู้คุ้มกันลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างไม่เกรงใจสักนิดได้
ไม่มีเหตุผลอื่น ผู้คุ้มกันลาดตระเวนเหล่านี้ไม่ใช่คนของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง แต่หลายปีมานี้กลับช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ สังหารทาสผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมตามใจชอบ
พูดได้ว่าทุกคนที่ได้เป็นผู้คุ้มกันลาดตระเวนไม่มีใครที่สองมือไม่เปื้อนเลือด
และตอนนี้เมื่อค้นวิญญาณหยางเหวินซิวก็ทำให้หลินสวินรู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางมากมาย
ข้อมูลเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่กระทั่งในตำราของลัทธิแรกกำเนิดยังไม่มี
เช่นเขาเทพตะวันไพศาลที่ตระกูลหยางยึดครอง นอกจากจะมีระเบียบระดับเทพชื่อว่า ‘ตะวันไพศาล’ ปกคลุมอยู่แล้ว ยังมีกระบวนค่ายกลระเบียบที่เรียกว่า ‘ร้อนระอุ’ อีกด้วย
กระบวนค่ายกลนี้มีพลังระเบียบหายากเก้าชนิดเป็นแกนกลาง มีวิญญาณระเบียบเก้าตนควบคุมดูแลอยู่ในนั้น ทันทีที่โคจรถึงขั้นสามารถขัดขวางระดับนิรันดร์ไว้ได้ น่าเหลือเชื่อยิ่ง
หรืออย่างเช่นในตระกูลหยางตอนนี้มีระดับอมตะขั้นหลุดพ้นอยู่สามสิบสามคน ในกลุ่มนั้นมีสิบสองคนดูแลนอกเขาเทพตะวันไพศาล อีกยี่สิบเอ็ดคนต่างดูแลโลกใหญ่คนละแห่ง ควบคุมสิ่งมีชีวิตของอาณาเขตนับหมื่นล้าน!
แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดคือในตระกูลหยางตอนนี้ยังมีระดับนิรันดร์สองคนดูแลอยู่
คนหนึ่งมีนามว่าหยางเสียเทียน อีกคนหนึ่งมีนามหยางปู้ต้ง
ทั้งสองล้วนเป็นระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎ
ที่ทำให้หลินสวินผิดคาดคือ ในความทรงจำของหยางเหวินซิวไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับหยางจิ่วฉี
เห็นชัดว่าข่าวระดับนิรันดร์อย่างหยางจิ่วฉีถูกตนสังหารที่ทะเลหมื่นดาราถูกเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางปิดเอาไว้ กระทั่งระดับอมตะขั้นดับเทพอย่างหยางจิ่วฉียังไม่รู้
นอกจากเรื่องพวกนี้หลินสวินก็ได้รู้ว่าเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน ระดับนิรันดร์ขั้นไร้ขอบเขตคนหนึ่งออกจากน่านฟ้าที่เก้าไปยังแห่งสถานคุนหลุนพร้อมกับระดับนิรันดร์ขั้นสรรสร้างสองคน
หลินสวินคำนวณดู ตอนเฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลหยางสามคนนี้จากไป ตรงกับช่วงลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานร่วมมือกันจู่โจมลัทธิแรกกำเนิดครั้งแรกพอดี
ไม่ต้องสงสัยว่าภัยคุกคามจากเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพก็เริ่มขึ้นจากตอนนั้น
เมื่อเข้าใจเรื่องพวกนี้ ความกังขาก็ผุดขึ้นในใจหลินสวินอีก ไม่ว่าจะเป็นลัทธิพ่อมด ลัทธิฌาน หรือน่านฟ้าที่เก้า ต่างก็ถูกผู้บงการหลังม่านนั้นสั่งให้ลงมือทั้งสิ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ขุมอำนาจที่กระทำการเพื่อผู้บงการหลังม่านนั่นเหล่านี้ก็ยังคงถูกเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพคุกคามเช่นเดิม!
นี่ออกจะผิดปกติไปหน่อยแล้ว
หรือจะหมายความว่าผู้บงการหลังม่านนั่นก็ไม่อาจควบคุมพลังของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพได้โดยสมบูรณ์
หลินสวินเดาไม่ออก
‘รอภายหน้าอย่างไรก็ต้องสืบหาคำตอบได้อยู่ดี…’
หลินสวินนึกถึงเฉินหลินคงกับปู่ของเขาเฉินซีที่จนตอนนี้ก็ยังหาร่องรอยของผู้บงการหลังม่านนั่นอยู่ แค่คิดก็รู้ว่าผู้บงการหลังม่านนี้ลึกลับปานไหน
ตูม!
