ตอนที่ 3073 ภูเขาเทพใบบัว
หลินสวินมุ่งหน้าต่อไปกลางฟ้าดินอันเวิ้งว้าง
เพียงแต่เมื่อเทียบกันแล้วเขาระวังตัวขึ้นมากกว่าก่อนหน้านี้ เก็บซ่อนกลิ่นอายตลอดทาง พุ่งทะลวงห้วงอากาศราวเงาที่ไร้ตัวตนสายหนึ่ง
จากที่หลินสวินคิด ด้วยมรรควิถีในปัจจุบันของเขา หากหมายจะหลบการสัมผัสของคนระดับเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ทว่าความจริงกลับเหนือความคาดหมายของหลินสวิน
หรือกล่าวได้ว่าเหล่าเฒ่าชราเหล่านั้นที่กระจายตัวในโลกวิญญาณยุทธ์แห่งนี้ ส่วนมากล้วนครอบครองอภินิหารและวิชาลับที่วิเศษอัศจรรย์สุดขีด สามารถสัมผัสและจับร่องรอยของหลินสวินได้
โดยเฉพาะยามสังเกตเห็นว่าหลินสวินเคลื่อนไหวเพียงลำพัง อันตรายก็มาเยือนทันที
เป็นอย่างที่หญิงสาวกระโปรงดำคนนั้นกล่าวไว้ ในโลกวิญญาณยุทธ์ไม่เคยขาดพวกอาละวาดไร้เกรงกลัว ลงมือไม่เลือก หนำซ้ำยิ่งพลังปราณสูง การลงมือก็ยิ่งโหดเหี้ยมไร้ปรานี
และคนที่เคลื่อนไหวลำพังอย่างหลินสวินก็มักจะถูกมองเป็นเป้าหมายโจมตีได้ง่ายที่สุด
ไม่ว่าจะเพื่อทรัพย์สมบัติหรือเพื่อบีบให้ศิโรราบ การต่อสู้และเข่นฆ่าล้วนอุบัติขึ้นในโลกวิญญาณยุทธ์มาโดยตลอด
นี่คือสาเหตุว่าทำไมพวกหญิงกระโปรงดำจึงเลือกร่วมมือเป็นพันธมิตร และเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกเขาจึงคาดหวังอยากให้หลินสวินร่วมกลุ่ม
เมื่อทั้งโลกมีแต่ระดับนิรันดร์ การจับกลุ่มเคลื่อนไหวเท่านั้นจึงจะรอดชีวิตได้นานขึ้น
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าคนเยอะกำลังมาก
เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลินสวินก็ถูกซุ่มโจมตีอีกครั้ง
คู่ต่อสู้เป็นขั้นสรรสร้างห้าคน อยู่ขั้นสัมบูรณ์สองคน ขั้นปลายสามคน
ยามหลินสวินสังเกตเห็นและพยายามหนีจากวงล้อมของพวกเขา กลับถูกพวกเขามองว่าใจเสาะและอ่อนแอ
หลังจากนั้นการต่อสู้ปะทุขึ้น
ขั้นสรรสร้างห้าคนนี้มีประสบการณ์จัดเจนในการต่อสู้อย่างเด่นชัด เข้าขากันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ยามการต่อสู้ปะทุก็ปลดปล่อยระเบียบระดับเทพสายหนึ่งออกมาปกคลุมฟ้าดินก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้การเคลื่อนไหวที่นี่ดึงดูดคู่ต่อสู้อื่นเข้ามา
จากนั้นพลันสำแดงไพ่ตายเข้าโจมตีหลินสวินทันทีโดยมีขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์สองคนเป็นผู้นำ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้พูดพล่ามใดๆ
ส่วนสามคนที่เหลือก็พุ่งไปอยู่ด้านข้าง กันไม่ให้หลินสวินหลบหนี
ต่างร่วมมือกันอย่างราบรื่นไร้ที่ติ
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นนี่ต้องเป็นการล่าเหยื่อที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถจับกุมเหยื่อได้ในชั่วอึดใจ
น่าเสียดาย คนที่พวกเขาเผชิญหน้าคือหลินสวิน
ในพริบตาที่อีกฝ่ายพยายามจับเขา เขาก็ไม่อยากเสียเวลามากกว่านี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงเรียกร่างแยกมหามรรคสี่ร่างออกมาพร้อมกันทันที สำแดงความสามารถสูงสุด
ชั่วอึดใจก็ตัดสินแพ้ชนะได้ดังคาด
ขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์สองคนที่โจมตีเข้ามาก่อนถูกกำราบตรงๆ ยังไม่ทันได้ตอบสนองก็ถูกจับยัดใส่เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเหมือนลูกไก่
ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างขั้นปลายซึ่งล้อมอยู่ในแต่ละด้านสัมผัสได้ถึงความไม่เข้าที เพิ่งหมายจะหนีก็ถูกสามร่างแยกมหามรรคของหลินสวินพุ่งเข้าไปขวาง
และถูกกำราบพร้อมกับเสียงทึบดังปึงๆ สามหน
หนึ่งในนั้นถามอย่างโศกเศร้าแกมโกรธขณะถูกกำราบ “พลังต่อสู้ของสหายยุทธ์แข็งแกร่งเพียงนี้ ก่อนหน้านี้ตอนสังเกตเห็นกลิ่นอายของพวกข้า เหตุใดกลับยังเลือกใช้วิธีหลบหนีมาล่อให้พวกข้าลงมือด้วยเล่า”
กายมรรคไม้เขียวของหลินสวินเอ่ยตอบอย่างมีน้ำอดน้ำทนยิ่ง “ข้ากำลังเร่งเดินทาง คร้านจะลงมือ แต่นึกไม่ถึงว่าพวกเจ้ากลับหมายจะทำให้ถึงตาย แล้วจะโทษใครได้เล่า”
คนผู้นี้ฟังจบก็รู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดไปทั้งตัว
ไม่รอให้เขาปริปากอีกก็ถูกหลินสวินกำราบแล้ว
สำหรับคู่ต่อสู้เช่นนี้ หลินสวินไม่มีความเมตตาออมมือใดๆ ไม่เอ่ยอะไรสักประโยคก็พุ่งเข้ามาหมายสังหารตน นี่จะให้หลินสวินไว้ชีวิตพวกเขาได้อย่างไร
ต้องใช้ห้าระเบียบแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มาจัดการ!
ยังดีที่แม้ว่าพวกร้ายกาจในโลกวิญญาณยุทธ์จะมาก แต่ส่วนใหญ่ล้วนรอบคอบยิ่ง
อย่างพวกหญิงสาวกระโปรงดำที่หลินสวินบังเอิญพบในตอนแรกสุดก็เป็นกลุ่มคนฉลาดที่สุดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
ระหว่างทางต่อจากนั้น แม้ว่าร่องรอยของหลินสวินจะถูกสายตาไม่น้อยสังเกตเห็น แต่โดยมากล้วนเลือกวางมือขณะที่ลองไล่ล่าโจมตีหลินสวิน
หนึ่งคือความเร็วของหลินสวินรวดเร็วเกินไป สองคือไม่รู้รายละเอียดของหลินสวินแน่ชัด ทำให้พวกเขาไม่กล้าผลุนผลันโจมตีเต็มกำลัง
แน่นอนว่าก็มีพวกที่ถูกหลินสวินกำราบเหมือนห้าคนนั้นเช่นกัน ยามพุ่งออกมาจัดการหลินสวินล้วนลงเอยด้วยโศกนาฏกรรม
เดินทางไปเช่นนี้สามชั่วยาม จำนวนคู่ต่อสู้ที่ถูกหลินสวินกำราบตลอดทางมากถึงสิบเก้าคนแล้ว
ในนั้นสิบห้าคนมีมรรควิถีขั้นสรรสร้าง สี่คนมีมรรควิถีขั้นล่วงกฎ หากอยู่โลกภายนอกนั่นล้วนเป็นพวกที่ประหนึ่งนายเหนือหัวเรียกลมเรียกฝนได้ เกรียงไกรในโลก
แม้แต่ในโลกวิญญาณยุทธ์แห่งนี้ ขอเพียงไม่เข้าพื้นที่แกนกลาง ด้วยพลังของคนเหล่านี้ก็สามารถอยู่รอดได้นานขึ้นเช่นกัน
น่าเสียดาย หลังจากเจอหลินสวิน ชะตาชีวิตของพวกเขาถูกลิขิตให้ปิดฉากลงแล้ว
‘ข้างหน้าคงเป็นอาณาเขตพื้นที่แกนกลางของโลกวิญญาณยุทธ์แล้ว…’
หลินสวินเงยมองไป
ในฟ้าดินไกลโพ้นรายล้อมด้วยคลื่นพลังชีวิตมหามรรคที่หนาแน่นพลุ่งพล่าน ในทะเลโชคชะตาเหนือเวิ้งฟ้าแห่งนั้นหลั่งแสงสีขาวเวิ้งว้างเป็นสายๆ อาบชโลมภูผาธาราแถบนั้นให้อยู่ท่ามกลางกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่และเร้นลับ
แสงสีขาวเป็นสายๆ นั้นถูกเรียกว่า ‘พลังชะตามหามรรค’ มีพลังน่าเหลือเชื่อ และเป็นประโยชน์ยิ่งยวดต่อการฝึกปราณของขั้นไร้ขอบเขต
ที่บอกว่ามีเพียงพื้นที่แกนกลางเท่านั้นจึงจะช่วงชิงบัวชะตามหามรรคได้ สาเหตุก็เพราะในพื้นที่แกนกลางสามารถสัมผัสและหลอมพลังชะตามหามรรคได้ ยามบัวชะตามหามรรคปรากฏ เพียงอาศัยพลังชะตามหามรรคที่หลอมไว้ก็สามารถเข้าสู่ทะเลโชคชะตาได้โดยตรง!
ตรงกันข้าม หากไม่ได้หลอมพลังชะตามหามรรคในปริมาณมากพอ เมื่อเฉียดใกล้ทะเลโชคชะตาก็จะถูกน้ำทะเลไพศาลนั่นกลบท่วม พบจุดจบที่ร่างแหลกมรรคสลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์