ในขณะที่หลินสวินกำลังครุ่นคิด ฟ้าดินพลันสั่นไหว จากนั้นเสียงเย็นชาดุดันเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทันที
“เจ้าเป็นใคร ไยมาก่อเรื่องในอาณาเขตตระกูลหยางของข้า”
ที่มาพร้อมกับเสียงนี้คือแสงเคลื่อนดุจสายรุ้ง เงาร่างแน่นขนัดทะยานมาทางนี้ ต่างมีไอสังหารพลุ่งพล่านทั้งสิ้น
ผู้แข็งแกร่งในแต่ละทิศล้วนมีระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้าคนหนึ่งนำทัพ
โดยเฉพาะตำแหน่งทิศตะวันออกยิ่งมีเฒ่าชราที่ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายขั้นดับเทพคนหนึ่ง เขาสวมชุดผ้าป่าน ผมขาวดุจเงิน เงาร่างสูงใหญ่ผึ่งผาย
ไม่ต้องสงสัย คนผู้นี้ก็คือหยางซั่วหง สัตว์ประหลาดเฒ่าตระกูลหยางที่ดูแลเขาผนึกดาราแห่งนี้
กำลังพลที่เหมือนแหฟ้าตาข่ายดินเช่นนี้ทำเอาฟ้าดินมืดหม่น คล้ายเมฆทะมึนกดบีบ ปิดคลุมฟ้าดิน
ชิงเฉียนเสวี่ยตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้
แต่เทียบกับเมื่อครู่แล้วเห็นชัดว่าเยือกเย็นขึ้นไม่น้อย เพราะนางรู้แล้วว่าตั้งแต่ปรากฏตัวในส่วนลึกของเหมืองจนถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างกายคนนี้สงบนิ่งมาโดยตลอด ไม่เคยกระวนกระวายสักนิด
ท่าทางสุขุมเยือกเย็นเช่นนั้นแพร่มาสู่ชิงเฉียนเสวี่ยด้วยเช่นกัน
“ก่อเรื่องหรือ”
ดวงตาหลินสวินมองหยางซั่วหง เอ่ยเสียงถากถางว่า “ขอโทษด้วย ข้าคนแซ่หลินมาคราวนี้ก็เพื่อก่อเรื่อง ไม่ใช่แค่อยากก่อเรื่อง แต่จะเล่นงานจนฟ้าพลิกดินคว่ำ โชคร้ายยิ่งที่พวกเจ้าตระกูลหยางเป็นเป้าหมายแรกของข้าคนแซ่หลิน”
หยางซั่วหงอึ้งไป
ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็ผงะไปเช่นกัน แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง
นี่เป็นถึงอาณาเขตเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยาง มองไปทั้งโลกยอดนิรันดร์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ต่อให้เป็นสี่หอบรรพจารย์ยังไม่กล้าท้าทายเช่นนี้
แต่ตอนนี้กลับมีคนมาท้าทายโดยตรงไม่ปิดบังสักนิดเช่นนี้ นี่จะไม่ให้พวกเขาประหลาดใจได้อย่างไร
“เจ้าหมอนี่บ้าไปแล้วชัดๆ!”
คนมากมายหัวเราะออกมา เสียงดังสะเทือนเมฆ ราวกับได้ยินเรื่องตลกครั้งใหญ่ นึกว่าหลินสวินสติฟั่นเฟือน
คนที่สมองปกติหน่อยใครจะกล้าท้าทายเช่นนี้
หยางซั่วหงยังเผยสีหน้าหยอกล้ออย่างอดไม่อยู่ เอ่ยว่า “อ้อ เช่นนั้นเจ้าพูดมาหน่อยว่าคิดจะเล่นงานตระกูลหยางของข้าจนฟ้าพลิกดินคว่ำอย่างไร”
“อยากเห็นหรือ” หลินสวินพูด
“แน่นอน” หยางซั่วหงพยักหน้า
“ใต้เท้า อย่าไปพูดพล่ามกับเจ้าบ้านี่เลย ให้พวกเราจับเขาไว้ก็พอ” มีคนแววตาเหี้ยมเกรียม หมายจะลงมือเต็มแก่ ต้องการฉวยโอกาสนี้แสดงฝีมือต่อหน้าหยางซั่วหงเสียหน่อย
คนอื่นเห็นเช่นนี้ต่างก็เริ่มขอคำสั่ง หมายจะสังหารคนบ้าผู้นี้
ความมาดร้ายเช่นนี้ทำเอาชิงเฉียนเสวี่ยยังอกสั่นขวัญแขวน
มีเพียงหลินสวินที่รู้สึกเบื่อ หากเป็นสมัยยังอยู่ระดับอมตะ เขาอาจจะยังใจไปต่อสู้กับอีกฝ่ายสักตั้ง
แต่ตอนนี้…ไอรีนโนเวล
กระบวนทัพกับกำลังพลของอีกฝ่ายช่าง… ไม่เข้าตา!
“เอาเถอะ พวกเจ้าร่วมมือกันจับคนผู้นี้ อีกเดี๋ยวข้าจะถามเขาอีกว่าคิดจะเล่นงานตระกูลหยางของเราจนฟ้าพลิกดินคว่ำอย่างไร” หยางซั่วหงเอ่ยเสียงเรียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์